อาหารคือชีวิต และสวรรค์ลิขิตให้เธอนับหนึ่งอีกครั้ง ในโลกยุค 80s เชฟสาวสวยและรวยมากระดับพันล้าน ฟื้นจากความตายมาอยู่ในร่างของ ‘ม่านอวี้อัน’ ที่สิ้นอายุขัยก่อนวัยอันควร และ ‘แจ็คสัน หยวน’ สามีคืนเดียวของอีกฝ่าย หายสาบสูญไปในการก่อการร้ายระดับชาติ เธอจึงต้องปากกัดตีนถีบ เลี้ยงลูกชายฝาแฝดตามลำพัง ขณะเดียวกันก็เริ่มหวั่นไหวต่อคนจรหน้าผี (กู๋กุ่ย) ซึ่งเข้ามาตอแยขอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ช้าก่อน! เรื่องหัวใจมันไม่สำคัญเท่าปากท้อง เพราะร้านอาหารกำลังจะเจ๊ง ซ้ำร้าย ถูกแก๊งมาเฟียสุดโหดไล่บี้ตามคิดบัญชีหนี้ และเตรียมยึดที่ซุกหัวนอน !!
View Moreบทนำ
ณ เมืองติดชายทะเล ถนนเนี่ยอิน พื้นที่ควบคุมของแก๊งมังกรซิ่ง
เยว่จือตัวสั่นไปหมด เด็กสาวไม่รู้จะทำอย่างไร การถูกตบหน้าอย่างรุนแรงถึงสองครั้งติดต่อกัน ด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของอาซู คนในแก๊งมังกรซิ่ง ทำให้น้ำตาคลอหน่วย แม้ในยามนี้เธอจะพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ถึงอย่างนั้นน้ำตาก็ยังคงไหลอาบใบหน้าเรียวเล็กที่ซีดราวกับซากศพ ในใจของเธอภาวนาขอให้เรื่องเฮงซวยทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพความฝัน
มิหนำซ้ำเด็กสาวยังห่วงอีกสามชีวิต เมื่อคืนคุณผู้หญิงเพ้อหนักก่อนที่ตัวจะสั่นเทาและสลบไปนาน ตอนนี้เธอคงกำลังรอการกลับไปของเยว่จือ รวมถึงสองฝาแฝดวัยสี่ขวบกว่าที่เมื่อเช้าได้กินเพียงขนมปังบาแก็ตที่ทั้งแข็งและแห้งโรยน้ำตาล ซึ่งเด็กสาววางได้แผนไว้ว่า หากเกิดเรื่องร้ายแรงใดขึ้น เธอจะพาพวกเด็ก ๆ หนีไปให้ไกล!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังดังก้องในหู เธอกลัว ตื่นตระหนก และขวัญเสีย ทว่าสิ่งที่ทำได้คือจำต้องกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาเอาไว้ ถึงจะยากลำบากเหลือเกิน แต่ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะเธอไม่ต้องการให้คนพวกนี้เห็นความอ่อนแอของตน
อย่างไรก็ตาม นับว่าแก๊งมังกรซิ่งยังมีเมตตาอยู่บ้าง ไม่มีใครหิ้วเธอไปขัดดอกอย่างที่เคยได้ยินมาก่อนหน้า เด็กสาวเอื้อมมือสั่น ๆ ไปหยิบขวดยาแก้ไอและยาเม็ดในซองที่หล่นอยู่บนพื้น ที่ก่อนหน้านี้เธอแบกหน้าไปคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตามาจากเถ้าแก่โจว เพราะวันก่อนเขาบอกว่าจะมาช่วยดูอาการของคุณผู้หญิง แต่อีกฝ่ายกลับติดธุระ จึงยื่นแค่ซองยามาให้เช่นเดิม แต่ยังไม่ทันจะได้กลับถึงบ้าน เด็กสาวก็ถูกชายกลุ่มใหญ่ขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“เสี่ยวจือ อั๊วจะบอกลื้อให้เข้าใจง่าย ๆ เอาเป็นว่า อีกครึ่งเดือน ต้องหาเงินมาใช้ดอกให้ได้ หนึ่งหมื่นเหรียญถ้วน ไม่เช่นนั้น ทั้งลื้อและนังคุณนายต้องไปโบกรถขายหมากข้างถนน!”
