ในขณะที่รถเคลื่อนตัว ในหัวของชายหนุ่ม ก็คิดไปต่าง ๆ นานา หลายครั้งที่ดวงตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นตาสีดำเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวของนายหญิง มีหลายส่วนบนใบหน้าที่คล้ายกัน แต่นายหญิงสวยกว่า ในขณะที่ คนน้องดูจืดชืดไปนิด แต่ก็พอไปวัดไปวาได้
เธอคนนี้น่ะหรือ... ที่กล้าปฏิเสธคุณเผ่าของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ขนาดรวยล้นฟ้าอย่างพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร เธอยังกล้าปฏิเสธ ถ้าเป็นเด็กกำพร้าอย่างเขา คงถูกมองไม่ต่างจากไส้เดือนกิ้งกือแน่นอน
“อีกนานไหมคะกว่าจะถึงไร่แสงตะวัน” ถามด้วยความอยากรู้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอไปไร่แสงตะวัน ครั้งหนึ่งเธอเคยมาเชียงราย แต่นั่นมันก็นานมากแล้ว และก็ไม่ได้ไปที่ไร่แสงตะวัน เพราะเผ่าเพชรรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ใบหน้าพ่อแม่และพี่สาวลอยเข้ามาในหัว จะเป็นไงนะถ้าพวกท่านเห็นเธอวันนี้
“อีกพักใหญ่ ๆ ฝนตกหนักถนนลื่น ขับเร็วไม่ได้”
ลันลดาพยักหน้าเข้าใจ เมื่อคนขับรถตอบมาแบบนี้
“ทำไมไม่ให้รถที่ไร่มารับ”
อาคมถามกลับ อันที่จริงเรื่องที่เธอนั่งรถทัวร์มาเชียงราย เขาก็ไม่รู้มาก่อน แต่บังเอิญว่าลูกน้องเขาดันตาดีเห็นเธอเข้า จึงมารายงานให้เขาทราบ ลูกน้องเขาคงจำหน้าเธอได้ คงเคยเห็นรูปเธอตอนที่เขาติดต่อกับคุณประกรเมื่อหลายเดือนก่อนนั่นเอง
“หนูจะทำเซอร์ไพรส์คนที่นั่นน่ะพี่ค่ะ เอาให้ช็อกกันไปเลย”
ลันลดาหันมาตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง รู้สึกภูมิใจกับการกระทำของตัวเอง
“มีญาติอยู่นั่นเหรอ ดูแล้วเราไม่ใช่คนที่นี่นะ” อาคมยังคงถามต่อ
“พี่ฟังแล้วจะอึ้ง พี่เชื่อไหมว่าหนูน่ะคือเจ้าของไร่แสงตะวัน ตัวจริง”
เอี๊ยด!!
สิ้นเสียงอวดอ้าง เท้าหนาก็กระทืบลงไปบนเบรกเต็มแรง ถึงแม้รถจะขับมาไม่เร็วนัก แต่ก็ทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ หัวคะมำ ดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงเจ็บมากกว่านี้
ลันลดาตกใจที่อยู่ ๆ รถก็เบรกกะทันหัน ผิดกับอาคมที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา พูดแบบนี้หมายความว่าไง อย่าบอกนะว่ายายนี่จะมาเรียกร้องสิทธิ์ที่เคยเป็นของตัวเอง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงยอมไม่ได้ นายหญิงจะเสียใจแค่ไหน กำลังท้องอยู่ด้วย พ่อแม่ก็ยิ่งรักลูกลำเอียงอยู่ ถ้าเกิดนายหญิงเสียใจแล้วหนีไปอีก คุณเผ่าจะเป็นยังไง ยิ่งคิดยิ่งโมโห มือแกร่งเผลอกำพวงมาลัยจนเส้นเลือดปูดโปน
“พี่คะ... เป็นอะไรหรือเปล่า”
คำถามที่ลอยมาเข้าหูทำให้อาคมได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาพยายามปรับให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะตอบคำถามของเธอ
“โทษที ตัวแรด! มันวิ่งตัดหน้าน่ะ เลยเหยียบเบรกแรงไปหน่อย เป็นอะไรไหม”
“อ้อ... ไม่เป็นไรค่ะ เราชนมันหรือเปล่า” ถึงแม้จะตะขิดตะขวงใจ แต่ลันลดาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน บางทีตัวที่เขาว่าอาจจะวิ่งตัดหน้าจริง ๆ เธออาจจะมองไม่เห็นก็ได้
“ไม่ชน โชคดีที่เบรกทัน ว่าแต่เมื่อกี้เราจะพูดอะไรนะ” อาคมถามต่อ เมื่อปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“อ้อ... คือหนูจะบอกว่า...”
