เมื่อทุกคนเข้ามาในบ้าน เมิ่งหลิงและหรูจื่อที่ยังอยู่ในครัวรีบเดินออกมาดู พอเห็นจ้าวเหยาและครอบครัวแปลกหน้าเข้ามาด้วยกัน ทั้งสองคนก็มีสีหน้าประหลาดใจ
“อาเหยา นี่ใครกันเหรอ?” เมิ่งหลิงถามอย่างสงสัยพลางพิจารณาแขกทุกคนไปในตัวด้วยท่าทีระมัดระวัง
จ้าวเหยาเหลือบมองครอบครัวของตัวเองก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“แม่คะ นี่คือพ่อ แม่ แล้วก็พี่ชายของฉันค่ะ...พวกเขาตามหาฉันมานานแล้ว”
คำพูดนั้นทำให้หรูจื่อกับเมิ่งหลิงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่เมิ่งหลิงจะยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
“ถ้าอย่างงั้นก็ดี เรื่องนี้น่ายินดีจริง ๆ ครอบครัวได้พบกันอีกครั้งนับว่าเป็นพรอันประเสริฐ ทุกคนเชิญนั่งก่อนนะคะ ฉันจะไปต้มชาอุ่นมาให้” เมิ่งหลิงรีบต้อนรับขับสู้อย่างกระตือรือร้น
แม่จ้าวมองบ้านเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น เธอพูดออกมาอย่างซาบซึ้ง
“อย่าเกรงใจเลยค่ะ พวกเรามาสนทนากันดีกว่า คุณคงจะเป็นแม่สามีของเหยาเหยาใช่ไหมคะ ฉันดีใจเหลือเกินที่คุณเมตตาเธอและเมื่อฉันได้เห็นว่าลูกสาวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่นี่ฉันก็ดีใจมาก”
เมิ่งหลิงยิ้มรับด้วยความสุภาพก่อนจะตอบกลับเธอด
ค่ำคืนนั้นครอบครัวจ้าวทั้งหมดมารวมตัวกันที่สถานีรถไฟปักกิ่ง บรรยากาศคึกคักของผู้โดยสารที่กำลังเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ เติมเต็มสถานีให้มีชีวิตชีวาจ้าวเซิงเดินนำหน้า เขาถือกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ ขณะที่หลิวเหวยจินและจ้าวเหยาต่างช่วยกันดูแลของใช้ที่จำเป็นเมื่อถึงเวลา รถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา เสียงล้อเหล็กบดกับรางดังก้อง ครอบครัวทั้งหมดนั่งรวมกันในโบกี้ชั้นสอง หลิวเหวยจินมองออกไปนอกหน้าต่างสายตาเต็มไปด้วยความหวังและความกังวล“ถ้าเธอเป็นลูกของเรา... ฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องเผชิญความทุกข์ยากอีกต่อไป” หลิวเหวยจินพูดพึมพำกับตัวเอง“จิน เธอจะไม่ต้องทำสิ่งนี้คนเดียว พวกเราจะทำมันด้วยกัน” จ้าวเซิงพูดพร้อมกับจับมือเธอเอาไว้แน่นจ้าวเหยามองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย แต่ก็รู้สึกยินดีที่ครอบครัวของพี่ชายกำลังจะได้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้งยามเช้าเมื่อแสงอาทิตย์แรกของวันสาดส่อง รถไฟมาถึงจุดหมายในที่สุด เสียงหวูดดังบอกให้ทุกคนเตรียมตัวลงจากขบวน หลิวเหวยจินสูดลมหายใจลึกเธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและกังวลในเวลาเดียวกันจ้าวเซิงยกกระเป๋าขึ้นบ่าก่อนจะหันมองภรรย
