“คุณเฉินคะทำเจ้าไมเจ้านายของคุณหายไปกับเพื่อนของปลานานจังเลยคะ” เพราะเมื่อครู่คุณเฉินบอกกับทุกคนว่าคนที่คุยอยู่กับนฤดาและพากันเดินออกไปทางหลังร้านนั้นคือเจ้านายของเขา
“เดี๋ยวผมโทรถามให้นะครับ” เขาเดินหลบออกมาจากนั้นก็กดโทรศัพท์ไปถามคนขับก่อนจะกลับมาพร้อมกับคำตอบ
“เพื่อนของคุณไม่ค่อยสบายเจ้านายของผมเลยพาไปส่งบ้านครับ”
“หวานเป็นอะไรตอนมาเมื่อกี้ยังเห็นดีๆ อยู่เลย”
“นั่นสิหรือว่าตอนไปคุยกับพี่กายเกิดทะเลาะกัน”
“คงไม่ทะเลาะกันหรอกฟ้าเห็นพี่กายกลับมานั่งกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น” เพราะตัวเองไม่ดื่มจึงคอยสังเกตสิ่งรอบข้างไปเรื่อย
“แต่มันแปลกนะที่เขายังมานั่งคุยกับผู้หญิงอื่น แบบนี้มันทำร้ายจิตใจกันชัดๆ นุ่นจะโทรถามยายหวานว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
หญิงสาวเดินหลบไปยังมุมที่เงียบที่สุดแล้วโทรศัพท์ไปหานฤดารออยู่นานกว่าเพื่อนจะมารับสาย
“หวานเป็นยังไงบ้างทำรีบกลับบ้านล่ะ ทะเลาะกับพี่กายใช่ไหม”
“อือ ตอนนี้เราปวดหัวมากอยากนอนพัก”
“แล้วกลับบ้านยังไง”
“มีคนมาส่งไม่ต้องห่วงนะ หวานขอนอนพักก่อนพรุ่งนี้จะโทรไปเล่าให้ทุกคนฟังเองแค่นี้ก่อนนะนุ่น”
พอนฤดาวางสายไปแล้วนุ่นก็เดินกลับมานั่งที่เดิม
“หวานว่ายังไงบ้าง กลับบ้านไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“กำลังกลับบ้านบอกว่ามีคนไปส่งก็น่าจะเจ้านายของคุณเฉินนั่นแหละ”
“แล้วเรื่องพี่กายล่ะ”
“ยายหวายบอกว่าทะเลาะกันเดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรมาเล่าให้พวกเราฟังอีกที”
“พูดตามตรงนะถ้าฟ้าเห็นแฟนพาผู้หญิงอื่นมาเที่ยวแบบนี้ฟ้าก็คงทะเลาะเผลอๆ จะเลิกไปเลยด้วยซ้ำ”
“ยายหวานขี้ใจอ่อนพอพี่กายมาง้อเดี๋ยวก็คืนดี ปลาก็ได้แต่หวังว่าครั้งนี้เพื่อนของเราจะไม่ยอมเขาง่ายๆ”
“เห็นตำตาแบบนี้มีนาว่ายายหวานคงทำใจยาก แต่ก็อย่างว่าคนเขารักกัน”
“นั่นสิคนไม่เคยมีแฟนมาก่อนพอมีก็รักมากเขาพูดอะไรก็เชื่อทุกอย่าง”
“เพื่อนของคุณมีแฟนแล้วเหรอปลา” เพราะเจ้านายไม่ชอบยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วเขาจึงอยากถามให้แน่ใจ
“ค่ะ นั่นไงคะแฟนของยายหวาน” ปลาชี้ให้เฉินดูผู้ชายที่นั่งกอดกับผู้หญิงอยู่บนโซฟาบริเวณชั้นหนึ่ง
“เขานอกใจเธอนี่”
“ค่ะ แต่ยายหวานขี้ใจอ่อนปลาว่าพอเขาไปง้อเดี๋ยวก็คงยกโทษให้เขาอีก”
“ถ้าผมเป็นเพื่อนคุณผมจะไม่มีทางยกโทษให้ผู้ชายคนนี้เด็ดขาด”
“คุณรู้จักเขาเหรอคะ”
“ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวงหรอกครับแต่เห็นเขามาที่นี่บ่อยๆ และผู้หญิงที่พามาด้วยก็ไม่ใช่แค่คนเดียว”