คนที่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงดังและข่มขู่คือ ผู้คุมย่านถนนเนี่ยอิน เขาชื่อ ไห่ถัง และ ‘หญิงขายหมาก’ คืองานบริการอย่างหนึ่งที่ใช้สาวสวยแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อย คอยขายหมากให้ผู้ชายหลากหลายวัยที่ขับรถผ่านไปมาตามถนนตั้งแต่รุ่งสางจนถึงเที่ยงคืน นอกจากการขายหมากก็ อาจมีเรื่องหลับนอนเข้ามาเกี่ยวข้อง ธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในถนนเนี่ยอิน มันสร้างเม็ดเงินให้แก่แก๊งมังกรซิ่งเป็นกอบเป็นกำ ไม่ต่างจากการปล่อยเงินกู้เก็บดอกมหาโหด หรือการเปิดบ่อนการพนัน
เยว่จือส่ายหน้า เธออยากจะร้องประท้วง แต่ไห่ถังชูขวานในมือขึ้นมาข่มขู่เธอ ซึ่งภาพที่เด็กสาวเคยเห็นในหนังสือพิมพ์มันช่างน่ากลัวจับใจ กฎหมายทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้ มีบ่อยครั้งที่พบศพของคนถูกขวานสับเป็นชิ้น ๆ ถูกนำมาทิ้งตามทั้งขยะ เรื่องนี้โหดเหี้ยม และเยว่จือเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งมังกรซิ่ง
“บอกนังคุณนายของลื้อ ถ้าหาเงินไม่ได้ก็ไสหัวออกจากร้านไปซะ เตรียมยกทรงสวย ๆ กับกระโปรงสั้น ๆ เอาไว้ด้วย งานขายหมากหาเงิน มันยังดีเสียกว่านั่งทำอาหารงก ๆ แต่ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน อย่าทรมานตัวเองเลย สมัยนี้ผู้หญิงล้วนรักสบายกันทั้งนั้น”
ไห่ถังเอ่ยจบก็ใช้สายตาสำรวจเยว่จือ
“จะว่าไปลื้อก็หน้าตาพอใช้ ยังไง มาอยู่กับอั๊วดีไหม”
เด็กสาวไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงต่ำ เตรียมก้าวหนี เป็นตอนนั้นเองที่เธอเห็นว่ามีสายตาคม ๆ คู่หนึ่งจ้องมองมาจากมุมถนน ใครคนนั้นคือคนที่เคยมานอนซมอยู่ด้านข้างร้าน และคุณผู้หญิงได้ให้ข้าว ป้อนยาอยู่หลายวัน แต่พอเขาหายดีก็มีปากเสียงกับคุณผู้หญิง ก่อนจะหายตัวไปเสียดื้อ ๆ ฝ่ายคุณผู้หญิงเองก็สติแตก พังข้าวของในบ้าน สุดท้ายจึงล้มป่วยลงเพราะพิษไข้ อาการนั้นน่าเป็นห่วงจนเรียกได้ว่าเป็นตายเท่ากัน!
“หนูจะไปบอก คุณผู้หญิงตามที่เฮียถังสั่ง”
“ดี และอย่าลืม อีกสามวัน อั๊วจะเข้าไปกินข้าว มีงานวันเกิดอาอิงน้องสาวอั๊ว หาอะไรที่มันกินได้เอาไว้ด้วย ขืนทำรสชาติหมาไม่แดก รู้ใช่ไหมว่า ทั้งลื้อและนังคุณนายแสนสวยนั่นจะต้องโดนอะไร!”
เยว่จือพยักหน้ารับติด ๆ กัน เธอยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม พร้อมกลั้นเสียงสะอื้นด้วยความกลัวเอาไว้อีกหน
จากนั้นจึงออกวิ่งไปตามถนนเนี่ยอิน เพื่อกลับบ้านที่ยามนี้มีสามชีวิตรอเธออยู่ด้วยความหวัง!
