Share

ข้าขอเลือกเอง

last update Last Updated: 2024-12-08 12:47:19

1

ข้าขอเลือกเอง

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามฮ่องเต้เสด็จมายังอุทยานเพื่อเข้าร่วมงานชมโคมไฟ เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในยามสงบ องค์จักรพรรดิจึงให้จัดงานเฉลิมฉลองให้ราษฎรได้ผ่อนคลาย และให้องค์ชายได้ทำความรู้จักกับบรรดาคุณหนูสูงศักดิ์จากหลากหลายตระกูล

“ถวายบังคมฮ่องเต้/กุ้ยเฟย” ทั้งคุณหนู คุณชาย เชื้อพระวงศ์ต่างพากันทำความเคารพเจ้าครองแคว้นที่เพิ่งเสด็จมา องค์จักรพรรดิในวัยกลางคนส่งยิ้ม โบกมือให้ทั้งหมดทำตัวตามสบาย กระทั่งพระองค์เดินไปนั่ง

“ขอบพระทัย” ทุกคนพากันขยับไปนั่งเมื่อพระองค์ทรงอนุญาต

“เรามาดูครู่เดียวก็จะกลับแล้ว พวกเจ้าตามสบาย”

“เซียวกงกงเริ่มงานเถิด ข้าอยากเห็นนักว่าผู้ใดจะวาดโคมได้งดงามที่สุด” ฮ่องเต้กล่าวจบ ฮองเฮาจึงหันไปสั่งให้เซียวกงกงเริ่มการวาดโคมรูปลงบนโคมกระดาษ ผู้ตัดสินย่อมเป็นฮ่องเต้และกุ้ยเฟย ฮ่องเฮาของแคว้นสิ้นพระชนม์ไปเมื่อสองปีก่อน เนื่องจากตรอมใจที่บุตรชายป่วยตายไปเมื่อสามปีก่อน บัดนี้ตำแหน่งฮ่องเฮาจึงยังว่างอยู่

ว่ากันว่าหากองค์ชายองค์ใดได้ขึ้นเป็นไท่จื่อพระมารดาจะถูกแต่งตั้งเป็นฮ่องเฮาเช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่มีงานรื่นเริงฮ่องเต้จะทรงพาหวงกุ้ยเฟยและกุ้ยเฟยมาร่วมกัน เพียงแต่วันนี้หวงกุ้ยเฟยประชวร ทำให้มีเพียงฮ่องเต้กับกุ้ยเฟยเท่านั้น 

“เชิญท่านหญิง คุณหนู คุณชายที่อยากร่วมวาดภาพแจ้งแก่นางกำนัลข้างกายได้เลย” เซียวกงกงว่าจบบรรดาผู้ที่อยากร่วมแข่งขันก็หันไปสั่งนางกำนัลให้เตรียมหมึก พู่กัน โคมกระดาษ

ผู้ร่วมงานชมโคมไฟจำนวนมากแต่ผู้ที่อยากลงแข่งมีไม่มากนัก ของถูกเตรียมอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงหนึ่งเค่อ บรรดาผู้ร่วมแข่งก็ได้เริ่มวาดหมึกลงบนโคมกระดาษ ในอุทยานมีการร่ายรำของสาวงามให้ชมระหว่างรอการวาดโคมเสร็จสิ้น

ผู้ร่วมแข่งวาดภาพในวันนี้มีเพียงหกคนเท่านั้น ทุกคนล้วนเป็นสตรี ไม่มีบุรุษร่วมลงแข่งเลย เพียงแต่นั่งมอง ยืนมองกันในที่ของตนเท่านั้น

เวลาครึ่งชั่วยามผ่านไป โคมกระดาษก็ถูกนางกำนัลทั้งหกยืนถือไว้ตรงหน้าให้องค์ฮ่องเต้ได้ทอดพระเนตร ภาพทุกภาพบนโคมล้วนแต่งดงามวิจิตรทั้งสิ้น ภาพทุกภาพล้วนวาดเป็นดอกเหมยทั้งสิ้น มีเพียงหนึ่งในหกภาพเท่านั้นที่ต่างจากภาพอื่น

“โคมดวงที่สามเป็นของผู้ใด” องค์จักพรรดิทรงตรัสถามเมื่อได้ทอดพระเนตรโคมทุกดวงแล้ว นางกำนัลที่ถือโคมกระดาษอยู่ค้อมตัวให้องค์จักรพรรดิจากนั้นหันกลับไปชูโคมให้เจ้าของดูว่าเป็นโคมของผู้ใด

