หลังจากท่านหญิงอวี้ชางจากไป รองแม่ทัพจางหย่งเล่อก็เป็นเพียงชายไร้หัวใจเพื่อลงโทษตนเอง แต่เมื่อน้องสาวมาบอกว่าท่านหญิงอวี้ชางมาเข้าฝันสั่งให้บอกเขาว่าขอให้เขาเลิกโทษตนเองและให้เปิดใจให้สตรีคนใหม่ เขาจึงได้ทำตามแต่เพียงไม่นานทหารคู่ใจของเขากลับเสียชีวิตจากการถูกโจรป่าลอบโจมตีและเขานั้นเข้ารับลูกธนูแทนรองแม่ทัพจางทำให้เขาเสียชีวิต ทิ้งบุตรสาววัยเพียงสิบห้าหนาวเอาไว้ และรองแม่ทัพหนุ่มจึงได้อุปการะนางเอาไว้ตั้งแต่นั้น หลังจากนางเข้ามาอยู่ในจวนของเขาแล้ว ต่อมาเขากลับพบว่านางช่างเหมือนสตรีที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างมาก……..
View Moreนับจากท่านหญิงอวี้ชางจากไปแล้ว รองแม่ทัพจางหย่งเล่อหรือตอนนี้ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นแม่ทัพแล้ว เขาแยกจวนออกมาตัั้งจวนใหม่เองอยู่อีกฟากหนึ่งของเมือง เพราะเขาได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ดูแลเขตภาคตะวันออก มีทหารในบังคับบัญชาหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย เพราะฝีมือที่เก่งกาจที่เขานั้นได้ออกรบเคียงข้างบิดาของเขา จนชนะศึกที่ยากยิ่งมาได้ ทำให้ได้รับการปูนบำเหน็จมากมาย
เขาได้รับพระราชทานจวนหลังใหม่ที่ใหญ่โตโอ่อ่าไม่น้อย บิดาของเขาจึงได้บอกให้เขาออกไปตั้งจวนใหม่ของตนเอง เพราะเขาก็ถึงวัยที่ควรจะแต่งงานมีเหย้ามีเรือนแล้ว ท่านแม่ทัพจางแนะให้เขามองหาสตรีที่เหมาะเพื่อแต่งงานรับนางเป็นฮูหยินเสีย จะได้มีคนช่วยดูแลจวน แต่ชายผู้ที่ช้ำรักเหลือเกิน ก็ไม่มีใจคิดจะมองหาสตรีใดทั้งนั้น เพราะทุกวันนี้เขาก็ยังรักปักใจในท่านหญิงอวี้ชางอดีตคนรักที่ตอนนี้เสียชีวิตไปได้หลายปีแล้ว จนตอนนี้หลานๆของเขาที่เกิดจากน้องสาวของเขากับพีี่ชายของอดีตคนรักนั้นเติบโตมากแล้ว แถมยังมีบุตรแทบจะหัวปีท้ายปีอีกด้วย
หลังจากที่ได้คำแนะนำจากน้องสาวของเขาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายาของท่านอ๋องรุ่ยหยางพี่ชายของอดีตคนรักของเขาไปแล้วนั้น ว่านางนั้นได้ฝึนถึงท่านหญิงอวี้ชางคนรักของเขาที่มาหานางในฝัน นางมาในท่าทีที่มีความสุขสดใสและงดงามมาก นางคงจะได้ไปอยู่ที่ๆดี อย่างแน่นอนน้องสาวของเขายืนยันเช่นนั้น
