Share

บทที่ 656

Author: หลันซานอวี่
เมื่อหลิงโหยวมองหนังสือสัญญาตรงหน้าให้ชัดเจนแล้ว มือทั้งสองก็สั่นระริกขึ้นมาในชั่วพริบตา จนเกือบจะถือกระดาษบาง ๆ แผ่นนั้นไม่อยู่

นี่เป็นหนังสือสัญญาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้เขา ในหนังสือสัญญาเขียนไว้ว่าต่อไปผลกำไรจากสำนักช่วยชีพในทุก ๆ ปีจะเป็นของเขาหนึ่งส่วน

อย่าเห็นว่ามีเพียงแค่หนึ่งส่วน ว่ากันตามรายรับของสำนักช่วยชีพแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นตัวเลขไม่น้อยเลย

ค่าจ้างสิบปีของหลิงโหยวในยามนี้ ยังมีมากไม่เท่าเงินหนึ่งส่วนนี้เลย

หลิงโหยวตาแดงระเรื่ออย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกปั่นป่วนไปมา ในลำคอก็เหมือนมีก้อนสำลีอัดแน่น พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

ผ่านไปพักหนึ่ง เขาถึงหาเสียงของตนเองเจอในที่สุด

“คุณหนูใหญ่ นี่มันมีค่ามากเกินไป บ่าวรับไว้ไม่ได้หรอกขอรับ!” หลิงโหยวดันหนังสือสัญญากลับไป

อวิ๋นฝูหลิงห้ามเขาไว้ แล้วนำหนังสือสัญญาไปวางไว้ด้านหน้าหลิงโหยวอีกครั้ง

“ท่านลุงหลิง นี่เป็นสิ่งที่ท่านลุงควรได้รับ”

“ถ้าไม่ใช่ว่ามีท่านคอยช่วยข้าจัดการดูแลสำนักช่วยชีพ ตัวข้าคนเดียวจะไปทำได้อย่างไร?”

“อีกทั้งที่กิจการสำนักช่วยชีพรุ่งเรืองได้อย่างในทุกวันนี้ ก็เป็นความดีความชอบท่านลุงหลิงด้วย!”

การที่สำนักช่วยชีพที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
3Thanwa
เรื่องนี้มีกี่เล่มค่า
goodnovel comment avatar
Vatsana 0028
มีเล่ม2เหรอ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 656

    เมื่อหลิงโหยวมองหนังสือสัญญาตรงหน้าให้ชัดเจนแล้ว มือทั้งสองก็สั่นระริกขึ้นมาในชั่วพริบตา จนเกือบจะถือกระดาษบาง ๆ แผ่นนั้นไม่อยู่นี่เป็นหนังสือสัญญาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้เขา ในหนังสือสัญญาเขียนไว้ว่าต่อไปผลกำไรจากสำนักช่วยชีพในทุก ๆ ปีจะเป็นของเขาหนึ่งส่วนอย่าเห็นว่ามีเพียงแค่หนึ่งส่วน ว่ากันตามรายรับของสำนักช่วยชีพแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นตัวเลขไม่น้อยเลยค่าจ้างสิบปีของหลิงโหยวในยามนี้ ยังมีมากไม่เท่าเงินหนึ่งส่วนนี้เลยหลิงโหยวตาแดงระเรื่ออย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกปั่นป่วนไปมา ในลำคอก็เหมือนมีก้อนสำลีอัดแน่น พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะผ่านไปพักหนึ่ง เขาถึงหาเสียงของตนเองเจอในที่สุด“คุณหนูใหญ่ นี่มันมีค่ามากเกินไป บ่าวรับไว้ไม่ได้หรอกขอรับ!” หลิงโหยวดันหนังสือสัญญากลับไปอวิ๋นฝูหลิงห้ามเขาไว้ แล้วนำหนังสือสัญญาไปวางไว้ด้านหน้าหลิงโหยวอีกครั้ง“ท่านลุงหลิง นี่เป็นสิ่งที่ท่านลุงควรได้รับ”“ถ้าไม่ใช่ว่ามีท่านคอยช่วยข้าจัดการดูแลสำนักช่วยชีพ ตัวข้าคนเดียวจะไปทำได้อย่างไร?”“อีกทั้งที่กิจการสำนักช่วยชีพรุ่งเรืองได้อย่างในทุกวันนี้ ก็เป็นความดีความชอบท่านลุงหลิงด้วย!”การที่สำนักช่วยชีพที

