สองความทรงจำ สองแค้นกับหนึ่งร่าง ไม่ว่าจะแค้นของร่างเก่า ร่างใหม่ข้าจะสะสางให้หมดทุกบัญชี รวมถึงสิ่งที่ท่านทำกับข้าด้วย "หมิงชินอ๋อง" ท่านใจร้ายกับข้าเกินไปแล้ว!! "เยว่ชิงชิง" ถูกใส่ร้ายว่าฆ่าอาจารย์ของตัวเอง.... "กงเหรินซิน" ถูกใส่ความว่าฆ่าน้องสาวของ "หมิงชินอ๋อง" เมื่อสองวิญญาณ มีแค้นที่ต้องสะสาง แต่กลับเหลือเพียงหนึ่งเดียว ที่สวรรค์เลือก.... "ไม่ว่าจะแค้นไหน ๆ ข้าก็จะขอสะสางให้ได้ก่อนชีวิตนี้จะจบสิ้น!" นางเอกที่ไม่ใช่นางเอก 100% ดุ โหด เถื่อน ปากแซ่บ พระเอกที่เหมือนกับถูกเดบิวต์มาให้รับบทพระเอก หยิ่ง จองหอง โหดร้าย รักแรงเกลียดแรง ปากแจ๋วกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับนางเอก ขึ้นอย่างเสือ ลงอย่าง.... ไปลุ้นเอา
View Moreเขาตงซาน สำนัก “ไป๋ซาน”
“ศิษย์พี่! นางวิ่งไปทางหน้าผา”
“ตามไป”
""ขอรับ""
ฝีเท้าที่เร่งก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับบาดแผลที่แขนด้านขวาซึ่งถูกชายที่เป็นทั้งศิษย์พี่ที่เคารพ และเป็นชายในดวงใจแทงเป็นบาดแผลลึก บาดแผลนั้นแม้จะไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่ก็ลึกมากพอที่จะทำให้หัวใจของผู้ที่ถูกแทงแทบแตกสลาย
“ชิงชิง!! เจ้าหยุดนะ!!”
ตรงหน้าคือหน้าผา อีกฝั่งคือศิษย์ร่วมสำนักนับสิบที่รายล้อมเข้ามาเพื่อจัดการนางคนเดียว ปลายดาบของศิษย์น้องและศิษย์ร่วมสำนักหันมาหานางที่ยืนอยู่ปลายหน้าผา
“แค่ต้องการจะจับข้าเพียงคนเดียว ถึงกับต้องรวบรวมคนมามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
“ชิงชิง เจ้ายอมแพ้แล้วกลับไปกับข้าเถอะ”
“ข้ามิได้สังหารอาจารย์!!”
“มาพูดตอนนี้จะมีผู้ใดเชื่อ! เจ้าเป็นคนที่อยู่กับอาจารย์ “ลั่วเฉิง” เป็นคนสุดท้าย เจ้าฆ่าอาจารย์เพราะไม่พอใจที่อาจารย์ยกตำแหน่งเจ้าสำนักให้ศิษย์พี่ “เฉินกวน” ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก”
“ศิษย์น้อง พอเถอะ”
“แต่ว่า!!”
“ข้าบอกให้พอได้แล้ว!”
