หรงจือจือ “ถ้าเช่นนั้น เพียงแค่ต้องหาพยานหลักฐานก็พอแล้วสินะ! ท่านแม่ เหมือนว่าจ้าวหมัวมัวที่อยู่ข้างกายท่านจะหายตัวไปนานแล้ว นางรู้อะไรบางอย่างใช่หรือไม่?”
นางหวังหน้าซีดเผือด “พูดเหลวไหลอะไรของเจ้า? จ้าวหมัวมัวจะไปรู้อะไร? นางก็คือทาสหลบหนีคนหนึ่งของทางจวน!”
หรงจือจือ “แต่อยู่ดีๆ เหตุใดจึงต้องหนี? ท่านพ่อ พวกเราจับจ้าวหมัวมัวกลับมาสอบถามดีหรือไม่?”
ภายในใจนางหวังปั่นป่วนวุ่นวาย ช่วงที่ผ่านมานี้นางยังตามจับจ้าวหมัวมัวไม่ได้สักที
เดิมทีก็หวาดกลัวมากอยู่แล้ว กลัวว่าเจ้าทาสนั่นจะพูดอะไรที่เป็นผลเสียต่อตัวเองข้างนอก ยิ่งได้ยินหรงจือจือพูดแบบนี้ นางก็ยิ่งหวาดกลัวลนลาน
หรือว่าเจ้าทาสนั่นจะตกไปอยู่ในมือหรงจือจือและพูดอะไรกับหรงจือจือ?
นางหวังรีบพูด “คำพูดของจ้าวหมัวมัวเพียงคนเดียวจะเชื่อถือได้อย่างไร? ท่านพี่ เรื่องที่งานชุมนุมบทกลอนก่อนหน้านี้ก็เป็นฝีมือจ้าวหมัวมัวที่ยุยงข้า”
“หลังจากเหตุการณ์ตอนนั้น ข้าก็รู้สึกว่าบ่าวรับใช้คนนี้มีเจตนาไม่ดีแอบแฝง หากเก็บไว้ข้างกายก็เกรงว่าจะเสนอแนวคิดที่ไม่เข้าท่าจนเป็นผลเสียต่อข้าอีก”
“ด้วยเหตุนี้ข้าจึงคิดที่จะไล่นางออกไป แต่นึกไม่ถึงว่านางจะชิงหน