และนางฝากบอกเขาว่าให้เปิดใจคบหาสตรีอื่นได้แล้ว นางอยากให้เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ต้องรู้สึกผิดเรื่องของนางอีกแล้ว และก่อนจะไปนั้นนางบอกว่าอีกไม่นานนางจะกลับมาแล้วเราคงจะได้พบกัน นางทิ้งท้ายเอาไว้เช่นนั้น ทำให้แม่ทัพหนุ่มเก็บมาครุ่นคิดถึงความฝันของน้องสาวตลอดหลายปีมานี้ ทำให้เขายังไม่ตกลงปลงใจกับสตรีใดทั้งสิ้น แม้จะยอมเปิดใจคบหากับคุณหนูเหลียนซิงซิงที่บังเอิญพบกันในป่าหลังจากที่เขากลับมาจากวัด รถม้าของนางเสีย นางจึงได้ขอติดรถเขากลับมา
และตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์ของเขากับนางก็คืบหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขานั้นก็ยังไม่ทำให้มันคืบหน้าไปกว่าการคบหากันมากกว่าสหายเล็กน้อย และพานางไปงานเลี้ยงต่างๆบ้างเป็นบางครั้ง ซื้อหาข้าวของเล็กๆน้อยให้นางบ้าง แต่ก็ยังไม่ยอมขยับความสัมพันธ์ไปไกลกว่านี้มากนัก
เขายังไม่ได้รักนาง แค่ชอบพออัธยาศัยที่นางนั้นเหมือนสตรีที่ความคิดทันสมัยกว่าสตรีในยุคนี้มาก อาจจะเป็นเพราะนางได้มีโอกาสไปประเทศตะวันตก และนางนั้นก็ติดต่อค้าขายกับคนหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะประเทศทางตะวันตกก็ได้ ทำให้ความคิดอ่านของนางนั้นทันสมัยกว่าคุณหนูในห้องหอในยุคนี้มาก นางไม่เรื่องมาก และทำให้เขาเบื่อหน่ายและรำคาญ จึงได้คบหากันมาได้นานกว่าสตรีอื่น
วันหนึ่งขณะที่ท่านแม่ทัพจางหย่งเล่อเดินทางไปราชการต่างเมือง พร้อมด้วยทหารคู่กายคนสนิทสองคน ระหว่างทางกลับมานั้นได้พบกับกลุ่มโจรป่าลอบโจมตี พวกเขาต่อสู้กับมันได้ไม่ยากเย็นนักเพราะฝีมือยุทธ์นั้นคนละชั้น แต่แล้วรองแม่ทัพต้วนทหารคู่กายคนสนิทที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่สนามรบครั้งที่แล้ว ที่บิดาของเขามอบรองแม่ทัพผู้นีี้ให้กับเขาเพื่อจะได้มาช่วยงานของเขานั้น พุ่งตัวออกไปรับลูกธนูที่โจรป่าลอบยิงใส่พวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เมื่อพวกมันทำท่าว่าจะพ่ายแพ้ ทำให้ลูกธนูนั้นปักที่ท้องของรองแม่ทัพต้วนทันที และนั่นทำให้เขาสิ้นใจเกือบจะทันทีหลังจากได้เอ่ยปากฝากฝังบุตรสาวเพียงคนเดียวที่รอบิดาอยู่ที่จวนเล็กชานเมืองไว้กับแม่ทัพจาง แม่ทัพหนุ่มรับปากอย่างแข็งขันและเต็มใจยิ่ง เขาเสียใจมากที่ไม่อาจจะยื้อชีวิตคนสนิทและภักดีเช่นรองแม่ทัพต้วนเอาไว้ได้