“ถ้ายายหวานโทรมาพรุ่งนี้พวกเราช่วยกันพูดนะ ฟ้าไม่อยากให้ยายหวานคบกับคนเจ้าชู้แบบนี้”
“ได้สิ นุ่นก็เหม็นขี้หน้าพี่กายเหมือนกัน”
“ดูเหมือนจะไม่มีใครชอบเขาเลยนะครับ” เฉินที่ปกติไม่ค่อยยุงเรื่องของคนอื่นก็เกิดอยากจะสนใจผู้หญิงที่ชื่อหวานขึ้นมาเขาอยากจะเก็บข้อมูลของเธอให้ได้มากที่สุดเพราะถ้าหากเจ้านายถามขึ้นมาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูล
“ค่ะคุณเฉิน พวกเราไม่ค่อยชอบพี่กายเท่าไหร่”
“ทำไมล่ะครับ”
“ก็อย่างที่เห็นไงคะเขาเจ้าชู้มาก แต่พอยายหวานจับได้ก็หาเหตุผลมาอ้างสารพัด ยายหวานเป็นเด็กเรียนไม่เคยมีแฟนมาก่อนพอเจอคนปากหวานขี้ประจบก็ยอมใจอ่อน ฟ้าเคยบอกให้หวานลองมองคนอื่นบ้างแต่ยายหวานก็รักเดียวใจเดียว”
“เขาคบกันมานานแล้วเหรอครับ”
“ไม่นานหรอกค่ะ ไม่ถึงครึ่งปีมั้ง”
“แล้วก่อนหน้านั้นเพื่อนคุณคบใครมาหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าหวานตั้งใจเรียนมากตอนที่เรียนอยู่มีทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่และอาจารย์มาชอบแต่ยายหวานก็ปฏิเสธหมดเพราะอยากจะเรียนให้จบก่อน ว่าแต่คุณสนใจเธอเหรอคะเฉิน”
“อย่ามองผมแบบนั้นสิครับปลา ผมก็แค่ถามเพราะเห็นว่าเจ้านายของผมกับเพื่อนของคุณน่าจะคุยกันถูกคอ”
“เจ้านายของคุณยังโสดเหรอคะ”
“โสดสิครับ”
“มีนาขอถามได้ไหมคะว่าทำไมเขาถึงยังโสดทั้งหล่อทั้งรวยแบบนั้นน่าจะมีเจ้าของแล้ว”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” จริงๆ แล้วเฉินรู้สาเหตุดีแต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านายที่เขาไม่อาจจะพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรได้
“คุณคิดว่าเจ้านายคุณสนใจเพื่อนเราเหรอคะ”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ถ้าเขาสนใจขึ้นมามันก็ดีไม่ใช่เหรอครับเพื่อนคุณจะได้หลุดพ้นจากผู้ชายเจ้าชู้”
“ฟ้ากลัวจะหนีเสือปะจระเข้มากกว่าสิคะ ดูท่าแล้วเจ้านายของคุณก็คงเจ้าชู้ใช่เล่น ซื่อๆ อย่างยายหวานคงตามเจ้านายคุณไม่ทันหรอก”
“เรื่องเจ้าชู้ผมยืนยันเลยว่าเขาไม่เจ้าชู้เวลาคบใครก็คบทีละคนเพียงแต่อาจจะเปลี่ยนแฟนบ่อยไปหน่อยแค่นั้นเองครับ”
“คุณเฉินคะนุ่นอยากรู้ว่าถ้าเจ้านายคุณสนใจยายหวานแต่ยายหวานไม่เล่นด้วยมันจะเป็นอะไรไหมคะ"
“ไม่หรอกครับเจ้านายผมเป็นประเภทที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเข้าหาตลอดเขาไม่เคยต้องบังคับหรือฝืนใจใคร ถ้าไม่อยากคบหรือไม่ชอบก็บอกไปตรงๆ”
“ค่อยโล่งใจไหน่อยค่ะ”
“ปลาหวังว่าคืนนี้เจ้านายคุณคงไปส่งเพื่อนปลาถึงบ้านอย่างปลอดภัยนะคะ”
“อย่าห่วงไปเลยครับอย่างที่ผมบอกเจ้านายผมไม่เคยบังคับหรือพาผู้หญิงไปทำอะไรที่เสียหายถ้าเธอคนั้นไม่เต็มใจ”