ครืด ๆ ๆ ๆ
คำพูดของลันลดาค้างไว้แค่นั้นเมื่อมือถือของคนที่นั่งข้าง ๆ สั่นขึ้นขัดจังหวะ อาคมหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะวางลงที่เก่าเมื่อเห็นเบอร์ปลายสาย เผ่าเพชรคงจะถามเรื่องที่ประชุมวันนี้ อันที่จริงเขาส่งอีเมลสรุปการประชุมไปให้แล้ว สงสัยเจ้านายยังไม่ได้เปิดดู การสนทนาต้องจบลงเมื่อฝนเทกระหน่ำลงมาอีกและครั้งนี้ก็หนาเม็ดจนมองแทบ ไม่เห็นทาง
“ต้องหาที่จอดก่อน ไปต่อไม่ได้ ถนนลื่น ถ้าไปต่อกลัวจะเกิดอันตราย” อาคมหันมาบอกผู้โดยสารที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้าง ๆ เขาเป็นคนพื้นที่และชินทางก็จริง แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง
ลันลดาไม่พูดอะไร ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีก เมื่อได้ยินคำว่าไปต่อไม่ได้ ต้องรอให้ฝนหยุดก่อน แขนเรียวพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู รู้สึกโล่งใจเพราะตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงเย็น ยังไม่มืดก็ยังมีเวลา
“ที่นี่ก็แบบนี้ ฝนตกเกือบทุกวัน” เสียงแหบห้าวบอก เมื่อเห็นเธอเอาแต่มองไปที่หน้ารถ
“ฝนตกทุกวันแบบนี้ คนที่นี่คงทำมาหากินลำบากนะคะ”
ลันลดาตอบกลับ เมื่อชายหนุ่มชวนคุย
“ไม่หรอก เขาชินกันแล้ว มันเป็นช่วง ๆ น่ะ เขาก็ต้องปรับตัว ว่าแต่เราจะไปที่แสงตะวันทำไมนะ” อาคมวกกลับมาที่เรื่องเดิม เพราะยังไม่ได้คำตอบจากเธอ
“ไปหาพ่อแม่แล้วก็พี่สาวค่ะ พี่สาวหนูได้สามีอยู่ที่นั่น”
“อายุเท่าไรแล้วเราน่ะ” อาคมถาม เพราะเริ่มสะดุดหูกับคำว่าหนูของเธอ
“ปีนี้ก็ย่างยี่สิบสองแล้วค่ะ”
“เรียนหรือทำงาน”
“เรียนค่ะแต่จบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงพักผ่อน หนูรอไปเรียนต่อปริญญาโท” หญิงสาวตอบอย่างภาคภูมิใจ เมื่อนึกถึงความสำเร็จของตัวเอง
“อืม” อาคมรับคำสั้น ๆ ยายนี่อายุยี่สิบสอง... เท่ากับว่าเด็กกว่าเขาเจ็ดปี เพราะปีนี้เขาย่างยี่สิบเก้าแล้ว
“ที่คุยค้างไว้ เราบอกว่าเป็นเจ้าของไร่แสงตะวัน ยังไงเหรอ”
“อ้อ... คือจริง ๆ แล้วหนูเป็นคู่หมั้นของคุณเผ่าเพชร เจ้าของไร่น่ะค่ะ แต่พ่อกับแม่เห็นว่าหนูยังเด็ก เลยส่งพี่สาวมาแต่งงานแทน ฟังดูเหมือนนิยายไหมคะ แต่ก็เรื่องจริงแหละ ถ้าหนูรู้สักนิดว่าพ่อเลี้ยงเผ่าเพชรรวยขนาดนี้ หนูมาแต่งเองแล้ว” ลันลดาพูดไปเรื่อย แต่ท้ายประโยคเธอตั้งใจพูดเล่นเสียมากกว่า
หญิงสาวไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่นั่งข้าง ๆ คิดตามคำพูดเธอทุกคำ กรามแกร่งบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่ตาเห็น เพราะในใจของเธอก็ยังหวังที่จะได้เป็นเจ้าของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ไม่อย่างนั้นคงไม่มาคุยหรอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของแสงตะวันตัวจริง
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ขับรถฝ่าสายฝนออกไป เขาจะปล่อยให้เธอไปถึงไร่แสงตะวันไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะพ่อเลี้ยงกับนายหญิงกำลังมีความสุข ไหนจะนายน้อยที่อยู่ในท้องอีก คงไม่ดีแน่ถ้ายายนี่จะโผล่ไป ถึงเธอจะทำเหมือนไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว แต่ครอบครัวนี้ไม่ปกติ พ่อแม่รักลูกลำเอียงจนน่าเกลียด เกิดยายบ้านี่ร้องอยากได้คุณเผ่าขึ้นมา แล้วพ่อแม่บ้าจี้ตาม นายหญิงคงต้องเสียใจอีกแน่นอน