รถไฟแล่นผ่านทิวเขาและแม่น้ำ เสียงล้อเหล็กบดไปบนรางดังก้องเข้ากับจังหวะหัวใจของผู้โดยสาร อ้ายอ้ายชี้ไปยังภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกเบาบางพร้อมกับพูดขึ้นให้ฟางหนิงฟังด้วยความชื่นชมทิวทัศน์ตรงหน้า“ดูสิ เหมือนในภาพวาดเลย!”ฟางหนิงพยักหน้า “ใช่เลย เหมือนมาก”เสียงหัวเราะพูดคุยของเด็ก ๆ ดังขึ้นเนื่องจากการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาต่างมณฑล และในที่สุดการเดินทางยาวนานหลายชั่วโมงก็สิ้นสุดลงในช่วงเช้ามืดของวันใหม่รถไฟหยุดลงที่สถานีใหญ่ในเฉินตู เสียงประกาศดังก้องไปทั่วสถานีพร้อมกับเสียงผู้คนที่เร่งรีบเดินไปมาด้วยจุดหมายปลายทางของตัวเอง ครูจิงหยุนฉิงนำเด็ก ๆ ลงจากขบวนรถไฟ ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความตื่นเต้นและความพร้อม“เด็ก ๆ ระวังอย่าแยกกลุ่มนะ ไปเก็บของที่โรงแรมก่อนแล้วพวกเราจะไปสนามแข่ง” ครูจิงหยุนฉิงพูดขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกเด็ก ๆ ให้เดินตามอ้ายอ้ายหันมองรอบตัว เธอรู้สึกทึ่งกับเมืองเฉินตูที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตึกสูงทันสมัยตั้งตระหง่านคู่กับอาคารเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนดั้งเดิมท้องถนนคลาคล่ำไปด้วยรถราที่วิ่งสวนกันไปมา ผู้คนสวมเสื
อ้ายอ้ายที่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปิดภาคการศึกษา เธอไม่เคยหยุดนิ่งต่อการทำนู่นนี่นั่นซึ่งภาพเหล่านี้พ่อจ้าวแม่จ้าวมักจะเห็นจนเริ่มชินตา“อ้ายอ้ายนั่นหลานจะไปไหนหรือลูก” แม่จ้าวถามขึ้นเมื่อเห็นหลานสาวขึ้นค่อมจักรยานและกำลังจะปั่นออกไปข้างนอก“เธอบอกว่าจะไปหาอาหย่งที่โรงงานแปรรูปการเกษตรที่เขาเพิ่งจะเข้ามาดูแลเมื่อไม่นาน” เมิ่งหลิงเป็นคนตอบแทนหลานสาวที่กำลังหันมาโบกมือให้ผู้สูงวัยทั้งสามคนด้วยรอยยิ้มอันเจิดจ้า“หนูไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับค่ะ” เจ้าตัวกล่าวจบก็ปั่นจักรยานออกจากบ้านเมิ่งหลิงมองตามหลานสาวไปด้วยรอยยิ้มบาง ก่อนจะหันกลับมามองพ่อจ้าวแม่จ้าว“อ้ายอ้ายเธอเป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นค่ะ ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็ตั้งใจทำเต็มที่”แม่จ้าวพยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “ฉันเห็นด้วยกับคุณค่ะ เด็กคนนี้ไม่เคยอยู่เฉยเลย เธอเหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคนในบ้านด้วย”พ่อจ้าวหัวเราะอย่างเห็นพ้อง “จริง ลูกสาวของเซิงกับจินไม่ธรรมดาเลย โตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะเจอเรื่องร้ายแรงในอดีตแต่เธอกลับเติบโตขึ้นมาได้ดี เรื่องนี้ผมต้องขอบคุณสหายเมิ่
จ้าวเซิงสบตากับหลิวเหวยจินครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจลึก ใบหน้าของเขาฉายแววรู้สึกผิดอย่างชัดเจน เขาค่อย ๆ หันกลับมามองอ้ายอ้าย เด็กหญิงที่นั่งรอคำตอบด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความสงสัยระคนใคร่รู้“อ้ายอ้าย...” น้ำเสียงของจ้าวเซิงเริ่มต้นด้วยความยากลำบากใจ“พ่ออยากจะขอโทษลูกจากหัวใจจริง ๆ พ่อรู้ว่าลูกต้องเจ็บปวดและสับสน แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะพ่อกับแม่ไม่รักลูก” เขาหยุดไปครู่หนึ่งเพื่อรวบรวมความกล้า“ตอนที่ลูกเกิด