*****************
หญิงสาวตื่นจากฝันร้าย เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวราวกับเธอถูกดูดกลืนสู่ขุมนรก
จริงอยู่ที่เธอเป็นผู้หญิงโมโหร้ายและทำงานด้วยอารมณ์เสมอ แต่นั่นเป็นเพราะทั้งหมดคือศิลปะ เธอใช้หัวใจทำงาน ซึ่งเธอได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากบิดา และเขาก็สนับสนุนเธอเรื่อยมา ดังนั้นอาหารของเธอจะต้องดีเยี่ยม รสชาติเหมือนฟ้าประทาน ใครได้กินต้องชอบ นอกจากนั้นเธอยังนิยมเฉพาะคำชมเท่านั้น ส่วนเรื่องติติงต้องพักไว้ก่อน อย่าได้พูดเข้าหู
แต่หลังจากงานเลี้ยงฉลองยอดขายทะลุร้อยล้านเหรียญของแบรนด์อาหารชุดใหม่ที่ใช้เวลาขายไม่ถึงหนึ่งวัน ซึ่งทำให้เธอเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป และเธอก็รู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมนี้ อาหารของเธอจะอยู่คู่ทุกครัวเรือน ทั้งซอสสำหรับผัด น้ำมันพริกในการปรุงซุปแสนอร่อย รวมถึงสารพัดเครื่องครัวที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แบรนด์การค้าที่มั่นคง ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือสกุลจาง
และการขายของโดยการไลฟ์โชว์ที่สร้างเม็ดเงินได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ คงมีแต่ ลิซ่า จาง เท่านั้นที่ทำได้ เธอคือเบอร์หนึ่งของเจ้าแม่ขายของกินทุกอย่าง รวมถึงสารพัดเครื่องมือใช้สอยในครัว เธอเป็นผู้หญิงแกร่งยุคใหม่
ทว่าหลังจากที่แฟนหนุ่มตั้งใจจะขับรถพาเธอกลับคฤหาสน์หลังงาม ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น!
เมื่อจู่ ๆ ถนนสายหลักที่ใช้กลับบ้านมีการปิดการจราจร เขาจึงพาเธอเลี่ยงไปใช้อีกทางที่ต้องผ่านอุโมงค์ลึก และสิ่งน่ากลัวจับใจก็เกิดขึ้น เมื่อขับไปได้ครึ่งทางแล้วรถเก๋งคันใหญ่เกิดเสียหลัก หมุนไปชนกับเข้าบางสิ่ง ก่อนจะเคลื่อนตัวจมดิ่งลงสู่แม่น้ำลึก!
ลิซ่าไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเคลิ้มหลับเนื่องจากดื่มไปไม่น้อยและเพลียมาทั้งวัน รู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนจุกบริเวณหน้าอก มิหนำซ้ำขาข้างซ้ายังติดอยู่กับที่นั่ง เมื่อออกแรงขยับก็ปวดแปลบขึ้นมาจนน้ำตาไหล
“ที่รัก... ยื่นมือมา!” เสียงแฟนหนุ่มลูกครึ่งเรียกเธอ แต่ลิซ่าดื่มมาหนัก จึงรู้สึกวิงเวียนศีรษะและเคลื่อนไหวร่างกายได้เชื่องช้าเหลือเกิน ในขณะเดียวกันน้ำก็ไหลท่วมห้องโดยสารจนเธอรู้สึกหายใจติดขัด
“ฉันหายใจไม่ออก” ลิซ่าบอกเขาและพยายามขยับตัวเพื่อช่วยเหลือตนเอง แต่กลับเหมือนคนจะสิ้นแรงเสียอย่างนั้น
กระทั่งร่างของแฟนหนุ่มหายไป หลังจากนั้นหูก็อื้อไปหมด รถเก๋งคันใหญ่ที่มีสภาพไม่ต่างโรงศพเหล็กได้พาร่างของเธอจมลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำ
ลิซ่ากระเสือกกระสนพาตัวเองออกจากรถเก๋งอย่างสุดชีวิต แต่น่าเสียดาย เธอมีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากเกินไป อีกทั้งแรงดันน้ำทำให้เธอหมดสติ