“ศิษย์พี่ จนป่านนี้ท่านก็ยัง…”
“พี่ลี่เจินอย่าพึ่งพูดอันใดเลยเจ้าค่ะ เรื่องในห้องของอาจารย์เป็นเช่นไรยังไม่มีผู้ใดรู้แน่ ตอนนี้ศิษย์พี่ชิงชิงก็ยังบาดเจ็บถ้าอย่างไร…”
“เจ้าหุบปากไป “นิ่งเสี่ยวเหยา” อย่ามาทำเสแสร้งอยู่แถวนี้ เจ้าก็เป็นน้องรักของนางย่อมเข้าข้างนาง”
“พอที!! หยุดเถียงกันได้แล้ว”
ปลายดาบของบุรุษหนุ่มรูปงามดุจเซียนปั้นของ “เฉินกวน” ศิษย์พี่ใหญ่ที่พึ่งได้รับตำแหน่งเจ้าสำนัก “ไป๋ซาน” ไปหมาด ๆ หันมาที่ “เยว่ชิงชิง” สตรีคนเดียวที่เขารัก
นางเป็นทั้งหัวใจและครึ่งหนึ่งของชีวิตของเขาแต่คิดไม่ถึงว่าจะพบนางในห้องที่มีอาจารย์ถูกฆ่าตาย ยังไม่ทันสอบถามดีนางก็รีบหนีออกมา เขาจึงจำเป็นจะต้องต่อสู้จนเผลอแทงไปที่ไหล่ขวาของนางเข้า
“พวกเจ้าจะเถียงกันอีกนานหรือไม่ เฉินกวนท่านก็รู้ว่าข้าไม่เคยต้องการตำแหน่งเจ้าสำนักนั่น เหตุใดข้าต้องฆ่าอาจารย์”
“ชิงชิง ตอนนี้หลักฐานทุกอย่างชี้มาที่เจ้า หากว่าเจ้าอธิบายได้ว่าเหตุใดเจ้าถึงได้อยู่ที่นั่นข้าก็จะ….”
“ฮ่า ๆ ๆ …”
เสียงหัวเราะราวกับเยาะเย้ยฟ้าดินดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง นี่หรือบุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่นางไว้วางใจมอบหัวใจให้เขา อีกทั้งยังยอมฝึกวิชา “กระบี่คู่สยบปฐพี” เพียงแต่ยังไม่สำเร็จในขั้นสุดท้าย จนกำลังภายในนางย้อนกลับและบาดเจ็บอยู่หลายวัน
“เฉินกวน ข้าคิดว่าท่านจะเป็นเพียงคนเดียวที่เชื่อใจข้า ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ท่านก็ยัง… คิดว่าข้าเป็นคนที่ฆ่าอาจารย์ที่เป็นดุจบิดาผู้ให้กำเนิด เป็นผู้เลี้ยงดูข้ามาตั้งแต่อายุห้าขวบและยังสั่งสอนถ่ายทอดวิชาให้งั้นหรือ ท่านใช้อะไรคิด!!”
“พี่ชิงชิง ท่านกลับไปกับพวกเราเถอะเจ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าท่าน… ไม่ได้ทำร้ายอาจารย์”
“นิ่งเสี่ยวเหยา” ศิษย์น้องเพียงคนเดียวที่ชิงชิงสนิทมากที่สุด ทุกเรื่องแม้แต่เรื่องของเฉินกวนนางก็เล่าให้นิ่งเสี่ยวเหยาฟัง พวกนางมักจะมานั่งดื่มชาใต้ต้นท้อเมื่อฝึกวิชาเสร็จ เฉินกวนก็ยังชมนางบ่อย ๆ ถึงรสมือในการทำขนมที่นางมักจะทำมาให้ทั้งสองได้กินระหว่างพักฝึกวิชาลับสุดยอดของสำนัก
“ชิงชิง ข้ามิได้….”
หยดน้ำตาที่ร้อนผ่าวไหลอาบใบหน้า นางคงไม่รอดแล้วเพราะนางรู้ดีว่าแม้นบาดแผลนั้นจะไม่ลึก แต่บัดนี้ทั้งอาจารย์ที่เป็นดุจบิดา ศิษย์ร่วมสำนักและบุรุษที่นางเชื่อใจมากที่สุด กลับหันปลายดาบมาเพียงเพื่อต้องการสังหารนาง
“ข้ามิได้ฆ่าอาจารย์ ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องนี้…”
“ฉึก!!”
“อย่านะ!!…. ลี่เจินนี่เจ้าทำอะไร!”
