อาหารคือชีวิต และสวรรค์ลิขิตให้เธอนับหนึ่งอีกครั้ง ในโลกยุค 80s เชฟสาวสวยและรวยมากระดับพันล้าน ฟื้นจากความตายมาอยู่ในร่างของ ‘ม่านอวี้อัน’ ที่สิ้นอายุขัยก่อนวัยอันควร และ ‘แจ็คสัน หยวน’ สามีคืนเดียวของอีกฝ่าย หายสาบสูญไปในการก่อการร้ายระดับชาติ เธอจึงต้องปากกัดตีนถีบ เลี้ยงลูกชายฝาแฝดตามลำพัง ขณะเดียวกันก็เริ่มหวั่นไหวต่อคนจรหน้าผี (กู๋กุ่ย) ซึ่งเข้ามาตอแยขอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ช้าก่อน! เรื่องหัวใจมันไม่สำคัญเท่าปากท้อง เพราะร้านอาหารกำลังจะเจ๊ง ซ้ำร้าย ถูกแก๊งมาเฟียสุดโหดไล่บี้ตามคิดบัญชีหนี้ และเตรียมยึดที่ซุกหัวนอน !!
View Moreบทนำ
ณ เมืองติดชายทะเล ถนนเนี่ยอิน พื้นที่ควบคุมของแก๊งมังกรซิ่ง
เยว่จือตัวสั่นไปหมด เด็กสาวไม่รู้จะทำอย่างไร การถูกตบหน้าอย่างรุนแรงถึงสองครั้งติดต่อกัน ด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของอาซู คนในแก๊งมังกรซิ่ง ทำให้น้ำตาคลอหน่วย แม้ในยามนี้เธอจะพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ถึงอย่างนั้นน้ำตาก็ยังคงไหลอาบใบหน้าเรียวเล็กที่ซีดราวกับซากศพ ในใจของเธอภาวนาขอให้เรื่องเฮงซวยทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพความฝัน
มิหนำซ้ำเด็กสาวยังห่วงอีกสามชีวิต เมื่อคืนคุณผู้หญิงเพ้อหนักก่อนที่ตัวจะสั่นเทาและสลบไปนาน ตอนนี้เธอคงกำลังรอการกลับไปของเยว่จือ รวมถึงสองฝาแฝดวัยสี่ขวบกว่าที่เมื่อเช้าได้กินเพียงขนมปังบาแก็ตที่ทั้งแข็งและแห้งโรยน้ำตาล ซึ่งเด็กสาววางได้แผนไว้ว่า หากเกิดเรื่องร้ายแรงใดขึ้น เธอจะพาพวกเด็ก ๆ หนีไปให้ไกล!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังดังก้องในหู เธอกลัว ตื่นตระหนก และขวัญเสีย ทว่าสิ่งที่ทำได้คือจำต้องกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาเอาไว้ ถึงจะยากลำบากเหลือเกิน แต่ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะเธอไม่ต้องการให้คนพวกนี้เห็นความอ่อนแอของตน
อย่างไรก็ตาม นับว่าแก๊งมังกรซิ่งยังมีเมตตาอยู่บ้าง ไม่มีใครหิ้วเธอไปขัดดอกอย่างที่เคยได้ยินมาก่อนหน้า เด็กสาวเอื้อมมือสั่น ๆ ไปหยิบขวดยาแก้ไอและยาเม็ดในซองที่หล่นอยู่บนพื้น ที่ก่อนหน้านี้เธอแบกหน้าไปคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตามาจากเถ้าแก่โจว เพราะวันก่อนเขาบอกว่าจะมาช่วยดูอาการของคุณผู้หญิง แต่อีกฝ่ายกลับติดธุระ จึงยื่นแค่ซองยามาให้เช่นเดิม แต่ยังไม่ทันจะได้กลับถึงบ้าน เด็กสาวก็ถูกชายกลุ่มใหญ่ขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“เสี่ยวจือ อั๊วจะบอกลื้อให้เข้าใจง่าย ๆ เอาเป็นว่า อีกครึ่งเดือน ต้องหาเงินมาใช้ดอกให้ได้ หนึ่งหมื่นเหรียญถ้วน ไม่เช่นนั้น ทั้งลื้อและนังคุณนายต้องไปโบกรถขายหมากข้างถนน!”