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 655

    ปีนี้ได้อาศัยวาสนาของพระชายาอี้อ๋อง หลาย ๆ ครัวเรือนจึงมีเงินเก็บอยู่ในมือขึ้นมาบ้างเมื่อมีเงินเหลืออยู่ในมือ กอปรกับมาถึงสิ้นปีแล้ว ย่อมอยากฉลองปีใหม่ดี ๆ สักหนขณะที่ทุกคนกำลังคิดวางแผนว่าปีนี้จะซื้อของอะไรมาเตรียมสำหรับวันปีใหม่ อยู่ ๆ ผู้ดูแลที่ดินก็ตีฆ้องเรียกให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่หน้าหมู่บ้านมีคนรั้งตัวผู้ดูแลที่ดินไว้ แล้วเอ่ยถาม “จะให้พวกเราไปทำอะไร?”ผู้ดูแลที่ดินหัวเราะพลางกล่าว “พวกเจ้าไปถึงก็จะรู้เอง”ทุกคนเห็นว่าใบหน้าของผู้ดูแลที่ดินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงคาดเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องดีทุกคนเกาะกลุ่มกันเดินไปยังหน้าหมู่บ้าน แล้วจึงได้เห็นว่าที่หน้าหมู่บ้านมีรถเข็นจอดอยู่หลายคัน ทั้งมีคนกำลังขนของลงจากรถเมื่อได้มองดูให้ดี ก็มีทั้งเนื้อ ทั้งสุรา ทั้งผ้าทุกผู้คนยืนจับกลุ่มกันเป็นกระจุก ๆ ขณะที่กำลังกระซิบกระซาบพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้นเสียงตีฆ้องก็ดังขึ้น บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งเดินออกมาครั้นทุกคนเงยหน้าขึ้นมา ก็จำได้ทันทีว่าบุรุษผู้นี้คือผู้ดูแลที่อยู่ใต้บัญชาของพระชายาอี้อ๋อง แซ่อู๋กิจธุระของสวนสมุนไพรบนเขาทุกอย่าง ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเขาลูกพี่อู๋เดินฝ่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 654

    นี่ก็เป็นโอกาสที่จะดึงคนใต้บังคับบัญชามาเป็นพวก และซื้อใจคนเช่นกันหากไม่มอบประโยชน์ในเรื่องทรัพย์สินเงินทองให้ แล้วใครจะไปยอมถวายชีวิตให้เจ้าสุดหัวใจเล่า?นอกจากเงินค่าจ้างที่ได้รับตามปกติแล้ว ยังได้รับสวัสดิการพิเศษอีกก้อนหนึ่ง ใครบ้างจะไม่ดีใจ?ครั้นได้รับประโยชน์อันจับต้องได้ เข้าใจแล้วว่าอยู่กับนางแล้วทำงานได้เงิน ทั้งมีเนื้อให้กิน ย่อมทุ่มทำงานกับนางสุดหัวจิตหัวใจแน่หลังจากอวิ๋นฝูหลิงไตร่ตรองคร่าว ๆ อยู่ในใจ และเมื่อเซียวจิ่งอี้กลับมาในยามเย็นแล้ว อวิ๋นฝูหลิงจะหารือกับเขาเรื่องมอบสวัสดิการให้คนใต้บังคับบัญชาเมื่อก่อนเซียวจิ่งอี้ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยเรื่องยิบย่อยเช่นนี้ ล้วนมีพ่อบ้านฝูคอยจัดการเขาขบคิดเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ข้าจำได้ราง ๆ ว่าช่วงวันปีใหม่จะมีการมอบเงินเบี้ยเลี้ยงจำนวนหนึ่งเดือนให้”อวิ๋นฝูหลิงทราบเรื่องนี้มาจากพ่อบ้านฝูแล้ว จึงพยักหน้าพลางกล่าว “เมื่อก่อนเป็นเช่นนี้จริง”“แต่ปีนี้ไม่เหมือนกัน ท่านแต่งข้าเข้ามา ทำให้ในจวนอ๋องมีนายหญิงแล้ว แน่นอนว่าต้องมีบรรยากาศอะไรใหม่ ๆ บ้าง”“มิเช่นนั้นก็จะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของข้า จะมีข้าอยู่ในจวนอ๋องหรือไม่ล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 653