“ศิษย์น้องทั้งหลาย จับนางไว้เร็วเข้า!!”
“เฟิงลี่เจิน” ศิษย์ร่วมสำนักที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเยว่ชิงชิงมานานพุ่งดาบมาแทงโดยที่นางไม่ทันได้ตั้งตัว เพียงดาบเดียวที่ทะลุช่วงชายโครงด้านซ้ายเยว่ชิงชิงเริ่มตาพร่ามัว นางยังมิทันได้สืบเลยว่าผู้ใดกันแน่ที่ฆ่าอาจารย์ของนางแต่กลับต้องมาถูกคนฆ่าตาย
“เฉินกวน… ข้าจะไม่มีทางลืมแค้นครั้งนี้”
“ชิงชิง!! ไม่นะ!!!”
ร่างบางทิ้งตัวลงไปที่หน้าผาพร้อมกับดึงดาบของเฟิงลี่เจินออกมา ดาบสกปรกของนางจะต้องไม่ติดตัวนางไปถึงแม่น้ำวั่งชวน (แม่น้ำลืมเลือน) หากจะตายนางก็ขอไปเพียงแต่ตัวและหัวใจที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ไร้ซึ่งข้อกล่าวหาที่ตัวเองมิได้ทำ
“ข้าจะไม่มีทางให้ดาบโสมมของเจ้าติดกายไปกับข้า!!”
“กรี๊ด!!!”
เสียงนั้นเป็นเพียงเสียงเดียวที่เยว่ชิงชิงได้ยินก่อนที่ทุกอย่างตรงหน้าของนางจะดับสูญลงไปพร้อมกับสติและร่างที่ค่อย ๆ ดิ่งลงไปเหวลึกของหุบเขาสูงในเมืองฉีอันที่ยิ่งใหญ่
เมืองซานโจว / วังหลวง
“ช่วยด้วย!! เร็ว ๆ เข้าคุณหนูซ่งตกน้ำ เร็ว ๆ เข้า”
“ช่วยด้วยเจ้าค่ะ คุณหนูของข้าตกน้ำ…คุณชายรอง!!”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ น้องสามของข้าตกน้ำงั้นหรือ”
“คุณชายช่วยคุณหนูด้วยเจ้าค่ะ”
“ตูม!!”
บุรุษหนุ่มซึ่งเป็นขุนนางกรมพระคลัง “กงอวี้หาน” พี่ชายของสตรีที่เย่อหยิ่งและเอาแต่ใจที่สุดในบรรดาบุตรีของขุนนางระดับสูง ทั้งคู่เป็นบุตรภรรยาเอกของท่านแม่ทัพใหญ่ “กงฮั่ว” ซึ่งบัดนี้ประจำการอยู่ที่กองทัพชายแดนซานโจว
“เหรินซิน!! เจ้าอยู่ที่ไหน”
ร่างของสตรีที่ตกน้ำในสระท้ายวังในงานชมโบตั๋นที่พระสนมอวนตู๋จัดขึ้นกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย ผู้คนในงานเริ่มแตกตื่นและวิ่งมาด้านหลัง ไม่นานกงอวี้หานก็คว้าร่างของน้องสาวขึ้นมาจากสระได้สำเร็จ
“น้องสาม!!”
“แคก แคก…เฮือก!!!”