“หม่อมฉันเพคะ” ต่งซูเหวินลุกยืนค้อมตัวลงเล็กน้อย ตอบองค์จักรพรรดิด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เมื่อเห็นว่าเป็นโคมของผู้ใดฮ่องเต้ก็ทรงแย้มพระโอษฐ์พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย

“ที่แท้ก็เป็นเจ้า งดงามนัก ผู้อื่นล้วนวาดดอกเหมยเหตุใดเจ้าจึงวาดไม่เหมือนผู้อื่น ภาพนี้มีความหมายอย่างไร” ผู้อื่นล้วนวาดทิวทัศน์ในยามนี้ แม้ไม่เหมือนกันทั้งหมดก็คล้ายกันแปดในสิบส่วน

ภาพดวงตะวันกลมโต ส่องแสงให้ผู้คน ต้นไม้ แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย ภาพของนางจึงสะดุดตามากกว่าทุกภาพ

“ภาพของหม่อนฉันมีความหมายถึงพระองค์เพคะ”

“ข้าหรือ เหตุใดข้าจึงเป็นข้า” องค์จักรพรรดิถามอย่างสงสัย สีหน้าตั้งอกตั้งใจ รอฟังคำตอบของนาง

“พระองค์คือดวงตะวันเพียงหนึ่ง แม้ในยามหนาวเหน็บก็มอบความอบอุ่นให้ ในยามมืดมนก็มอบแสงสว่าง พระองค์ทรงเป็นทุกอย่างให้ราษฎรหากมีพระองค์บ้านเมืองย่อมสงบสุขรุ่งเรืองเพคะ ราษฎรเช่นเราหวังเพียงให้ดวงตะวันอยู่บนฟ้ามอบแสงสว่างและความอบอุ่นให้บ้านเมืองไปแสนนาน” นางกล่าวจบก็ประสานมือ ค้อมตัวรับให้พระองค์

“ดี ดีมาก เราชอบ ไม่เสียแรงที่เป็นคนสกุลต่ง” ฮ่องเต้ทรงสรวลเสียงดัง ชอบใจความหมายภาพวาดของนางยิ่งนัก เพราะมันไม่ได้มีเพียงความหมายที่ดี แต่กลับวิจิตรงดงามทั้งที่ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น

“ขอบพระทัยเพคะ”

“เจ้าเห็นด้วยหรือไม่กุ้ยเฟย”

“เพคะ ฝ่าบาทงดงามและมีความหมายยิ่งนัก เห็นทีคงไม่ต้องประกาศผู้ชนะแล้วกระมัง” กุ้ยเฟยกล่าวเสียงอ่อนโยน พลางเทสุราใส่จอกให้ฮ่องเต้

“เช่นนั้นก็ดี เจ้าต้องการสิ่งใดบอกมาเถิด”

“ซูเหวิน ขอบังอาจทูลฝ่าบาท เนื่องจากซูเหวินขาดมารดาแต่เด็กไม่มีผู้ใดคอยดูแลเรื่องออกเรือน จึงอยากทูลขอพระองค์ทรงอนุญาต เรื่องการออกเรือนขอให้ซูเหวินสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง ผู้อื่นไม่สามารถบังคับได้” หลังจากนางกล่าวจบทั้งอุทยานเงียบสงัดไม่มีเสียงผู้ใดเอ่ยออกมา กระทั่งเสียงเครื่องดนตรีก็หยุดบรรเลงเช่นกัน เรื่องนี้ไม่เคยมีผู้ใดกล้ากราบทูลมาก่อน บุรุษหลายคนต่างจ้องมองนางด้วยท่าทีตกใจ แต่ก็มีบุรุษถึงสามคนมองนางด้วยท่าทีชื่นชม

“ได้ เราอนุญาต เจ้าเป็นบุตรสาวแม่ทัพต่ง ท่านตาและมารดาเจ้าช่วยเรากอบกู้บ้านเมืองจนต้องสิ้นชีพไป หากเจ้าไม่มีความสุขเราก็ยากสงบใจ ขอเพียงเจ้าต้องการหากขาดเหลือสิ่งใดบอกข้า ถือเสียว่าข้าเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง” หนึ่งในผู้ที่ชื่นชมนางก็คือองค์จักรพรรดิ ด้วยความเป็นคนจิตใจสูงส่ง มีคุณธรรม พระองค์จึงมีจิตคิดถึงสกุลต่งอยู่เสมอ เป็นไปได้ก็อยากให้นางได้อภิเษกกับองค์ชายสักองค์

แต่ก็ยังนึกถึงความสุขของนางเลยมิอาจบังคับนางได้...

