Share

บทที่๔๑ โหยหวนน่ารำคาญ

last update Last Updated: 2025-05-10 07:13:08

เช้าวันรุ่งขึ้น…

“สามีคุณกินข้าวไปก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันต้องไปบ้านผู้นำหมู่บ้านอีกน่ะค่ะ” เธอเอ่ยบอกผู้เป็นสามีที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่

“ได้ครับภรรยา …คุณระวังตัวด้วยนะครับ ผมขอโทษที่ตอนนี้ผมไม่สามารถออกหน้าปกป้องคุณได้” ในน้ำเสียงเหมือนจะมีแววตำหนิตัวเองแฝงอยู่

“สามีคุณอย่าคิดมากไปเลยนะคะ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี ขอให้คุณเชื่อมั่นในตัวฉันนะคะ!” เธอเอ่ยพร้อมทั้งตบหลังมือของชายหนุ่มอย่างปลอบโยน

“ครับ… ผมเชื่อใจคุณ” เขาใช้เสียงแผ่วทุ่มและอ่อนโยนที่สุด

ใบหน้ายิ้มหวานออกมาอย่างละมุนละไม ก่อนจะเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นคุณก็กินข้าวกินยาไปก่อนนะคะ ฉันจะรีบไปจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วจะรีบกลับมาหาคุณนะคะ!”

ชายหนุ่มที่ได้เห็นรอยยิ้มเจิดจรัสของภรรยาก็พลันถูกภาพตรงหน้าสะกดอย่างไม่อาจหลีกหนีได้!

จนตอนนี้หูอื้อตาลายจ้องมองรอยยิ้มบนใบหน้าหวานซ้ำๆ อย่างเคลิบเคลิ้ม…

“สามี? สามีคะ คุณได้ยินมั้ย?!” หญิงสาวตะโกนถามเสียงดังทว่าใบหน้าฉายแววฉงน

“ค…ครับ! ว่าไงนะครับ?”

“เมื่อกี้ฉันพูดอะไรไป คุณได้ยินหรือเปล่าคะเนี่ย?”

ชายหนุ่มเกาหลังคอด้วยความเก้อกระดาก ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างลังเล “ภ…ภรรยา ผ…ผม ขอโทษครับ!
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๗๒ ปลายทาง

    “ขนมจ้ะกระต่ายน้อยของแม่” หนิงเหมยว่างจานขนมกับนมลงบนโต๊ะ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ ลูกสาว“ขอบคุณค่ะคุณแม่ อี้เออร์จะกินแล้วน้า~” พูดจบก็รีบยื่นมืออวบอ้วนของตัวเองไปหยิบคุกกี้ในจานเข้าปาก ก่อนจะหลับตาพริ้มราวกับว่ากำลังขึ้นเคลิ้มอย่างไงอย่างงั้นแหละ หึๆการกระทำของเด็กสาวทำเอาคนเป็นแม่กับย่าอดจะยิ้มขำด้วยความเอ็นดู และรักใคร่ไม่ได้ นับวันยิ่งแก่นแก้วและรู้ความนัก“ง่ำๆ อาหย่อยมากเยยค่า อิอิ” เด็กสาวเคี้ยวขนมตุ้ยๆ จนแก้มพอง“หนิงอี้ไม่เอาไม่ทำแบบนี้นะคะ ตอนนี้หนูโตแล้ว เวลาที่กินอะไรอยู่ในปากต้องเคี้ยวให้หมดปากก่อนแล้วถึงค่อยพูด” นางหม่าที่เป็นย่าคนแล้วก็เอ่ยดุหลานสาวคนโปรดออกมา หากหล่อนไปทำแบบนี้ที่อื่นจะทำให้คนอื่นมองไม่ดีเอาได้แต่ทว่าเมื่อเจ้ากระต่ายน้อยที่โดนคนเป็นย่าดุก็ถึงกับยู่ปากอย่างน้อยอกน้อยใจ “คุณย่าดุอี้เออร์…”“อี้เออร์ลูกไม่ร้องนะจ้ะ การที่คุณย่าดุก็ไม่ใช่เพราะว่าหวังดีกับหนูหรือจ้ะ? ไหนลองบอกแม่สิว่าที่คุณย่าดุหนูเมื่อกี้เพราะหนูทำอะไร?”“ฮึก! …เพราะอี้เออร์เคี้ยวขนมไม่หมดปากแล้วพูดค่ะ” เด็กน้อยตอบพร้อมกับเช็ดน้ำตาป้อยๆ“ใช่ แล้วที่คุณย่าดุหนูมันสมควรไหมจ้ะ?”