เธอกำลังจะตาย ตายไปพร้อมความสำเร็จในอาชีพและการงาน ซึ่งคนที่จะได้รับผลประโยชน์นับพันล้านเหรียญก็คือแฟนหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปี เขาได้รับการสนับสนุนจากบิดาและคนในครอบครัวของเธอ ทว่าลิซ่ากลับไม่เคยเฉลียวใจมาก่อนเลยว่า อีธานกำลังซ่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นคือมิเชล น้องสาวต่างมารดาของเธอ และเรื่องทั้งหมดเกิดจากการที่ทุกคนร่วมมือกันวางแผนหักหลัง ลิซ่า จาง
ม่านอวี้อันยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน เธองามสง่าราวกับนางพญาที่พร้อมออกรบ เป็นกุนซือหญิงผู้คอยออกคำสั่งให้แม่ทัพ จัดการฆ่าศึกอย่างโหดเหี้ยม “ร้านเล็ก ๆ ของเรายินดีรับใช้ พี่ถัง และอาอิง รวมถึงเป็นเกียรติยิ่งนัก ที่พี่น้องในแก๊งมังกรซิ่งมาเยี่ยมเยียน” น้ำเสียงเจ้าของร้านกังวาน ไม่แข็งกร้าว หากแต่น่าฟัง กระนั้นก็เปี่ยมด้วยความถือตัวและจองหองอยู่ในที เมื่อก่อนม่านอวี้อันไม่เคยเป็นเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดข้อสงสัยในใจ “คุณนายอัน พูดเสียอย่างนี้ลูกน้องอั๊วตกใจหมด พวกเราล้วนเป็นคนกันเองแท้ ๆ” ม่านอวี้อันยิ้มหวานหยด แต่ไม่ใช่รอยยิ้มยั่วยวน และไม่รู้เหตุใดทุกคนที่อยู่ที่นั่งโต๊ะซึ่งต่อยาวกันไปนั้นถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ ร้านอาหารนี้กลายเป็นบ้านผีสิงตั้งแต่เมื่อไร “ขวัญอ่อนกันจริงเชียว เป็นหนุ่มฉกรรจ์แท้ ๆ ระหว่างที่กินอาหารไป วันนี้เป็นโอกาสดี ด้วยมีการถ่ายทอดชกมวยสากล ฉันกำลังเชียร์อยู่หลายคน อย่างไรขอเปิดทีวีเครื่องเล็ก ๆ ไปด้วยนะพี่ถัง หวังว่าจะไม่สร้างความรำคาญ...” “แล้วแต่คุณนายเถอะ...” ไห่ถังตัดความเรื่องมากของหญิงสาวทิ้ง และอย
ยกที่หนึ่ง แก๊งมังกรซิ่งดูแลเมืองเก่ามาหลายปี ก่อนหน้านั้นมีเหตุนองเลือดอยู่บ่อย ๆ กระทั่งผลักดันกลุ่มชาวต่างชาติย้ายไปฝั่งเมืองใหม่ได้สำเร็จจึงสงบขึ้น กระนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่พยายามเข้ามายึดถนนเนี่ยอิน หากสุดท้ายไห่ถังรวบรวมพรรคพวกได้เยอะที่สุดจึงได้ดูแลที่นี่ โดยมีเจ้าพ่อเหวินเฉียงเป็นประมุขของแก๊งมังกรซิ่ง ซึ่งฝ่ายนั้นสืบทอดอำนาจมาจากบิดาเขาอีกที เมื่อไห่ถังมาถึงหน้าร้านอาหารของม่านอวี้อัน เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้นกับร้านเก่าแก่แห่งนี้ เมื่อก่อนเจ้าของคือชายชาวต่างชาติ อีกฝ่ายขายให้กับม่านอวี้อันในราคาแสนถูกเพื่อตอบแทนความดีของเธอที่ดูแลภรรยาเขาก่อนสิ้นใจ ยามนี้กลับมีธงเล็ก ๆ และภาพนักกีฬาที่ส่งไปแข่งขันชิงเหรียญต่าง ๆ ในกีฬาระดับชาติติดหน้าร้าน ม่านอวี้อัน วางแผนสิ่งใดอยู่ โดยเฉพาะการเขียนป้ายเชียร์ ‘ไทสัน’ นักมวยที่ต้องบอกว่า เวลานี้ไร้ชื่อเสียง “นังคุณนายคงเพี้ยนจนหาเรื่องเล่นตลกสินะ” ไห่ถังว่า ก่อนกวาดตามองพื้นที่ของร้าน เขาพอใจมาก มีลานกว้างด้านหน้า และยังมีทางเข้าหลายทาง อีกทั้งตั้งอยู่ตรงกลางถนนเนี่ยอิน รถผ่านไปมาอยู่ตลอด
