หลังจากเรียนเสร็จเดือนเมษาแวะไปที่โรงอาหารและได้ขอเศษอาหารที่เหลือมา เพื่อจะเอาไปให้แม่หมาที่กำลังท้องโตที่อยู่หลังตึก
“กินเยอะๆ นะ” เดือนเมษามักทำแบบนี้เป็นประจำ หลังเลิกเรียนจะรีบเอาอาหารมาให้ทุกวัน วันไหนเลิกเรียนค่ำก้อาจจะไม่ได้มา
“เจ้าด่าง” หญิงสาวยิ้มที่เห็นแม่หมากำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
อีกด้านกองยืนมองหญิงสาวอยู่ไม่ไกล เขานั้นรักหมาอยู่แล้วแต่รักแค่หมาของตัวเอง ไม่คิดว่าจะยังมีคนดีมีน้ำใจมีจริงบนโลกใบนี้
และการที่หญิงสาวทำแบบนั้น ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะบันทึกภาพความประทับใจนั้นใจ เขาแอบถ่ายคลิปวิดีโอเดือนเมษาไว้ และเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขายืนฟังหญิงสาวคุยกับหมาอยู่สักพัก
“หนูไม่อนุญาตให้ถ่ายนะคะ ทำแบบนี้นิสัยแย่นะ”
ไม่รู้ว่าเขาถ่ายวิดีโอไว้ตั้งแต่ตอนไหน โชคดีที่เธอหันมาเห็นพอดีมบหน้าของหญิงสาวไม่พอใจมาก ถือว่าเรื่องแบบนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล
“คือฉัน...”
“รู้จัก PAPD มั้ยลบทิ้งเลยนะ” เอเริ่มจะโมโหแล้วจริงๆ ที่เขาทำแบบนั้นรวยแล้วคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ
“ลบก็ลบ” ดุจังเลยวะ คำนี้เขาบ่นในใจและยอมลบวิดีโอทิ้ง ตัวเล็กนิดเดียวแต่ขู่เก่งมากแบบนี้น่ารักมากคนที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขา
“ลบรึยังคะ”
“ลบแล้วเอาไปดูไหมล่ะ” เขายืนโทรศัพท์ให้เดือนเมษาดูว่าเขานั้นลบแล้วจริงๆ คิดว่าเธอจะไม่กล้าเอาไปดูแต่เขาคิดผิด
เดือนเมษาเลื่อนดูว่าเขาทำจริงหรือไม่ พอเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ จึงเห็นรูปที่เขาถ่ายตัวเองโดยไม่ใส่เสื้อผ้าทำให้เธอรีบคืนโทรศัพท์ให้เขา
“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกนะคะ”
“กล้าสอนฉันเหรอ รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?” ยัยนี้ไม่รู้จักเขาหรือ คนทั้งมหาวิทยาลัยรู้จักเขาหมดมันยิ่งทำให้เขาสนใจในตัวเธอมากกว่าเดิม
“คุณจะเป็นใครมันเกี่ยวอะไรกับหนูด้วยคะ”
“แล้วไม่อยากรู้จักเหรอ”
“ไม่อยากรู้จักค่ะ เพราะไม่มีผลในการใช้ชีวิต”
กองทัพรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าแรงๆ เกิดมาจนอายุป่านนี้ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี่มาก่อน เขาคิดว่าหญิงสาวคงอยากเรียกร้องความสนใจจากเขามากกว่า
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยอยากได้อะไรบอกฉันได้นะ”
“ไม่อยากได้ค่ะมีสองมือสองเท้าหาเองได้ค่ะ”
“คิดว่าสวยมากหรือไง”
“ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวยนะคะ พี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“เปล่า”
เมษาไม่ค่อยสนใจกองทัพ พอเห็นว่าเขาลบรูปและคลิปของเธอออกแล้วก็เดินจากไป
แต่คนที่โมโหกับเป็นกองทัพเขายืนอยู่ตรงนั้นสักพัก ยัยตัวเตี้ยคนนั้นไม่รู้จักเขา และยังไม่สนใจเขาอีกปกติไปไหนสาวๆ มักตามตอแยตลอดเวลา
คาสโนว่าตัวพ่อที่สาว ๆ ทั้งมหาลัยตามกรีดร้อง ถึงกับไปไม่เป็น คิดว่ายายเพี้ยนคนนี้คงจะอยู่คนละโลกกับเขา โลกของเธอกับเขาคงห่างไกลกัน แต่กลายเป็นว่าเขาละสายตาจากเธอไม่ได้
“มึงไปไหนมาวะเย็นนี่ไปป่ะ”
“มึงเรียนไม่ยุ่งมุ่งแต่ เย็.-ด อย่างเดียวเลย” กองทัพต่อว่าไต้ฝุ่นแต่ละวันของมันชวนแต่พวกเขาไปปาร์ตี้ที่ผับของพ่อมันอย่างเดียว
“กูไปเห็นมาว่าน้องเมษาเขาทำงานที่คาเฟ่หน้ามอ”
“มึงบอกกูทำไม!”
