Share

บทนำ 2

last update Last Updated: 2025-02-07 19:27:28

ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาในตอนใกล้ฟ้าสาง ได้ยินเสียงหายใจของใครบางคนดังอยู่ข้างกาย หันขวับไปมองก็เห็นว่าเป็นเด็กหญิงอรองค์หลับอยู่ข้างๆ เอาเท้าพาดบนขา หลับสบายจนน่าทุบ ส่วนมารดาของเขาหลับอยู่บนโซฟาเบดในมุมนั่งเล่น

ภูวิณค่อยๆ ยกขาเล็กๆ ของอรองค์ออกจากขาเขา แล้วลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ จัดการธุรส่วนตัวเงียบๆ ก่อนจะออกไปที่ไร่ เพราะนอนเต็มอิ่ม และอยากใช้แรงกายให้เหนื่อยเข้าไว้ จะได้ไม่ต้องพึ่งเหล้าให้เมาหลับ ไม่เช่นนั้นชีวิตอันแสนอิสระของเขาจะถูกตามควบคุมจากผู้หญิงต่างวัยสองคนนี้

ถึงจะรู้ว่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่อยากให้ทั้งสองมากังวลด้วย โดยเฉพาะมารดา ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดที่ยังเหลืออยู่ บิดาของเขานั้นเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน พร้อมกับบิดาของอรองค์ อรรคพลเป็นรุ่นพี่ของเขาที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ใกล้กัน อายุมากกว่าเขาห้าปี และทำงานเป็นหัวหน้าคนงานและเป็นผู้ช่วยของบิดาเขาด้วย

บิดาเขาที่นอกจากเป็นเจ้าของไร่ภูวิณ ยังรั้งตำแหน่งกำนันที่น่านับถือของคนในพื้นที่ ซึ่งมีคู่แข่งและศัตรูทางการเมืองท้องถิ่นอยู่พอสมควร สองเดือนก่อนการเลือกตั้งกำนันอีกวาระ ขณะไปทำธุระที่ในเมืองพร้อมกับอรรคพล จากนั้นก็แวะไปรับเขา ซึ่งวันนั้นไปปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน ดื่มพอสมควรเลยไม่ได้ขับรถกลับเอง

ระหว่างทางกลับไร่เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม พ่อของเขาถูกลอบยิง ขณะที่อรรคพลเอาตัวบังเขาไว้จากกระสุน ทั้งสองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในขณะที่เขาไม่มีแม้รอยขีดข่วน และนั่นคือเหตุผลที่เขากับมารดาต้องรับเด็กหญิงอรองค์เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว

ส่วนคนร้ายลอยนวล เพราะไม่มีหลักฐานหรือเบาะแสใดๆ เกี่ยวโยงไปถึงคนก่อเหตุ นอกจากถนนที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่ทิ้งหลักฐานอะไรที่จะสาวไปถึงตัวคนทำและคนบงการได้เลย

ทำงานกันได้ละเอียดไร้ที่ติ!

แต่ถึงตำรวจจะหาคนร้ายมารับโทษไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าใครๆ จะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร เพราะในตำบลนี้คนที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งกำนันให้กับพ่อเขาทุกปี ก็มีอยู่เพียงคนเดียว และตอนนี้มันก็ได้เป็นกำนันแทนบิดาของเขาได้สมใจ

รอก่อนเถอะ สักวันเขาจะแก้แค้นพวกมันให้ได้ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งสิน่า!

เพราะยังเช้าตรู่ ไม่ถึงเวลาเข้างาน ภูวิณจึงเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในไร่ เดินดูแปลงผักไปเรื่อยๆ ไร่ภูวิณนอกจากปลูกพืชผักเกือบทุกชนิดที่มีขายในตลาดแล้ว ยังมีพื้นที่แบ่งเป็นสวนผลไม้

และยังมีที่ดินอีกแปลงที่เพิ่งซื้อเพิ่ม เพื่อจะทำเป็นรีสอร์ต ซึ่งคงใช้เวลาอีกสองปีกว่าจะสร้างเสร็จ เขาจะทำความฝันของพ่อให้เป็นจริง

แน่นอนว่ามันเป็นความฝันของเขาด้วย

ความฝันที่พ่วงด้วยความหวัง ว่าหากเรียนจบจะกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว แต่งงานกับระริน ใช้ชีวิตคู่ในบ้านเกิดพร้อมกับธุรกิจของครอบครัวให้เติบโตต่อไป เพื่อให้ฐานะความเป็นอยู่มั่นคงสำหรับลูกหลานในภายภาคหน้า

