แสงดาวแห่งหัวใจ

แสงดาวแห่งหัวใจ

last updateLast Updated : 2025-03-07
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
5Chapters
367views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

“เรื่องอื่นฉันยอมเสียได้ แต่คนที่เป็นแสงสว่างในชีวิตฉันมาเป็นสิบปีอย่างเธอเข้ามาในชีวิตฉันแล้วคิดจะเดินจากไปง่าย ๆ ไม่มีทาง!!!”

View More

Chapter 1

Intro

“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย”

“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”

ประโยคเหล่านั้นยังคงดังก้องในหูของเธอ เลือนราง ห่างไกลราวกับเป็นอดีต แต่ในความทรงจำของน้ำหนาวมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าเท่านั้น

“พี่ทิว…”

ร่างของเด็กสาววัยสิบหกปีเปล่งเสียงเรียกอย่างยากลำบากเนื่องจาก ร่างกายเธอบอบช้ำไร้เรี่ยวแรง

ตรงหน้าคือรถเบ๊นซ์คันที่เธอเพิ่งนั่งมากับแฟนหนุ่มอยู่ในสภาพพังยับเยิน และเขายังติดอยู่ในนั้นชุดนักเรียน ม.ปลายที่ใส่มาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานของโลหิตเกือบจะทั้งตัว

นั่นคือภาพสุดท้ายที่น้ำหนาวเห็นก่อนทุกอย่างจะดับหายไปพร้อมสติของเธอ…

---หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้---

“สัญญานะ เราจะอยู่กันไปอย่างนี้นานๆ เลย” เสียงหวานใสของเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่นั่ง

อยู่ริมคลองหลังโรงเรียนข้างๆรุ่นพี่หนุ่มหน้าใสที่ตอนนี้ได้เลื่อนไปใช้สถานะ ‘แฟน’ เรียบร้อยแล้ว

“ได้สิ พี่สัญญา ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปจนแก่เลย”

คำสัญญาที่ออกจากปากทิวผู้ชายที่ซื่อสัตย์ซื่อตรงและเชื่อมั่นในรักแท้ ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันตั้งแต่วันนั้น และเด็กสาวเชื่อคำพูดของเขาตลอดมา เพราะเขาก็ไม่เคยทำให้เธอผิดหวังเลยตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงวันนี้

“ไป ! กลับบ้านกัน นี่ก็เย็นมากแล้วเดี๋ยวแม่หนาวจะว่าเอา”

“เฮ้อ พี่ทิวก็รู้ว่าแม่ไม่อยู่หรอกตอนนี้โน่นขลุกอยู่ที่บ่อนโน่นแหละ” น้ำหนาวที่ได้ยินคำว่า‘กลับบ้าน’ทำหน้ายู่ยี่ราวกับกระดาษถูกขยำเพราะเธอรู้ดีว่า กลับไปก็เจอแต่ความว่างเปล่าของบ้าน เพราะตั้งแต่เธอสอบเข้าม.1แม่ของเธอก็กลายเป็นผีพนันเต็มตัวจนเข้าขั้นวิกฤต เงินที่หามาได้จากการขายของในตลาด ก็เอาไปถลุงกับบ่อนจนหมด

จนเธอต้องออกไปทำงานพาร์ทไทม์ข้างนอก เพื่อเอาเงินที่ได้มาประทังชีวิต หญิงสาววัยเพียงสิบหกปีต้องอยู่แบบปากกัดตีนถีบไร้ซึ่งที่พึ่งพามาโดยตลอด

ชีวิตเธอเหมือนจมอยู่ในความมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่างนำทางจนกระทั่งวันนั้น วันที่ทิวาย้ายมาอยู่ข้างบ้านเธอ

เมื่อสองปีก่อน

เคร้ง ! โครม !

เด็กสาวอายุสิบสี่ปีที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน ได้ยินเสียงดังโครมครามมาจากชั้นบนของบ้านเธอรีบถอดรองเท้านักเรียนออกแล้วสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนอย่างรวดเร็ว

“แม่ แม่ทำอะไร? ห้องหนาวเละไปหมดแล้ว” น้ำหนาวที่เปิดประตูเข้าไปในห้องของตนเองก็ต้องตกใจ เมื่อสภาพห้องของเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับห้องเก็บของที่ไม่มีอะไรเป็นระเบียบเลยสักอย่าง ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่มตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเธอโดนรื้อค้นกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางจนเธอต้องรีบเข้าไปห้ามก่อนที่ห้องของเธอจะพังไปมากกว่านี้

“แม่หยุด ! จะทำอะไร”

“แกมาก็ดีแล้วนังหนาว เงินที่หาได้มันหายไปไหนหมด” น้ำรินตวาดถามลูกสาวเสียงดังลั่นเนื่องจากตอนนี้เธอกำลังเงินขาดมือ