“ไม่สนใจเขาแล้วเหรอ” แม็กนัสตามไปสืบให้จนถึงขนาดนี้แล้ว วันก่อนยังถามอยู่เลยว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร
“ทำไมต้องสนใจไม่ใช่แม่กู” ยิ่งคิดถึงคำพูดของเธอเขายิ่งโมโหเลยตอบแม็กนัสออกไปแบบนั้น แต่คนปากไม่ตรงกับใจ
วันถัดมากองทัพชวนไต้ฝุ่นและแม็กนัสมานั่งที่คาเฟ่หน้ามหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก เขาชะเง้อมองหาเดือนเมษาจนเพื่อนๆ ต่างพากันมองตาม
“มองหาอะไรวะ”
“เออ มึงชวนกูมานั่งดื่มกาแฟตั้งแต่ 8 โมงเช้าเนี้ยนะปกติชวนแต่กูแดกเหล้า” ไต้ฝุ่นบ่นออกมาเพราะตอนนี้จะเก้าโมงแล้วมันยังไม่ยอมลุกไปไหน
“มองหาใครเหรอคะ” จรินญาเห็นหนุ่มๆ เหมือนมองหาใครเลยเดินเข้ามาถาม
“ไม่มีอะไรครับ กลับ!” กองทัพเลือกที่จะไม่ถามว่าเดือนเมษาไปไหน เพราะกลัวว่าจะเสียฟอร์มและถูกเพื่อนล้อมากกว่า
“น้องเมษาคนสวยไปไหนครับ” แม็กนัสเป็นคนถามขึ้นมา แต่คนที่รอคำตอบเหมือนจะเป็นกองทัพมากกว่า
“เมษาไปเรียนแล้วค่ะวันนี้มีเรียนทั้งวันน่าจะเข้าร้านตอนเย็นค่ะ มีอะไรฝากพี่ไว้ได้นะคะ”เป็นปกติของร้านที่มักจะมีหนุ่มๆ มาถามหาเดือนเมษา
“ไม่มีครับผมขอบคุณมาก”
กองทัพเดินหัวเสียออกมาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงต้องทำอะไรที่บ้าขนาดนี้ มาดักรอเจอหน้าสาวซึ่งมันไม่ใช่ทางของเขาเลย
“อ้าวไปไหน ตึกวิศวะทางนี้!”