แต่ความหวังนั้นของเขาพังทลายลงแล้ว แต่ความฝันมันก็ยังอยู่ และเขาจะทำมันต่อไป แม้ไม่มีระรินในชีวิตของเขาแล้วก็ตาม

เพราะเขายังมีแม่และอรองค์เป็นสองคนในครอบครัวที่เขาต้องดูแล แล้วไหนจะคนงานในไร่อีกนับร้อยชีวิต ที่ฝากความหวังไว้กับเขา ว่าจะมีงาน มีเงินเพื่อดูแลครอบครัวให้มีชีวิตอยู่อย่างมีกินมีใช้ในทุกวัน

ยามเช้าตรู่ ใกล้พระอาทิตย์จะขึ้นอากาศสดชื่นเย็นสบาย คลายเรื่องวุ่นวายในใจลงบ้าง ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่อยากเสียเวลากับความเสียใจในความรักที่มันจบไปนานแล้ว

แม้จะทำใจยินดีกับความสุขของอดีตคนรักไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธแค้น เพราะคนเราก็มีสิทธิ์เลือกไม่ว่าความรักหรือความฝันของตัวเอง

เขาเองก็เช่นกัน ต่อไปนี้จะใช้ชีวิตโสดให้คุ้ม หาความสุขใส่ตัวเองให้มากที่สุด จนกว่าจะพบใครสักคนที่อยากลงหลักปักฐานด้วย แล้วเขาจะหยุดเพื่อจะสร้างครอบครัวกับคนคนนั้น

“ย่าจ๋า โตขึ้นเอิงจะได้แต่งงานกับอาวิณหรือเปล่า” เด็กหญิงอรองค์ถามขึ้น หลังจากทั้งสองออกจากการนั่งสมาธิ ในห้องพระของเรือนหลังเล็ก

หลังจากสูญเสียสามี พิศมัยจึงอยากใช้เวลากับการสวดมนต์ทำสมาธิ การอยู่ในตึกใหญ่นอกจากจะทำให้คิดถึงสามีที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว ก็อยากอยู่เงียบๆ ตึกใหญ่แม้จะมีลูกชายอาศัยอยู่เพียงคนเดียว เพราะบ้านหลังใหญ่ คนดูแลบ้านก็มากตามไปด้วย

ส่วนเรือนหลังเล็กก็อยู่กับอรองค์สองคน มีเด็กรับใช้แค่คนเดียวที่ขึ้นมาทำงานบนบ้าน ซักผ้าทำความสะอาดบ้าน ส่วนเรื่องอาหารก็ทางแม่ครัวประจำบ้านก็จัดสรรให้เด็กรับใช้ยกมาให้ทุกวัน เว้นบางวันที่ภูวินกลับบ้านเร็วเธอกับอรองค์ก็ไปกินที่ตึกใหญ่

ในทุกวันก่อนนอนเธอกับอรองค์จะสวดมนต์นั่งสมาธิด้วยกัน ส่วนตอนเช้าตรู่ ก่อนปลุกเด็กหญิงไปโรงเรียน เธอจะนั่งสมาธิเพียงลำพัง 

“ย่าจะรู้ได้ยังไงเล่า” พิสมัยตอบพร้อมกับยิ้มขำ

“ย่าต้องรู้สิ วันก่อนยังบอกว่าเอิงจะสอบได้ที่หนึ่ง และเอิงก็สอบได้ที่หนึ่งจริงๆ ด้วย”

“ที่ย่ารู้เพราะเอิงอ่านหนังสือทุกวันน่ะสิ”

“ไม่จริงหรอก ย่ารู้เพราะย่ามองเห็นอนาคตต่างหาก”

“เปล่า ย่าไม่ได้มองเห็น...” แล้วเธอก็ชะงัก เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้

“ย่าโกหกไม่ได้นะ เดี๋ยวผิดศีล ย่าต้องรักษาศีลห้านะคะ”

พิสมัยถึงกับหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอพร่ำสอนเรื่องศีลห้าให้เด็กหญิงอรองค์มาตลอด โดยเฉพาะเรื่องการพูดเท็จ ห้ามเด็ดขาด และดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะใช้คำสอนนั้นมาใช้เป็นเครื่องมือให้เธอตอบคำถามของเจ้าตัวเสียแล้ว