“ป้าลี่... มั่นใจอย่างไรว่านังจิ้งจอกอวี้อันไม่ได้วางแผนหลอกใช้เรา” ลี่ฮุ่ยหรือจะยอมให้เด็กรุ่นลูกมาถอนหงอกตัวเอง ไม่มีทางเสียละ การที่หล่อนคบค้ากับโรสเพราะเถ้าแก่โจวเป็นคนกว้างขวาง ส่วนเด็กน้อยคนนี้ หล่อนแค่ใส่หน้ากากพูดจาดีด้วย อย่างน้อยที่สุดโรสก็ไม่คิดอยากได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากหล่อน ให้ดีหน่อยก็แค่แข่งขันอวดร่ำอวดรวยและความสามารถของตนเท่านั้น “โถ หลอกใช้อะไรกัน แบบนี้เขาเรียกยื่นหมูยื่นแมว ป้าก็เห็นว่าคุณนายอันเปิดบ้านให้เราดูเธอทำขนม แล้วนั่น ไอ้บราวนี่ก็น่าสนใจ ป้าเคยกินนะ ถึงจะนานแล้ว เป็นขนมพวกคนหัวทอง ตาสีอ่อน มันไม่ใช่เค้กนุ่มฟู เรียกว่าคุกกี้บาร์คงได้ เนื้อแน่นหนึบ มีความฉ่ำ รสก็เข้มข้น และบราวนี่ยังติดหนึ่งในสิบขนมฮิตตลอดกาลอยู่เสมอ ว่าแต่น้องโรสเถอะ เรียนโรงเรียนนานาชาติแท้ ๆ ทำไมยังเรียกชื่อขนมผิดอีก!” ตอนนั้นเองที่โรสอยากจะกรี๊ด เธอเสียหน้า แต่ยังอดทนไว้ได้ ก่อนจะชะเง้อคอมองอาหารที่ลี่ฮุ่ยเตรียมนำขึ้นโต๊ะเย็นนี้ “ฉันไม่ชอบกินของหวานและพวกอาหารขยะ ทำไมฉันต้องเหลือบแลบราวนี่ด้วย ส่วนป้าล่ะ... เย็นนี้จะทำอาหารพื้น ๆ อะไรมาให้ขายหน้าคนอื่น!”
เตรียมอาหารเลี้ยงวันเกิด ม่านอวี้อันปล่อยให้ลี่ฮุ่ยและสมาคมแม่บ้านทั้งหมดทำอาหารของพวกหล่อนไป ส่วนหญิงสาวเตรียมอุปกรณ์พร้อมเช็กเตาอบเพื่อดูอุณหภูมิให้คงที่ สิ่งที่เธอจะลงมือต่อจากนี้คือบราวนี่และไอศกรีมรสกะทิ กลุ่มแม่บ้านดูจะสนใจอยู่หรอก แต่พวกเธอคิดว่ามันไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เนื่องจากถนนเนี่ยอินมีรถเข็นขายไอศกรีมอยู่สองเจ้า และโรงทำไอศกรีมก็อยู่ในซอยนี้ รสชาติพื้น ๆ หอม หวาน มัน ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่สิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นโรสหรือลี่ฮุ่ยคอยชะเง้อคอยืดคอยาวมองหญิงสาวคือ การทำบราวนี่ แต่รอดูอยู่นาน ม่านอวี้อันก็ไม่ลงมือเสียที! ลี่ฮุ่ยจึงได้แต่ทำท่าทีฮึดฮัด ส่วนโรสพ่นลมหายใจร้อน ๆ อยู่หลายหนและเริ่มคิดว่านังจิ้งจอกม่านอวี้อันกำลังวางแผนร้ายหลอกใช้พวกตนอยู่หรือไม่ เพราะเค้กกล้วยหอมก็ยังแกะสูตรอีกฝ่ายไม่สำเร็จ แถมตอนนี้ยังต้องมาแข่งกันทำอาหารเลี้ยงงานวันเกิดให้เจ้าอิง น้องสาวไห่ถังอีก ในเวลานั้นเซียงเจียวกับผิงกั่วเรียนเขียนตัวอักษรมาเกือบชั่วโมงแล้ว พวกเขาเลยได้รับอนุญาตให้เข้ามาดูในครัว แต่ทำได้เพียงแค่ดูเท่านั้น เพราะม่านอวี้อันยังไม่อยากให้เด็ก ๆ ช่วยงานในวันนี้ เนื่อ