คนที่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงดังและข่มขู่คือ ผู้คุมย่านถนนเนี่ยอิน เขาชื่อ ไห่ถัง และ ‘หญิงขายหมาก’ คืองานบริการอย่างหนึ่งที่ใช้สาวสวยแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อย คอยขายหมากให้ผู้ชายหลากหลายวัยที่ขับรถผ่านไปมาตามถนนตั้งแต่รุ่งสางจนถึงเที่ยงคืน นอกจากการขายหมากก็ อาจมีเรื่องหลับนอนเข้ามาเกี่ยวข้อง ธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในถนนเนี่ยอิน มันสร้างเม็ดเงินให้แก่แก๊งมังกรซิ่งเป็นกอบเป็นกำ ไม่ต่างจากการปล่อยเงินกู้เก็บดอกมหาโหด หรือการเปิดบ่อนการพนัน
เยว่จือส่ายหน้า เธออยากจะร้องประท้วง แต่ไห่ถังชูขวานในมือขึ้นมาข่มขู่เธอ ซึ่งภาพที่เด็กสาวเคยเห็นในหนังสือพิมพ์มันช่างน่ากลัวจับใจ กฎหมายทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้ มีบ่อยครั้งที่พบศพของคนถูกขวานสับเป็นชิ้น ๆ ถูกนำมาทิ้งตามทั้งขยะ เรื่องนี้โหดเหี้ยม และเยว่จือเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งมังกรซิ่ง
“บอกนังคุณนายของลื้อ ถ้าหาเงินไม่ได้ก็ไสหัวออกจากร้านไปซะ เตรียมยกทรงสวย ๆ กับกระโปรงสั้น ๆ เอาไว้ด้วย งานขายหมากหาเงิน มันยังดีเสียกว่านั่งทำอาหารงก ๆ แต่ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน อย่าทรมานตัวเองเลย สมัยนี้ผู้หญิงล้วนรักสบายกันทั้งนั้น”
ไห่ถังเอ่ยจบก็ใช้สายตาสำรวจเยว่จือ
“จะว่าไปลื้อก็หน้าตาพอใช้ ยังไง มาอยู่กับอั๊วดีไหม”
เด็กสาวไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงต่ำ เตรียมก้าวหนี เป็นตอนนั้นเองที่เธอเห็นว่ามีสายตาคม ๆ คู่หนึ่งจ้องมองมาจากมุมถนน ใครคนนั้นคือคนที่เคยมานอนซมอยู่ด้านข้างร้าน และคุณผู้หญิงได้ให้ข้าว ป้อนยาอยู่หลายวัน แต่พอเขาหายดีก็มีปากเสียงกับคุณผู้หญิง ก่อนจะหายตัวไปเสียดื้อ ๆ ฝ่ายคุณผู้หญิงเองก็สติแตก พังข้าวของในบ้าน สุดท้ายจึงล้มป่วยลงเพราะพิษไข้ อาการนั้นน่าเป็นห่วงจนเรียกได้ว่าเป็นตายเท่ากัน!
“หนูจะไปบอก คุณผู้หญิงตามที่เฮียถังสั่ง”
“ดี และอย่าลืม อีกสามวัน อั๊วจะเข้าไปกินข้าว มีงานวันเกิดอาอิงน้องสาวอั๊ว หาอะไรที่มันกินได้เอาไว้ด้วย ขืนทำรสชาติหมาไม่แดก รู้ใช่ไหมว่า ทั้งลื้อและนังคุณนายแสนสวยนั่นจะต้องโดนอะไร!”
เยว่จือพยักหน้ารับติด ๆ กัน เธอยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม พร้อมกลั้นเสียงสะอื้นด้วยความกลัวเอาไว้อีกหน
จากนั้นจึงออกวิ่งไปตามถนนเนี่ยอิน เพื่อกลับบ้านที่ยามนี้มีสามชีวิตรอเธออยู่ด้วยความหวัง!