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๗๑ จัดการ[2]

    “แล้วตกลงว่าคุณต้องการจะเอาเรื่องจริงๆ ใช่ไหมครับสหายหนิงเหมย?”“ใช่ค่ะ ครั้งนี้ฉันรับกับการกระทำอุกอาจของแม่สามีไม่ได้จริงๆ ค่ะ คิดจะมาปล้นขโมยของในบ้านฉันทั้งๆ ที่ฉันกำลังตั้งครรภ์อยู่แบบนี้ ถ้าเกิดครั้งนี้ไม่มีแม่หม่าอยู่ด้วยฉันก็คง…” หนิงเหมยไม่ได้กล่าวประโยคอะไรออกมาอีก ได้แต่ปล่อยให้คนคิดกันเองต่อไป“ถ้าอย่างนั้นผมก็คงจะต้องขอเชิญคุณไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมด้วยนะครับ ไป! จับตัวหล่อนไป!”“ไม่! ฉันไม่ไป! กรี๊ด! ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ส…สามีคุณช่วยฉันด้วย ฮือๆ” นางโม่วโฉวกรีดร้องออกมาอย่างไม่อาย“นี่พวกคุณจะจับตัวภรรยาของผมไปไหน?” ตำรวจหนุ่มที่ได้ยินคำถามของชายชราด้านหลังก็ได้แต่ทอดถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันมาตอบ“พวกเราต้องขอจับกุมตัวคนร้ายไปที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไปครับ! หากคุณอยากไปขอยื่นเรื่องประกันตัวก็ให้ไปทำเรื่องที่สถานีตำรวจ” ตำรวจหนุ่มตอบก็เดินออกไปทิ้งให้ชายชราได้แต่ยืนตะลึงงันอยู่เพียงลำพังและหลังจากที่จบเรื่องจากสถานีตำรวจแล้วตงหยางก็รีบพาภรรยากับนางหม่ากลับบ้านพักผ่อนทันที เพราะกลัวว่าภรรยาจะเหนื่อยจนเกินไป โดยที่ในหัวไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเก

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๗๐ จัดการ[1]

    “อะไรนะ?! รออะไรกันอยู่รีบเข้าไปจับตัวนางโม่วโฉวกันสิ!” เขาตะคอกใส่ผู้ชายในกลุ่มชาวบ้านอย่างโกรธเกรี้ยว นางกล้าดีถึงขั้นกระทำการข้ามหน้าข้ามตาเขาถึงขนาดนี้!“ปล่อยข้านะ! พวกแกกล้าดียังไงถึงได้มาจับตัวฉันแบบนี้ คอยดูเถอะฉันจะให้ตาเฒ่าอี้เอาเรื่องพวกแกแน่!” ทันทีที่ได้ยินคำพูดของหญิงชราพวกเขาก็อดที่จะกรอกตาขึ้นอย่างรำคาญใจแต่ทว่าเมื่อโดนหิ้วออกมาจากบ้าน ก็ต้องตกใจแม้กระทั่งเสียงที่กำลังโวยวายก็ยังเปล่งไม่ออก“ทะ…ท่านผู้นำมาที่นี่ได้ยังไง?” นางพยายามเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก ก่อนจะตวัดสายตาคมมองไปยังทางหนิงเหมยอย่างไม่พอใจ “นี่แกถึงขั้นกล้าเรียกท่านผู้นำหมู่บ้านมาจับฉันเลยหรือนังลูกสะใภ้ไร้ประโยชน์?!”“หล่อนหยุดก่อเรื่องแล้วมันจะตายหรือไง!”“ท่านผู้นำ… แต่นี่มันเรื่องในครอบครัวของฉัน ท่านผู้นำจะมายุ่งอะไร?” นางโม่วโฉวพูดออกมาอย่างไม่ยินยอม อย่างไรวันนี้เธอก็ต้องได้สิ่งที่เธอต้องการกลับไปให้ได้!“นะ…นี่หล่อนกล้า!” เขายกมือกร้านแดดขึ้นมาชี้หน้าของหล่อนอย่างไม่พอใจ “หล่อนพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง นี่คิดว่าฉันอยากจะสอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องของหล่อนงั้นรึ? ถ้าหากหล่อนไม่มาก่อเรื่องวุ่นวายที่บ