“เออ ไปเรียนดิวะ” กองทัพไม่ได้สนใจที่อาจารย์สอนเท่าไร ตอนนี้พักเที่ยงพอดีเขามีเรียนแค่ช่วงเช้าบ่ายจึงว่างทั้งวัน
“ไปกินข้าวกันกูหิวมากเลย”
“กูคิดว่าแดกเป็นแต่เหล้า”
“เห้ย ไอทัพไปกินข้าวที่โรงอาหารกัน” ไต้ฝุ่นหันมาชวนเพื่อน
“อืม” แต่ทางที่กองทัพเดินไปเป็นลานจอดรถ ทำให้เพื่อนต้องรีบกระโดดขึ้นรถตาม จนรถมาจอดที่ตึกบริหารคณะบริหาร
“โรงอาหารตึกเรามันหน้าตาแบบนี้เหรอวะ”
“กูไม่รู้ ไอ้ทัพมึงพากูมาที่นี่ทำไม”
“กูอยากกินข้าวตึกบริหาร” กองทัพขึ้นเข้าไปในโรงอาหาร เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูเด่นสะดุดตาทำให้สาวๆ ต่างพากันหันมามอง
แต่กองทัพต้องผิดหวังเพราะไม่ได้เจอหน้าคนที่เขาอยากเจอ จากหนึ่งวันกลายเป็นสองวันสามวันที่ชายหนุ่มมากินข้าวที่ตึกบริหาร ขนสาวๆ ต่างพากันพูดว่าคงมาตามเฝ้าสาวแน่ๆ
“เพื่อนครับมึงบอกพวกกูเถอะว่าสนใจน้องเขา”
“กูจะได้ช่วยครับ พากูมานั่งเฝ้าเขาทุกวันแต่ไม่เคยได้เจอหน้า” แม็กนัสไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้มาก่อน บอกเลยว่าเดือนเมษาคงไม่ได้เป็นแค่ขอวงเล่นมันแน่
“กูไม่ได้สนใจ”
“เออ นั้นกลับครับมึงนั่งอยู่คนเดียวนะ” ไต้ฝุ่นอยากจะตบหน้ามันมาก อาการออกชัดเจนขนาดนี้
“นั้นน้องเขาหนิ ไอ้แม็กไปดิวะ”
สองหนุ่มรีบเดินออกมาเมื่อเห็นเดือนเมษา กองทัพเห็นแบบนั้นรีบลุกเดินตามมาด้วยท่าทีที่นิ่งๆ เหมือนไม่ได้สนใจหญิงสาว
“น้องเมษาครับรอพวกพี่ก่อน”
“รอพวกพี่ก่อน”
เดือนเมษาเห็นรุ่นพี่วิศวะวิ่งตามหลังมาถึงกับตกใจ พวกเขาทั้งสองวิ่งมาดักที่หน้าของเธอ
“พวกพี่มีอะไรคะ?”
“พี่ขอเบอร์ติดต่อหรือขอไลน์ไว้หน่อยได้ไหม”
“หนูคงให้ไม่ได้ค่ะ”
“พี่ไม่ได้เอาไปทำอะไรครับ พอดีมีคนแอบปลื้มน้องพี่เลยจะขอไลน์ให้มัน” ไต้ฝุ่นยิ้มกรุ้มกริ่มและมองไปที่ด้านหลังของเดือนเมษาที่กองทัพยืนอยู่
“ขอเฟสบุ้คก็ได้ครับเอาไว้กดติดตามน้อง”
“ถ้าไม่ให้พี่ไม่ยอมให้ไปไหนนะ” แม็กนัสขวางทางไว้ทันที น่ารักตัวเล็กสเปคไอ้กองทัพมันเลยมีความดื้อรั้นหน่อยๆ
“พวกพี่อย่าเอาไปให้ใครนะคะ”
“ครับ”
เดือนเมษาจำใจต้องให้เฟสบุ้คไปไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ปล่อยเธอไปไหน เธอรู้จักพวกเขาดีคนดังใครบ้างจะไม่รู้จักแต่เธอไม่ได้สนใจ พวกเขารวยล้นฟ้าคงไม่มีใครหันมามองหมาวัดแบบเธอหรอก ความรักต่างชนชั้นมันเป็นไปได้ยากมาก
“ขอบคุณครับ”
“หน้าโปรไฟล์โคตรน่ารักเลยวะ” ไต้ฝุ่นเพิ่งเคยเจอคนน่ารักขนาดนี้ เพราะอะไรน้องเขาถึงทำให้กองทัพเสียอาการขนาดนี้
“เห้อ โทรศัพท์กูเอาคืนมา”
“กูสั่งห้ามให้พวกมึงแอดเฟสน้องเขาไป”
“กูขอมาได้แล้วกูต้องได้แอดบ้างแหละ”