*****************
หญิงสาวตื่นจากฝันร้าย เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวราวกับเธอถูกดูดกลืนสู่ขุมนรก
จริงอยู่ที่เธอเป็นผู้หญิงโมโหร้ายและทำงานด้วยอารมณ์เสมอ แต่นั่นเป็นเพราะทั้งหมดคือศิลปะ เธอใช้หัวใจทำงาน ซึ่งเธอได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากบิดา และเขาก็สนับสนุนเธอเรื่อยมา ดังนั้นอาหารของเธอจะต้องดีเยี่ยม รสชาติเหมือนฟ้าประทาน ใครได้กินต้องชอบ นอกจากนั้นเธอยังนิยมเฉพาะคำชมเท่านั้น ส่วนเรื่องติติงต้องพักไว้ก่อน อย่าได้พูดเข้าหู
แต่หลังจากงานเลี้ยงฉลองยอดขายทะลุร้อยล้านเหรียญของแบรนด์อาหารชุดใหม่ที่ใช้เวลาขายไม่ถึงหนึ่งวัน ซึ่งทำให้เธอเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป และเธอก็รู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมนี้ อาหารของเธอจะอยู่คู่ทุกครัวเรือน ทั้งซอสสำหรับผัด น้ำมันพริกในการปรุงซุปแสนอร่อย รวมถึงสารพัดเครื่องครัวที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แบรนด์การค้าที่มั่นคง ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือสกุลจาง
และการขายของโดยการไลฟ์โชว์ที่สร้างเม็ดเงินได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ คงมีแต่ ลิซ่า จาง เท่านั้นที่ทำได้ เธอคือเบอร์หนึ่งของเจ้าแม่ขายของกินทุกอย่าง รวมถึงสารพัดเครื่องมือใช้สอยในครัว เธอเป็นผู้หญิงแกร่งยุคใหม่
ทว่าหลังจากที่แฟนหนุ่มตั้งใจจะขับรถพาเธอกลับคฤหาสน์หลังงาม ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น!
เมื่อจู่ ๆ ถนนสายหลักที่ใช้กลับบ้านมีการปิดการจราจร เขาจึงพาเธอเลี่ยงไปใช้อีกทางที่ต้องผ่านอุโมงค์ลึก และสิ่งน่ากลัวจับใจก็เกิดขึ้น เมื่อขับไปได้ครึ่งทางแล้วรถเก๋งคันใหญ่เกิดเสียหลัก หมุนไปชนกับเข้าบางสิ่ง ก่อนจะเคลื่อนตัวจมดิ่งลงสู่แม่น้ำลึก!
ลิซ่าไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเคลิ้มหลับเนื่องจากดื่มไปไม่น้อยและเพลียมาทั้งวัน รู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนจุกบริเวณหน้าอก มิหนำซ้ำขาข้างซ้ายังติดอยู่กับที่นั่ง เมื่อออกแรงขยับก็ปวดแปลบขึ้นมาจนน้ำตาไหล
“ที่รัก... ยื่นมือมา!” เสียงแฟนหนุ่มลูกครึ่งเรียกเธอ แต่ลิซ่าดื่มมาหนัก จึงรู้สึกวิงเวียนศีรษะและเคลื่อนไหวร่างกายได้เชื่องช้าเหลือเกิน ในขณะเดียวกันน้ำก็ไหลท่วมห้องโดยสารจนเธอรู้สึกหายใจติดขัด
“ฉันหายใจไม่ออก” ลิซ่าบอกเขาและพยายามขยับตัวเพื่อช่วยเหลือตนเอง แต่กลับเหมือนคนจะสิ้นแรงเสียอย่างนั้น
กระทั่งร่างของแฟนหนุ่มหายไป หลังจากนั้นหูก็อื้อไปหมด รถเก๋งคันใหญ่ที่มีสภาพไม่ต่างโรงศพเหล็กได้พาร่างของเธอจมลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำ
ลิซ่ากระเสือกกระสนพาตัวเองออกจากรถเก๋งอย่างสุดชีวิต แต่น่าเสียดาย เธอมีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากเกินไป อีกทั้งแรงดันน้ำทำให้เธอหมดสติ
เธอกำลังจะตาย ตายไปพร้อมความสำเร็จในอาชีพและการงาน ซึ่งคนที่จะได้รับผลประโยชน์นับพันล้านเหรียญก็คือแฟนหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปี เขาได้รับการสนับสนุนจากบิดาและคนในครอบครัวของเธอ ทว่าลิซ่ากลับไม่เคยเฉลียวใจมาก่อนเลยว่า อีธานกำลังซ่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นคือมิเชล น้องสาวต่างมารดาของเธอ และเรื่องทั้งหมดเกิดจากการที่ทุกคนร่วมมือกันวางแผนหักหลัง ลิซ่า จาง
เมื่อหญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้น รู้สึกตัวอีกทีกลับเห็นใบหน้าคนที่เธอมักคุ้น และยามนี้ มันไม่ใช่โลกในยุค 80s! “พี่ลิซ่า หนูบอกแล้วยังไงคะ เหนื่อยก็ให้คุณอีธาน พากลับไปคอนโดฯ ก่อนดีไหม ทางนี้หนูกับเด็ก ๆ จะจัดการให้เอง” คนที่เพิ่งลืมตา ยกมือทาบหน้าอก เธอกลับมายังโลกปัจจุบัน และอยู่ในร่างลิซ่า จาง! “อย่าบอกนะคะว่าฝันร้าย เดี๋ยวหนูให้คุณอีธานมาปลอบพี่ดีกว่า” มิเชล ลูกพี่ลูกน้องเธอบอกแล้วยิ้มให้ ก่อนหันไปด้านหลังเพื่อบอกพนักงานให้เรียกหาอีธาน ผู้ชายที่เป็นคนรักของลิซ่า หญิงสาวพยายามตั้งสติ ก่อนรับรู้ได้ว่า เธอย้อนเวลากลับคืนสู่โลกปัจจุบัน เป็นเหตุการณ์ก่อนที่อีธานจะขับรถพาเธอเข้าไปในอุโมงค์ที่มีน้ำขังแห่งนั้น! อีธานเดินเข้ามาหาหญิงสาว และหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ “เวลาไม่กี่ชั่วโมง ที่รักขายของได้ยอดเยี่ยมมาก ร้อยล้านเหรียญเชียวนะ และออเดอร์ยังเข้ามาต่อเนื่องอย่างถล่มทลาย ในอนาคตธุรกิจอาหารของประเทศนี้ต้องอยู่ในมือคุณแน่” ลิซ่ามองอีธาน เธอควรดีใจกับการประสบความสำเร็จครั้งนี้ แต่หัวใจกับโหวงเหวง ยิ่งมองใบหน้าชายหนุ่มที่แสนสมบูรณ์แบบ เธอกลับไม่ไ
ม่านอวี้อันลุกขึ้นอาบน้ำในตอนเช้ามืด ตลอดคืนเธอครั่นเนื้อครั่นตัวและหนาวสะท้านแปลก ๆ ฝ่ายแจ็คสัน เขานอนกับสองฝาแฝด อีกไม่นานคงตื่นขึ้นมาช่วยงานเธอ ก่อนที่จะออกไปวิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย ยามนี้เธอรู้แล้วว่าเขามีค่ายมวยปล้ำ เป็นธุรกิจที่สานต่อจากพี่ชายผู้ล่วงลับ โดยมีเพื่อนสนิทที่คบหากันมาหลายปีช่วยดูแลให้ก่อนหน้านี้ “อาหมวยหน้าซีดมากเลยรู้ไหม” เขาบอก ก่อนจะก้าวมาวางหลังมือที่หน้าผากหญิงสาว “ตัวอุ่น ๆ ด้วย วันนี้ให้ฉันขายของแทนดีไหม หรือไม่ก็ปิดร้านเลย ส่วนคนงานก็จ่ายค่าจ้างรายวันตามปกติ” “ฉันไม่เป็นอะไร แค่คิดมากเรื่องคุณโรส คุณรู้ไหม เธอขายน้ำมันกัญชาด้วย ของพวกนี้มีคุณมากก็มีโทษเช่นกัน” “อาหมวย