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๖๙ ขโมยของแล้ว

    ทันทีที่ตรวจอาการให้หญิงสาวตรงหน้าเสร็จ ก็หันไปหาชายหนุ่มที่เอาแต่เดินวนเวียนไปมาจนเขาแทบจะมึนหัวไม่ได้“พ่อหนุ่มเลิกเดินแล้วใจเย็นก่อนเถอะ ภรรยาของเอ็งไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ก็แค่ตั้งครรภ์ได้12สัปดาห์แล้วก็เท่านั้น” หมอชราประจำหมู่บ้านกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงติดจะยินดีกับสองสามีภรรยา“อ้อก็แค่ตั้งครรภ์เท่านั้น ห๋า! ภรรยาของผมกำลังท้องอยู่หรือครับ?!” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แค่พอทวนคำตอบแล้วก็ถึงกับต้องร้องตกใจออกมาอย่างตื่นเต้น“ใช่แล้วล่ะ ส่วนเรื่องอาหารการกิน หรือการดูแลภรรยาของเอ็ง เดี๋ยวข้าจะจดเอาไว้ให้ ส่วนเรื่องเทียบยาบำรุงเอ็งก็ไปหาซื้อในเมืองเอาก็แล้วกัน”“ดะ…ได้ ขอรับ!” ชายหนุ่มตอบรับอย่างตื่นเต้น เพราะตัวเขาเองกำลังจะมีลูก จนหนิงเหมยที่นั่งมองอยู่ก็อดส่ายหัวอย่างขำขันสามีไม่ได้ อะไรจะตื่นเต้นปานนั้น?“เอาล่ะ เทียบยาบำรุง อาหารที่ควรจะเลี่ยง หรือการดูแลต่างๆ ข้าก็จะเอาไว้ให้หมดแล้ว ก็คงหมดหน้าที่หมอเท้าเปล่าอย่างข้าสักทียังไงคงต้องขอตัวกลับบ้านก่อน หากมีอะไรก็ไปหาที่บ้านหมอเฉียวได้”“ได้ครับ รบกวนแล้ว ยังไงเดี๋ยวผมขับล่อออกไปส่งที่บ้านครับหมอเฉียว” หลังจากนั้นชายหนุ่ม

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๖๘ อาการแปลกๆ

    หนิงเหมยลูบปลายจมูกด้วยความเจ็บ“ภรรยาเจ็บมากไหมครับ ผมขอโทษนะที่ทำให้คุณเจ็บตัวแบบนี้” ชายหนุ่มกล่าว พร้อมกับจับปลายคางภรรยาให้เชิดขึ้นเพื่อดูจมูกของภรรยา“มะ…ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีกไม่นานก็คงจะหายแล้ว ว่าแต่คุณมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” หญิงสาวเงยหน้าถามพร้อมกับใบหน้าฉงนสงสัย“เอ่อ ผมก็เพิ่งจะเดินมาไม่นานครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราเข้าบ้านไปกินข้าวกันดีกว่า ป่านนี้ป้าหม่าคงจะนั่งรอแย่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยตอบออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องชวนคนเป็นภรรยาเข้าบ้าน“อ๊ะ! จริงด้วยค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรารีบเข้าบ้านกันดีกว่า” ทั้งสองคนปิดประตูก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านพร้อมกันนี่ก็เป็นเวลาหลายวันแล้วหลังจากที่ผ่านพ้นวันปีใหม่มา ตอนนี้หนิงเหมยกับตงหยางก็มีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเองแล้ว ซึ่งหนิงเหมยทำแผงลอยขายแป้งย่างราคาไม่กี่เฟินเท่านั้นเอง และถึงแม้ว่าแผงลอยนี้จะไม่ใช่ร้านที่ใหญ่โตอะไรแต่ก็พอมีกำไรรายได้เข้ากระเป๋าให้คนทั้งคู่ได้ไม่เว้นแต่ละวันเชียวส่วนนางหม่าก็มาช่วยทั้งสองคนบ้างเป็นบางครั้งบางคราวแต่ทว่าก็ไม่ได้บ่อยนัก เพราะหนิงเหมยเองก็ไม่ค่อยอยากจะให้นางหม่าออกมาตากแดดตากลมยืนหล

