ซูมั่วพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเจิ้งเซวียนอยากจะเจอหลีโย่วมากจริง ๆดื้อดึงขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่หลีโย่วต้องขบคิดถึงแรงจูงใจของเขาอย่างหนักเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว“แต่ว่าคุณไม่รับนัดแบบส่วนตัวจริง ๆ เหรอคะ?” ก่อนที่รถจะขับออกไป ซูมั่วรีบก้าวไปข้างหน้าสองก้าวแล้วก้มตัวลงถามเธอคงขายเพื่อนให้มาช่วย ‘เอ็นเตอร์เทนแขก’ ไม่ได้แน่ ๆ ทางที่ดีควรเชิญทนายเจิ้งเอง แล้วความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายเสนอมาก็ไม่ต้องรับก็ได้เจิ้งเซวียนวางมือทั้งสองข้างบนพวงมาลัย หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างหลังจากออกจากศาล ท่าทีเจ้าชู้เสเพลของเขาก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมาอีกครั้ง แม้แต่ชุดสูทที่เป็นทางการก็ไม่อาจปิดบังกลิ่นอายของคุณชายเสเพลได้“คนสวยชวน ผมไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว โดยเฉพาะสาวสวยระดับคุณที่หาใครเทียบไม่ได้ แถมยังชวนผมถึงสามครั้ง” เจิ้งเซวียนหัวเราะเบา ๆซูมั่ว ‘เอ่อ...’คำพูดนี้เธอจะตอบยังไงดี? เห็นได้ชัดว่าที่ชวนก็เพื่อขอบคุณ แต่ตอนนี้ฟังดูเหมือนเธอจงใจเข้าไปจีบเขา...“ถ้าคุณไม่ได้ชวนเพื่อขอบคุณผมละก็ ชาตินี้ผมคงนอนตายตาหลับแล้วล่ะ~” เจิ้งเซวียนกล่าวอย่างซาบซึ้งซูมั่ว “...”ขณะที่ซูมั่วกำลังยืดต
ทนายความฝั่งของเขามองหน้ากันไปมาขนาดคุณปู่ฟู่ยังต้องออกมาจัดการเรื่องหย่า ประธานฟู่ยังจะยืนกรานที่จะอุทธรณ์อีกเหรอ?นี่มันไม่ใช่ว่าเห็น ๆ กันอยู่แล้วเหรอว่าไม่มีหวัง?แต่คำพูดนี้ก็ได้แต่คิดอยู่ในใจ เมื่อลูกความต้องการอุทธรณ์ พวกเขาก็ต้องเตรียมเอกสารอย่างเต็มที่อีกอย่างคือคดีที่คิดว่าจะชนะแน่นอนกลับต้องมาแพ้ ทนายอย่างพวกเขาแทบจะไม่มีที่เอาหน้าไปไว้แต่ก็โทษพวกเขาจริง ๆ ไม่ได้หรอก เดิมทีการต่อสู้กับทนายฝ่ายตรงข้ามก็ยังมีโอกาสชนะอยู่บ้าง แค่ไม่ยอมรับก็พอแล้วก็ติดสินบนผู้พิพากษาลับ ๆ สักหน่อย ก็เรียบร้อยแล้วแต่ใครจะไปรู้ว่าคุณปู่ฟู่จะเข้ามายุ่งด้วย ในตระกูลฟู่ตอนนี้ คำพูดของคุณท่านมีน้ำหนักมากกว่าประธานฟู่เสียอีก พวกเขาจะไปสู้ได้อย่างไร?ดังนั้นถึงมีความคับข้องใจก็ไม่มีที่ระบาย ประธานฟู่ไม่สามารถโทษพวกเขาได้ทั้งหมดอุทธรณ์ก็อุทธรณ์ไป อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าพวกเขาพยายามแล้ว สามารถรายงานประธานฟู่ได้ ส่วนผลลัพธ์สุดท้าย...โดยพื้นฐานแล้วไม่มีหวังที่จะพลิกกลับได้ทนายฝั่งนี้เริ่มเตรียมเอกสารและดำเนินขั้นตอนทันที ส่วนฝั่งตรงข้ามเจิ้งเซวียนดีใจมาก จับมือทักทายกับพ่อบ้านตระกูลฟู่