จึงได้แต่จัดงานศพของเขาอย่างสมเกียรติและไปรับบุตรสาวของเขาที่จวนเล็กที่ตั้งอยู่เกือบจะนอกเมืองเข้ามาอยู่ด้วยกันที่จวนใหญ่ของเขา เพราะบุตรสาวของรองแม่ทัพต้วนนั้นไม่เหลือใครแล้ว นางมีเพียงบิดาเพียงคนเดียว ส่วนมารดานั้นได้เสีียชีวิตไปตั้งแต่นางเพิ่งคลอดออกมา นางมีนามว่าต้วนเยว่ชิง เป็นสาวน้อยใบหน้าหวานปานจะล่มเมืองที่ปีนี้จะเรียนจบจากสถานศึกษาของสตรีที่ในเมืองนี้แล้ว และก็ใกล้จะถึงวันปักปิ่นของนางแล้วด้วย
ต้วนเยว์ชิงนั้นเมื่อรู้ว่าบิดาของนางนั้นได้เสียชีวิตลงไปแล้ว นางร้องไห้แทบจะขาดใจร้องไห้จนเป็นลมสลบไสลไปแม่ทัพจางหย่งเล่อจึงได้ช้อนอุ้มร่างอวบอิ่มเกินวัยของคุณหนูต้วนเข้าไปพักในเรือนหลังเล็กที่เขายกให้เป็นเรือนของนางที่อยู่ห่างเรือนหลักของเขาไปอีก เรือนหลังเล็กนั่นตั้งอยู่ริมรั้วแต่ว่าการจัดสวนหน้าเรือนและด้านข้างเรือนที่อยู่ใกล้รั้วนั้นสวยงามน่ารัก
เรือนหลังน้อยมีระเบียงเรือนยื่นต่อออกไป ระเบียงนั้นกว้างพอสมควร มีตั่งไม้เอาไว้นอนเล่นยามบ่ายตอนที่แดดล่มแล้ว มีกระถางบัวตั้งอยู่ที่ระเบียงนั้นสองกระถาง และมีกระถางต้นไม้เคลือบหลายกระถางที่ปลูกดอกไม้เอาไว้หลากสีสันล้วนกำลังบานสะพรั่งทำให้ระเบียงเรือนหลังนี้งดงามยิ่งนัก
แม่ทัพจางจึงได้ยกเรือนหลังนี้ให้แก่บุตรสาวของรองแม่ทัพต้วนที่เขารับมาอุปการะเพื่อเห็นว่านางเป็นสตรีคงจะชอบเรือนหลังเล็กที่น่าอยู่นี้ เขาสั่งให้พ่อบ้านสั่งให้บ่าวมาจัดสวนหน้าเรือนให้นางให้งดงามเพื่อต้อนรับบุตรสาวคนใหม่ที่เขารับมาอุปการะ แม่ทัพจางคิดเพียงว่าเขาจะรับนางมาอุปการะดังเช่นบิดาของนาง
แม่ทัพจางอุ้มร่างอวบอิ่มของคุณหนูต้วนที่หมดสติไปทันทีหลังจากร้องไห้อย่างหนัก เขาไปวางไว้บนเตียงนอนในห้องนอนน้อยของนาง เรือนนี้พร้อมให้นางเข้ามาอยู่อาศัยได้แล้ว เพราะเขาให้พ่อบ้านจัดการให้เป็นการด่วน เมื่อเขารับตัวของนางมาถึงจวนใหม่ของเขา เรือนหลังน้อยแห่งนี้ก็พร้อมเข้าอยู่ได้ในทันที
แม่ทัพหนุ่มนั่งอยู่บนเตียงริมร่างอวบอิ่มที่เอนกายนอนราบบนฟูกนอนหนานุ่มใหม่เอี่ยม แม่ทัพจางจ้องมองใบหน้าหวานนั้นที่ซีดลงเล็กน้อยอย่่างหนักใจ เขาเองก็ไม่เคยมีบุตร ยังไม่ได้แต่งงานเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้จะต้องมาเลี้ยงบุตรสาวตัวโตเท่านี้ แม่ทัพหนุ่่มเองก็ไม่แน่ใจนักว่าจะทำได้ดีหรือไม่
แต่ในเมื่อนางเป็นบุตรสาวของผู้มีพระคุณของเขาที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องเขา แม่ทัพหนุ่มก็จำต้องทำให้ได้ ขนตางอนยาวกระพริบถี่ๆ เหมือนนางกำลังจะรู้สึกตัวแล้ว แม่ทัพหนุ่มจับจ้องใบหน้าหวานนั้นอย่างเป็นห่วง แล้วดวงตาเรียวยาวดุจดวงตาหงส์นั้น ก็พลันลืมตาขึ้น มองสบตากับใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม แต่ดวงตายาวรีที่คมกริบที่กำลังจับจ้องมองนางอยู่ ใบหน้าหวานก็พลันมีสีระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