“ซูเหวินขอบพระทัยฝ่าบาท”

“หรือเจ้าถูกใจบุรุษคนใด ข้าจะเป็นธุระให้เอง”

“ยังเพคะ ซูเหวินเพียงกลัวว่าวันข้างหน้าอาจได้ออกเรือนกับผู้ที่ไม่ได้รักชอบกันเท่านั้น” นางรู้ว่าพระองค์ทรงรักใคร่เอ็นดูนางไม่ต่างจากหลานแท้ ๆ แต่สามชาติก่อนเป็นนางที่ดึงดันอยากเป็นชายารองเอง

“เอาเถิด ทุกท่านเชิญดื่มกินกันให้เต็มที่”

หลังจากฮ่องเต้ทรงไปจากอุทยานจัดเลี้ยง บรรดาผู้ร่วมงานก็ทยอยกันกลับ บางคนยังนั่งดูการร่ายรำ ร่ำสุรา ส่วนซูเหวินพอฮ่องเต้กลับ นางก็ตั้งใจปลีกตัวออกไปเช่นเดียวกัน

“ท่านหญิง จะกลับแล้วหรือ” ซูเหวินเดินตามนางกำนัลออกจากอุทยาน ตั้งใจจะกลับจวน มัวแต่มองพื้นที่โคมไฟส่องจนไม่ได้มองว่าผู้ใดยืนขวางทางอยู่ นางค่อย ๆ เงยหน้ามองภาวนาในใจอย่าให้เป็นองค์ชายสี่ผู้นั้นเด็ดขาด

“องค์ชายสามนี่เอง ถวายบังคมองค์ชายสาม” ซูเหวินถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นกล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม พอรู้ว่าไม่ใช่องค์ชายหนิงจินก็รีบยิ้มให้อย่างเป็นมิตรทันที

“เหตุใดจึงมีท่าทีโล่งอกเช่นนั้น คิดว่าข้าเป็นผีสางหรือ” องค์ชายถามด้วยรอยยิ้มขบขัน จนนางเองหลุดหัวเราะออกมาเช่นกัน

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร องค์ชายมีสิ่งใดจะรับสั่งหรือไม่เพคะ”

“ไม่มี”

“เช่นนั้นซูเหวินขอตัว” แม้จะสงสัยแต่นางไม่อยากกล่าวถาม นางไม่ควรอยู่พูดคุยกับผู้ใดทั้งสิ้น กล่าวลาเสร็จก็เดินอ้อมไปอีกด้าน ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าองค์ชายเดินมากับผู้ใด เห็นเพียงผ่าน ๆ ก็รู้ว่าคนผู้นี้ผิวขาวนวลยิ่งนัก ยามนี้ไม่เหมาะแก่การอยู่ลำพังกับองค์ชายองค์ใดทั้งสิ้น นางจึงรีบปลีกตัวออกมาเสียก่อน

ในที่สุดวันนี้นางก็ไม่ได้อยู่ตามลำพังกับองค์ชายหนิงจิน ถือว่านางแก้ไขวันนี้ได้อย่างดี...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   มีเพียงท่าน [จบ]

    45มีเพียงท่านเช้ามาทั่วทั้งเมืองต่างมีข่าวว่าตระกูลหลานของเสนาบดีเลี้ยงต้อนรับบุตรชายคนเล็ก และยังมีข่าวงานหมั้นหมายของบุตรชายกับหญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ตระกูลหนึ่ง“หงอิงให้คนเตรียมรถม้า ข้าจะไปตระกูลหลาน”“เจ้าค่ะคุณหนู”“ไหนบอกว่ารักข้า ยอมปลิดชีพตนตามมาเพื่อดูแล แต่เสร็จเรื่องแล้วจะไปแต่งผู้อื่นแบบนี้ได้อย่างไรกัน หลันอันฉีเจ้าใจร้ายยิ่งนัก” นางบ่นพึมพำขณะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์อยู่ลำพัง เดิมทีวันนี้ตั้งใจจะไปถามเขาให้รู้เรื่องว่าเหตุใดจึงหนีนางไปเช่นนี้ แต่เช้านี้กลับได้ยินบ่าวในเรือนพูดคุยกัน บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีขวากลับมาและที่จวนหลานกำลังจะมีงานมงคลครึ่งชั่วยามรถม้าจากจวนต่งก็มาถึงหน้าจวนหลาน ผู้คนหน้าจวนมิได้มีผู้คนมากมายนัก อาจเพราะทั่วเมืองกำลังไว้ทุกข์ให้หวงกุ้ยเฟยที่สิ้นพระชนม์ งดเว้นงานรื่นเริงสังสรรค์ งดเว้นการจัดการงานสมรส ที่จวนหลานเพียงเชิญสหายสนิทมากินอาหารและพูดคุยเรื่องแต