พ่อไม่คิดว่าจะมีคนทำร้ายลูกรวมถึงครอบครัวของเราจากความหวังดี” จ้าวเซิงพูดเสียงเบาขณะที่หลิวเหวยจินซับน้ำตาและพยักหน้าเสริม“แม่ไม่คิดว่าเพราะความอิจฉาของผู้หญิงคนหนึ่งจะทำร้ายลูกและครอบครัวของเราได้มากถึงเพียงนี้แม้ว่าอ้ายอ้ายจะเห็นใจพวกเขาทว่าความจริงที่ไม่อาจละเลยนั่นก็คือเด็กคนนี้ซึ่งเป็นเจ้าของร่างเดิมได้ตายจากพวกเขาสองคนไปแล้วแม้ว่าเธอจะมาอาศัยอยู่กระนั้นเธอก็อยากรู้เรื่องให้กระจ่างจ้าวเซิงหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนจะเล่าความจริงออกมา “ผู้หญิงคนหนึ่ง... คนที่พ่อเคยช่วยเหลือในอดีต เธอหลงรักพ่อและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้พ่อมา แต่พ่อไม่
หลิวเหวยจินที่ยืนอยู่ข้างจ้าวเซิงมองภาพครอบครัวหรูด้วยรอยยิ้มอบอุ่นในดวงตา เธอสัมผัสได้ถึงความรักและความผูกพันที่ครอบครัวนี้มีให้กันหญิงสาวไม่สามารถหยุดความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นได้ ขณะนั้นเองอ้ายอ้ายที่เพิ่งผละจากอ้อมกอดของแม่ก็หันมามองหลิวเหวยจินด้วยความสงสัยเจ้านาย คุณกับผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างเหมือนกัน จะให้ผมตรวจสอบดูไหมครับ จู่ ๆ เสียงของเป๋าเอ๋อร์ก็ดังขึ้นนายคิดว่าเธอคนนี้จะเป็นแม่ของฉันอย่างนั้นเหรอ อ้ายอ้ายบอกไม่ถูกว่าเธอรู้สึกเช่นไรทั้งนี้เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าเธอเป็นอะไรและเป็นใครแต่จะให้เธอปฏิเสธถ้าผู้หญิงกับจ้าวเซิงเป็นพ่อแม่ก็คงจะไม่ได้อีกเหมือนกันเพราะดูจากสีหน้าของพวกเขา เธอสามารถบอกได้ว่าคนทั้งสองนั้นย่อมรักลูกของตัวเองมากผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก แต่เจ้านายทั้งหมดทั้งมวลล้วนขึ้นอยู่กับคุณว่าจะยอมรับหรือเปล่า เป๋าเอ๋อร์เองก็เข้าใจถึงเรื่องราวนี้ดีฉันไม่รู้ นี่เป็นครั้งแรกที่หรูฟู่ซิงรู้สึกอับจนหนทาง เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร แม้ว่าเธอจะยึดครองร่างนี้มาหลายปีแต่เธอก็รู
คล้อยหลังจ้าวเซิงเดินออกไป บรรยากาศในห้องพลันตกอยู่ในความเงียบ จ้าวเหยาเอามือกุมกันแน่น เธอเหลือบมองพ่อแม่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามใบหน้าของแม่จ้าวดูสับสนปนด้วยความหวัง ขณะที่พ่อจ้าวยังคงนิ่งเงียบแต่แววตาฉายชัดถึงความกังวลบางอย่าง“พ่อกับแม่คิดว่ายังไงคะ?” จ้าวเหยาถามเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจจ้าวเจี้ยนถอนหายใจยาวก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ถ้าอ้ายอ้ายเป็นหลานของเรา...พ่อก็ดีใจที่เธอยังปลอดภัย แต่พ่อก็สงสารลูก พวกเธอผ่านอะไรมามากเกินไป”“แม่เองก็คิดแบบนั้น” แม่จ้าวเสริมน้ำเสียงสั่นเครือ “เหยาเหยา ถ้าทุกอย่างเป็นจริง อ้ายอ้ายจะต้องดีใจที่รู้ว่าเธอไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ลูกอย่ากังวลไปเลยนะไม่ว่าผลจะเป็นยังไงเราก็ยังจะรักเธอเหมือนเดิม”จ้าวเหยาพยักหน้าน้ำตาคลอเบ้า เธอรู้สึกซาบซึ้งในความรักและความอบอุ่นของพ่อแม่“แม่คะ พ่อคะ ขอบคุณมากค่ะ หนูเองก็หวังว่าอ้ายอ้ายจะได้รับความรักจากทุกคนในครอบครัวนี้เพราะเธอเป็นเด็กดีมาก อีกอย่างนับตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ในครอบครัวของเราบ้านของเราก็มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามา อย่างขาของสามีฉันก็หายดีจนตอนนี้แทบจะมอง