    ตรวจฎีกามาตลอดทั้งเช้า ฮ่องเต้จิ่งผิงทรงกำลังเหนื่อยอยู่บ้างพอดียิ่งไปกว่านั้นเมื่อลองดูชั่วยามแล้ว อีกไม่นานก็ถึงยามกินข้าวกลางวันเซียวจิงมั่วมาหาในยามนี้ ก็จะได้ร่วมกินข้าวกลางวันกับเขาพอดีหลังเซียวจิงมั่วเข้ามาในตำหนัก ก็ทำการคารวะและถวายพระพรตามธรรมเนียมฮ่องเต้จิ่งผิงแย้มสรวลพลางโบกมือให้เซียวจิงมั่ว “ไม่ต้องมากพิธีไป เข้ามาให้เสด็จปู่ดูหน่อยเร็ว”เซียวจิงมั่วก้าวไปด้านหน้าตามพระกระแสรับสั่งยิ่งมองดูเซียวจิงมั่วพระราชนัดดาผู้นี้ ฮ่องเต้จิ่งผิงก็ยิ่งทรงรักใคร่รูปโฉมของเซียวจิงมั่วนั้นเป็นการรวมเอาข้อดีของเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิงเข้าด้วยกัน แม้จะอายุน้อย ก็ดูออกว่าวันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นคุณชายรูปงามสง่าผู้หนึ่งแน่นอนอีกทั้งเด็กน้อยผู้นี้ก็ไม่มีดีเพียงแค่รูปโฉมเท่านั้น ทว่ายังฉลาดเฉลียวอีกด้วย หลายวันมานี้ยามที่เข้าไปในห้องทรงพระอักษร ฮ่องเต้จิ่งผิงก็มักจะได้ยินเหล่าอัครมหาเสนาบดีที่มาสอนวิชาแก่เหล่าองค์ชายและพระราชนัดดาเอ่ยปากชมเซียวจิงมั่วอยู่หลายครั้งอายุน้อยเพียงเท่านี้ ก็โดดเด่นกว่าลูกผู้พี่ที่อายุมากกว่าเขาเสียแล้วมีพระราชนัดดาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ในใจฮ่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 652

    พระราชนัดดาองค์อื่นที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นครั้นหันมองครอบครัวตนเอง ก่อนหน้านี้ไม่นานองค์ชายสามเพิ่งถูกฮ่องเต้จิ่งผิงติเตียนไป ทั้งยังกักตัวเขาไว้ในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสามรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจมากเป็นพิเศษในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ หากมิใช่เพราะต้องการเลี่ยงมิให้ผู้อื่นจับผิด แล้วกุมจุดอ่อนของจวนองค์ชายสามไว้ได้อีก วันนี้พระชายาองค์ชายสามคงไม่เหยียบย่างมาถึงที่นี่แน่ก็แค่งานเลี้ยงวันเกิดของเด็กคนหนึ่งเท่านั้นอีกทั้งมิใช่งานเลี้ยงใหญ่โตที่มีความหมายพิเศษอันใด ควรค่าแก่การที่นางซึ่งเป็นถึงผู้อาวุโสมากกว่าต้องมาร่วมงานถึงที่นี่เชียว?จนใจที่ยามนี้สถานการณ์ของจวนองค์ชายสามมิสู้ดี กอปรกับเจ้าเด็กน่าชังอย่างเซียวจิงมั่วได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จิ่งผิง หลายครั้งหลายคราวก่อนหน้านี้ถึงขั้นพาเขาไปท้องพระโรงด้วย หลังจากพระชายาองค์ชายสามหารือกับองค์ชายสามแล้ว จึงตัดสินใจพาบุตรชายมาเยี่ยมเยือนถึงที่นี่สักครั้งเป็นการดีที่จะได้แสดงให้ฮ่องเต้จิ่งผิงเห็นถึงความรักความเมตตาที่พวกเขามีต่อหลานชายงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ เซียวจิงมั่วเฉลิมฉลองอย่างสุขใจเป็นพิเศษ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 651