สตรีในวัยสิบเจ็ดปีพ่นน้ำที่กลืนไปออกมาจนหมดพร้อมกับหายใจอีกครั้ง อีกด้านหนึ่งก็มีสตรีอีกคนที่ถูกนำขึ้นมาจากสระพร้อม ๆ กับนางเช่นกัน ผู้ที่พึ่งถูกช่วยขึ้นมาจากสระลึกไม่รู้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ และตอนนี้นางอยู่ที่ใด ได้ยินเพียงเสียงของใครคนหนึ่ง เสียงที่ทรงพลังและผู้คนโดยรอบที่เริ่มเงียบเพราะเสียงที่ดุดันนั้น
“ถึงกลับกล้าผลักน้องสาวข้าตกลงไปในสระเชียวหรือ “กงเหรินซิน” ครั้งนี้เจ้าทำเรื่องที่เกินจะให้อภัย”
“ท่านอ๋องโปรดทรงอภัย กระหม่อมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะมิใช่อย่างที่เห็น อย่างไรก็รอน้องสาวกระหม่อมฟื้นแล้วค่อยไต่สวนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงนั้นดุจลอยอยู่ในอากาศ ที่นี่คือที่ใดกันแน่และคนเหล่านี้กำลังพูดสิ่งใด เหตุใดนางจึงฟังไม่เข้าใจเลยสักคำ ทั้งชื่อเรียกและมือหนาที่พยายามจับตัวนางเขย่าเพื่อให้นางฟื้น เสียงของบุรุษที่ทั้งกลัวและตื่นตระหนกข้าง ๆ กลิ่นไม้หอมกฤษณาที่เริ่มลอยมาติดจมูก
“นี่ข้า… ยังมิได้ข้ามไปแม่น้ำวั่งชวนอีกหรือ”
“นางพูดเพ้อเจ้ออะไร!!”
“ท่านอ๋องโปรดทรงอภัย กระหม่อม….”
“สกุลกงเลี้ยงดูบุตรีเช่นไรถึงได้ให้นางก่อเรื่องได้ไม่สิ้นสุด ครั้งก่อนนางขังสาวใช้เอาไว้ตำหนักร้าง หลอกน้องสาวข้าให้หลงทางไปตำหนักเย็น ครั้งนี้ถึงกับจะเอาชีวิตนาง ข้าไม่มีทางปล่อยนางไปได้ ทหาร!!”
“ท่านอ๋องกระหม่อมขอร้องพระองค์ บัดนี้น้องสาวกระหม่อมเป็นตายเท่ากัน ขอให้กระหม่อมพานางกลับจวนไปรักษาให้หายดีก่อน แล้วกระหม่อมจะส่งตัวนางกลับมาให้พระองค์ไต่สวนด้วยตัวเอง ขอได้ทรงโปรด...”
เสียงของบุรุษหนุ่มที่สั่นไปด้วยความโกรธและโมโห กล่าวกลับมากับบุรุษอีกคนด้วยน้ำเสียงที่พยายามสั่งให้เรียบที่สุด
“ได้ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะให้เจ้าพาตัวนางกลับไป สามวันหลังจากนี้ข้าจะไปสอบสวนนางด้วยตัวเอง!!”
ท่านอ๋องไม่ทราบเลยว่านางกำลังพูดถึงใคร และถือสิ่งใดอยู่ในมือ แต่พระองค์ก็มิได้ถามเพราะเชื่อว่าอีกไม่นาน ทุกอย่างที่ต้องการทราบจะคลี่คลายจนกระจ่างจวนท่านอ๋อง“นางเป็นอย่างไรบ้างท่านหมออวี้”“คุณหนูกงเพียงแค่ตกใจจึงได้เกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก คงพบเห็นเรื่องบางอย่างที่ทำให้สะเทือนใจ กระหม่อมทราบมาว่าผู้ที่เคยถูกพิษของผงลวงจิตจะมีผลกับเรื่องสะเทือนใจเช่นนี้ เพราะพิษนี้จะเล่นงานกล้ามเนื้อหัวใจก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นตอนนี้พวกท่านทำยาถอนพิษได้หรือยัง”“ท่านอ๋องอย่าทรงกังวลพระทัย ยาถอนพิษตอนนี้กระหม่อมกำลังเร่งให้คนรวบรวมตำรับยามาจากต่างแคว้น อย่างเร็วก็เดือนหน้า อย่างช้าก็ไม่เดินอีกสองเดือนพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นหากว่านางพบเรื่องที่ทำให้ตกใจ เสียใจหรือสะเทือนใจก็จะมีอาการเช่นวันนี้อีกอย่างนั้นหรือ”หมอหลวงทำท่าหนักใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องทูลท่านอ๋องไปตามตรง“ทูลท่านอ๋อง พักนี้ก็คงจะต้องให้คุณหนูกงพยายามอยู่ห่างเรื่องที่ทำให้กังวลใจ ตกใจหรือเสียใจไปก่อน หากเป็นไปได้อย่าพึ่งทำสิ่งใดที่ทำให้สะเทือนจิตใจ พิษนี้อาการเบา ๆ ก็คือหัวใจเต้นแรงจนหมดสติ หากร้ายแรงก็อาจจะเส้นลมปราณแตก กระอักเลือดออกมาถึง
ห้องเก็บศพ“เจ้า… อยากจะตรวจสอบผู้ใดก่อน”“หม่อมฉันอยากดูศพของนางรำที่พระองค์พูดถึงก่อนเพคะ”“ตกลง เจ้าเดินไหวแน่นะ”“เพคะ”แต่ท่านอ๋องก็ไม่ได้ปล่อยนาง พระองค์หันไปสั่งใต้เท้าหลี่เดินนำเข้าไปด้านในห้องเย็นซึ่งใช้เก็บศพ เมื่อไปถึงห้องด้านในสุดก็มีผ้าขาวคลุมร่างอยู่ ทั้งสองใช้ผ้าปิดจมูกก่อนที่จะเดินเข้าไป ท่านอ๋องเป็นคนผูกผ้าคลุมให้นางด้วยตนเอง เหรินซินหลบสายตาเขาทันที“ไปกันเถอะ”ท่านอ๋องประคองนางไปที่ศพของนางรำซึ่งยังคงสวมชุดในวันที่ตาย ใต้เท้าหลี่เปิดผ้าคลุมหน้าศพออกมาและเดินออกจากห้องไปในทันทีเพื่อให้ทั้งสองได้ตรวจสอบ “เหรินซิน เจ้ารู้สึกคุ้นหน้านางหรือไม่”กงเหรินซินมองไปที่ศพซึ่งมีริมฝีปากคล้ำและมีรอยแผลเล็กน้อย นางมองไปรอบ ๆ แต่ก็จำอะไรไม่ได้และดูเหมือนว่าความทรงจำของร่างเดิมก็ไม่ได้ช่วยอะไรนางสักเท่าไหร่“หม่อมฉันไม่คุ้นใบหน้านี้เลยเพคะ เป็นไปได้ว่าหากในตอนที่นางลงมืออาจจะเดินมาทางด้านหลัง เมื่อสั่นกระดิ่งหม่อมฉันก็นิ่งไปและถูกผลักตกน้ำ แต่จะรู้ได้เช่นไรกันว่านางเป็นผู้ทำร้ายหม่อมฉันและแม่นางซ่ง”“ตันฉินพบสิ่งเหล่านี้ในห้องพักของนาง อีกอย่างก็ยังมีกำไลที่เหมือนกับที่ข้ามีอีกหน
เหรินซินดึงใบหน้าของท่านอ๋องเข้ามาและกดไปที่ริมฝีปากอิ่มของหมิงเว่ยเซียวทันที ผู้ที่ถูกจู่โจมตัวแข็งทื่อเพราะทำตัวไม่ถูกและคิดไม่ถึงว่ากงเหรินซินจะเข้ามาจูบเขาเช่นนี้“อือ… ท่านจูบไม่เป็นหรือ ปากท่านเย็นยิ่งนัก”“กง…เหรินซิน นี่เจ้า… ทำอะไร”“จูบท่านอย่างไรเล่า คืนนี้ท่านอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนข้าก็ต้องให้รางวัลท่านสักหน่อย”ว่าแล้วผู้ที่กำลังเมาได้ที่ก็พุ่งเข้ามาจูบเขาอีกครั้ง เหตุใดนางถึงได้ว่องไวเช่นนี้ เขายังไม่หายตกใจเลยแต่ตอนนี้เริ่มจะปรับตัวได้และรู้สึกว่ามิได้รังเกียจนาง ริมฝีปากที่มีกลิ่นสุราชื่อดังของหอต้าเซียงทำให้เขาเผลอตอบรับนางไป“อื้อ…อือ….”