“ตอบเอิงมาตามตรงเถอะค่ะคุณย่า ถ้าเอิงไม่ได้เป็นเจ้าสาวของอาวิณ เอิงจะได้ทำใจ”

“อู้ย ตัวแค่นี้คิดเรื่องเป็นเจ้าสาว แก่แดดแก่ลมไปแล้วนะ” พิสมัยว่า แล้วบีบแก้มยุ้ยๆ นั่นอย่างมันเขี้ยว

“เอิงก็แค่อยากอยู่กับอาวิณไปตลอดชีวิต”

“จะแต่งหรือไม่แต่งก็อยู่กับอาวิณได้ตลอดชีวิตอยู่แล้ว”

“ป้าศรีบอกว่า ถ้าอาวิณแต่งงานแล้ว เอิงจะอยู่กับอาวิณไม่ได้หรอก เพราะอาวิณต้องอยู่กับเมียกับลูกเขา เอิงอยู่ด้วยก็จะกลายเป็นคนนอก”

“ยายศรีนี่นา พูดอะไรไม่เข้าท่ากับเด็กได้ยังไง ต้องเรียกมาอบรมบ้างแล้ว”

“อย่าโกรธป้าศรีเลยค่ะ เพราะถ้าอาวิณแต่งงานกับคนอื่น เอิงจะกลายเป็นคนนอกจริงๆ นั่นแหละค่ะ” น้ำเสียงนั้นเศร้าสร้อย จนคนฟังรู้สึกสงสาร

พิศมัยรู้ว่าเด็กหญิงอรองค์จะยังเด็กและกลัวการถูกทอดทิ้งจากคนที่รัก จนคิดจะอยากแต่งงานกับอาวิณ เพราะอยากจะอยู่กับอาวิณไปตลอดชีวิต

อีกฝ่ายยังเด็ก ถ้าจะอธิบายเรื่องแต่งงาน หรือเรื่องความรักในแบบผู้ใหญ่ให้เข้าใจ คงเป็นได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้น ความจริงในสิ่งที่เห็นก็ไม่อาจโกหกเด็กหญิงได้

“ย่าจ๋าบอกเอิงมาเถอะค่ะ นะคะ เอิงอยากรู้จริงๆ ถ้าไม่ใช่เอิงจะได้ทำใจตั้งแต่ตอนนี้เลย”

พิสมัยอึ้งไปกับคำพูดนั้นของเด็กหญิงในอุปการะ มองดูแววตาที่รอคอยคำตอบอย่างมีความหวังอย่างจดจ่อ จึงไม่อาจเลี่ยงที่จะตอบอีกต่อไป

“ใช่แล้ว โตขึ้นเอิงจะได้แต่งงานกับอาวิณ”

“เย้ ขอบคุณค่ะคุณย่า”

“แต่...”

“แต่อะไรคะ”

แต่เอิงอาจจะต้องเจออะไรหนักๆ”

หรืออาจเจ็บปางตาย

นั่นคือสิ่งที่พูดได้แค่ในใจเท่านั้น เธอไม่อาจบอกกล่าวเด็กหญิงได้

“ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่เอิงอยู่กับอาวิณตลอดไป เอิงก็ดีใจแล้ว”

“งั้นย่าฝากเอิงดูแลอาวิณด้วยนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามทิ้งอาวิณเด็ดขาด”

“เอิงจะปกป้องอาวิณเองค่ะ และจะไม่ทิ้งอาวิณไปไหน” เด็กหญิงรับคำเสียงหนักแน่น

“จำไว้นะเอิง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แค่เอิงเป็นคนคิดดีทำดี เอิงจะผ่านทุกอย่างไปได้ แม้ว่าเรื่องนั้นจะทำให้เราเสียใจ”

“ได้ค่ะ เอิงจะเป็นคนดี จะถือศีลห้า จะสวดมนต์ นั่งสมาธิอย่างที่คุณย่าสอนตลอดไปเลยค่ะ”

“ดีมาก เด็กดีของย่า” แล้วทั้งสองก็กอดกัน คนสูงวัยแอบน้ำตาซึม

เพราะอีกไม่นานอรองค์จะต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิเพียงลำพังแล้ว

::::::::::::::::::

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณ   ตอนพิเศษ 2 (NC)