เพราะเธอเสียพนันให้กับบ่อนจนหมดตัว

“แม่จะเอาไปทำไมอีก หนาวให้แม่ไปแล้วตั้งสองหมื่นไม่ใช่เหรอ” เด็กสาวเถียงกลับอย่างไม่พอใจ เธอสู้อุตส่าห์เอาเงินที่เธอได้จากการไปช่วยงานบ้านโน้นบ้านนี้แล้วแต่เขาจะจ้างตั้งแต่อายุสิบขวบให้แม่บังเกิดเกล้าจนหมด

ส่วนเหตุผลที่เธอยอมให้เงินก้อนนั้นไปน่ะเหรอ ก็เมื่อ ตอนนั้นพ่อเธอเสีย เพราะโดนทำร้ายจากพวกที่มาทวงหนี้ ที่แม่ เธอค้างกับบ่อนเอาไว้ แม่เธอเสียใจมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับและก็เป็นคน สัญญากับลูกสาวไว้ว่า จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งอบายมุขพวกนี้อีก

แต่คนที่เล่นพนันจนติดเป็นนิสัยอย่างน้ำรินน่ะหรือจะเลิกได้ง่าย ๆ เธอเริ่มกลับมาเล่นมันอีกครั้งโดยผลาญสมบัติเก่าของพ่อที่ทิ้งเอาไว้ให้ จนหมดตัวอย่างทุกวันนี้

“แค่สองหมื่นมันจะไปพออะไร ฉันเล่นไม่กี่ตาก็หมดแล้ว”

“เล่น ? เล่นอะไรแม่”

น้ำรินที่รู้ตัวว่าหลุดปากในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป จึงปิดปากเงียบในทันที น้ำหนาวเริ่มจับสังเกตได้ จึงรีบคว้าข้อมือมารดาเอาไว้ ก่อนส่งสายตาคาดคั้นผู้เป็นแม่

“แม่เอาเงินที่หนูให้ไปลงกับบ่อนอีกแล้วเหรอ” เด็กสาวพยายามเค้นถาม แต่ก็ได้เพียงความเงียบตอบกลับมา

“เออกูเล่นแล้วมึงจะทำไม มึงเป็นลูกกู กูเสียเวลาอุ้มท้องมึงมาตั้งเก้าเดือนพอมึงโต มึงก็ต้องเลี้ยงดูกู เพื่อเป็นการตอบแทนสิ”

“แม่ !”

“มึงไม่ต้องมาพูดมากนังหนาว เงินอยู่ไหนบอกฉันมาเร็ว!”

“หนูไม่มีให้แล้ว”เด็กสาวโกหกตาใสเพราะเธอไม่อยากให้เงินมันถูกผลาญไปโดยใช่เหตุเหมือนที่ผ่านมา

“ไม่มี หึ มึงคิดว่ากูจะเชื่อมึงเหรอห๊ะ! มึงทำงานมาก็ตั้งหลายอย่าง บอกมาเดี๋ยวนี้เอาไปซ่อนไว้ไหน”

“....”น้ำรินมองลูกสาวที่เอาแต่เงียบไม่ตอบคำถามเธอความหงุดหงิดที่มีเริ่มทีคูณเพิ่มขึ้นจนแปรเปลี่ยนเป็นความโมโห

“มึงจะไม่บอกกูใช่ไหม ได้! อีน้ำหนาว เดี๋ยวมึงเจอกู!”

น้ำรินกวาดสายตามองหาสิ่งที่พอจะใช้เป็นเครื่องมือลงโทษลูกสาวได้ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วดึงไม้แขวนเสื้อที่ทำจากอลูมิเนียมออกมาจากตู้เสื้อผ้าแล้วหวดลงที่ก้นเล็กจนคนโดนตีสะดุ้งสุดตัวด้วยความแสบที่ผิวกาย

เพี๊ยะ!!

“โอ๊ยแม่ ! หนาวเจ็บ” น้ำหนาววิ่งหนีไปรอบห้อง โดยมีผู้เป็นแม่ถือไม้แขวนเสื้อวิ่งไล่ตาม พอได้จังหวะก็รีบฟาดลงที่ก้นเล็กทันที

น้ำหนาววิ่งวนไป รอบห้องพลางเอามือลูบก้นตรงที่โดนตีในขณะที่ยังวิ่งไปเรื่อย ๆ แต่รินกลับไวกว่าเธอวิ่งตามทัน ก่อนจะคว้าแขนเล็กไว้ในมือได้สำเร็จ เธอก็จัดการฟาดก้นลูกสาวอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนเสียงสะอึกสะอื้นอันน่าสงสารของเด็กน้อยเลยสักนิด

เพี๊ยะ !