รถทั้งคันเงียบสนิท เมื่อคนขับต้องใช้สมาธิในการขับ ใบหน้าสวยหันไปมองซีกหน้าคมคาย ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้เขา เมื่อคิดว่าเขากำลังทำเพื่อเธอ รีบขับฝ่าสายฝนเพื่อที่เธอจะได้ไปถึงไร่แสงตะวัน เร็ว ๆ
‘พี่ปอขา ป่านคิดถึงพี่ปอ ป่านมีเรื่องจะคุยกับพี่ปอตั้งหลายเรื่อง ป่านอยากจะบอกพี่ปอว่าป่านรักพี่ปอที่สุดเลย’
คำพูดเหล่านี้ถูกคิดวนไปมาในหัว เมื่อลันลดากำลังหาคำพูดที่ดีที่สุดไปบอกกับพี่สาว เธออยากขอบคุณลลนาที่เสียสละมาแต่งงานแทนเธอ
สนามบินเชียงรายร่างบางลากกระเป๋าเดินทางยืนมองซ้ายมองขวา เมื่อยังไม่เห็นคนที่นัดหมายว่าจะมารับ ตามกลมโตภายใต้กรอบแว่นตาดำหยีลงเล็กน้อย เมื่อเดินออกมาเจอกับแสงแดดที่ร้อนจัดในเดือนมีนาคมมือบางหยิบหมวกในกระเป๋าขึ้นมาสวม เมื่อคิดว่าตัวเองน่าจะต้องเดินฝ่าแดดไปขึ้นรถสักคัน เพราะดูแล้วยังไร้เงาคนที่อาสามารับ มือบางกดมือถือ เมื่อไม่มีการตอบรับจึงยัดมันลงกระเป๋าตามเดิม“อยู่ไหนนะเฮีย”เหงื่อที่ไหลมาตามเนื้อตัว เริ่มทำให้หญิงสาวหงุดหงิด เพราะ ไม่ชินกับอากาศส่วนหนึ่ง อีกส่วนน่าจะมาจากความโมโหที่ค่อย ๆ ปะทุขึ้น ไหนอาคมบอกว่าจะมารอเธอ นี่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วยัง ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา “รอใครอยู่หรือเปล่าครับ”เสียงนุ่มทุ้มหูที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก สองปีแล้วที่เธอไม่ได้ยินเสียงนี้ในระยะใกล้ชิดแบบนี้ ร่างบางหันหลังกลับ ตากลมโตเบิกขึ้ เมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิวเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นการแต่งตัวของเขา อาคมยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง เมื่อถูกเธอจ้องมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด“เฮียแค่อยากเซอร์ไพรส์หนู”“ค่ะ”ลันลดารับคำอย่างมึนงง มองคนรักที่ใส่
หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ เมื่ออาคมยังยืนยันการกระทำของตัวเอง จมูกโด่งเป็นสันก้มลงมาหาแก้มนวล จูบซับความหอม ก่อนจะเลื่อนมาหาริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เขาเฝ้าฝันหาตากลมโตเบิกขึ้นเมื่อปากหยักประทับลงมาบนเรียวปากของเธอ ก่อนจะบดจูบไปจนทั่ว ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วผิวกาย แล้วไปก่อตัวอยู่ในหัวใจ หญิงสาวปล่อยใจไปกับเขา มือบางโอบรอบคอแกร่ง เมื่อจูบของอาคมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สัมผัสที่อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้ามาดูดดึงควานหาความหวานในปากอิ่ม มือหนาที่กอดรัดเอวคอดในตอนแรก ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบอบบาง ลันลดาหอมหวานจนเขาห้ามใจไม่ไหว จากที่ตั้งใจจะขอจูบเพื่อมัดจำ แต่ตอนนี้อาคมไม่แน่ใจแล้วว่า จะหยุดได้หรือไม่ เมื่อเธอหอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว กำปั้นน้อย ๆ ทุบลงบนอกกว้าง เมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ปากร้อนถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง ตาคู่คมมองลงไปในตาคู่สวย ก่อนจะจูบหนัก ๆ ลงมาบนริมฝีปากสีชมพูที่เจ่อขึ้นอีกครั้ง“เฮียขอโทษ” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู เมื่อเห็นแววตา ตื่นตกใจในดวงตาของเธอ“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับ ก่อนจะซบหน้าลงบนอกกว้าง เมื่อถูกคว
“คุณ!! ปล่อยนะ!” ร่างบางดิ้นหนี เมื่อถูกกอดรัดจากด้านหลัง มือเรียวแกะแขนเขาออกจากเอว รู้สึกโมโหและเขินอาย ในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้ “ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย” ลันลดาขู่“ไม่ปล่อยครับ เฮียจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง”อาคมตอบกลับ พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น มีแรงดิ้นก็ดิ้นไปเขาจะรัดเธอไว้อย่างนี้ “คุยอะไรคะ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ปล่อย!” บอกอย่างแสนงอนเมื่ออยู่ ๆ ก็น้อยใจเขาขึ้นมา“ป่านจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้เหรอครับ”อาคมตัดสินใจถามคำถาม แต่มันกลับให้เธอดิ้นมากขึ้น เขาไม่เคยสนใจเรื่องเธอเลยสักนิด ลันลดาคิดในใจ“ค่ะ”ลันลดาตอบกลับ เธอแน่ใจว่าพูดเรื่องนี้กับลลนาแค่คนเดียว เขารู้ได้ยังไง ความลับไม่มีในโลก คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงอาคมสูดลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของคนในอ้อมแขน เข้าจนเต็มปอด ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของเขายืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาชอบเธอไม่สิ... อันที่จริงต้องบอกว่ามากกว่าชอบ เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้ว สาเหตุที่เขาไปขโมยตัวเธอมา ส่วนหนึ่งเพื่อนายหญิง แต่อีกส่วนก็เพื่อตัวเองเขาเฝ้
เผ่าเพชรกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อต้องเอ่ยขออนุญาตบางอย่างจากภรรยา งานนี้ถ้าเขาไม่ออกหน้า คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือเขา ที่ไม่สามารถช่วยอะไรอาคมได้ “ทำไมต้องเข้าไปในห้องด้วยคะ เรียกยายป่านออกมาข้างนอก ก็น่าจะพอ”ลลนาเสียงเขียวเมื่อได้ยินสิ่งที่สามีขอร้องให้เธอช่วย ให้อาคมไปคุยกับลันลดาในห้องนอน หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอม นั่นน้องสาวเธอทั้งคน เผ่าเพชรคิดอะไรอยู่ จะให้ผู้ชายเข้าหาน้องเธอเนี่ยนะ เขาบ้าไปแล้ว“ปอจ๋า...”“ไม่ค่ะ! ปอไม่อนุญาต”คำพูดที่ค้างไว้ของเผ่าเพชรถูกกลืนลงคอ เมื่อลลนาปฏิเสธข้อเสนอของเขา “ปอจะไปเรียกยายป่านให้ก็แล้วกัน” เมื่อเห็นหน้าสามีซีดลง ลลนาก็นึกสงสาร “ขอบคุณนะครับ”อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส อันที่จริงเผ่าเพชรก็คิดเอาไว้แล้วว่าลลนาจะต้องตอบกลับมาแบบนี้ แต่เขาก็อยากเสี่ยง“พี่อยากให้เขาสองคนได้คุยกัน เราไม่รู้ว่าสองคนนั่นไปถึงไหนกันแล้ว พี่แค่มาขอโอกาสให้ไอ้คมมัน ถ้าปอไม่อนุญาต ก็ไม่เป็นไรครับ” เผ่าเพชรตอบเสียงเศร้า พยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด เผื่อลลนาจะเปลี่ยนใจ“เดี๋ยวปอตามป่านให้ค่ะ”ลลนาตัดบทก่อนจะลุกเดินออกไป เธอเข้าใจว่าเผ่าเพชรหวังดีกับอาคม แต่ลันลดาเป็