สามีโรสเป็นเถ้าแก่ร้านขายยา เขาย่อมรู้ว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เธออย่าห่วงคนอื่นให้มากเลย ดูตัวเองก่อนเถิด คิดแทนเขาจนไม่สบาย” ม่านอวี้อันยิ้มให้แจ็คสัน เขากำลังดุเธอ นี่หากเป็นโลกปัจจุบัน ใครหน้าไหนก็ห้ามพูดเช่นนี้ ความคิดเธออย่างไรย่อมถูกต้องที่สุด “อีกอย่างน้ำหมักของโรส ฉันคิดว่ามันต้องมีบางสิ่งที่ปนเปื้อน หรือไม่ก็อาจส่งผลอันตรายในระยะยาว”
ความอดทนมีขีดจำกัด แจ็คสันรู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องนอนม่านอวี้อันสูงกว่าปกติ ร่างกายเขาร้อนรุ่ม ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทว่าพอก้าวเข้ามาในห้องนอนหญิงสาว คนตัวโตก็รู้สึกเหมือนว่าธาตุไฟกำลังจะแตก! ซึ่งในยามนี้ ดวงตาของม่านอวี้อันที่มองมายังเรือนกายเขาไม่อาจปิดบังความในใจของเธอไว้ได้ ให้ตายเถอะ หญิงสาวเย้ายวนได้ถึงเพียงนี้ มีเสน่ห์ในแบบที่เขาไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไป ชายหนุ่มอมยิ้ม หัวใจเขาเต้นระรัวแรง ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาอยากสยบอยู่แทบเท้าเธอ ความรู้สึกเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “ดึกแล้วนะคะ” เธอว่า และไม่รู้ว่าจะเอามือวางไว้ที่ใด ตอนนี้ว้าวุ่นไปหมด ส่วนคนตัวโตอยู่ในชุดเสื้อผ้าสบาย ๆ เป็นกางเกงนอนผ้าแพรเนื้อบาง ข้างบนสวมเสื้อกล้าม เมื่อได้เห็นเรือนกายกำยำ เปี่ยมด้วยกล้ามแน่น ๆ ม่านอวี้อันก็กระหายน้ำ ลำคอเธอแห้งผาก พื้นที่แห่งความหวานล้ำของผู้หญิงเกิดความรู้สึกเร้นลับที่ไม่อาจเปิดเผยต่อเขา “อืม บอกตรง ๆ ให้เข้าใจ ฉันไม่ได้มาส่งอาหมวยเข้านอนหรอกนะ” เสียงทุ้ม ๆ ของเขาทำให้ดวงหน้าหญิงสาวร้อนผ่าว ดวงตาคมคู่นั
เวลาผ่านไปจนสามทุ่มครึ่ง เยว่จือซึ่งตอนแรกเกือบหิ้วท้องรอสองแฝดอย่างเช่นม่านอวี้อัน แต่ถูกคำสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดในแบบที่เด็กสาวต้องรีบกินอย่างไม่กลัวติดคอ “ทำความสะอาดเรียบร้อยก็รีบไปพักผ่อนเสีย และถ้าฉันไม่เรียก ไม่ต้องออกมารู้ไหม” “มาดาม แล้วจะไม่กินอะไรสักคำก่อนหรือคะ” เยว่จือยังทำใจดีสู้เสือ ทว่าพอม่านอวี้อันหันหน้ามา ดวงตาเธอก็จ้องเขม็ง เด็กสาวเลยทำคอหด ก่อนยอบตัวแล้วหายไปทำหน้าที่ของตน กระทั่งสี่ทุ่มตรง เสียงหัวเราะของผิงกั่วฉุดให้ม่านอวี้อันลุกจากเก้าอี้ไปยืนรอลูกชายกับแจ็คสันตรงหน้าประตู ในตอนนั้นเธอควรจะร่าเริงไปด้วย เพราะผิงกั่วดูสนุก ฝ่ายแจ็คสันก็ร้องเพลงไปกับเขา ส่วนเซียงเจียวไม่ต้องพูดถึง เขาส่ายสะโพกด้วยท่าทางแปลก ๆ มันทะลึ่งอยู่สักหน่อย ทว่าเขาอยู่ในวัยแค่นี้ เธอจึงไม่ดุหรือปรามให้หยุดเต้น “ลุงผี! รู้ไหมคะ ตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว” ม่านอวี้อันถามเสียงเข้มอยู่สักหน่อย แม้ไม่ได้เจือความโมโห แต่ใบหน้าเธอยามนั้นชวนให้สองแฝดและแจ็คสันต้องปิดปากเงียบกันเลยทีเดียว “กี่ทุ่มแล้วคะ คุณลุงผี!” เธอถามย้ำเสียงเย็น
