“เฮือก…” นริศราสะดุ้งตื่นลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องครางซี๊ดเพราะความร้าวระบมที่เกิดขึ้นทั่วร่างกายโดยเฉพาะส่วนสงวนกึ่งกลางกาย อีกทั้งเรือนร่างก็เปลือยเปล่าอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่ร่นลงล่างจนเต้าอวบทั้งสองข้างแทบทะลักออกมาโชว์
หลากหลายความรู้สึกประเดประดังเข้ามาในหัวสมอง ทว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วเนี่ย ทำไมตรงรอยแยกของม่านหน้าต่างที่มีแสงจากข้างนอกลอดผ่านเข้ามาไม่เหมือนแสงของดวงอาทิตย์ยามเช้าเลย มันเหมือนตอนเที่ยงหรือบ่ายด้วยซ้ำไป
ไวเท่าความคิด นริศรารีบคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมาดูเวลาทันที
12:39
“เฮ๊ย! จะบ่ายแล้วเหรอเนี่ย” ทันทีที่กุลีกุจอลุกขึ้นจากเตียงพลันหางตาเหลือบไปเห็นร่างของใครคนหนึ่งนอนซุกผ้าห่มผืนเดียวกันที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นเมื่อสักครู่เพราะมัวแต่ตกใจเรื่องเวลาอยู่
ร่างนั้นขยับเขยื้อนเพราะเสียงของเธอ
“จะเสียงดังทำไม” คนงัวเงียเพิ่งตื่นเพราะเสียงของเธอเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า
นริศราหน้าแดงก่ำเมื่อย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืน
“คุณ!”
“ก็ใช่น่ะสิ จำผัวตัวเองไม่ได้หรือไง” ใช้คำนี้แหละ ตรงและชัดเจนดี
ก่อนหน้านี้ถ้าเธอจะบอกว่าครั้งเดียวไม่นับว่าเป็นผัวเป็นเมียเขาก็คงจะไม่