คุกกี้ไอศกรีม ม่านอวี้อันให้การต้อนรับกลุ่มแม่บ้านของลี่ฮุ่ยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง จากนั้นจึงให้ทุกคนพักกลับไปกินข้าวที่บ้านและดูแลสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ของพวกหล่อน และเป็นเช่นนี้มาเกือบสองวันแล้ว นับแต่ทุกคนอดทนแช่เค้กกล้วยหอมของเธอในตู้เย็นเพื่อกินในเช้าวันรุ่งขึ้น ผลที่ได้รับก็นับว่าเป็นไปตามที่ม่านอวี้อันวางแผน ซึ่งมันเหนือความคาดหมายมิน้อย เพราะเธอให้เยว่จือนำขนมอีกอย่างไปให้สมาคมแม่บ้านไพ่นกกระจอกกินด้วย มันคือ ‘ไอศกรีมคุกกี้’ เป็นของแปลกใหม่ ทั้งยังมีส่วนผสมง่าย ๆ จากแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ผงต่าง ๆ แล้วก็ช็อกโกแลตสับหยาบ ๆ ซึ่งสูตรนี้เธอไม่ได้ใส่ไข่ไก่ลงไป แต่ถึงจะมีส่วนผสมแบบพื้นฐาน รสชาติก็กำลังดี ไม่หวานจัด ทั้งเข้มข้น กินเล่นได้ หรือจะกินรองท้องในมื้อเช้ายิ่งเหมาะ แถมหน้าตาเหมือนไอศกรีมก้อนที่ตักขายใส่ในขนมปังที่กำลังได้รับความนิยมช่วงนี้ เมื่อเอ่ยถึงขนมคุกกี้ไอศกรีมดังกล่าวแล้วก็ต้องยกความดีให้กับแจ็คสัน เพราะในถุงกระดาษใบใหญ่นั้น เขาใส่ผงกาแฟบด ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง ทั้งยังมีบรั่นดีที่เหมาะสำหรับทำอาหาร รวมถึงแยมสตรอว์เบอร์รี พลอยให้เธอแปลกใ
“เอ๋ นะ นายคือลุงผี!?” ในที่สุดม่านอวี้อันก็หลุดชื่อคนตัวโตออกไป ซึ่งผู้ชายคนนี้ส่งกระแสคุกคามกลับมาถึงเธอ เขาไม่ได้ดูสุภาพอย่างอีธาน แฟนหนุ่มผู้แสนดีที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของหญิงสาวอยู่หลายปี และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวจนพรากลมหายใจของ ลิซ่า จาง ให้หลุดลอยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ม่านอวี้อันสูดลมหายใจลึก เธอย่อมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอีธาน คนแสนดีสองหน้า ผู้ชายที่กล้าหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ! ส่วนผู้ชายที่ยืนมาดเท่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้หรือไว้ใจ กระแสคุกคามอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่ทำให้ม่านอวี้อันคล้ายถูกหมัดใหญ่ ๆ น็อกกลางอากาศ “อาอัน เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตารู้ไหม” ชายหนุ่มพูดตามความจริง ความเจ้าเนื้อของเธอหายไป ยามนี้เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูไม่ปกติสักเท่าไรของม่านอวี้อัน ประหนึ่งเธอกระโดดออกมาจากตัวละครร้าย ๆ ในทีวีที่ชอบส่งเสียงสูง ๆ วางสีหน้าหงิกงอบ่อยครั้ง ทว่าดูมีสีสันชวนให้ค้นหา ทั้งเธอยังดูมีชีวิตชีวาคล้ายสมองกำลังคิดสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด มันจึงทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็อยากมีชีวิ
