Share

ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ
ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ
Author: เสี่ยวชิงเทียน

หากย้อนเวลาได้อีกครา

last update Last Updated: 2024-12-08 12:47:14

บทนำ

หากย้อนเวลาได้อีกครา

หากสิ้นลมครา นี้ข้าได้โอกาสย้อนกลับมาอีกครั้ง จะไม่ขอรักบุรุษเช่นท่านอีกแล้วหญิงสาวกล่าวอย่างเคียดแค้นกับตนเอง ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ริมฝีปากสีซีดเลอะเลือดที่กระอักออกมาเพราะถูกพิษหลายต่อหลายคำ มือขวาลูบหน้าท้องแบนราบด้วยความคับข้องใจ

นางถูกพระชายาของสามีล่อลวงให้ดื่มยาบำรุงครรภ์มีพิษ เป็นเหตุให้ยามนี้ถูกพิษจนตกเลือด บุตรในครรภ์ยังไม่ทันลืมตาดูโลกก็ต้องตายเสียแล้ว แค้นนี้หากไม่ตายนางจะทวงคืนอย่างแน่นอน

“ฮือ...ชายารอง” สาวใช้คนสนิทนั่งโอบกอดร่างกายสั่นเทาของผู้เป็นนายเอาไว้ ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียใจที่ตนเองไม่สามารถช่วยสิ่งใดชายารองได้เลย อยากจะไปตามหมอก็ถูกชายาเอกสั่งขังไว้ในเรือน คาดว่านางเองก็คงได้ตายตกตามกันไป

“อย่าร้องไปหงอิง เจ้าหาทางหนีไปเสีย มิเช่นนั้นเจ้าเองต้องตายตามข้าไปเช่นกัน”

“หงอิงจะตามชายารองไปเจ้าค่ะ หงอิงผิดเองที่ไม่ตรวจสอบให้ดีจึงถูกหลอกให้วางยาชายารองเช่นนี้”

“หากจะมีผู้ใดผิด ย่อมเป็นสามีไม่ได้เรื่องผู้นั้นของข้าและความโง่งมในรักของข้าต่างหากเล่า ข้าจึงต้องเสียบุตรไป หากข้าได้ย้อนเวลาอีกครั้ง เราจะไม่ลงเอยเช่นเดิมอีก ข้าสัญญาหงอิง” หลังจากย้อนเวลามาแก้ไขสิ่งผิดพลาดถึงสามครั้ง แต่สุดท้ายนางก็กลับเข้าวังวนเดิม ได้แต่งเป็นชายารองขององค์ชายสี่ทุกครั้ง และยังตายเพราะพระชายาเอกผู้นี้ถึงสามครั้ง เพราะดื้อรั้น ดื้อดึง โง่งมในรักของตนเอง

หากได้ย้อนเวลาเป็นครั้งที่สี่นางจะไม่ยอมแต่งกับบุรุษผู้นั้นอีก แต่แค้นนี้นางจะนำพามันไปด้วยให้ถึงที่สุด...

ซูเหวินคิดเรื่องนี้วนไปวนมา กระทั่งสิ้นใจภายใต้ความเคียดแค้นท่วมท้น แค้นที่ถูกลอบฆ่าถึงสามครั้ง ซ้ำครั้งนี้ยังฆ่าบุตรของนางด้วย หากมิอาจกลับมานางก็จะเป็นผีสางคอยตามรังควานไม่ให้ซูซิงเยียนได้อยู่อย่างสงบ

“คุณหนู ตื่นเถิดเจ้าค่ะ” หงอิงสาวใช้คนสนิทส่งเสียงเรียกผู้เป็นนาย เมื่อเห็นว่าเกือบจะสายแล้วคุณหนูก็ยังไม่ตื่นเสียที นางขยับตัวขับความเมื่อยล้า ปรือตามองสาวใช้คนสนิท ไม่นานก็ลุกผึงขึ้นมา กวาดสายตามองไปรอบห้อง ม่านคลุมเตียงชมพูอ่อน ผ้าปูเตียงสีเดียวกัน ห้องนอนสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบ ใช่แล้วนี่เป็นห้องนอนของนาง

“ข้าได้กลับมาแล้วจริง ๆ”