“โอ๊ย ! แม่ ฮืออออ หนาวเจ็บ”

เพี๊ยะ !

“โอ๊ย! ฮึกก หนาวไม่มีให้แม่แล้ว ฮือออ” เด็กน้อยพนมมืออ้อนวอนผู้เป็นแม่ทั้งน้ำตาจนน้ำรินชะงักการกระทำของตนเองลง

“โธ่เว้ย!” เธอสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะเหวี่ยงร่างเล็กของลูกสาวอย่างแรง จนไปชนกับตู้เสื้อผ้าที่เธอหยิบไม้แขวนออกมาเมื่อครู่

โครม !

เพล๊ง !

พอร่างของเด็กน้อยไปชนเข้ากับตู้เสื้อผ้า ผลจากแรงกระแทกก็ทำให้กระปุกออมสินเซรามิกรูปหมูที่วางอยู่บนหลังตู้หล่นลงมาแตกกระจายบนพื้นห้องพร้อมกับเงินที่อยู่ข้างในนั้น

น้ำรินลุกตาวาว เมื่อเห็นสิ่งที่ตนตามหาแทบพลิกแผ่นดินหล่นลงมากองอยู่ตรงหน้าผีพนันวัยกลางคนไม่รอช้า รีบกอบโกยเงินออมในกระปุกที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นก่อนจะวิ่งหนีออกมาโดยมีลูกสาวตัวน้อยพยายามวิ่งตามมายื้อยุดฉุดกระชากเงินก้อนนั้นจนถึงบริเวณหน้ารั้วบ้าน

ซึ่งในขณะนั้นทิวา หรือ ทิว ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ตั้งใจจะเอาแกงส้มที่แม่เขาทำมาแจกเพื่อนบ้านเพื่อผูกมิตร แต่ภาพที่เขาเห็นในตอนนั้นคือเด็กหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้ปานจะขาดใจ มือเล็กรั้งขาข้างหนึ่งของแม่ตัวเองเอาไว้ เพื่อไม่ให้ออกจากบ้าน จนกระทั่งแม่ของเธอสะบัดขาข้างที่ถูกลูกสาวจับออกไปได้สำเร็จก็รีบวิ่งออกไปนอกบ้านทันที

“แม่ ฮืออ แม่เอาเงินคืนหนาวมา ” ทิวาที่เห็นภาพอันน่าเวทนานั้นตกใจสุดขีด จึงรีบถลาเข้าไปประคองร่างเด็กสาวที่ ร้องไห้น้ำตานองหน้าขึ้นจากพื้น

“เห้ย! น้อง ๆ เป็นอะไรรึเปล่า น้อง ๆ”

และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่น้ำหนาวได้พบกับทิวาพระอาทิตย์ที่เป็นดั่งแสงสว่างเดียวในชีวิตของเธอ ทำให้ชีวิตของเด็กผู้หญิง ตัวเล็ก ๆ ได้กลับมามีสีสันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

—ที่โรงพยาบาล c —

ร่างบางบนเตียงคนไข้ในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ มือเล็กยกขึ้นแตะบริเวณที่มีผ้าก็อตสีขาวพันอยู่รอบศีรษะ

“น้ำ ….. น้ำ หนาวหิวน้ำ”เสียงของหญิงสาวดึงสติของหญิงวัยกลางคนที่นั่งอ่านนิตยาสารอยู่ตรงโซฟาให้ลุกเดินมายืนชิดขอบเตียงเพื่อสังเกตอาการของเธอ

“หนูน้ำหนาวเป็นยังไงบ้างลูก”

“ป้านภา”เด็กสาวเรียกชื่อคนที่เฝ้าไข้เธอตั้งแต่ยังไม่ฟื้น ซึ่งก็คือ นภา แม่ของทิวานั่นเอง

“หนูเจ็บตรงไหนไหมลูก ? ให้ป้าเรียกหมอให้ไหมจ๊ะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วพี่ทิวล่ะคะป้านภา?”นภาที่ถูกตั้งคำถามถึงลูกชายก็หลบสายตาหญิงสาวที่มองมา ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอาบแก้ม น้ำหนาวที่เห็นท่าทีของนภา รีบขยับตัวเข้ามากุมมือแม่แฟนไว้แล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พะ… พี่ทิวไม่… ปะ… เป็นอะไรใช่ไหมจ๊ะ ป้านภา”มือเล็กที่กุมมือนแม่ของแฟนหนุ่มเริ่มสั่นเทาเมื่อนภาเริ่มร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม

“ทิว….ขะ…. เขา… เขาเสียแล้วจ้ะ ”