    พอลูกสาวหลับไปแล้ว ภูวิณก็เก็บหนังสือนิทานไว้บนโต๊ะ ห่มผ้านวมให้ หอมแก้มเบาๆ ไม่ลืมที่จะปิดโคมไฟหัวเตียง เหลือเพียงโคมไฟหน้าห้องน้ำ จากนั้นก็กลับห้องนอนของเขากับภรรยาที่อยู่ห้องถัดไป คั่นกลางด้วยห้องแต่งตัวที่ประตูทั้งสองห้องเชื่อมต่อกันได้ภูวิณยิ้มกริ่มเมื่อเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาก็เห็นภรรยากำลังสวมชุดนอนสีดำสายเดี่ยว ยิ่งขับผิวขาวนวลลออตา ชุดสั้นเหนือเข่ามาเกือบคืบ โชว์เรียวขาสวยที่เขามองไม่เคยเบื่อ ผมยาวดำขลับทิ้งสยายเต็มกลางหลังใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มกลับเห็นผิวขาวใสไร้รอยด่างดำ แม้จะออกไปช่วยงานในไร่บ่อยครั้ง สลับกลับไปทำงานในรีสอร์ต แต่อรองค์ก็ดูแลตัวเองอย่างดีอรองค์ในวัยสามสิบต้นๆ เหมือนเจ้าตัวเพิ่งเป็นสาวเต็มตัว มีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเด็กสาวในวันวานทั้งรูปร่างที่ผอมเพรียว แต่ก็เฟิร์มไปทั้งเนื้อตัว ช่วงอกอวบอิ่มขึ้น ดวงตากว้างเป็นประกายรู้ทันเมื่อเห็นสายตาโลมเลียของเขา“เซ็กซี่จัง” ภูวิณเดินมาโอบกอดภรรยาจากด้านหลัง ซุกจมูกที่ลำคอระหง ก่อนย้ายไปยังซอกหู มือใหญ่นั้นเริ่มไล้เบาๆ ตั้งแต่โค้งสะโพก ผ่านชุดนอนเนื้อบางเบา ทำให้อรองค์วูบไหวจนร่างสะท้าน พร้อมครางเสียงแผ่วริมฝีปากอุ่น

  • เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ “คุณแม่ขาหนูอยากปั่นจักรยานเล่นที่ไร่ค่ะ” เด็กหญิงอิงจันทร์ วัยสี่ขวบเอ่ยขึ้นในเวลาบ่ายวันหยุด กำลังกินของว่างกับแม่ในสวนข้างบ้านเด็กหญิงอิงจันทร์มีหน้าตาคล้ายแม่ค่อนข้างมาก ทั้งใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาโตกว้างเป็นประกายสดใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มได้รูป ผมสั้นเคลียหูและมีหน้าม้า ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นเหมือนตุ๊กตาเดินได้“งั้นกินนมให้หมดก่อนค่ะ เดี๋ยวแม่พาไป” เมื่อได้ยินแบบนั้นเด็กหญิงก็ยกแก้วนมที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วดื่มจนหมด“หมดแล้วค่ะ”“งั้นเราไปเปลี่ยนรองเท้าและใส่หมวกกันค่ะ” อรองค์ที่ตอนนี้อยู่ในวัยสามสิบต้นๆ บอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลูกสาวตัวน้อยก็รีบลงจากเก้าอี้ แล้วเดินลิ่วเข้าไปในบ้านทันทีไม่กี่นาทีต่อมาสองแม่ลูกก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับการปั่นจักรยาน รองเท้าผ้าใบและหมวกกันน็อค“น้องเอิงคะ ป้าศรีถาม ค่ำนี้กินอะไรดี”“อ๋อ เอิงลืมบอก ตอนค่ำเอิงจะพาน้องอิงไปกินข้าวที่ รีสอร์ตกับพ่อเขาน่ะ”อรองค์หันมาบอกคำแพง ที่ตอนนี้รับหน้าที่หลักเป็นพี่เลี้ยงเด็กหญิงอิงจันทร์ ช่วยงานบ้านอื่นๆ ยามว่างเว้นจากการดูแลเด็กหญิง เช่นวันหยุดที่อรองค์ไม่ได้ทำงาน เธอก็จะดูแลลูกสาวเอง

  • เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณ   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย หกปีต่อมาที่ไร่ภูวิณในเวลาเช้าตรู่ อรอรงค์กำลังแต่งหน้าทำผมเสร็จ สวมใส่ชุดไทยประยุกต์สีครีม ส่งผลให้รูปร่างสูงเพรียวนั้นยิ่งหน้ามองเครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ใบหน้าสวยที่แต่งแบบเรียบๆ กลับยิ่งโดดเด่นนัยน์ตาเรียวกว้างและคมหวานเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากยิ้มแย้มอิ่มเต็มและเย้ายวนอยู่ในที“แกสวยมาก” มะเหมี่ยวเอ่ยปากชม“เหมือนนางฟ้าเลยแก” มัทนาชมบ้าง“ฉันเห็นเอิงใส่ชุดแต่งงานครั้งที่สองแล้วนะ ครั้งแรกแต่งแทนคนอื่น ตอนนั้นเอิงยังเด็กอยู่ก็สวยน่ารัก ตอนนี้ดูเป็นสาวเต็มตัว เฉิดฉายมากเลย ออร่าแบบพุ่งสุดๆ” อารียาเอ่ยชมด้วยสีหน้าสุดปลื้มปริ่มกับเพื่อนรัก ที่ตอนนี้เพิ่มสถานะอาสะใภ้เข้าไปด้วย“ครั้งนี้ต้องพิเศษสิ เพราะงานแต่งของฉันจริงๆ ไม่ได้แต่งแทนคนอื่น” อรองค์เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกว้าง ปลื้มกับคำชมของเพื่อนๆ จนจะลอยได้อยู่แล้ว“สรุป แกเป็นเจ้าสาวสองครั้งในชีวิตของอาวิณ”“ฉันถือครั้งนี้ คืองานแต่งของฉันจริงๆ”“เด็กๆ ไปข้างล่างกันเถอะ ได้กฤกษ์ทำพิธีแล้ว” อินทุอรโผล่หน้ามาบอกทุกคนในห้องแต่งตัวเมื่อลงมาถึงชั้นล่างที่สวนข้างบ้าน ก็เห็นเจ้าบ่าวยืนอยู่กับมัชกร และกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อรอเ

  • เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณ   ชอบมาตั้งนาน 3

    “เราชอบอิ้งตั้งแต่ตอนมอต้น แต่เราไม่กล้าแม้จะคุยกับอิ้ง กลัวยัยน้อยหน่าแกล้งอิ้ง”“เราก็คิดว่าไม้ชอบเอิงเสียอีก”“ใครจะกล้าชอบ อิ้งบอกย้ำเราตลอดว่าเอิงจะเป็นเจ้าสาวของอาวิณของอิ้ง”“แฮะๆ ขอโทษนะ ตอนนั้นเรากลัวไม้ชอบเอิงน่ะ เลยบอกย้ำ” เธอสารภาพน้ำเสียงเขินๆ“ก็ตอนนั้นเราชอบอิ้งแล้ว จะชอบใครได้อีก”“แล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกตั้งแต่ตอนนั้นเราคงคบกันได้หลายปีแล้ว แล้วตอนนั้นไม้เหมือนสนใจเอิงด้วยนะ”“ก็สนใจ เพราะเอิงดูสู้คนไง”“เลยให้เอิงไปสู้กับยัยน้อยหน่าว่างั้นเถอะ”“อือ คิดว่าเอิงจัดการได้”“แต่เสียดาย น่าจะบอกกันบ้าง”“ถึงเราจะชอบอิ้ง แต่ก็ยังเด็ก และไม่แน่ใจว่าจะชอบต่อไปได้นานแค่ไหน”“งั้นตอนนี้ก็ยังชอบนะ”“ก็ชอบอยู่”“งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหม” เพราะอย่างไรก็คบในฐานะเพื่อนมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกันอะไรกันเพิ่มเติม“ได้ แต่อย่าเพิ่งบอกคนอื่นๆ ได้ไหม”“ทำไม อายเหรอที่จะเป็นแฟนกับเรา” น้ำเสียงมีแววน้อยเนื้อต่ำใจ“ถ้าอิ้งไม่กลัวพวกเขาแซวก็ตามใจอิ้งนะ”“งั้นปิดไว้ก่อนเหอะ แอบๆ คบกันก็น่าสนุกดีนะ” น้ำเสียงเธอร่าเริงขึ้นมาทันที“แต่อิ้งควรบอกผู้ใหญ่ของอิ้งก่อนนะ”“หมายถึงคุณแม่กับอาวิ

  • เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณ   ชอบมาตั้งนาน 2

    “จะไปไหน แต่งตัวซะสวยเชียว” อรองค์ถามขึ้นเมื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในโถงชั้นล่างพร้อมกินของว่างไปด้วย ก็เห็น อารียาใส่เดรสสีครีมดูอ่อนหวานนุ่มนวล แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ ให้ดูหวานละมุนเข้ากับชุดที่สวมใส่“ไปดูหนังกับไม้”“แกไปล่อลวงไม้ให้ไปดูหนังได้ด้วยเหรอ”“บ้า ล่อลวงอะไร ปกติไม้ก็ไปดูหนังกับฉันกับยัยเหมี่ยวบ่อยๆ” ส่วนอรองค์กับมัทนาไม่ชอบเข้าโรงหนัง รวมทั้งมัชกรด้วย แต่ทุกครั้งที่ชวนเขาก็ไม่เคยปฏิเสธ“ก็ไม้ไปเป็นเพื่อนแกกับยัยเหมี่ยวไง แต่ครั้งนี้เหมี่ยวไปด้วยหรือเปล่า”“ก็ชวนแล้ว แต่มันไม่ว่าง และฉันก็อยากดูหนังเรื่องนี้มาก” เจ้าตัวก็บอกชื่อภาพยนตร์ที่จะไปดู“มีแผนไรหรือเปล่าเนี่ย ชวนไม้ไปดูหนังผี แล้วตัวเองแต่งตัวเป็นนางฟ้า”“อุ๊ย ฉันสวยมากใช่ไหมแก” น้ำเสียงของอารียาร่าเริงขึ้นมาทันที“ไปถามป้าอินที่ร้านดูก่อนไหม”“บ้าสิ ขืนไปถาม แม่ก็ซักไซ้ว่าฉันแอบกิ๊กผู้ชายไม่บอกเขาน่ะสิ”“คิดว่าป้าอินจะไม่รู้เหรอ แกมองไม้ที โหหวานซึ้งตรึงใจไปถึงสามโลก”“เว่อร์น่า”“ไม่เชื่อก็ไปถามไอ้ไม้ดู”“แกว่าฉันควรถามตรงๆ เหรอ”“เออ จะอมพะนำไปทำไม ค้างๆ คาๆ”“งั้นฉันจะลองทำใจกล้าถามเขาดู”“แต่ก็ต้องเผื่อใจด้วยน

  • เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณ   ชอบมาตั้งนาน 1

    ชอบมาตั้งนาน อรองค์กับแก๊งเพื่อนสนิทนั่งอ่านข่าวเด่นข่าวดังด้วยความชื่นมื่นในร้านชาบู ซึ่งจองห้องวีไอพีเฉพาะพวกเขาเท่านั้นข่าวลูกชายนักการเมืองจัดปาร์ตี้ยาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างมาก ในคืนนั้นใครตรวจเจอฉี่ม่วงก็โดนกันไป เรียกว่าไม่มีใครรอดสักคน แต่คนที่หนักสุดคือดรีม เพราะเป็นถึงลูกชายนักการเมืองที่เป็นถึงระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี แถมตำรวจเจอคลิปลับในโทรศัพท์ของอีกฝ่ายอีกหลายสิบคลิปในโซเซียลฯ ก็ถูกประจานสันดานเลวๆ ของดรีม ส่วนใหญ่ผู้หญิงออกมาพูดว่าดรีมชอบเอาคลิปลับมาขู่ให้ยอมมีเซ็กซ์ในครั้งต่อๆ ไป บางคนก็ถูกล่อลวง แอบถ่ายต่างๆ นานา เรียกว่างานนี้เรียกโจทย์ทั้งเก่าและใหม่มาทัวร์ลงเท่านั้นยังไม่พอทำพ่อเสียชื่อไปด้วย ได้ยินข่าวมาว่า ประกันตัวออกมาแล้ว ดรีมถูกพ่อส่งไปเมืองนอก เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามประสาคนรวย พอมีเรื่องก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ เพราะกระแสจากสังคมตอนนี้แรงมากทางมหาวิทยาลัยก็สั่งพักการเรียนทุกคนในงานที่ตรวจเจอฉี่ม่วง รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ที่คืนนั้นแม้จะออกมาก่อนตำรวจจะมาถึง แต่อีกฝ่ายก็เป็นเจ้าของงานวันเกิด ถึงแม้คนที่เป็นเจ้าของปาร์ตี้ตัวจริงจะคือดร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status