“เมื่อกี้คุณเผ่าพูดอะไรนะครับ!”อาคมถามอีกครั้ง เมื่อได้ยินไม่ถนัด“กูบอกว่า พรุ่งนี้ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว!”แทนที่เผ่าเพชรจะตอบคำถามดี ๆ แต่เขากลับตะโกนขึ้นมาสุดเสียง อาคมหน้าตึงเมื่อเจ้านายยังแกล้งไม่เลิก “กลับกรุงเทพฯ กลับยังไงครับ แล้วทำไมรีบกลับ ไหนคุณเผ่าว่าจะให้เธออยู่ก่อนไงครับ แล้ว...”คำถามที่เหลือค้างอยู่ที่ปากเมื่อเผ่าเพชรขัดขึ้น พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน ที่เล่นงานคนปากแข็งได้สำเร็จ“ไหนว่าไม่สนใจ ถามมาเป็นชุดเลยนะมึง ไม่บอกโว้ย! อยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเอาเอง” เผ่าเพชรเล่นตัว เมื่อมากระตุ้นต่อมความอยากรู้ของลูกน้องได้สำเร็จ“โธ่... คุณเผ่า ช่วยเล่าหน่อยนะครับ”อาคมแค่นเผ่าเพชร ไหน ๆ ก็เป็นคนเอาเรื่องนี้มาบอกแล้วก็ขยายความให้เขาอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป“นะครับ นะ ถือว่าเอาบุญก็ได้”“รู้ไหมว่าตอนนี้มึงทำตัวได้ทุเรศแค่ไหน ทำไมวะคม การที่มึงชอบคนคนหนึ่งแต่ไม่บอกเขานี่ มึงคิดว่าหล่อเหรอ กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ากูเป็นมึง กูจะบอกให้ป่านรู้”“คุณเผ่าก็พูดได้สิครับ ไม่ได้มาเป็นผม ไม่รู้หรอก”“นั่นไง กูถึงได้บอก ถ้ากูเป็นมึงกูจะบอกให้เขารู้”เผ่าเพชรพูดพร้อมกับจ้องหน้
“เป็นไงบ้างจ๊ะป่าน เหนื่อยไหม”ลลนาเดินมารับน้อง เมื่อรถยนต์จากโรงแรมแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เผ่าเพชรสั่งให้ลูกน้องฝีมือดีอยู่กับอาคมชุดใหญ่ เธอจึงยอมกลับมารอน้องที่ไร่ ลันลดาอยากจะกลอกตา พี่สาวของเธอก็เป็นไป กับเขาด้วยอีกคน อยากจะจับคู่ให้เธอกับอาคมอย่างนั้นเหรอ“คิดอะไรอยู่คะ ถึงอยากจับคู่ให้ป่าน” ลันลดาถามตรง ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ดูก็รู้ว่ามันคือแผน“เอ่อ...” ลลนาตอบคำถามน้องไม่ได้ เมื่อน้องถามมาตรง ๆ“คิดว่าป่านไม่รู้เหรอคะ”“พี่แค่อยากให้ป่านรู้ใจตัวเอง พวกเราคิดว่าคุณคมชอบป่าน แล้วป่านก็...”“อย่าพยายามเลยค่ะ คุณคมเขาไม่ได้ชอบป่านหรอกค่ะ”ลันลดาบอกกับพี่สาว เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ อาคมไม่ได้ชอบเธอ ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันเขาจะชอบเธอได้ยังไง“แล้วป่านล่ะ ชอบคุณคมไหม”“ป่านจะชอบเขาได้ยังไงคะ เราเพิ่งเจอกัน อะไรทำให้พี่ปอคิดแบบนั้นคะ”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เดาจากความรู้สึกของตัวเองน่ะ”“พี่ปอเดาผิดแล้วค่ะ ป่านไม่ได้คิดอะไรกับเขา ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้วไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจเอาไว้ พี่ปอกับคุณเผ่าอย่าพยายามเลยค่ะ ยังไงป่านก็ไม่เปลี่ยนใจ”“ถ้างั้นก็ตามนี้จ้ะ พี่แค่อ