สองปีผ่านไปเจ้าตัวน้อยๆ ก็เริ่มเติบใหญ่วิ่งวุ่นไปมาในจวนและเผลอเป็นมิได้ต้องวิ่งออกไปนอกสนามและคอยจะวิ่งออกไปที่ประตูจวนตลอดเหมือนอยากจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก แต่พี่เลี้ยงที่มีสองคนต้องคอยจับตาเอาไว้ มิเช่นนั้นคุณหนูตัวน้อยๆจะวิ่งเร็วจี๋ไปทันที และเขาชอบปีนต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจเหมือนได้พันธุกรรมของบิดามาไม่น้อย เขาทำดังเช่นผู้มีวรยุทธ์ที่สามารถปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้สูงๆ ได้ทั้งๆ ที่ตัวนิดเดียว มารดาต้องคอยห้ามปรามจนเหนื่อยอ่อน ต้องให้ชุ่ยเอ๋อคอยมองและให้พี่เลี้ยงจับตาดูไว้ให้ดี แม่ทัพตัวน้อยนั้นโปรดปรานการเล่นกับองครักษ์ของบิดามาก วิ่งเล่นไล่กันสนุกสนาน และองครักษ์ก็สอนวรยุทธ์ให้แม่ทัพน้อยไปด้วย มารดาที่ตอนนี้จะวิ่งตามเจ้าตัวน้อยก็ไม่ไหวเพราะนางก็ท้องโย้ใหญ่มากใกล้้คลอดอีกคนแล้ว ท่านแม่ทัพจางลุ้นกันอย่างมาก เขาอยากจะได้บุตรสาวตัวอ้วนๆ ที่ผูกผมแกละสองข้าง มาวิ่งเล่นกับพี่ชายของนาง ส่วนพระชายาจาง พาบุตรฝาแฝดสองคนที่โตกว่า และมักจะพามาวิ่งเล่นกันน้องชายที่จวมแม่ทัพจางหลายๆครั้ง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนิทสนมกันไว้หลังๆ มานี้พระชายากับเยว่ชิงสนิทสนมกันมากขึ้น มักจะนั่งคุยถึงอดีตแ
คุณหนูสาวที่เบื้องหน้าเป็นสตรีในชนชั้นสูง ฐานะร่ำรวย เป็นบุตรสาวของคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวง เป็นที่หมายปองของบุรุษในวงสังคมชั้นสูงหลายๆคน นางเป็นสตรีที่งดงามเพียบพร้อมคนหนึ่งที่ชายหลายคนไม่อาจจะมองข้ามไปได้ง่ายๆ แต่เบื้องหลังไม่ใช่สาวไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่อง นางผ่านชายมาหลายคนแล้ว และยังใช้ความสาวความสวยของนางในการต่อรองผลประโยชน์ทางการค้ามานับครั้งไม่ถ้วน และครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่นางก็อดจะยอมรับไม่ได้ว่าครั้งนี้มันช่างสุขสมเหลือเกิน เหลียนซิงซิงพบว่านางหลงรักคุณชายหนุ่มที่แสนจะมีชั้นเชิงชายที่แพรวพราวกว่าบุรุษที่นางเคยผ่านมาไปเสียแล้ว ตอนแรกนางเพียงจะมายั่วเย้าเขาเล่นๆ เห็นเขาคลั่งไคล้อยากได้สตรีผู้นั้นนัก เพราะนางฟังเขารำพันถึงสตรีที่งามปานจะล่มเมืองผู้นั้นจนเบื่อหน่าย ครั้งนี้นางจึงอยากทดสอบเสน่ห์ของตนเองว่าจะสู้สาวน้อยผู้นั้นได้หรือไม่แต่มันกลับกลายเป็นว่านางชักจะหลงรักเสือร้ายอย่างเขาเข้าแล้ว ลีลารักของเขาทำเอานางติดใจเหลือเกิน คุณหนูสาวสวย ผลักคุณชายหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้กลายเป็นสามีหมาดๆ ของนางอีกคน ลงไปใต้ร่างของนางแล้วขึ้นโยกขย่มเขาอย่างเร่าร้อน ทั้งสอ
เมื่อทั้งสองก้าวเข้าไปในห้องที่กว้างขวางไม่น้อย ใหม่เอี่ยมและดูหรูหรามาก ในห้องนี้มีโต๊ะกลมตัวใหญ่และมีเก้าอี้ล้อมรอบประมาณห้าตัว คงจะเอาไว้นั่งทานอาหารและสังสรรค์กันยามที่มีสหายมาเยี่ยมเยือน ชุดโต๊ะกลมนี้ตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขาเมื่อเดินเข้าไป ส่วนลึกเข้าไปเป็นโต๊ะบัญชีที่อยู่ริมหน้าต่างบานหนึ่ง ด้านหลังโต๊ะบัญชีเป็นชั้นวางของที่ดูแล้วน่าจะเป็นของที่ล้ำค่าราคาแพงที่น่าจะเป็นของสะสมของคุณชายเสิ่นวางเรียงกันเอาไว้บนชั้น ส่วนด้านขวามืออีกด้านมีม่านสีเงินยาวหนาหนักที่ยาวจากเพดานจรดพื้นกั้นเอาไว้ เป็นสัดส่วนน่าจะเป็นห้องนอนของคุณชายเสิ่น ส่วนอีกด้านเป็นตั่งไม้ตัวใหญ่ที่วางเกือบจะชิดผนังและมีหมอนใบใหญ่ปักลวดลายดอกไม้วางเรียงรายอยู่บนตั่งนั่น ข้างตั่งไม้มีโต๊ะเล็กที่วางชุดป้านน้ำชาและแจกันดอกไม้“ ข้ามีสุราชั้นดีติดมาด้วย เจ้ามาลองชิมดูสักหน่อยว่าใช้ได้หรือไม่ หากรสดี ข้าจะสั่งให้เขานำเข้ามาขายที่เมืองนี้ ” คุณชายเสิ่นเดินนำคุณหนููเหลียนตรงไปที่โต๊ะกลมตัวใหญ่ที่มีกาสุราและถ้วยหลายใบวางเอาไว้ในถาดใบเล็กใกล้ๆกัน คุณหนูเหลียนทรุดตัวลงนั่ง ที่เก้าอี้ข้างๆคุณชายเสิ่นแล้วยกกาสุรานั้นเทลงในถ
ทั้งสองร้องครวญครางผสานกันดังก้องในห้องนั้น “ อวี้ชาง เมียรักของผัว พี่รักเจ้าเหลือเกิน เมียรัก อ๊าก อ๊าก อ๊าาก ” แม่ทัพหนุ่มสารภาพความในใจของเขาที่มันอัดแน่นอยู่ในนี้ตลอดมาออกไป ให้นางได้รับรู้นับครั้งไม่ถ้วนมาแล้วในค่ำคืนนี้ ขณะนีี้สตรีใต้ร่างของเขานี้คือเมียรักของเขาเพียงผู้เดียว ในที่สุดเขาและนางก็ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง นางคือฮูหยินหนึ่งเดียวของเขา เขารักนาง และสุขสมยิ่งนักเมื่อได้สมรักกับนางเพียงผู้เดียวเท่านั้น ทั้งสองต่างหลงลืมเรื่องอื่นๆ ไปสิ้นโลกของพวกเขา มีเพียงกันและกัน