“คุณหนูหมายถึงสิ่งใดกันเจ้าคะ”

“ข้าบอกไปเจ้าก็ไม่รู้หรอกหงอิง ว่ามาเถิดปลุกข้าแต่เช้าเช่นนี้มีสิ่งใด” ซูเหวินถามสาวใช้พลางหย่อนสองเท้าลงข้างเตียง ขอบคุณสวรรค์ ไม่รู้ว่านางทำบุญด้วยสิ่งใดจึงได้โอกาสย้อนเวลาถึงสามครั้งสามคราเช่นนี้ และโอกาสครานี้นางจะไม่ปล่อยให้สูญเปล่า ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่พาตนเองเข้าไปในวังวนชีวิตขององค์ชายสี่อีกเด็ดขาด

“คุณหนูลืมแล้วหรือเจ้าคะ วันนี้ฮ่องเต้ทรงจัดงานชมโคมไฟในวังอย่างไรเล่าเจ้าคะ” สาวใช้ว่าพลางพยุงเจ้านายลงจากเตียง

“ไม่เป็นไร ข้าขอคิดสักเดี๋ยว” ซูเหวินกล่าวจบก็เดินเท้าเปล่าอยู่ภายในห้อง คิดทบทวนเพียงลำพังว่านางจะทำอย่างไรจากนี้ต่อไปดี

“วันนี้นี่เองที่ข้าจะได้พบกับองค์ชายสี่ เช่นนั้นข้าไม่ควรไปหรือไม่ ไม่ได้ถ้าเช่นนั้นเห็นทีจะถูกท่านพ่อตำหนิ ข้าไม่ไปไม่ได้ ครั้งก่อนที่ย้อนเวลาข้าเลือกไม่ไปร่วมวาดโคมไฟจึงได้เจอกับหนิงจิน คราวนี้จะอย่างไรก็ต้องไป และเห็นทีต้องเอารางวัลให้ได้”

“คุณหนูกล่าวสิ่งใดเจ้าคะ หงอิงไม่เข้าใจเลย” หญิงสาวว่าจบจึงหมุนตัวกลับมาหาสาวใช้ของตน ยามนี้นางต้องเตรียมตัวได้แล้ว หากช้าจะเข้าวังไม่ทัน “เจ้าไปเตรียมน้ำมาให้ทีข้าจะล้างหน้าล้างตา เช็ดเนื้อเช็ดตัวเสียหน่อย”

นางไม่ตอบสิ่งใดแก่สาวใช้ ยืนคิดถึงในอดีตว่าวันนี้ตนเองทำสิ่งใดลงไปบ้าง เพื่อไม่ให้วันนี้ตนเองทำซ้ำสิ่งเดิม จนซ้ำรอยอดีต

“เจ้าค่ะคุณหนู”

“อาภรณ์ใหม่ที่ตัดมาข้าไม่ใส่ ข้าอยากใส่สีเขียว” ครั้งก่อนนางใส่อาภรณ์สีชมพูไปร่วมงานชมโคมไฟ วันนี้นางจะเปลี่ยนทุกสิ่งแม้แต่สีของอาภรณ์

เกือบหนึ่งชั่วยามนางถึงออกจากจวนไปร่วมงานในวัง แม้แต่ทางเข้าวังนางก็เปลี่ยน นางเปลี่ยนให้คนขับรถม้าอ้อมไปทางด้านหลังตรอกการค้าแทน รถม้าถึงกลางตรอกซูเหวินเปิดม่านดูภายนอกตรอกนี้นางผ่านมานับครั้งได้เลย

บุรุษผู้หนึ่งถูกคนล้วงกระเป๋านางเห็นกับตาตนเอง แต่บุรุษอีกคนกลับถูกใส่ร้าย ซ้ำยังถูกทหารรุมทำร้ายให้รับสารภาพ นางให้คนขับรถม้าจอดดูเหตุการณ์ ชั่งใจอยู่สักพักจึงเดินลงจากรถม้าไป