กองทัพไม่สนใจเขาอ่านชื่อเฟสบุ้คของหญิงสาว และยื่นโทรศัพท์คืนให้ ตอนที่แยกย้ายกับเพื่อนๆ เขาจึงแอบเข้าไปส่องแต่ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรคงจะตั้งค่าให้เห็นเฉพาะเพื่อน
“พวกเหี้*ย มันเร็วจังเลยวะ”
เขาเห็นว่าในเฟสบุ้คของเดือนเมษามีเพื่อชื่อของไต้ฝุ่นและแม็กนัสเป็นเพื่อนที่มีร่วมกัน เขาห้ามพวกมันไม่ได้เลยจริงๆ
เดือนเมษาตั้งท้องเข้าสู่ไตรมาสสุดท้าย กองทัพจึงยอมทิ้งชีวิตที่หรูหราในเมืองหลวง พาเดือนเมษากลับมาเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดอยู่นานเกือบเดือน “เหนื่อยไหมคะดื่มน้ำก่อน” “ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนแต่สนุกดีครับ” “ไม่ไหวก็พอนะคะ”ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านต้องทำนากัน ซึ่งเป็นการทำนาตามช่วงฤดูการ กองทัพมาช่วยพ่อตาดำนาจนตัวเขาดำไปหมด ปกติก็เป็นคนผิวสีน้ำผึ้งอยู่แล้วไม่พอเพียงแค่นั้นหลังจากเสร็จการดำนา เขาอาสาเข้าไปเก็บไข่เป็ดในคอก และช่วงเช้าต้องปล่อยเป็ดให้ออกไปเดินเล่นและต้องกลับมารดน้ำปลูกผักอะไรที่ไม่เคยทำก็ต้องทำ เขาถึงได้รู้คุณค่าของเงินว่ากว่าจะได้มาแต่ละบาทต้องแลกกับหยาดเหงื่อ“โอ๊ย”“พี่ทัพหนูบอกแล้วไงคะว่าไม่ไหวอย่าฝืน” เธออยากจะตีเขานักดื้อด้านจนตัวเองต้องเจ็บตัว เธอรีบพาเขาไปล้างมือ กองทัพขุดดินจนมือพุพองจากการเสียดสีของด้ามจอบ“แสบมั้ย”“นิดหน่อยแต่ทนได้”“ไม่ต้องทำแล้วค่ะตัวดำหมดแล้ว”กลับไปกรุงเทพครั้งนี้ใครจะทำเขาได้ กองทัพลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง ต้องมาทำนาที่ต่างจังหวัดกับเมียตากแดดจนตัวดำแดดไปหมด“พี่อยากลองทำดูครับ”“ไปพักผ่อนนะคะอีกไม่กี่วันก็จะกลั
หลายเดือนต่อมา กองทัพนอนอยู่บนเตียงกว้างเขาเอาหูแนบกับท้องของเดือนเมษาที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว ซึ่งเขาได้ลูกสาวสมใจที่อยากได้ เขาชอบเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนเป็นแบบนี้ทุกคืน ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานก็ตาม เขาเลิกเที่ยวและตั้งใจทำงานตอนนี้เขาฝึกงานจบแล้ว ในวันข้างหน้าก็จะเป็นวันที่เขาต้องทำงานหาเลี้ยงดูลูกกับเมีย ส่วนเมษานั้นดร็อปเรียนอย่างไม่กำหนด แต่กองทัพนั้นไม่คิดจะทำร้ายอนาคตของเธอ เขารอให้เธอคลอดและจะให้กลับไปเรียนเช่นเคย ตอนเช้าอีกวันเดือนเมษานัดทานข้าวกับเพื่อนสาวที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน นิดาและฟารีญาจะยุ่งกับการเรียกเพราะทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายแล้ว “ไม่น่าเชื่อเลยพี่ทัพจะเป็นคนที่แสนดีขนาดนี้” “อิจฉาแกจังเลยอ่ะ” “เขาสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ต้องรอดูกันไปนานๆ” นี่เพิ่งเริ่มต้นเพราะการแต่งงานมีครอบครัวไม่ใช่วันสุดท้ายของชีวิต แต่เป็นการเริ่มต้นต่างหาก “บางคนสันดานเปลี่ยนตอนมีลูก” นิดาได้ยินข่าวมาเยอะการที่เมียท้องและผัวแอบไปมีคนอื่น บางคนพอรู้ว่ามีลูกก็เผยตัวตนออกมา “ยัยบีเพื่อนเลิฟ
“พี่ทัพยิ้มอะไรคะ” ตั้งแต่เขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกองทัพก็นั่งส่งยิ้มให้เธอ จนเธอรู้สึกหลอนไปด้วย “บักห่าหนิ” เขาเปล่งเสียงออกมาไม่รู้ว่าตัวเองออกเสียงถูกหรือเปล่า แต่เห็นสีหน้าตกใจของเดือนเมษา “พูดอะไร” “แปลว่าหล่อไม่ใช่เหรอ” “ใครบอกคะ?” “ก็พ่อตาบอกยังพูดกับพี่อยู่เลย” เธอกลั้นเสียงหัวเราะไว้คงจะถูกพ่อของเธอหลอกตาด่ามาแน่ แต่เธอไม่ยอมบอกว่าคำที่เขาพูดมาไม่ได้แปลว่าหล่อตามที่เขาเข้าใจ “หัวเราะอะไร” “เปล่าค่ะ” . งานวิวาห์กะทันหันก็เกิดขึ้นจัดในหมู่บ้าน ด้วยน้ำเงินของคุณย่าเนรมิตงานใหญ่พอ ๆ กับงานวัด ซึ่งพ่อกับและพี่ชายของเขาก็มางานด้วย สินสอดทองหมั้นถูกจัดเตรียมมาพร้อมกับแก้วแหวนเงินทองและโฉนดที่ดิน ชาวบ้านต่างพากับอิจฉาเพราะแถวบ้านต่างจังหวัดค่าสินสอดหนึ่งแสนถือว่าเยอะมากแล้ว แต่นี่เงินสินสอดมากถึงสิบล้านแถมยังเป็นเงินสดถูกวางไว้ตรงหน้าพ่อแม่เจ้าสาว กองทัพนั่งยิ้มหน้าบานที่งานถูกจัดขึ้นมา ถือว่าเป็นการมัดมือชกเดือนเมษา พ่อแม่เขาได้ลูกสะใภ้ไม่ยังแถมหลานในท้องมาให้อีก “ทัพสวมแหวน
เดือนเมษาตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเมื่อคืนกองทัพแอบเข้ามานอนกับเธอ แต่คุณย่ากลับนำเอาเรื่องนี้พูดขึ้นมาต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ “ไหนๆ เด็กๆ ก็รักกันฉันอยากจะพูดคุยเรื่องนี้” ดูจากหลานชายแล้วน่าจะรักเดือนเมษามาก ถึงได้ยอมตามมาไกลถึงที่นี่ “เด็กๆ เขารักกันฉันอยากจะสู่ขอหนูเมษาจ๊ะ” “คุณย่าคะ?” “เด็กทั้งสองได้เสียกันแล้วหมั้นกันไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย” เดือนเมษาน้ำท่วมปากพูดไม่ออกเพราะกองทัพก็ไม่ปฏิเสธ เธอเกิดสับสนขึ้นมาเพราะคิดว่ายังไงแล้วกองทัพก็ไม่รักเธอ แค่อยากเอาชนะเธอก็เท่านั้น “บางทีในท้องของเมษาอาจจะมีลูกผมอยู่ในนั้นแล้วก็ได้ครับ” กองทัพพูดขึ้นเพราะเห็นว่าเธอเงียบ “พวกเราขอคุยกับลูกเป็นการส่วนตัวก่อนนะจ๊ะ” บุปผาพาเดือนเมษาออกมา และซักถามว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ทำไมลูกถึงไม่ดีใจที่มีคนมาสู่ขอ “แต่งเลยลูกเขารวย” บัญชาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นขอแค่ลูกสาวสบายก็พอแล้ว จะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ขึ้นกับคนทั้งสอง “พี่เงียบเลยนะ” “แม่จ๋าหนู...” “ทะเลาะอะไรกันลูก” “เปล่าจ๊ะ” มีแต่เธอ