ต่างโยกสะโพกเข้าหากันเป็นจังหวะเดียวกัน เพราะพบคู่ที่ตามหากันมานาน ในที่สุดก็ได้สมรักกัน เสียงเตียงกระแทกผนังดังสนั่น และมันโยกไหวใต้ร่างของทั้งสอง เสียงครวญครางผสานกันเสียงดังอย่างมิสนใจสิ่งใดแล้ว เพราะตอนนี้โลกของพวกเขามีเพียงกันและกันเพียงเท่านั้น ทั้งสองต่างก็ปลดปล่อยตัวตนออกมาอย่างเต็มที่เพราะบัดนี้รู้แล้วว่าทั้งสองคือสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดต้องค้างคาใจกันอีกแล้ว ทั้งเขาและนางต่างก็เป็นของกันและกัน ไม่มีผู้ใดมากั้นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองอีกแล้ว เสียงแห่งความสุขสมทั้งหมดดังออก
แม่ทัพหนุ่มทั้งดูดดื่มทั้งไล้เลียผลอิงเถาของนาง เขาฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ของนางจนพอใจ จึงได้ไล้เลียลงไปจนทั่วร่างอวบของนาง ไม่มีส่วนไหนในร่างกายขาวผ่องนี้ที่เขายังไม่ได้สัมผัส โม่โฉวจดจำได้ทุกรายละเอียดบนเรือนร่างขาวผ่องของเมียรัก ที่ตอนนี้เขายอมรับอย่างเต็มปากแล้วว่านางคือเมียของเขา เมื่อไล้เลียร่างอวบจนพอใจแล้ว จึงได้เลื่อนตัวลงไปที่เนินอวบของนาง เขาขย้ำมันอย่างมันมือ มันอวบใหญ่จนล้นมือของเขา แม่ทัพหนุ่มฟอนเฟ้นมันจนพอใจแล้วจึงได้สอดนิ้วแกร่งของเขาเข้าไปทีละนิด เขาหยอกเย้านางด้วยการสอดนิ้วถูไถที่ปากทางเข้าและครูดผ่านเมล็ดดอกไม้ของนางไปมา ส่งผลให้ร่างอวบดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน นางทั้งดิ้นพล่านไปมาและโยกสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาเพราะนางเองก็เสียวจนเกินจะทนแล้ว แม่ทัพหนุ่มชักนิ้วแกร่งของเขาเข้าออกช้าๆแต่ไม่ยอมเร่งจังหวะเสียทีจนเยว่ซินโยกสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะนางเสียวเหลือเกิน เสียวจนเกินจะทนแล้ว“ อ๊า อ๊าา ท่านพี่ ได้โปรด ข้าเสียว เสียวเหลือเกินอ๊ายย อ๊าา อ๊า ท่านพี่ รักข้า เดี๋ยวนี้ รักข้า ได้โปรด อ๊าา อ๊าา อ๊าย อ๊าาย ” นางตัดสินใจอ้อนวอนเขาเพราะนางเส
ถึงเวลาส่งตัวเข้าหอแม่สื่อก็ประคองเจ้าสาวหมาดๆ เดินไปส่งถึงที่ห้องหอแล้วก็ให้นางนั่งรอเจ้าบ่าวอยู่บนเตียงวิวาห์เพียงผู้เดียว ชุ่ยเอ๋อเข้ามาพร้อมกับถาดไม้ที่มีขนมสองสามชิ้นกับน้ำชา เพื่อให้เจ้าสาวหมาดๆรองท้องก่อนที่เจ้าบ่าวจะมาเข้าหอ “ ตอนนี้ เจ้าบ่าวคงยังไม่มาเข้าหอหรอกเจ้าค่ะ ข้างนอกยังครึกครื้นกันอยู่เลย ”ชุ่ยเอ๋อบอกกับคุณหนูของนางที่ดูเหม่ยลอยเซื่อมซึม