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๖๗ ตัดใจ

    “เห้อตาเฒ่าอี้ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะสอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องภายในครอบครัวของแกหรอกนะ แต่อย่างไรหนิงเหมยก็ได้ชื่อว่าเป็น ‘บุตรสาวบุญธรรม’ ของฉัน แล้วจะให้ฉันนางหม่าคนนี้ทนเห็นบุตรสาวโดนคนในครอบครัวอี้ของแกมารังแกอีกก็อย่างไรอยู่”“บุตรสาวบุญธรรม?” อี้จางหย่งสบถขึ้นมาด้วยความฉงนใจ“อ้อใช่ตอนนี้หนิงเหมยเป็นบุตรสาวบุญธรรมของฉันแล้ว หากคนบ้านอี้ยังคิดที่จะมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่ไม่เลิกฉันก็คงไม่คิดจะไว้หน้าใครอีก!” นางหม่าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดัน“ป้าหม่าครับนี่ก็ได้เวลากินข้าวแล้วพวกเรากินข้าวกันเลยดีไหม อ้อแล้วนี่คุณพ่อมีอะไรที่นี่อีกหรือเปล่าครับ?” ตงหยางเอ่ยโดยที่ไม่ได้คิดจะสนใจคนเป็นพ่อเลยสักนิด“...” อี้จางหย่งไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกมา ก่อนจะถอนหายใจฟืดฟาดแล้วกระทืบเท้าปึงปังออกจากบ้านไปด้วยความโมโหกับการกระทำของเจ้าลูกชายไม่ได้ความคนนี้ ช่างเป็นคนที่อกตัญญูจริงๆ!เมื่อคนนอกออกไปตอนนี้ภายในบ้านจึงเหลือเพียงแค่สองสามีภรรยา กับนางหม่าเท่านั้น“เอ่อถ้าอย่างนั้นฉันจะเข้าไปเตรียมอาหารออกมาขึ้นโต๊ะเลยก็แล้วกันนะคะ” หนิงเหมยเอ่ยขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าพ่อสามีเดินออกจากบ้านไปแล้วแต่ทว่ายังไม่ทันท

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๖๖ ไม่เคยสนใจ

    ตงหยางไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกมา ทำเพียงยืนจ้องหน้าคนเป็นบิดาอย่างต้องการคำตอบ“แกจะมองฉันอะไรขนาดนั้นล่ะ? ฉันก็แค่คิดถึงลูกชายคนโตก็เลยมาเยี่ยม อวยพรวันปีใหม่ ...ไม่ได้เลยหรือยังไง?” ชายชราเลิกคิ้วถามอย่างขอไปที“เปล่าครับ ผมก็แค่แปลกใจ ปกติผมก็ไม่เคยเห็นพ่อจะมาสนใจอะไรคนอย่างผมนี่ครับ...” คำตอบคล้ายประชดประชันในทีของชายหนุ่ม ทำเอาคนเป็นพ่ออดที่จะรู้สึกเย็นวาบสันหลังไม่ได้“เจ้าใหญ่ พ่อขอโทษแกจริงๆสำหรับที่ผ่านมา แกอย่าโกรธเคืองพ่อเลยนะ”“ผมเลิกคิดเรื่องพวกนั้นมานานแล้วล่ะครับ พ่ออย่าพูดถึงอีกเลย...”ชายชราที่ได้ยินคำพูดของลูกชายคนโตก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก เพราะปกติเขาเองก็ไม่เคยจะต้องมาสนใจลูกชายคนนี้เลยจริงๆ“แกไม่โกรธพ่อจริงๆหรือ? เอ่อ... แล้วก็ลูกอย่าไปถือโทษโกรธแม่เลี้ยงของลูกเลย บางทีหล่อนก็อาจจะเสียสติไปจริงๆ ต่อไปพ่อจะพยายามไม่ให้หล่อนมายุ่งวุ่นวายกับแกแล้วก็เมียของแกอีก” เมื่อได้ฟังคำพูดของคนเป็นบิดาจบ ตงหยางก็อดไม่ได้ที่จะกำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนด้วยความอดกลั้นหนิงเหมยที่เห็นท่าทีของคนเป็นสามี จึงได้เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน“เอ่อ... เชิญพ่อสามีไปนั่งกินน้ำชากับผลไม้ก่อนดีกว่านะคะ”