กล้องวงจรปิดทั้งในและนอกย่านที่พัก? แล้วยังมีกล้องวงจรปิดของโรงแรมที่เย่ซินหย่าพักในตอนนั้นอีก?บ้าเอ๊ย เจิ้งเซวียนไปได้มันมาได้ยังไงกัน?!“ฝ่ายเราขอชี้แจงว่า ต่อให้กล้องวงจรปิดที่ทนายฝ่ายจำเลยได้มาจะเป็นหลักฐานจริงก็ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ เพราะการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย” ทนายฝ่ายโจทก์กล่าวเขามองเจิ้งเซวียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าดูแคลน ในฐานะทนาย เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องพื้นฐานข้อนี้กล้องวงจรปิดเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผู้พิพากษาไม่มีทางยอมรับได้ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มีเหตุผลที่จะเอาผิดอีกฝ่ายได้“ผมก็แค่ต้องการให้ผู้พิพากษาได้รับรู้ความจริงที่ว่าฝ่ายโจทก์นอกใจก็เท่านั้น” เจิ้งเซวียนกล่าวพลางยิ้มเขาได้แสดงหลักฐานที่ถูกกฎหมายออกมาอีกครั้ง นั่นคือภาพที่ปาปารัสซี่ถ่ายได้“ต้องขอบคุณชู้รักของฝ่ายโจทก์ด้วย เธอคงคาดไม่ถึงสินะว่า วันหนึ่งภาพต้นฉบับที่ปาปารัสซี่ที่เธอจ้างไว้จะกลายเป็นหลักฐานมัดตัวความสัมพันธ์ของพวกคุณ”เจิ้งเซวียนกล่าวต่อพลางมองฟู่อี้ชวนและยิ้มต่อไปคราวนี้ฟู่อี้ชวนงงจริง ๆ ปาปารัสซี่ที่เย่ซินหย่าจ้าง? นี่มันหมายความว่ายังไง??!แม้ว
“งั้นผมต้องขอขอบคุณประธานฟู่จริง ๆ ที่ให้เกียรติผมขนาดนี้ ช่างมองผมสูงส่งเกินไปแล้ว ที่ให้ผมมาต่อปากต่อคำกับกลุ่มผู้เก่งกาจพวกนี้ฟู่อี้ชวนได้ยินเขาพูดจาเล่นลิ้นอยู่ตรงนี้ ก็ไม่อยากจะใส่ใจแม้แต่น้อย สายตาจับจ้องไปที่ซูมั่ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่มองเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ“ไปกันเถอะ ได้เวลาแล้ว” ซูมั่วกระซิบเตือนทนายความของเธอเจิ้งเซวียนจึงหันไปยิ้มให้ฟู่อี้ชวนแล้วพูดว่า“หลังวันนี้ไปผมคงจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ชนะคนมากมายขนาดนี้ด้วยตัวคนเดียว แถมยังเป็นคดีของประธานฟู่อีกด้วย”เมื่อท้าทายเสร็จ เขาก็ก้าวเข้าไปข้างใน ซูมั่วเดินเข้าไปพร้อมกับเขา ทิ้งให้เหล่าทนายความด้านหลังจ้องมองฝ่ายตรงข้ามที่พูดจาโอ้อวดอย่างพร้อมเพรียงกันเป็นแค่ทนายจำเลย แต่พวกเขาคนเยอะขนาดนี้ยังเอาชนะไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคงต้องขายขี้หน้าครั้งใหญ่แล้วฟู่อี้ชวนจ้องมองแผ่นหลังของซูมั่ว ก่อนจะตวัดสายตาอย่างเคียดแค้นไปยังเจิ้งเซวียน จึงก้าวเท้าตามเข้าไปห้องไกล่เกลี่ย“ลูกความของฝ่ายเราได้ตระหนักถึงความผิดของตนเองแล้ว และกำลังพยายามปรับปรุงแก้ไข หวังว่าจะสามารถประคับประคองชีวิตสมรสต่อไปได้ และโปรดให้โอกาสเขาด้วยครับ”