สองวันต่อมาอันที่จริงม่านอวี้อันนอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ทั้งที่ห้องนอนนี้โล่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็นอนที่ห้องของพวกเขา เยว่จืออยู่ห้องส่วนตัวติดครัว และถึงแม้เธอจะได้นอนห้องใหญ่ที่อยู่ปีกทางซ้ายของบ้านซึ่งมีห้องน้ำในตัว แต่สาเหตุของการนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกังวลใจ ยิ่งถามถึงเรื่อง ‘กู๋กุ่ย’ กับเยว่จือ ม่านอวี้อันก็พลอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว อีกทั้งท่าทางแปลก ๆ ของผิงกั่วก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเยว่จือ มีผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ผู้ชายที่ลูก ๆ ของเธอเรียกเขาว่า ‘กู๋กุ่ย’ หรือ ‘ลุงผี’ เขาเป็นแมวที่ไม่ได้คิดมาขโมยกินข้าวของในบ้าน แต่มีแผนร้ายอื่นแอบแฝง และม่านอวี้อันต้องสืบค้นต้นสายปลายเหตุให้ได้ “เธอพูดเหมือนลุงผีนั่นคุ้นเคยบ้านหลังนี้ดี” เยว่จือมองม่านอวี้อันอย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าคุณผู้หญิงจะถามเช่นนี้ “มาดามลืมทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ ทั้งที่เป็นคนป้อนยา ลากเขาเข้าบ้าน แถมเอ่อ... อาบน้ำ โกนหนวดเครา และตัดผมให้เขาด้วย” “อย่าซี้ซั้วพูด ฉะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้ยังไง” “แหม มาดามทำไปแล้ว แถมยังเป็นคนซ่อนกู
แมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด “มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย “ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ” เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย “เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก” เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย “มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือน
จับผิดนางจิ้งจอก เมื่อขนมหมดลง พร้อมความหอมหวานที่ติดอยู่ในปาก เซียงเจียวก็ทั้งเลียมือและดูดนิ้ว จากนั้นประตูห้องนั่งเล่นก็มีเสียงหมุนลูกบิด! ผิงกั่วใจหล่นหายเขายืนนิ่งค้างราวกับสมองหยุดสั่งงานไปเสียดื้อ ๆ “อ๊ะ... เฮียผิง!” เสียงเล็กแหลมของน้องชายแผดดังเรียกสติ จากนั้นผิงกั่วจึงไม่รอช้า เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้ลุงผีมาที่บ้านอีก ผู้ชายตัวโตคนนี้เคยทำให้แม่ยุ่งยากใจทั้งยังเสียน้ำตาหลายหน แล้ววันนี้เขาได้ทำเรื่องน่าละอาย เผลอกินของจากอีกฝ่าย ไม่ได้การละ เขาจะทำให้แม่เสียใจไม่ได้ แม่คือโลกทั้งใบของผิงกั่ว เขาจะไม่ทำให้แม่เสียใจ! ร่างของคนเจ้าเนื้อพุ่งไปยังประตูเพื่อขวางไม่ให้คนเปิดเข้ามาได้ “ไม่!” เด็กชายร้องอยู่สองสามหน และนั่นทำให้คนที่อยู่ด้านนอกแปลกใจ “เด็ก ๆ เกิดอะไรขึ้น!” ม่านอวี้อันใจเสียและร้อนรน เธอพยายามหมุนลูกบิด แต่เหมือนจะมีปัญหา “ผิงเกอ เจียวเกอ!” หญิงสาวเรียกลูกชายและปล้ำลูกบิดประตูเฮงซวยอยู่เกือบอึดใจใหญ่ ๆ กระทั่งมันเปิดออกได้ ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ผิงกั่วโผเข้าไปกอดม่านอวี้อัน ส่วนน้องชายก็แสร้งร
Comments