นางไม่ได้สดใสดังเช่นคนที่กำลังเป็นเจ้าสาวเลย เพราะนางไม่ได้รักเจ้าบ่าว นางให้พี่ชายของนางคือท่านอ๋องรุ่ยหยางเป็นคนตัดสินใจเลือกเจ้าบ่าวให้นาง หากเขาเห็นว่าดีนางก็ตกลง และยอมแต่งงานอย่างง่ายดายดังเช่นตอนนี้นางไม่มีหัวใจ ชุ่ยเอ๋อจ้องมองใบหน้างามที่เหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด แล้วถอนใจออกมา “ คุณหนูเจ้าค่ะ ในเมื่อตัดสินใจแต่งงานแล้ว วันนี้คือวันดีนะเจ้าค่ะ วันเริ่มชีวิตใหม่ ชุ่ยเอ๋ออยากให้คุณหนูมีความสุข ชุ่ยเอ๋อรับรองว่าเจ้าบ่าวหล่อเหลามาก ร่ำรวยมาก และเป็นชายที่แสนดีเจ้าค่ะ คุณหนูจะต้องรักเขาอย่างแน่นอน ” ชุ่ยเอ๋อนั้นได้รับคำสั่งจากพระชายาจางไม่ให้บอกกับคุณหนูของตนเรื่องเจ้าบ่าวที่แต่งงานกับนางในวันนี้ ปล่อยให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกั
“ ท่านอ๋อง นี่ม้ันหมายความว่าอย่างไรกัน กระหม่อมไม่เข้าใจ น้องสาวของท่านมีสามีแล้ว แต่ไฉนยังตอบรับการมาดูตัวอีก ” เถ้าแก่เกายังสงสัยหันไปถามไถ่ท่านอ๋องรุ่ยหยาง เขานั้นเสียดายนัก กำลังจะได้ดองเป็นญาติกับท่านอ๋องรุ่ยหยางอยู่แล้ว หากน้องสาวของเขาเป็นแม่หม้าย ไม่มีลูกติดและหย่าขาดแล้ว เขาก็ยังจะพอทำใจรับได้ แต่นี่นางยังไม่ได้หย่าขาด แถมยังมีลูกติดหลายคนอีกด้วย เขารับไม่ได้จริงๆ ท่านอ๋องรุ่ยหยางพูดไม่ออก เลยได้แต่อ้ำๆอึึ้ง ๆ ส่วนพระชายาจางนั้นก็ไม่รู้จะทำเช่นไร และนางก็คาดเอาไว้แล้วว่าพี่รองต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเป็นแน่ เขาคงไม่ยอมปล่อยให้เยว่ชิงแต่งงานออกไปง่ายๆหรอก “ ท่านพี่ ไม่ต้องไปถามไถ่ให้มากความอีกแล้ว เราไปกันเถอะ ค่าอาหารนี่เราไม่จ่ายนะ เพราะถือว่าพวกท่านหลอกลวงเราให้เสียเวลาเดินทางมาตั้งไกล ไปๆกันเถอะ อาเจิ้งไปเดี๋ยวนี้ อย่าชักช้า ” ฮูหยินเกาลากบุตรชายที่ยังพะวักพะวงอยู่ไปทันที ส่วนเถ้าแก่เกาบิดาของเขาก็ก้าวตามออกไปทันที เขาไม่แม้แต่จะร่ำลาท่านอ๋องเลยด้วยซ้ำ เพราะหัวเสียอย่างมาก และรู้สึกเหมือนถูกหลอก จึงไม่คิดจะรักษามารยาทอีกต่อไปแล้ว สามพ่อแม่ลูกลุกเดินออกไปจากห้องอ