    ผู้คนส่งเสียงจอแจ พูดคุยกันสนุกสนานครื้นเครงเซียวคังถูกเบียดไปยังอีกฝั่งฟาก ครั้นเห็นเซียวจิงมั่วจูงเสือตัวหนึ่งออกมาจริง ใบหน้าก็ประเดี๋ยวดำประเดี๋ยวแดงด้วยความอับอายแม้เสือขาวตัวนี้จะเป็นเพียงเสืออ่อนวัย ทว่าก็เป็นเสือจริงๆ!เซียวลี่เห็นเซียวคังสีหน้าดูไม่ได้ พลันก็เหมือนจะรู้สึกยินดีปรีดาขึ้นมาก็ไม่ปาน เขาเท้าเอวพลางกล่าวว่า“ใครกันนะที่บอกว่าจิงมั่วของพวกเราพูดโกหกหลอกลวงผู้อื่น?”ว่าจบ เขาก็แค่นเสียงร้องเฮอะแรง ๆ ไปทางเซียวคัง จากนั้นจึงทำหน้าทะเล้นเซียวคังโมโหจนใบหน้าแดงเถือกเขาลอบกัดฟันกรอด ในใจทั้งเดือดดาลทั้งเกลียดชังเลื่อนสายตาไปอยู่ที่เสือขาวน้อยตัวนั้น ในดวงตาพลันประกายแววอาฆาตเคียดแค้นทำไมเซียวจิงมั่วถึงเลี้ยงเสือขาวให้เชื่องได้?ทำไมกัน ไม่เพียงแค่บิดาของเซียวจิงมั่วเท่านั้นที่เหนือกว่าท่านพ่อของตน กระทั่งวันนี้มันก็ยังเหนือกว่าตนด้วย?เขาไม่ยอม!ทุกคนล้วนเข้าไปมุงดูเจ้าเสือขาวตัวน้อยด้วยความประหลาดใจ ไม่มีใครเลยที่สนใจความรู้สึกของเซียวคังหลังจากเหล่าพระราชนัดดาไม่กี่คนที่มีความสัมพันธ์ดี ๆ กับเซียวจิงมั่วได้รับคำอนุญาตจากเขา ก็ยังได้รับเกียรติให้ได้ล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 650

    เซียวคังที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ จู่ ๆ ก็ได้ยินคนพูดขึ้นมาว่า “จิงมั่ว ได้ยินว่าเจ้าเลี้ยงเสือขาวตัวหนึ่งไว้ ให้พวกเราดูได้หรือไม่?”เซียวคังได้ยินคำว่า ‘เสือขาว’ สองพยางค์นี้ ก็หยุดเล่นเครื่องเล่นลื่นไถลที่ชอบที่สุดทันที และรีบเบียดเข้าไปโดยพลันเนื่องจากการเข้าออกวังหลวงต้องถูกตรวจสอบ เสือขาวที่ดุร้ายเช่นนี้ ย่อมไม่ได้รับอนุญาตให้พาเข้าไปในวังหลวงดังนั้นก่อนหน้านี้ยามที่อยู่ในห้องทรงพระอักษร ก็มีคนพูดเรื่องที่เซียวจิงมั่วเลี้ยงเสือขาวขึ้นมา แต่ก็ล้วนถูกเขาปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่สามารถพาเข้ามาในวังหลวงได้วันนี้มาถึงจวนอี้อ๋อง จึงมีคนที่ทนความสงสัยในใจไม่ได้ อยากเห็นเสือขาวตัวนั้นที่เซียวจิงมั่วเลี้ยงไว้นั่นคือเสือสีขาวเชียวนะ!พวกเขาต่างเคยเห็นเสือแค่ในภาพวาด ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน!เซียวคังเห็นเซียวจิงมั่วไม่ได้พูดอันใด ก็กล่าวเสียดสีทันที “เซียวจิงมั่ว เจ้าคงมิได้โกหกใช่หรือไม่?”“ที่แท้เจ้าก็ไม่มีเสือขาว!”เซียวลี่รู้ว่าเซียวคังไม่ชอบเซียวจิงมั่วมาโดยตลอด ยามอยู่ที่ห้องทรงพระอักษรก็หาเรื่องเซียวจิงมั่วอยู่บ่อยครั้งยามนี้เมื่อเห็นเขากำลังจะก่อเรื่องอีกครา ก็กล่าวขึ้นมาโดยพลัน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 649