ลิ้นหนาเริ่มได้ใจเมื่อนางมิได้ขัดขืน หมิงเว่ยเซียวเริ่มติดใจในความหวานของริมฝีปากของนาง หากเป็นเมื่อก่อนนี้เรื่องเช่นนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น แต่หลังจากเกิดเรื่องต่าง ๆ มากมายเขากลับรู้สึกอยากเข้าใกล้สตรีที่เคยนึกเกลียดอย่างกงเหรินซินมากขึ้นทุก ๆ วัน“อือ… ปากท่าน…. หวานยิ่งนัก”ร่างบางหมดสติไปทันที ท่านอ๋องรับนางเอาไว้ทันที เหรินซินหมดสติพร้อมกับหยดน้ำตาที่ยังไม่แห้ง เขาได้แต่โอบกอดนางเอาไว้และยังไม่เข้าใจบางอย่าง“กงเหรินซิน ข้าควรจะท
“เสี่ยวเหยา นี่เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรออกมา”“ข้าย่อมรู้ตัวดี ท่านเองก็น่าจะรู้ว่าข้าคิดเช่นไรกับท่าน ตั้งแต่เริ่มเข้ามาที่สำนักคนเดียวที่ข้ามองก็คือท่าน แม้จะรู้ดีว่าท่านกับพี่ชิงชิงจะรักกันแต่อย่างไรเล่า เรื่องของความรู้สึกใช่ว่าจะห้ามได้”กงเหรินซินไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่านิ่งเสี่ยวเหยาจะมีใจให้กับเฉินกวนมาก่อน นางอยู่ข้าง ๆ ทั้งคู่มานานหลายปีแต่กลับมิได้สงสัยในเรื่องนี้เลยสักนิด“เสี่ยวเหยา เรื่องนี้เจ้าเองก็รู้ว่าข้า…”“ท่านรักพี่ชิงชิงได้ ท่านลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเฟิงลี่เจินได้หรือท่านจะปฏิเสธ”“ข้าไม่ปฏิเสธ”“เช่นนั้นเหตุใดจึงเป็นข้าไม่ได้ พี่เฉินกวนท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ที่อยากให้อาจารย์ตายมากที่สุดก็คือเฟิงลี่เจิน”“เจ้าว่าอะไรนะ”แม้แต่เหรินซินที่แอบฟังอยู่ก็ตกใจจนแทบทรุด“เพราะเรื่องของพวกท่านแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ แต่นางก็ยังอยากก้าวขึ้นสู่ที่สูงหากว่าท่านสามารถเป็นเจ้าสำนักได้ นางก็จะเคียงข้างท่านและเปลี่ยนกฎของสำนักใหม่ แต่ในเมื่อข้างกายของท่านมีเยว่ชิงชิง ทางเดียวที่จะอยู่ข้าง ๆ ท่านได้ก็มีแต่…”“เจ้าพูดบ้าอะไร! เฟิงลี่เจินเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ อีกอย่างในคืนนั้น!”“