“ทัพพาย่ามาที่ไหน ทำไมไม่บอกอะไรย่าเลย” แจ่มศรีถูกหลานชายสุดที่รักพาขึ้นรถมาในเช้าตรู่มุ่งหน้าออกต่างจังหวัด “ใกล้ถึงแล้วครับ” แล้วดูจีพีเอสซึ่งมองออกไปมีแต่ทุ่งนาและป่ามีหมูบ้านเล็กๆ อยู่ไม่ถึงร้อยหลังเขาไม่รู้ว่าหลังไหนเป็นบ้านของเดือนเมษา “แล้วพาย่ามาหาใคร?” “บรรยากาศเหมือนหนังผีในละครเลยค่ะคุณย่า” บัวที่ถูกบังคับให้ตามาดูคุณย่าคุณย่าด้วย ถึงกับขนลุกเพราะตอนนี้ใกล้มืดค่ำแล้ว “ขอโทษนะครับบ้านของเมษาไปทางไหนครับ” ดีที่ยังเห็นชาวบ้านผ่านไปผ่านมา จึงพอให้ถามได้ไม่อย่างนั้นคงจะหลงทางอยู่แบบนี้ “บ้านไผ๋ละ?” (บ้านใครละ) “เดือนเมษาครับ” “อ๋อ บ้านบักบัญชาติขับตรงไปกะฮอตแล้ว” (ขับตรงไปก็ถึงแล้ว) “ขอบคุณครับ” ถึงแม้จะฟังไม่ค่อยออกเท่าไรแต่เห็นจากการชี้ก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว เขาขับตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังหนึ่ง “คุณย่ารออยู่ในรถก่อนนะครับ” “รีบมานะย่าเมื่อยมาก” เขาจะเดินลงไปถามไปใช่บ้านของเดือนเมษาไหม แต่โชคชะตาดันเข้าข้างเพราะเขาเห็นเดือนเมษากำลังทำอะไรสักอย่าง ความดีใจทำให้เข
“แค่คนคุยเหรอ” “…” ที่เขาเงียบเพราะกำลังถามใจตัวเองอยู่ว่าเขานั้นรักเดือนเมษา หรือแค่รู้สึกถูกใจแต่เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน “ถ้าไม่จริงจังเรากลับมาคบกันได้มั้ย” เธอยอมรับแบบไม่อายใครเลยว่าต้องการกลับมาคืนดีกับกองทัพ และรับไม่ได้หากเขามีคนรัก “…” “ทัพที่ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา” เธอพูดถึงเรื่องวันวาน ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ปีสามส่วนกองทัพนั้นเพิ่งเขาเรียนปีหนึ่งความรักของทั้งคู่นั้นสวยงามจนเธอถูกใจหนุ่มรุ่นพี่และเลิกรากับกองทัพไป “ผมรักน้องเขา…ผมกลับไปหาพี่ไม่ได้หรอก” เขาแกะมือของดาด้าออก และออกไปจากตรงนั้นเขาต้องรีบไปง้อเดือนเมษา และต้องรีบอธิบายให้ฟังทุกอย่าง แต่เขากลับมาสายไปเพราะเดือนเมษาเก็บกระเป๋ามุ่งหน้ากลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปแล้ว เขาตามจะตามไปแต่เพื่อนกับห้ามไว้ “ปล่อยให้น้องเขาใจเย็นก่อน” “เออ ถ้าน้องเขาใจเย็นก็จะรับสายมึงเองแหละ” ไต้ฝุ่นมองเพื่อนที่พยายามโทรหาเดือนเมษาเป็นร้อยสาย มันไม่ยอมลดละความพยายาม “พวกมึงไม่เข้าใจกู” เขาอยากอธิบายอยากคุยกับเดือนเมษาใจจะขาด หากจะตามไปที่บ้านได้เ