“นี่พวกท่านทำสิ่งใดกัน เหตุใดจึงทำร้ายผู้อื่นบาดเจ็บหนักเช่นนี้” ซูเหวินถามทหารยามสองคนที่เพิ่งหยุดทำร้ายชายหนุ่มผู้นี้ไป ทหารยามหันมามองด้วยสีหน้ารำคาญใจ ด้วยไม่รู้ว่านางเป็นผู้ใดจึงมีทีท่าไม่พอใจ

“เจ้าเป็นสตรีมายุ่งเรื่องผู้อื่นด้วยเรื่องอันใด”

“บังอาจนัก ไม่รู้หรือว่าคุณหนูของข้าเป็นผู้ใด” หงอิงก้าวเข้ามาขวางประกาศเสียงกร้าวแก่ทหารยามทั้งสอง ทหารสองนายมองหน้ากัน ชั่งใจว่าจะหยุดดีหรือไม่ ผู้ที่กล้ากล่าวเช่นนี้ก็คงมีเพียงลูกบรรดาผู้มียศมีตำแหน่งเท่านั้น

“เช่นนั้นเจ้าเป็นผู้ใด”

“คุณหนูข้าเป็นหลานสาวแม่ทัพต่งและบุตรสาวของรองดแม่ทัพต่ง ท่านหญิงเจียวจ้าน”

“ขออภัยท่านหญิงที่ล่วงเกิน ข้าน้อยสองคนไม่ทราบ ว่าท่านหญิงเป็นหลานสาวแม่ทัพต่ง จึงได้เสียมารยาทเช่นนี้”

“ไม่รู้ก็ช่างเถิด แต่พวกเจ้าจะทำเช่นนั้นผู้อื่นไม่ได้ อีกอย่างชายผู้นี้ไม่ได้ทำผิด เหตุใดต้องทำร้ายกันเช่นนี้ หากคนผู้นี้เจ็บหนักขึ้นมาพวกเจ้าจะรับผิดชอบได้หรือ” ต่งซูเหวินว่าพลางพยักหน้าให้คนขับรถม้าของตนเอง เดินไปพยุงบุรุษบนพื้นไปทางรถม้า

“ขออภัยท่านหญิง”

“วันนี้ข้ามีกิจธุระต้องเข้าวังจะไม่เอาเรื่องพวกเจ้า แต่หากข้าพบเห็นเรื่องเช่นนี้อีก ข้าจะกราบทูลฮ่องเต้เป็นแน่”

“ขอบคุณท่านหญิง”

นางกลับขึ้นรถม้าให้คนขับรถม้าพาบุรุษผู้นั้นไปส่งโรงหมอก่อนจึงรีบมุ่งหน้าเข้าวัง เท่านี้นางก็ช้ามากแล้ว ใจจริงนางไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่เพราะอดีตนางเป็นสตรีใจแคบ ไม่ชอบยุางเรื่องผู้อื่น ครานี้จึงอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง

เมื่อเข้าวังซูเหวินไปยังอุทยานทันทีไม่ได้แวะชมดอกไม้ดั่งเช่นแต่ก่อน เพื่อร่วมการแข่งวาดรูปลงบนโคมกระดาษ หากผู้ใดชนะฮ่องเต้จะทรงประทานรางวัล แม้นางจะเก่งศาสตร์ทั้งสี่แต่ในอดีตนางไม่เข้าร่วมเพราะคิดว่าไม่น่าสนใจ

ตลอดทางมีคนเข้ามาทักทายมากมาย กระทั่งถึงอุทยานที่จัดงานชมโคมไฟ ก่อนหน้านี้นางมิได้สนใจผู้อื่นจึงเมินเฉยไปเสียหมด ผู้คนใส่ใจนางเพียงเพราะนางเป็นสายเลือดเดียวของตระกูลต่งที่เหลืออยู่

ท่านตาและมารดาของนางเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ ช่วยรบทัพจับศึกรวมแผ่นดิน แม้ทั้งสองจะเสียชีวิตในสนามรบเพื่อเป็นการตอบแทนความดีนางจึงได้ถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิง

“ไม่คิดว่าท่านหญิงจะสนใจเข้าร่วมวาดภาพโคมไฟเช่นนี้” หญิงสาวสูงศักดิ์บุตรสาวหนึ่งในขุนนางที่ได้รับเทียบเชิญให้มาร่วมงานกล่าวกับนาง หากจะกล่าวให้ถูกงานในวันนี้ก็ไม่ต่างจากงานนัดดูตัวให้บรรดาองค์ชายเลย ซูเหวินยิ้มกลับไปเล็กน้อย “การแข่งเช่นนี้ผู้ใดบ้างไม่สนใจ แม้แต่เจ้าเองก็สนใจมิใช่หรือ”

“ข้าเพียงอยากรู้ว่าผู้ใดจะเป็นผู้ชนะ มิได้เข้าร่วมด้วย”

“เช่นนั้นขอให้สนุก ข้าขอตัวก่อน” พูดคุยสักครู่ก็ปลีกตัวออกมา ไปนั่งโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้ รอฮ่องเต้มาจึงเริ่มการแข่ง นางก้มหน้าเดินไปทิศที่ไม่มีผู้คนแต่ไปได้ไม่เท่าไรก็ชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง

ภาวนาในใจจะอย่างไรก็ขอให้อย่าเป็นองค์ชายสี่... นางเงยหน้าขึ้น หรี่ตามองเล็กน้อย พอเห็นหน้าเขาค่อยโล่งอก ขอแค่มิใช่หนิงจินก็เพียงพอแล้ว

“ขออภัยคุณชาย ข้าไม่ทันมอง คุณชายบาดเจ็บหรือไม่”

“ข้าไม่เป็นไร ท่านหญิงอย่าได้กังวล”

“คุณชายรู้จักข้าหรือ”

“มีผู้ใดบ้างไม่รู้จักคุณหนูใหญ่สกุลต่ง ท่านหญิงเจียวจ้าน” บุรุษรูปร่างสูงโปร่งไม่อ้วนไม่ผอม ผิวขาวเนียนราวหยกสีงาช้าง ใบหน้าอ่อนใสงดงามดั่งบุปผา นางไม่เคยพบเขามาก่อนจึงไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด

ในอดีตนางไม่ใส่ใจการบ้านเมือง เอาแต่ใจตนเองเพียงใดก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องการเมือง นางไม่หาญกล้าเท่ามารดา

“หากคุณชายไม่เป็นไร ข้าขอตัว”

“ท่านหญิงเชิญ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   มีเพียงท่าน [จบ]

    45มีเพียงท่านเช้ามาทั่วทั้งเมืองต่างมีข่าวว่าตระกูลหลานของเสนาบดีเลี้ยงต้อนรับบุตรชายคนเล็ก และยังมีข่าวงานหมั้นหมายของบุตรชายกับหญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ตระกูลหนึ่ง“หงอิงให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะไปตระกูลหลาน”“เจ้าค่ะคุณหนู”“ไหนบอกว่ารักข้า ยอมปลิดชีพตนตามมาเพื่อดูแล แต่เสร็จเรื่องแล้วจะไปแต่งผู้อื่นแบบนี้ได้อย่างไรกัน หลันอันฉีเจ้าใจร้ายยิ่งนัก” นางบ่นพึมพำขณะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์อยู่ลำพัง เดิมทีวันนี้ตั้งใจจะไปถามเขาให้รู้เรื่องว่าเหตุใดจึงหนีนางไปเช่นนี้ แต่เช้านี้กลับได้ยินบ่าวในเรือนพูดคุยกัน บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีขวากลับมาและที่จวนหลานกำลังจะมีงานมงคลครึ่งชั่วยามรถม้าจากจวนต่งก็มาถึงหน้าจวนหลาน ผู้คนหน้าจวนมิได้มีผู้คนมากมายนัก อาจเพราะทั่วเมืองกำลังไว้ทุกข์ให้หวงกุ้ยเฟยที่สิ้นพระชนม์ งดเว้นงานรื่นเริงสังสรรค์ งดเว้นการจัดการงานสมรส ที่จวนหลานเพียงเชิญสหายสนิทมากินอาหารและพูดคุยเรื่องแต