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ในใจมีผู้ใด

    44ในใจมีผู้ใด“องค์ชายสี่เชิญนั่งเพคะ” เมื่อไท่จื่อเดินออกไป องค์ชายสี่ก็เดินเข้ามา เขาเองก็คงมาด้วยเหตุผลเดียวกับไท่จื่อ หลิงซือฝูเองก็เช่นเดียวกัน เหตุใดชาติก่อนนางจึงไม่มีผู้คนมารักมากมายเพียงนี้บ้าง“ท่านหญิงคงรู้แล้วว่าข้ามาด้วยเหตุใด”“พอรู้เพคะ แต่...”“ท่านหญิงฟังข้าให้จบก่อนได้หรือไม่” นางไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบ จากนั้นนั่งเงียบให้เขาได้พูดเรื่องราวต่าง ๆ ให้จบสิ้นไม่ติดค้างในใจก่อน“ในใจข้ามีท่านหญิงมาตั้งแต่เราได้รู้จักกันในคราแรกแล้วยิ่งรู้สึกชื่นชมเมื่อได้รู้จักท่านมากขึ้น ช่วงเวลาที่ท่านกับน้องหญิงมาที่สำนักศึกษาข้าดีใจยิ่งนักที่ได้เห็นท่านทุกวัน”“...”“แต่เมื่อได้รู้ว่ามารดาทำสิ่งใดลงไปบ้าง ข้าจึงเริ่มรู้สึกว่าท่านรู้บางสิ่งที่ข้าไม่รู้ จนได้รู้ว่าเสด็จแม่เป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งคนมาทำร้ายท่าน ยามนั้นข้าได้รู

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ผู้ทำผิดถูกลงโทษ

    43ผู้ทำผิดถูกลงโทษประกาศจากในวังให้มีการสอบรับเลือกขุนนางอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพราะขุนนางจากตระกูลซูถูกลงโทษและถูกปลด องค์จักรพรรดิของแผ่นดินนี้ยังคงเป็นจักรพรรดิหนิงหวง องค์ชายสี่เกลี้ยกล่อมมารดาไม่สำเร็จจึงกราบทูลต่อบิดาด้วยความเสียใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ยินมาด้วยเห็นแก่บุตรชายฮ่องเต้จึงยังคงรักษาพระเกียรติของหวงกุ้ยเฟยเอาไว้ ทรงประทานเหล้าพิษและปล่อยข่าวไปว่าพระองค์ทรงป่วยจนสิ้นพระชนม์ มิได้บอกกล่าวแก่ผู้ใดว่าพระนางร่วมมือกับตระกูลซูก่อกบฎองค์ชายสามได้รับแต่งตั้งเป็นไท่จื่อ เพราะองค์ชายสี่ขอเป็นผู้คอยช่วยเหลือเคียงข้างพี่ชายเท่านั้น กุ้ยเฟยเองก็ถูกแต่งตั้งเป็นฮ่องเฮาหลังจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ราชสำนักสั่นคลอนอย่างแท้จริง โชคดีที่ได้เสนาบดีขวาเป็นเสาหลักอยู่ จึงไม่มีจราจลใดในยามนี้ตระกูลซูถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ซูฉางเหอยอมรับความผิดทั้งหมดไว้เอง ซูชิงเยียนและหญิงสาวในตระกูลจึงถูกลงโทษเนรเทศไปยังเขตชายแดนที่หนาวเหน็บห้ามกลั