เฉินไม่ได้พูดเกินจริงพราะเจ้านายของเขาเป็นประเภทหล่อเลือกได้ผู้หญิงทุกคนเต็มใจจะนอนด้วยทั้งนั้น และคืนนี้เขาก็มั่นใจว่าเจ้านายจะไม่บังคังใครให้นอนด้วยแต่น่าจะเป็นผู้หญิงที่เขาพาขึ้นรถไปมากกว่าที่จะเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องแบบนั้น
ลูคัสมองใบหน้าสวยที่แดงซ่านอย่างหลงใหล ปลายนิ้วร้ายเริ่มขยับปลุกเร้าร่างกายของคนรักอย่างเต็มที่ ขาเรียวสั่นระริกมือเล็กโอบรอบลำคอเขาไว้แน่น ใบหน้าสวยซุกอยู่กับแผงอกแกร่ง เมื่อรู้สึกถึงแรงตอดบนปลายนิ้ว ชายหนุ่มก็ใช้มืออีกข้างจับปลายคางของนฤดาขึ้นเขาอยากเห็นหน้าคนรักในเวลาที่เธอไปถึงสวรรค์“หวานจ๋าอย่าหลับตาสิที่รัก พี่อยากให้หวานมองหน้าพี่ พี่ชอบเวลาที่เห็นหวานเสร็จ มันเซ็กซี่และน่าเอาที่สุด”คำพูดหื่นห่ามกระตุ้นไฟในกายของหญิงสาวให้ลึกโชนทุกครั้งที่อยู่กันตามลำพังเขามักจะคำพูดแบบนี้และเธอก็ชอบที่จะได้ฟัง“ดีไหม ชอบไหม”“พี่คีธขา หวาน อื้อ....ใกล้แล้ว อีกนิดพี่คีธ...อ้ายยย....”นฤดากรีดร้องเสียงยาวเมื่อสัมผัสร้อนของคนรักส่งเธอไปยังปลายทางสีรุ้ง ลูคัสมองใบหน้าสวยยามสุขสมแล้วตนเองก็ปวดหนึบไปทั้งแก่นกาย ชายหนุ่มพลิกตัวแล้วดันให้นฤดานอนลงบนที่นอนด้วยความอ่อนโยน จมูกโด่งเริ่มซุกไซร้ฝากรอยรักลงบนซอกคอหอมกรุ่นอย่างหิวกระหาย นฤดาไม่เคยทำให้ความต้องการของเขาลดน้อยลงสักครั้งยิ่งได้อยู่ใกล้ได้กลิ่นกายหอมเขาก็พร้อมที่จะกระโจนเข้าหาเธออย่างห้ามไม่อยู่ที่ผ่านมาลูคัสไม่เคยรู้สึกต้องการผู้หญิงคนไหนมา
จัสมินกลับไปอยู่สิงคโปร์ได้หลายวันแล้ว ช่วงนี้นฤดาเลยเหงาอยู่ที่บ้านคนเดียว ช่วงกลางวันลูคัสจะออกไปทำงานพอตกเย็นก็กลับมาทานข้าวด้วยกันก่อนจะออกไปตรวจงานที่ผับอีกครั้งและกลับเข้ามาเกือบจะตีสองนฤดารู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เขาทำงานหนักขึ้นและมีเวลาให้เธอน้อยลง ถ้าหากชายหนุ่มยังเป็นแบบนี้อีกต่อไปเรื่องที่เธอจะคบกับเขาต่อก็คงจะคิดหนักเสียงรถที่เข้ามาจอดในเวลาห้าทุ่มทำให้นฤดาที่กำลังจะสสมชุดนอนรีบหยิบเสื้อคลุมมาใส่เพราะคิดว่าลูคัสน่าจะลืมของเหมือนทุกครั้งที่เขาออกไปแล้วกลับมาก่อนเวลาเพราะลืมเอกสารหรือบางครั้งก็ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องทำงาน พอเธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งอยู่บนเตียง“ลืมของเหรอคะ เอาวางไว้ตรงไหนเดี๋ยวหวานช่วยหาให้ค่ะ” เธอกำลังจะเดินออกไปห้องทำงานแต่เขาก็คว้าเอวบางไว้แล้วก็จับให้หญิงสาวมานั่งอยู่บนหน้าตักของตนเอง“จับไว้แบบนี้แล้วหวานจะไปช่วยหาของได้ยังไงล่ะคะ”“วันนี้พี่ไม่ได้ลืมของ” สรรพนามที่มาเฟียหนุ่มเรียกแทนตัวเองเปลี่ยนนับตั้งแต่เธอบอกว่าจะให้โอกาสเขา“แล้วกลับมาทำไมคะ หรือว่างานเสร็จแล้ว”“งานเสร็จแล้วครับ แต่คนยังไม่เสร็จ” ลูคัสมองหญิงสาวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจัสมินก็ต้องเดินทางกลับสิงคโปร์แล้ววันนี้เด็กน้อยเลยขอมานอนค้างกับคุณยายประภาพรที่บ้าน ซึ่งลูคัสให้ลูกน้องมาต่อเติมห้องนอนและติดเครื่องปรับอากาศให้ถึงสองห้องสำหรับประภาพรห้องหนึ่งและเอาอีกห้องหนึ่งสำหรับนฤดาที่วันนี้พาจัสมินมาค้างที่นี่ด้วย“คุณยายขาคืนนี้จะจัสมินขอนอนกับคุณยายได้ไหมคะ แดดดี๊บอกว่าห้องคุณยายไม่ร้อนแล้ว”“ได้สิ เดี๋ยวยายจะเล่านิทานให้หนูฟังก่อนนอนดีไหมคะ”“แต่จัสมินลืมเอาหนังสือนิทานมาจากบ้านค่ะ” เพราะมัวแต่ตื่นเต้นว่าจะมาทานขนมชั้นเธอเลยลืมหยิบหนังสือนิทานมาด้วย ซึ่งปกติเวลาไปค้างที่ไหนจัสมินจะเลือกหนังสือนิทานเล่มที่อยากฟังใส่กระเป๋าเป้เล็กๆ ของเธอเอง“นิทานของยายเป็นนิทานพื้นบ้านค่ะจัสมิน ไม่ต้องใช้หนังสือ”“นิทานพื้นบ้านคืออะไรคะหม่ามี้”“ก็เป็นนิทานของคนที่เล่าสืบต่อกันมา ตอนเด็กๆ คุณยายจะเล่าให้หม่ามี้ฟังตลอดเลย”“แล้วนิทานพื้นบ้านสนุกไหมคะ”“สนุกสิหม่ามี้ว่าหนูจะต้องชอบมากๆ แน่เลย”“เราไปกันเลยไหมคะคุณยายจัสมินอยากฟังนิทานแล้ว”“จัสมินไปรอในห้องคุณยายก่อนนะคะ เดี๋ยวยายตามไปค่ะ”เมื่อจัสมินเข้าไปในห้องแล้วประภาพรก็ช่วยลูกสาวปิดหน้าต่างและประต
“ฉันอาจจะเก่งในเรื่องการทำงานแต่เรื่องความรู้สึกแบบนี้มันเข้าใจยาก”“งั้นหวานขอถามว่าทำไมเมื่อกี้คุณถึงไปแสดงตัวต่อหน้าพี่กายและเพื่อนหวานแบบนั้น”“เพราะฉันไม่อยากให้ใครมายุ่งกับคนฉัน ฉันกลัวเธอจะใจอ่อนแล้วกลับไปคบกับเขา ฉันยอมไม่ได้หรอกนะ ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีเธออยู่ข้างๆ ฉันกับจัสมินจะเป็นยังไง” ลูคัสบอกความรู้สึกของตนเองให้หญิงสาวฟังอย่างไม่มีปิดบัง เขากลัวว่าผู้หญิงจิตใจดีแบบนฤดาจะยอมให้อภัยผู้ชายคนนั้น“คุณอาจจะต้องการหวานตอนนี้เพราะจัสมินอยู่เมืองไทยก็ได้นะคะ หวานอยากรู้ว่าถ้าครบหนึ่งเดือนแล้วจัสมิและครอบครัวคุณไม่อยู่ที่นี่ความรู้สึกที่คุณมีให้หวานยังเหมือนเดิมหรือเปล่า”“ไม่ว่าจัสมินจะอยู่ที่นี่หรือเปล่าแต่ฉันก็ต้องการให้เธออยู่ใกล้ๆ เหมือนเดิม นะหวานนะขอโอกาสฉันหน่อย หรือที่เธอไม่อยากเป็นครอบครัวเพราะฉันอายุมากใช่ไหม” เขาพูดด้วยความน้อยใจ“ไม่ใช่เรื่องอายุหรอกค่ะ หวานแค่อยากมั่นใจกว่านี่อีกสักนิด”“ฉันต้องทำยังไงบ้างเธอถึงจะมั่นใจ ให้พ่อแม่ของฉันไปคุยกับแม่ของเธอดีไหม”“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ค่ะ หวานจะลองให้โอกาสคุณดูก็ได้”“จริงนะ”“ค่ะ”“ฉันดีใจที่เธอยอมเปิดใจ แต่ฉั