คำตอบของคนตรงหน้าทำเอาดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอออกมา เธอดีดร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงดีลงจากเตียงคนไข้มือซ้ายแกะสายน้ำเกลือออกอย่างรวดเร็ว ก่อนลากสังขารเดินออกจากห้องผู้ป่วยด้วยความทุลักทุเล

“หนูน้ำหนาวลูก ใจเย็น ๆ ก่อนลูก”

นภาพยายามตะโกนบอกเด็กสาวคราวลูกให้หล่อนสงบสติอารมณ์ แต่เธอยังคงวิ่งเหลียวซ้ายแลขวาไปมาคนตัวเล็กวิ่งฝ่าเหล่าพยาบาลและผู้ป่วยมากมายในบริเวณนั้นอย่างไม่คิดชีวิต โดยไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของนภาที่ดังตามหลังมาพร้อมกับวิ่งตามเธอมาด้วยความเหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย

“น้ำหนาวหนูจะไปไหน กลับมาก่อนลูก”

สาวน้อยหน้าหวานวิ่งไปจนกระทั่งเจอกับป้ายบอกทางป้ายบอกทางที่มีตัวหนังสือเขียนแปะไว้ว่า ‘ทางไปห้องดับจิต’

คนตัวเล็กวิ่งพุ่งตรงไปหน้าห้องอย่างไม่รีรอพร้อมดันประตูเข้าไปก่อนกวาดสายตาหาร่างของทิวาทั่วห้อง จนกระทั่งสายตามองไปเห็นแขนของศพ ๆ หนึ่งที่มีสร้อยข้อมือเชือกถักสีดำสวมอยู่ เธอค่อย ๆ เดินไปตรงที่เตียง ๆ นั้นช้า ๆ ซึ่งบนเตียงมีร่างที่ถูกคลุมด้วยผ้าดิบสีขาวผืนใหม่เอี่ยมคลุมปิดหน้าตาอยู่

หญิงสาวค่อย ๆ เปิดผ้านั้นออก ก่อนจะพุ่งเข้าไปสวมกอด ร่างไร้ลมหายใจของทิวาด้วยความรักสุดหัวใจ

“ฮึกกก พี่ทิวหนาวขอโทษนะ ฮึกกก เป็นเพราะหนาวแท้ ๆ เลยที่ทำให้พี่ต้องมาตายแบบนี้” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นเนื้อตัวสั่นเทาน้ำหูน้ำตาไหลทะลักราวกับเขื่อนแตก

“ป้านภาฮึกก หนาวขอโทษนะจ๊ะที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หนาวมันไม่ดีเอง ฮืออ หนา..”

“หนูน้ำหนาว หนูฟังป้านะลูก” นภาที่เห็นว่าเด็กสาวร้องไห้ตัวสั่นกำลังจะคุกเข่าลงกราบเท้าเธอ จึงรีบประคองร่างหล่อนขึ้นมาพร้อมกับใช้มือหยาบลูบศีรษะเล็กก่อนพูดต่อ

“มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นป้าไม่โทษหนูและป้าก็เชื่อว่าตาทิวก็ไม่โทษหนูเหมือนกันเชื่อป้านะลูกนะ” นภาเช็ดน้ำตาให้น้ำหนาว แล้วดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้แนบอกเพื่อปลอบโยนเสมือนกับเธอคือลูกสาวแท้ ๆ คนหนึ่ง

หลังจากประสบอุบัติเหตุในคราวนั้นทิวาก็เสียชีวิตลง ด้วยภาวะสมองตาย นภาจึงทำเรื่องบริจาคอวัยวะของลูกชายให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อต่อชีวิตผู้ป่วยคนอื่น ๆ ตามความตั้งใจของเขาที่แสดงเจตจำนงไว้หลังจากสอบติดคณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และถ้าข่าวที่เธอได้ยินมาไม่ผิดทาง โรงพยาบาลได้ทำการปลูกถ่ายหัวใจให้กับผู้ป่วยอีกรายเรียบร้อยแล้ว

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยนภาก็จัดการนำร่างของทิวาไปบำเพ็ญกุศลตามหลักพระพุทธศาสนาที่วัดแถวบ้านอยู่สามวันสามคืนโดยมีน้ำหนาวอยู่ช่วยงานจนถึงวันเผา

หญิงสาวจมอยู่กับความโศกเศร้าอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจลุกขึ้นมาเข้มแข็งอีกครั้งและตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับอดีตแฟนหนุ่มให้ได้ อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้กับคนที่เธอรักมากขึ้นอีกก้าวหนึ่ง

และแล้วเธอก็ทำได้ดังหวัง หญิงสาวสอบเข้าคณะบริหารของที่นั่นได้สำเร็จ ชีวิตใหม่ของเธอจึงได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
5 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status