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ข้าไม่รั้ง

    42ข้าไม่รั้งเพียงสามวันนางก็ได้ข่าวจากหลิงซือฝูว่าองค์ชายสี่ทรงกราบทูลต่อฮ่องเต้ หวงกุ้ยเฟยทรงสมคบคิดกับตระกูลซูคิดก่อการกบฎ เรื่องนี้ถูกสอบสวนอย่างหนักรวมไปถึงคดีสินบนของเหล่าขุนนาง กระทั่งคดีลอบทำร้ายท่านหญิงเจียวจ้านแห่งสกุลต่ง ทำให้เช้านี้ต่งซูหนี่ถูกพาตัวไปยังกรมอาญาเพื่อสอบสวนร่วมกันเช้านี้ต่งซูเหวินจึงมีสีหน้าสดชื่นกว่าก่อน หากในจวนไม่มีต่งซูหนี่เหมือนทุกวันคงดีนัก หลังอ่านจดหมายของหลิงซือฝูเสร็จนางไปเดินเล่นอยู่หน้าลานประลองชื่นชมลานประลอง และต้นเฟิงที่มารดารักยิ่ง ใบหน้างดงามประดับด้วยรอยยิ้มกว้างหลังจากนี้นางคงได้ใช้ชีวิตตนเองอย่างสงบสุขเสียที“เหตุใดเจ้าต้องทำกับน้องสาวตนเองถึงเพียงนี้” นางคงลืมไปชั่วครู่ว่าภายในจวนนี้ยังมีมารดาเลี้ยง และบิดาผู้ลำเอียงของนางอยู่ต่งซูเหวินถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาทางด้านหลัง นางรู้อยู่แล้วว่ามารดาเลี้ยงต้องมาหาเรื่องนางหากซูหนี่ถูกนำตัว

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   ถูกต้องหรือถูกใจ

    41ถูกต้องหรือถูกใจ“ถวายบังคมองค์ชาย องค์ชายท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” ต่งซูเหวินถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ นางไม่คิดว่าจะได้เจอองค์ชายสี่ที่หน้าจวนในยามนี้ ท้องฟ้าเริ่มไร้แสงผู้คนเริ่มเก็บตัวอยู่ในบ้านเรือนตนเองเพราะอีกไม่นานตะวันจะลับฟ้าผู้ใดจะคิดเล่าว่าจะมีองค์ชายมายืนหน้าจวนตนเองพร้อมม้าอีกหนึ่งตัวเช่นนี้“ขออภัยท่านหญิงที่ข้าเสียมารยาทมาหาท่านในยามนี้ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ใดได้อีกนอกจากท่าน ในหัวเอาแต่คิดถึงเรื่องที่ท่านหญิงพูดเมื่อคราวก่อน”“องค์ชายทรงร้อนใจเช่นนี้ เชิญเถอะเพคะ” แม้นางจะหมดรักในตัวเขาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว แต่ความห่วงใยนี้ก็คงมิอาจตัดได้หมด ฟังจากเรื่องราวทั้งหมดผู้ที่น่าเห็นใจนอกจากนางก็คือเขา เพราะนางเห็นใจครอบครัวจึงยอมแต่งเป็นพระชายารองอีกครั้ง ส่วนเขาเห็นใจมารดาจึงยอมทำผิดใหญ่หลวงบุตรต้องกตัญญูแต่หากว่าบิดามารดามิได้ใฝ่สิ่งดี บาปกรรมก็ล้วนตกอยู่ที่บุตรท

  • ได้โอกาสอีกคราข้าไม่ขอเป็นอนุ   สาเหตุของการตาย

    40สาเหตุของการตาย“เจ้าเล่าให้ละเอียดหน่อย นี่เรื่องจริงหรือไม่” นางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทั้งยังตกใจมากเมื่อคิดว่ามีผู้อื่นย้อนเวลามาเหมือนนางเช่นนี้ แล้วยังเป็นผู้ที่อยู่ข้างกายนางตลอด อีกทั้งยังปิดบังนางมาตลอดไม่เคยบอกสิ่งใดแก่นางแต่หากเขาได้ย้อนเวลากลับมานั่นหมายถึงเขาก็มีเรื่องอยากแก้ไข แล้วเรื่องนั้นคงต้องเกี่ยวกับนางไม่เช่นนั้นบุตรชายเสนาบดีอย่างเขา คงไม่ยอมมาลำบากอยู่ข้างนางเช่นนี้“หลายปีก่อนตอนรวมแผ่นดินข้ากับมารดาถูกจับเป็นเฉลย เพื่อให้ท่านพ่อยอมทรยศแต่ได้รองทัพต่งแอบลอบเข้าไปช่วยเหลือสุดท้ายหนีออกมาได้ ข้าและท่านแม่บาดเจ็บได้ท่านคอยดูแลตอนอยู่นอกแคว้น ข้าจำได้แม่นยำว่าคุณหนูจิตใจดีมากเพียงใด หลังจากช่วยเหลือไว้คุณหนูกับรองแม่ทัพต่งก็จากไปโดยฝากข้าและท่านแม่ไว้กับชาวบ้านนอกแคว้น ทั้งยังมอบเงินไว้ให้ท่านแม่รักษาตัวด้วย”“...”“ต่อมาพบว่าตระกูลต่งสิ้นแล้ว จึงได้แต่เสียใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status