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ในใจมีผู้ใด

    44ในใจมีผู้ใด“องค์ชายสี่เชิญนั่งเพคะ” เมื่อไท่จื่อเดินออกไป องค์ชายสี่ก็เดินเข้ามา เขาเองก็คงมาด้วยเหตุผลเดียวกับไท่จื่อ หลิงซือฝูเองก็เช่นเดียวกัน เหตุใดชาติก่อนนางจึงไม่มีผู้คนมารักมากมายเพียงนี้บ้าง“ท่านหญิงคงรู้แล้วว่าข้ามาด้วยเหตุใด”“พอรู้เพคะ แต่...”“ท่านหญิงฟังข้าให้จบก่อนได้หรือไม่” นางไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบ จากนั้นนั่งเงียบให้เขาได้พูดเรื่องราวต่าง ๆ ให้จบสิ้นไม่ติดค้างในใจก่อน“ในใจข้ามีท่านหญิงมาตั้งแต่เราได้รู้จักกันในคราแรกแล้วยิ่งรู้สึกชื่นชมเมื่อได้รู้จักท่านมากขึ้น ช่วงเวลาที่ท่านกับน้องหญิงมาที่สำนักศึกษาข้าดีใจยิ่งนักที่ได้เห็นท่านทุกวัน”“...”“แต่เมื่อได้รู้ว่ามารดาทำสิ่งใดลงไปบ้าง ข้าจึงเริ่มรู้สึกว่าท่านรู้บางสิ่งที่ข้าไม่รู้ จนได้รู้ว่าเสด็จแม่เป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งคนมาทำร้ายท่าน ยามนั้นข้าได้รู

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ทำผิดถูกลงโทษ

    43ผู้ทำผิดถูกลงโทษประกาศจากในวังให้มีการสอบรับเลือกขุนนางอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพราะขุนนางจากตระกูลซูถูกลงโทษและถูกปลด องค์จักรพรรดิของแผ่นดินนี้ยังคงเป็นจักรพรรดิหนิงหวง องค์ชายสี่เกลี้ยกล่อมมารดาไม่สำเร็จจึงกราบทูลต่อบิดาด้วยความเสียใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ยินมาด้วยเห็นแก่บุตรชายฮ่องเต้จึงยังคงรักษาพระเกียรติของหวงกุ้ยเฟยเอาไว้ ทรงประทานเหล้าพิษและปล่อยข่าวไปว่าพระองค์ทรงป่วยจนสิ้นพระชนม์ มิได้บอกกล่าวแก่ผู้ใดว่าพระนางร่วมมือกับตระกูลซูก่อกบฎองค์ชายสามได้รับแต่งตั้งเป็นไท่จื่อ เพราะองค์ชายสี่ขอเป็นผู้คอยช่วยเหลือเคียงข้างพี่ชายเท่านั้น กุ้ยเฟยเองก็ถูกแต่งตั้งเป็นฮ่องเฮาหลังจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ราชสำนักสั่นคลอนอย่างแท้จริง โชคดีที่ได้เสนาบดีขวาเป็นเสาหลักอยู่ จึงไม่มีจราจลใดในยามนี้ตระกูลซูถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ซูฉางเหอยอมรับความผิดทั้งหมดไว้เอง ซูชิงเยียนและหญิงสาวในตระกูลจึงถูกลงโทษเนรเทศไปยังเขตชายแดนที่หนาวเหน็บห้ามกลั

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าไม่รั้ง

    42ข้าไม่รั้งเพียงสามวันนางก็ได้ข่าวจากหลิงซือฝูว่าองค์ชายสี่ทรงกราบทูลต่อฮ่องเต้ หวงกุ้ยเฟยทรงสมคบคิดกับตระกูลซูคิดก่อการกบฎ เรื่องนี้ถูกสอบสวนอย่างหนักรวมไปถึงคดีสินบนของเหล่าขุนนาง กระทั่งคดีลอบทำร้ายท่านหญิงเจียวจ้านแห่งสกุลต่ง ทำให้เช้านี้ต่งซูหนี่ถูกพาตัวไปยังกรมอาญาเพื่อสอบสวนร่วมกันเช้านี้ต่งซูเหวินจึงมีสีหน้าสดชื่นกว่าก่อน หากในจวนไม่มีต่งซูหนี่เหมือนทุกวันคงดีนัก หลังอ่านจดหมายของหลิงซือฝูเสร็จนางไปเดินเล่นอยู่หน้าลานประลองชื่นชมลานประลอง และต้นเฟิงที่มารดารักยิ่ง ใบหน้างดงามประดับด้วยรอยยิ้มกว้างหลังจากนี้นางคงได้ใช้ชีวิตตนเองอย่างสงบสุขเสียที“เหตุใดเจ้าต้องทำกับน้องสาวตนเองถึงเพียงนี้” นางคงลืมไปชั่วครู่ว่าภายในจวนนี้ยังมีมารดาเลี้ยง และบิดาผู้ลำเอียงของนางอยู่ต่งซูเหวินถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาทางด้านหลัง นางรู้อยู่แล้วว่ามารดาเลี้ยงต้องมาหาเรื่องนางหากซูหนี่ถูกนำตัว