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๖๕ วันปีใหม่

    “ใช่ครับ พวกชาวบ้านแค่มีปากก็พากันพูดไปเรื่อย แค่เราไม่เก็บเอาคำพูดพวกนั้นมาใส่ใจก็พอแล้วล่ะ”“อืม… ก็จริงอย่างที่พวกเธอสองคนพูด”“แล้ววันนี้แม่หม่าแค่จะมาดูของที่พวกฉันซื้ออย่างที่ชาวบ้านพูดกันแค่นั้นหรือคะ? หรือมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า”“โอ้ไม่มีหรอกๆ แม่แค่ได้ยินพวกชาวบ้านพวกนั้นพากันพูดถึงเรื่องการใช้เงินของพวกเธอไม่หยุดปาก ก็เลยแค่อยากจะมาดูให้เห็นกับตาน่ะสิ แต่จริงๆ แม่เองก็รู้ว่าเธอทั้งสองคนก็ไม่ใช้จ่ายอะไรที่มันฟุ่มเฟือยหรอก” นางหม่าพูดออกมา เพราะด้วยความที่เธออยู่กับเด็กสองคนนี้มานานทำให้พอจะรู้นิสัยใจคออะไรบ้างแล้ว“ขอบคุณนะคะแม่หม่าที่เชื่อใจพวกเราสองคน ในหมู่บ้านนี้เห็นทีก็คงจะมีแค่แม่หม่านี่แหละที่ดีกับพวกเราสองคนมากที่สุด”“ตอนนี้แม่เป็นแม่บุญธรรมของเธอแล้วย่อมต้องดีกับพวกเธอที่สุดอยู่แล้วสิ ฮ่าๆๆ” นางหม่าพูดออกมาอย่างตลกขบขัน“คิกๆ ก็จริงค่ะ”หลักจากนั้นทั้งสามคนก็พากันคุยสัพเพเหระไปเรื่อย…วันเวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงวันแรกของเทศกาลปีใหม่ หนิงเหมยและตงหยางตื่นแต่เช้าตรู่อาบน้ำแต่งตัวเลือกใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส่ที่เพิ่งไปซื้อมาใหม่ เพื่อที่ช่วงเช้าจะได้เตรี

  • ทะลุทุมิติมาเพื่อดูแลสามียุค70!   บทที่๖๔ อิจฉาตาร้อน

    “สามีคุณคิดว่าผ้าสีนี้เป็นยังไงบ้างคะ คุณชอบหรือเปล่า?” หนิงเหมยหยิบชุดผ้าสำเร็จแบบผ้าเนื้อดีที่สุดสีโทนสบายตาขึ้นมาชูขึ้นให้สามีดู“อืม… ผมชอบมากเลยครับ!”“จริงหรือคะ? ถ้าอย่างนั้นเอาสีแบบนี้ก็แล้วกัน อืม…ซื้อสีแดงไปไว้ใส่วันปีใหม่ด้วยก็แล้วกันนะคะ” เธอเอ่ยพร้อมกับเลือกชุดสีแดงขึ้นมา“ได้ครับ”หลังจากที่หนิงเหมยกับสามีเลือกซื้อเสื้อผ้ารองเท้าใหม่ ก็พากันเดินไปยังร้านเครื่องปรุงหรือวัตถุดิบทำอาหารต่างๆ เพื่อที่จะซื้อกลับบ้านเมื่อทั้งสองคนเลือกซื้อของกันเรียบร้อยแล้วหนิงเหมยกับสามีก็พากันเดินเข้าร้านขายจักรยานเพื่อดูราคาที่จะตัดสินใจซื้อ แม้หนิงเหมยจะเสียดายเงินที่จะต้องนำออกมาซื้อจักรยานทั้งๆ ที่ในมิติก็มีแล้วมากแค่ไหน แต่ก็ได้แต่ตัดใจยอมควักเงินออกมาซื้อ!เพราะความลับเรื่องมิตินี้เธอยังไม่พร้อมจะบอกกับใคร เพราะเธอเชื่อว่ายังไงความลับแบบนี้รู้คนเดียวย่อมดีต่อเธอและปลอดภัยที่สุด“สวัสดีครับคุณลูกค้า ไม่ทราบว่าลูกค้าทั้งสองท่านสนใจเป็นรถจักรยาน หรือรถพ่วงแบบไหนเป็นพิเศษหรือครับ?” ใช่แล้ววันนี้ร้านที่หนิงเหมยเดินเข้ามาซื้อก็คือร้านรถจักรยาน แต่ทว่านอกจากจะขายจักรยานอย่างเดียวแล้วยังมีพว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status