เมื่อถึงเวลาผับปิดลูคัสก็เดินมาบอกกับเพื่อนของนฤดาว่าเขาจะเป็นคนไปส่งเธอที่บ้านเอง หลังจากบอกลาเพื่อนๆ เสร็จแล้วนฤดาก็เดินตามลูคัสมาที่รถทันทีที่ประตูรถปิดลงหญิงสาวก็หันมามองหน้าลูคัสอย่างเอาเรื่อง“คุณไปพูดกับเพื่อนหวานแบบนั้นได้ยังไงคะ หวานบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้ ทีนี้เขาก็เข้าใจผิดกันหมดสิว่าเรากำลังคบกัน”“ถ้าฉันไม่พูดไอ้แฟนเก่าของคุณมันจะไปจากคุณไหมล่ะ”“นี่หวานต้องขอบคุณคุณใช่ไหมคะ”“มันก็ควรเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะ”“หวานจะขอบคุณก็ได้ที่คุณทำให้พี่กายไปจากหวานจริงๆ แล้วเรื่องที่เราคบกันล่ะ”“ก็ไม่ต้องทำอะไร”“คุณรู้ไหมว่าเพื่อนหวานต่างก็อยากรู้เรื่องของเรามาก”“แล้วเธอบอกเพื่อนยังไงล่ะ”“หวานบอกแค่ว่าเราเพิ่งเริ่มคุยกัน”“ทำไมไม่บอกความจริงเขาไปล่ะ”“ความจริงที่ว่าหวานเป็นเมียคุณเพื่อเงินน่ะเหรอคะ”“ฉันหมายถึงความจริงที่ว่าตอนนี้เรากำลังคบกันอยู่ไง”“เราไม่ได้คบกันนะคะลูคัส คุณจ้างหวานให้อยู่กับคุณต่างหาก”“เธอไม่คิดอะไรกับฉันเลยเหรอ ที่อยู่กับฉันเพราะเงินเหรอหวาน”“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะระหว่างเรามันคือการได้ผลประโยชน์ร่วมกัน”“ฉันไม่เชื่อหรอก”“ไม่เชื่ออะ
“คุณเฉินเขาน่ารักดีนะ” มีนาเอ่ยชมคนรักของเพื่อนที่ยกเค้กมาอวยพรวันเกิดให้กับปลาเมื่อครู่“นั่นสิน่าอิจฉาปลาจัง เมื่อไหร่ฟ้าจะมีแฟนกับเขาบ้างนะ”“ก็ฟ้าเลือกมากเอง มีคนมาจีบเยอะแยะแต่ไม่ยอมใจอ่อนกับใครสักคน” นุ่นแกล้งว่า“ก็ยังไม่มีใครที่ถูกใจ ฟ้าไม่อยากเสียเวลาคบคนที่ไม่ใช่”“หวานเห็นด้วยกับฟ้านะ จะคบใครต้องดูดีๆ จะได้ไม่โดนหลอกเหมือนหวาน”“พูดเรื่องนี้มาก็ดีเลย ปลาอยากจะถามว่าตอนนี้หวานกับพี่กายยังติดต่อกันอยู่ไหม”“ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วล่ะ”“นุ่นดีใจด้วยนะที่หวานตัดใจจากผู้ชายคนนั้นได้ แสดงว่าตอนนี้หวานก็โสดน่ะสิ”“อือ” นฤดาตอบไปแบบนั้นเพราะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของตนกับลูคัสเป็นแค่ลูกจ้างกับนายจ้าง“แต่มีนาว่าหวานโสดไม่นานหรอกดูผู้ชายคนนั้นสิจ้องหวานตลอดเลย” มีนาบอกเพื่อนให้มองไปยังโต๊ะด้านในสุด“เอ๊ะ นั่นเจ้านายคุณเฉินนี่ คนที่ไปส่งหวานที่บ้านไงละ” ปลาจำหน้าของเจ้านายคนรักได้ดีกว่าใครก็พูดขึ้นนฤดาหันไปมองตามเพื่อนบอกแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะก่อนออกมาจากบ้านเธอบอกเขาไปแล้วว่าห้ามเข้ามาทักทายหรือแสดงตัวเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่เธอยอมเป็นของเขาเพื่อแลกกับเงิน“ดูเหมือนเขาสนใจหว