แม้เขาจะรู้ว่าซูมั่วแต่งงานกับเขาเมื่อสองปีก่อนเพราะโจวจิ่งอัน แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับความจริง เขาไม่เชื่อว่าอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ แล้วจะไม่เกิดความรักถ้าความสัมพันธ์ระหว่างซูมั่วกับโจวจิ่งอันมั่นคงขนาดนั้น แล้วทำไมพวกเขายังทะเลาะกันอยู่? อีกทั้งซูมั่วยังไม่เคยตอบตกลงกลับไปอยู่กับโจวจิ่งอันอีกเลยยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตนยังมีความหวัง ยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจในความมุ่งมั่นต่อซูมั่ว ฟู่อี้ชวนกำโทรศัพท์ไว้แน่น แววตายิ่งลึกซึ้งขึ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโถงทางเดินลิฟต์หลังเลิกงานวันนี้ แม้เจ้านายจะสั่งห้ามพูดถึง แต่ก็ห้ามข่าวลือไม่ให้แพร่กระจายไปได้โดยเฉพาะฝั่งฝ่ายออกแบบ ที่เกิดกระแสซุบซิบนินทาอย่างหนัก ต่างก็ประหลาดใจต่อข่าวฉาวนี้พวกเขาแทบไม่รู้จะเริ่มตกใจกับตรงไหนก่อน ระหว่างตกใจที่ซูมั่วคือคุณนายของตระกูลฟู่ผู้ร่ำรวย หรือจะตกใจที่เธอนอกใจในระหว่างแต่งงานมาคบกับเจ้านายของพวกเขายิ่งไปกว่านั้น ยังมีข่าวลือจากฝั่งผู้บริหารว่า ซูมั่วแต่งกับทายาทตระกูลฟู่เพื่อจะได้สนับสนุนให้เจ้านายของพวกเขาเปิดบริษัท!ตอนนี้เธอมาทำงานที่บริษัทติ่งเซิ่งแบบปิดบังตัวตน ยิ่งตอกย้ำความน่าเชื่อถือของข่าวทั้งหมดแ
รออยู่สองวินาทีก็ยังไม่มีคำตอบ ฟู่อี้ชวนจึงวางสายโทรศัพท์ทันทีฝั่งตรงข้ามของกระจก ในที่สุดเย่ซินหย่าก็ร้อนรน ด้วยความกลัวว่าเขาจะจากไปจึงรีบพูดว่า“ฉันพูดแล้ว ฉันพูดแล้ว!”“มันคือของที่คุณซื้อให้ฉัน...”เมื่อไม่ได้ยินคำตอบที่ต้องการ กลับเป็นข้อมูลที่ไม่คาดคิด ฟู่อี้ชวนก็เบิกตากว้างทันทีนี่มันอะไรเนี่ย เย่ซินหย่า ผู้หญิงบ้าคนนี้ ดันเอาหลักฐานที่เขา ‘นอกใจ’ ไปมอบให้ซูมั่วทั้งหมดด้วยตัวเอง? เท่ากับช่วยอีกฝ่ายตอกย้ำความผิดของเขาหรือไม่? เมียน้อยมาท้าทายด้วยตัวเอง ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุก็อยู่ครบ เดิมทีฟู่อี้ชวนตั้งใจปฏิเสธให้ตายก็ไม่ยอมรับ แต่คราวนี้ก็พังไม่เป็นท่าโดยไม่ต้องมีคนโจมตียิ่งไปกว่านั้น เขาคิดว่ามันไม่จบแค่นี้แน่ เย่ซินหย่าต้องส่งอะไรอย่างอื่นให้ซูมั่วอีกแน่ความโกรธอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นสู่สมอง ฟู่อี้ชวนจ้องมองผู้หญิงในกระจกอย่างเย็นชา ตระหนักถึงตัวตนของเธอได้อย่างถ่องแท้ จนอยากจะให้เธอติดคุกไปตลอดชีวิต“นังบ้า! ทำลายชีวิตแต่งงานของคนอื่น รอให้ทนายของฉันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้เลย!” ฟู่อี้ชวนพูดอย่างดุเดือดภายในหน้าต่างกระจกเมื่อได้ยินผู้ชายพูดแบบนี้ ความเสียใ