ลูบคางตรัสว่า “ท่านราชเลขาธิการ เหตุใดสองสามวันมานี้ท่านจึงขยันขึ้นมาอีกแล้ว?”
ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายเกียจคร้านไปตั้งหลายวัน
ฮ่องเต้น้อยเกือบจะเคยชินกับการเป็นอิสระ แต่แล้วอีกฝ่ายกลับเปลี่ยนท่าทีอีกครั้ง หากกระตือรือร้นแค่ตอนที่ออกว่าราชกิจก็คงไม่เป็นไร แต่วันนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว
เขาก็ยังจะมาอ่านฎีกาเป็นเพื่อนตัวเองนานถึงหนึ่งชั่วยามอีก
เฉินเยี่ยนซูช้อนเปลือกตาขึ้นมองเขา ถามเสียงราบเรียบ “ฝ่าบาทอยากอ่านด้วยตัวคนเดียวหรือ?”
ฮ่องเต้น้อยส่ายหน้าระรัวและยิ้มอย่างประจบประแจง “ไม่ใช่ๆๆ ขอบคุณท่านราชเลขาธิการที่ช่วยแบ่งเบา…”
แต่เห็นได้ชัดว่าท่านราชเลขาธิการอารมณ์ไม่ดี!
สายตาของฮ่องเต้หย่งอันมองไปที่เซิ่งเฟิงและส่งสายตาถาม : หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรื่องของคุณหนูใหญ่สกุลหรง?
นึกไม่ถึงว่าเซิ่งเฟิงจะอ่านสายตาของฮ่องเต้ออก เขาหลับตาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับพยักหน้า : พะย่ะค่ะ ช่วงนี้พวกเราต่างก็ลำบากเพราะเรื่องนี้
ฮ่องเต้หย่งอัน “…”
เราไม่รู้ว่าควรดีใจหรือไม่ดีใจดี หากบอกว่าดีใจก็จะดูเหมือนเราไร้มโนธรรม
แต่หากบอกว่าไม่ดีใจ…หลายวันนี้เรามีงานน้อยลงมาก มีเวลาว่างมากขึ้น ไม่อาจบอกว่าเป็นทุกข์ได