เมื่อรถม้าจอดลงที่หน้าภัตตาคาร ทั้งสามก็ลงจากรถม้าแล้วพากันเดินเข้าไปในภัตตาคารแล้วขึ้นไปบนชั้นสามที่ได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณชายเกาว่าที่คู่หมั้นของเยว่ชิงนั้นได้จองห้องพิเศษเอาไว้แล้วเป็นห้องอาหารส่วนตัว ท่านอ๋องรุ่ยหยางเดินนำหน้าชายาและน้องสาวบุญธรรมตรงไปที่ห้องอาหารนั้น เมื่อทั้งสามเข้าไปในห้องอาหารแล้ว ก็พบกับครอบครัวของคุณชายเกา อันมีบิดาและมารดาของเขาที่เริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว ผมของทั้งสองเป็นสีดอกเลา ใบหน้านั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง บิดาของเขาหน้าตาใจดียิ้มแย้ม อัธยาศัยดีสมกับเป็นคนที่ทำการค้ามาทั้งชีวิต ส่วนฮูหยินของเขาที่มีวัยใกล้เคียงกัน ใบหน้าอวบอูมผ่องใสดังเช่นคนมีอันจะกินทั่วไป นางมีใฝอยู่ที่ริมฝีปากด้านซ้ายเห็นได้ชัดเจน นางยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรให้กับคนทั้งสามที่เพิ่งเดินเข้ามา“ ขอคารวะท่านอ๋องรุ่ยหยางและพระชายาจางพะยะคะ ” ทั้งเถ้าแก่เกาและฮูหยินรวมถึงคุณชายเกาต่างก็ลูกขึ้นทำความเคารพท่านอ๋องรุ่ยหยางและพระชายาจาง ท่านอ๋องโบกมือให้กับพวกเขาเป็นเชิงว่าตามสบาย พวกเขาจึงหันมาจ้องมองคุณหนูต้วนเยว่ชิงที่ยิ้มให้กับพวกเขาพร้อมกับย่อกายทำความเคารพคนทั้งสาม
“ จะแต่งงานกันได้อย่างไร ท่านมีว่าที่คู่หมั้นแล้ว และอีกไม่นานท่านจะต้องแต่งงานกับคุณหนูเหลียน หรือท่านจะปฏิเสธนางไป แล้วหันมาเลือกข้าแทน ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ว่าท่านจะแต่งงานรับข้าเป็นฮูหยินของท่านเพียงผู้เดียว ข้าบอกกับท่านไว้ก่อนนะ ว่าข้าไม่ยินยอมให้สามี มีสตรีอื่นนอกจากข้า ท่านทำได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ควรจะกลับไปเสีย ” เยว่ชิงตัดสินใจยื่นคำขาดกับเขา หากเขาทำไม่ก็ไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับนางอีก แม้นางรักเขามาก รักเขาเต็มหัวใจ แต่นางยอมรับว่านางเห็นแก่ตัวเกินไป เกินกว่าที่จะยอมให้เขามีสตรีอื่นอยู่ร่วมจวน เพราะนางเจ็บ เจ็บเหลือเกินที่เห็นสามีคลอเคลียกับสตรีอื่นให้เห็นตำตา แม้นางจะทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างในของนางมันแทบจะแหลกสลาย และนางยอมรับว่านางทนให้สามีของนางมีสตรีอื่นไปพร้อมๆกันไม่ได้จริงๆ แม่ทัพจางอยากจะบอกนางเหลือเกิน อยากจะบอกแทบจะขาดใจว่าเขาเลือกนาง เลือกนางอยู่แล้ว และมันคือนางมาเสมอตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นนาง อวี้ชางข้ารักเพียงเจ้า แต่…บัดนี้ ข้าไม่ใช่องครักษ์หนุ่มน้อยที่ชีวิตมีเพียงแค่เจ้าอีกแล้ว ข้ายังมีคนในความรับผิดชอบ มีบ้านเมือง มีกองทัพ มีทหารในสังก
Comments