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ถูกต้องหรือถูกใจ

    41ถูกต้องหรือถูกใจ“ถวายบังคมองค์ชาย องค์ชายท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” ต่งซูเหวินถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ นางไม่คิดว่าจะได้เจอองค์ชายสี่ที่หน้าจวนในยามนี้ ท้องฟ้าเริ่มไร้แสงผู้คนเริ่มเก็บตัวอยู่ในบ้านเรือนตนเองเพราะอีกไม่นานตะวันจะลับฟ้าผู้ใดจะคิดเล่าว่าจะมีองค์ชายมายืนหน้าจวนตนเองพร้อมม้าอีกหนึ่งตัวเช่นนี้“ขออภัยท่านหญิงที่ข้าเสียมารยาทมาหาท่านในยามนี้ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ใดได้อีกนอกจากท่าน ในหัวเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ท่านหญิงพูดเมื่อคราวก่อน”“องค์ชายทรงร้อนใจเช่นนี้ เชิญเถอะเพคะ” แม้นางจะหมดรักในตัวเขาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว แต่ความห่วงใยนี้ก็คงมิอาจตัดได้หมด ฟังจากเรื่องราวทั้งหมดผู้ที่น่าเห็นใจนอกจากนางก็คือเขา เพราะนางเห็นใจครอบครัวจึงยอมแต่งเป็นพระชายารองอีกครั้ง ส่วนเขาเห็นใจมารดาจึงยอมทำผิดใหญ่หลวงบุตรต้องกตัญญูแต่หากว่าบิดามารดามิได้ใฝ่สิ่งดี บาปกรรมก็ล้วนตกอยู่ที่บุตรท

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   สาเหตุของการตาย

    40สาเหตุของการตาย“เจ้าเล่าให้ละเอียดหน่อย นี่เรื่องจริงหรือไม่” นางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทั้งยังตกใจมากเมื่อคิดว่ามีผู้อื่นย้อนเวลามาเหมือนนางเช่นนี้ แล้วยังเป็นผู้ที่อยู่ข้างกายนางตลอด อีกทั้งยังปิดบังนางมาตลอดไม่เคยบอกสิ่งใดแก่นางแต่หากเขาได้ย้อนเวลากลับมานั่นหมายถึงเขาก็มีเรื่องอยากแก้ไข แล้วเรื่องนั้นคงต้องเกี่ยวกับนางไม่เช่นนั้นบุตรชายเสนาบดีอย่างเขา คงไม่ยอมมาลำบากอยู่ข้างนางเช่นนี้“หลายปีก่อนตอนรวมแผ่นดินข้ากับมารดาถูกจับเป็นเฉลย เพื่อให้ท่านพ่อยอมทรยศแต่ได้รองทัพต่งแอบลอบเข้าไปช่วยเหลือสุดท้ายหนีออกมาได้ ข้าและท่านแม่บาดเจ็บได้ท่านคอยดูแลตอนอยู่นอกแคว้น ข้าจำได้แม่นยำว่าคุณหนูจิตใจดีมากเพียงใด หลังจากช่วยเหลือไว้คุณหนูกับรองแม่ทัพต่งก็จากไปโดยฝากข้าและท่านแม่ไว้กับชาวบ้านนอกแคว้น ทั้งยังมอบเงินไว้ให้ท่านแม่รักษาตัวด้วย”“...”“ต่อมาพบว่าตระกูลต่งสิ้นแล้ว จึงได้แต่เสียใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status