    เซียวจิ่งอี้มิใช่คนไร้ความอดทนขอเพียงองค์ชายสามไม่สร้างปัญหาโดยตรง ไม่ล้ำเส้นของเขา การจะกลายเป็นผู้มั่งคั่งที่นั่งกินนอนกินได้ในอนาคตก็มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ไม่รู้ว่าองค์ชายสามจะเข้าใจเจตนาอันดีของฮ่องเต้จิ่งผิงหรือไม่ความคิดเหล่านี้ผ่านไปจากความคิดของเซียวจิ่งอี้ หลังจากนั้นก็ถูกเขาโยนทิ้งไป เพราะยุ่งอยู่กับการต้อนรับแขกที่มาเยือนวันนี้วันนี้แขกผู้ชายรับประทานอาหารที่หน้าจวน ส่วนแขกผู้หญิงอยู่ในห้องอุ่น ๆ ข้างเรือนชิงเฟิงพวกเด็ก ๆ ต่างอยู่ในเรือนชิงเฟิงเมื่อเข้ามาในเรือนชิงเฟิง เครื่องเล่นเหล่านั้นที่อวิ๋นฝูหลิงทำ ก็ครองใจเหล่าเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีในบรรดาเด็กเหล่านี้ บุตรชายคนโตขององค์ชายใหญ่ที่อายุมากที่สุด ปีนี้อายุสิบสามปีแต่ไม่ว่าจะเป็นเด็กโตหรือเด็กเล็ก ก็ล้วนไม่อาจหนีจากความมหัศจรรย์ของสวนสนุกในร่มได้เสียงหัวเราะสนุกสนานดังออกมาจากในเรือนชิงเฟิงไม่หยุดแม้แต่เหล่าพระราชนัดดาที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบเซียวจิงมั่ว ยามนี้ก็หลงใหลในพวกเครื่องเล่นลื่นไถล ทำให้ความเป็นศัตรูที่มีต่อเซียวจิงมั่วน้อยลงหลายส่วนและมีคนอิจฉาเซียวจิงมั่วมากขึ้นแม้จะเกิดที่ภายนอก และก่อนหน้า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 648

    รูปแบบงานเลี้ยงเช่นนี้ นางไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อนอวิ๋นฝูหลิงยิ้มพลางอธิบาย “งานเลี้ยงวันนี้เป็นแบบบริการตัวเอง”“สิ่งที่เรียกว่างานเลี้ยงบริการตัวเอง คือสามารถเลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ตามใจ อยากกินสิ่งใดก็หยิบสิ่งนั้น”“หลังจากหยิบอาหารแล้ว สามารถนั่งหรือยืนได้ตามใจ ไปกินอาหารกับผู้อื่นได้ตามสะดวก”“หากอยากนั่งพักผ่อน ในเรือนปีกตะวันออกก็มีโต๊ะเก้าอี้...”หลังจากพระชายาองค์ชายห้าได้ยินคำอธิบายของอวิ๋นฝูหลิง จึงเพิ่งเผยสีหน้าเข้าใจออกมา“รูปแบบการกินอาหารเช่นนี้เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก”“แต่ฟังดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง”พี่สะใภ้น้องสะใภ้ทั้งสองพูดคุยกันครู่หนึ่ง ก็ได้ยินคนใช้รายงานว่ามีแขกมาถึงแล้วอวิ๋นฝูหลิงปล่อยให้พระชายาขององค์ชายห้าอยู่ตามสบาย และไปที่ประตูรองเพื่อต้อนรับแขกเซียวจิงมั่วในฐานะนายน้อยของจวนอี้อ๋อง เป็นเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิดในวันนี้ ย่อมต้องไปต้อนรับแขกเซียวลี่ซึ่งเดิมทีอยากจะเล่นสนุกต่อเห็นเช่นนั้น หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ก็ไปที่โถงด้านหน้ากับเซียวจิงมั่ว เพื่อช่วยต้อนรับแขกนี่เป็นการแสดงว่าเขาคือเพื่อนสนิทของเซียวจิงมั่ว!ผู้อื่นอย่าได้คิดจะผ่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status