เฉินกวนหันมามองท่านอ๋องอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วเพราะสำนักไป๋ซานนำโดยเฟิงลี่เจินซึ่งเป็นผู้ปล่อยข่าวว่าเยว่ชิงชิงเป็นผู้สังหารอาจารย์ เหล่าอาจารย์ที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ต่างพากันออกจากสำนักเพราะไม่เชื่อเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้น อีกอย่างป้ายประจำตัวเจ้าสำนักหายไปอย่างไร้ร่องรอยจึงทำให้ผู้ที่รักษาการอย่างเฉินกวนทำตัวไม่ถูก “เรื่องนั้น…”“คุณชายเฉินเจ้าเชื่อจริง ๆ หรือว่าคนอย่างเยว่ชิงชิงจะฆ่าผู้ที่เลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็กอย่างอาจารย์ลั่วเฉิงได้”“ท่านอ๋องทรงตรัสถามเช่นนี้หรือว่าพระองค์รู้จักชิงชิงหรือพ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องมิได้ตอบเฉินกวนกลับไป พระองค์กำหมดแน่นและลุกขึ้นมาทันที“ข้าเพียงอยากถามเท่านั้น อย่างไรเรื่องการประลองเพื่อคัดเลือกเจ้าสำนักในครั้งนี้ ฝ่าบาทก็ทรงรับสั่งแล้วว่าจะรับเป็นผู้จัดงานเพื่อมอบตราตั้งให้กับเจ้าสำนักคนใหม่ของไป๋ซาน”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”“ส่วนเรื่องการตายของศิษย์น้องเจ้า ข้าจะต้องสืบสวนคืนความยุติธรรมให้กับนางอย่างแน่นอน ต้องขออภัยที่สั่งลงโทษศิษย์น้องของเจ้า แต่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงตระกูลแม่ทัพใหญ่ในซานโจว จนกว่าจะสืบหาคนร้ายที่แท้จริงออกมาได้ ข้าไม่
“พวกเราแค่ไปให้ปากคำตามที่พวกเราเห็นเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าท่านอ๋องผู้นั้นพูดเพียงไม่กี่คำ คนของศาลต้าหลี่ก็รีบม้วนเสื่อกลับแทบไม่ทัน”“หมิงโยว่ นี่เจ้ายังไม่สำนึกอีกหรือ!”“ศิษย์พี่! ข้าก็แค่….”“ดูเหมือนว่ากงเหรินซินจะช่วยคนผิดสินะ พวกเจ้าไม่สำนึกเรื่องที่นางช่วยพูดมิให้ข้าลงโทษพวกเจ้ายังไม่เท่าไหร่ แต่ยังไม่เชื่อในคำพูดของข้าด้วยงั้นหรือ"หมิงชินอ๋องเสด็จมาด้วยพระองค์เองที่จวนของสกุลกง เฉินกวนและคนที่เหลือรีบคุกเข่าลงในทันที หมิงโยว่และนิ่งเสี่ยวเหยาเมื่อพบท่านก๋องก็ตื่นตระหนกอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาถึงที่จวนนี้“กระหม่อมเฉินกวนเป็นตัวแทนศิษย์สำนักไป๋ซาน ขอประทานอภัยหากล่วงเกินพระองค์ไปพ่ะย่ะค่ะ”“คิดไม่ถึงเลยว่าในบรรดาศิษย์ของไป๋ซานจะมีคนเช่นนี้อยู่ หรือว่าสำนักไป๋ซานในตอนนี้ไม่สั่งสอนเรื่องมารยาทกันแล้ว”ท่านอ๋องจงใจมองไปยังศิษย์สองคนที่พาคนของศาลต้าหลี่ไปบุกจวนแม่ทัพ เฉินกวนหันไปมองหมิงโยว่ที่ทรุดกายหมดแรงอยู่ด้านหลังโดยมีเสี่ยวเหยาพยุงเอาไว้ ดูท่าว่าทั้งสองคงก่อเรื่องใหญ่เอาไว้เป็นแน่เพราะหมิงโยว่ก็ไม่ได้ต่างกับเฟิงลี่เจินที่ดื้อรั้นและเอาแต่ใจ“มิทราบว่าท่านอ
Comments