แบบนี้มันต้องถูกทำโทษ ม่านอวี้อันสั่งให้เยว่จือจัดโต๊ะอาหาร แต่เธอกลับไม่ยอมกินมื้อค่ำสักที ด้วยแจ็คสันและสองฝาแฝดยังไม่กลับถึงบ้าน ลี่ฮุ่ยเห็นว่าหญิงสาวเครียดอยู่สักหน่อย อันที่จริงทุกคนได้เรียนทำอาหารอย่างสนุกสนาน ระหว่างเรียนก็ชิมกันไปไม่น้อย ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หล่อนเลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ “เอ่อ ๆ ตอนทุ่มครึ่งมีรายการแข่งมวยของไทสันใช่ไหม” ไทสันเป็นนักมวยเหรียญทองคนดังที่ขึ้นชกเพื่อการกุศลหาเงินช่วยผู้ด้อยโอกาสและเด็กพิเศษ โรสที่กำลังมองข้าวเหนียวมะม่วงและข้าวเหนียวขนุนอยู่ไม่ทันตอบ เธอกลืนน้ำลายไปหลายอึก ด้วยอยากชิมอีกสักหน่อย แต่เยว่จือกำลังเร่งจัดอาหารคาวและหวานลงกล่องให้ทุกคน “น้องโรส เถ้าแก่โจวคงอยากกินไก่ผัดเม็ดมะม่วงและต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนร้อน ๆ แล้วมั้ง ยังไงแบ่งใส่ถุงเรียบร้อย เราก็แยกย้ายดีไหม จะได้ไปเชียร์ไทสันต่อยมวยที่บ้านใครบ้านมัน” ลี่ฮุ่ยกล่าวพร้อมสะกิดโรสแรง ๆ จนเธอหันมาทำตาขวาง ๆ ใส่ พอเห็นว่าลี่ฮุ่ยขยิบตาส่งสัญญาณบางอย่าง โรสจึงนึกบางสิ่งออก “เยว่จือ อย่าลืมตักน้ำต้มแซ่บให้ฉันเพิ่มอีกสักหน่อย และ
“แล้วพวกอากับลุงไม่ใช่ยอดมนุษย์เหรอ” คนที่สูงที่สุด มีผมสีทองว่าแล้วอวดกล้ามโต ทำให้เซียงเจียวตาโต เด็กชายกลัวกล้ามเขาจะแตกโพละเหมือนลูกแตงโม “มะ ไม่ใช่ มีคนเก่ง กะ กว่า” ผิงกั่วยืดอกตั้ง แน่นอนสำหรับเขา แต่ก่อนอาจไม่ชอบหน้าลุงผี เพราะแม่บอกว่าอีกฝ่ายเป็นแมวตัวโต ทั้งขี้เกียจ และยังชอบแอบย่องเข้าบ้าน ทว่าพักหลังเขากลับติดลุงผีแจ ที่สำคัญลุงผีสอนเขาหลายอย่าง แถมมีของกินดี ๆ ให้กินตลอด “เฮียผิง พวกเขาเนี่ยเก่งสุดแล้ว ไม่มีใครเก่งกว่านี้หรอก” ผิงกั่วส่ายหน้าเร็วแรง ก่อนเอ่ยว่า “แต่ปะป๊าเป็นยอดมนุษย์!” ไม่รู้คำดังกล่าวหลุดออกมาจากปากผิงกั่วได้อย่างไร แต่เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ “โอ้ จริงด้วย คุณพ่อของพวกหนูต้องแข็งแรงและเก่งที่สุดแน่นอน” คนสวมหน้ากากตุลาการว่าแล้วก็ยิ้มให้ผิงกั่วกับเจียงเซียว หลังจากนั้นแจ็คสันจึงก้าวเข้ามารับเด็ก ๆ หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อย “เอ๊ะ... คนนี้เหรอ ปะป๊าของพวกหนู” คนในกลุ่มเอ่ยถาม เซียงเจียวส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ผิงกั่วกลับยิ้มกว้าง และบอกว่า “ใช่... คนนี้เป็นยอดมนุษย์!” แจ็คสัน
Comments