คานส์ นักธุรกิจหนุ่มผู้ไร้ความรู้สึก เขาคือคนที่เย็นชากับความรักและไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหน แต่ชีวิตที่แสนจะสุขสำราญก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อมีผู้หญิงมาบอกกับเขาว่าเธอท้อง แถมยังบอกอย่างมั่นใจว่าเด็กในท้องของเธอคือลูกของเขา ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าเด็กในท้องเธอ ‘เป็นลูกของฉัน’ อลิช เธอเป็นผู้หญิงใสซื่อแต่ดันพลาดท่าท้อง เหตุการณ์ในคืนนั้นเธอจำได้ดีว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร และเธอก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนไหน นอกจากเขา… ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของคุณ ฉันยินดีให้คุณตรวจดีเอ็นเอ ——— —- —— —- —-
View Moreจุดเริ่มต้นของเรื่องราว….
Talk คานส์ @ที่คลับ “ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับนาย” ไอ้โจ้ลูกน้องคนสนิทของผมเดินมาบอกหลังจากที่เดินตรวจรอบ ๆ คลับแล้วไม่เจอสิ่งปกติอะไร สิ่งปกติที่ผมหมายถึงคือพวกที่มันชอบพกปืนเข้ามาแล้วก่อความวุ่นวายในคลับ ถ้าเจอคนพวกนี้ผมจะจัดการมันทิ้งซะ “อื้ม กูจะขึ้นไปตรวจเอกสารข้างบนสักหน่อย” “ครับนาย” “ให้แอลขึ้นไปด้วยไหมคะ ^_^” ผู้หญิงที่นั่งข้างกายของผมเสนอขึ้นมา “ฉันจะขึ้นไปคนเดียว” ผมบอกชัดเจนก่อนจะแกะมือของเธอที่กอดแขนอยู่ออกอย่างรำคาญ “…แต่คานส์คะ” “อย่าให้ต้องพูดย้ำบ่อยๆ ว่าไม่ได้เธอสำคัญกับฉันขนาดนั้น” ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินผ่านผู้คนในคลับเพื่อจะขึ้นไปยังชั้นสอง ระหว่างทางมักจะมีสายตาของผู้หญิงมองมาที่ผมอย่างยั่วยวน แต่พวกเธอเหล่านั้นไม่ได้ถูกใจผมเลยสักนิดพรึบ!! จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาผม โดยไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับพูดอย่างรนราน
“ชะ ช่วยด้วย ช่วยอลิชด้วย” ใบหน้าหวานยื่นมาใกล้ ผมจึงรีบเอนหน้าหนีก่อนที่ริมฝีปากของเธอจะมาชนเข้ากับริมฝีปากของผม “ช่วยอะไร ?” ผมถาม ก่อนจะมองทางด้านหลังของเธอแล้วเห็นว่ามีผู้ชายเดินตามมาติดๆ “อะ อลิชกลัว” “ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนกู” ไอ้ผู้ชายคนนั้นพูดก่อนที่มันจะเอื้อมมือมาจับแขนผู้หญิงตรงหน้าผม แต่เธอพยายามจะสะบัดแขนหนีมัน แล้วพูด “อลิชไม่รู้จักเขา อึก ระ ร้อน” ผมปัดมือผู้ชายคนนั้นออกเมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า “เธอบอกว่าไม่รู้จักมึง” “เรื่องของผัวเมีย มึงอย่ามาเสือกได้ไหมวะ” “มึงกล้าพูดคำว่าเสือกกับกู ?” ผมขมวดคิ้วมองผู้ชายตรงหน้า “มีอะไรหรือเปล่าครับนาย” ไอ้โจ้วิ่งมาหาผมได้ทันการ มันรีบถามเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “จัดการมันซะ” ผมบอกสั่นๆ ไอ้โจ้มันรู้งานดีอยู่แล้วไม่ต้องให้พูดอะไรมากความหลังจากออกคำสั่งเสร็จผมก็พาผู้หญิงคนนี้เดินขึ้นมาบนชั้นสอง ในขณะที่เดินอยู่เธอเริ่มอยู่ไม่นิ่ง อาการของเธอแปลกไปจากเมื่อครู่ แถมเธอยังเอามือของผมมาจับที่หน้าอกของตัวเอง ทำให้ผมขมวดคิ้วเป็นปมทันที “ช่วยทำ ช่วยด้วย อะ อลิชร้อน”
ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเอามือออกจากหน้าอกของเธอ แล้วเบือนหน้าหนีพร้อมกับพูด “เพื่อนเธออยู่ไหน ฉันจะไปส่งที่โต๊ะ” “มะ ไม่รู้ อลิชร้อน ช่วยทำให้หายร้อนได้ไหมคะ” “อยากให้ฉันช่วยอะไร ?” “ทำให้อลิชหายร้อนได้ไหมคะ อลิชไม่ไหวแล้ว” เธอใช้มือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวอย่างยั่วยวนผม “เธออยากจะมีเซ็กส์กับผู้ชายแปลกหน้า ?” “ไม่ มะ ไม่ใช่” เธอส่ายหน้ารัวๆ แต่จู่ๆ ก็เอามือมาลูบคลำบนแผงอกของผม “อื้อ อะ อลิชต้องการ” อาการของผู้หญิงตรงหน้าทำให้ผมดูออกได้ไม่ยากว่าเธอต้องโดนยามา ผมคิดสักพักก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก ในเมื่อเธอต้องการ ก็ได้ผมก็จะช่วย “ตามฉันมานี่สิ” ผมพาเธอเดินมาที่ห้อง ผมเรียกห้องนี้ว่าห้องเชือด เมื่อเข้ามาด้านในแล้วผมก็ผลักร่างของเธอในนอนราบลงไปกับเตียง ก่อนจะขึ้นค่อม “ถ้าอยากมากฉันก็จะสนองให้ แต่จำไว้ว่าระหว่างเธอกับฉันมันแค่วันไนต์สแตนด์” “….วันไนต์สแตนด์คืออะไรคะ” ผู้หญิงใต้ร่างของผมเธอขมวดคิ้วทำเหมือนไม่เข้าใจความหมายที่ผมบอก พร้อมกับใช้มือบีบเค้นหน้าอกตัวเองเพราะฤทธิ์ของยา ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบข้างๆ กับหูของเธอ “พรุ่งนี้ฉันจะลืมว่าเคยมีอะไรกับเธอ เธอเองก็ต้องลืมเหมือนกัน เข้าใจไหมหื้ม” “….อลิชต้องการคุณ” อาการของเธอในตอนนี้เริ่มมีความต้องการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมยกยิ้มมุมปากอีกครั้งก่อนจะก้มลงจูบลงบนริมฝีปากบาง ความนุ่มของริมฝีปากเธอนั้นทำให้ผมอดที่จะใช้เขี้ยวฟันกัดงับไม่ได้ แต่ผู้หญิงใต้ร่างเธอกลับทำเหมือนจูบไม่เป็น “อื้อ~” เสียงเล็กๆ เปล่งออกมาในลำคอ เธอใช้มือผลักผมออกจากตัว แล้วลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าพร้อมกับเอาแต่พูดว่าร้อน เห็นแบบนั้นผมจึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเหมือนกัน เมื่อผมและเธอต่างก็เปลือยกายทั้งคู่ ผมกดร่างของเธอให้นอนราบลงไปอีกครั้งแล้วใช้สายตาสำรวจมองเรือนร่างของเธอ ร่างกายของเธอกำลังสะกดสายตาผม ผมก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอโดยไม่ต้องมีคำพูดอะไร เพราะจุดประสงค์ของผมกับเธอคือเซ็กส์ “มั่นใจว่าพรุ่งนี้เช้าเธอจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำในคืนนี้ ?” “รีบๆ ทำได้ไหมคะ อลิชไม่ไหวแล้ว” เธอแอ่นสะโพกขึ้นลง ทำให้ตรงนั้นเกิดการเสียดสี และแก่นกายของผมมันก็ผงาดขึ้นมาเตรียมพร้อม ผมจับเรียวขาเล็กให้อ้าออกจากกัน ก่อนจะก้มหน้ามองตรงกลางหว่างขาของเธอ พร้อมกับใช้มือกำรูดแก่นกายของตัวเองสามสี่ครั้งแล้วหยิบถุงยางอนามัยมาสวมใส่ จากนั้นก็ค่อยๆ กดส่วนหัวเข้าไปในร่องแคบ แต่!! ก็ต้องชะงักแล้วมองหน้าผู้หญิงที่นอนอยู่ใต้ร่างของตัวเอง “อื้อ จะ เจ็บ อะ เอาออกไปก่อนได้ไหมคะ” “เธอบริสุทธิ์ ?” เธอยกสะโพกขึ้นลงช้าๆ แล้วพูดกระเส่า “ทะ ทำเบาๆ นะคะ อลิชเจ็บ” ถึงปากเธอจะบอกว่าเจ็บแต่ด้วยความที่โดนยา ทำให้เธอมีความต้องการมากกว่าที่จะหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ “อยากให้ทำต่อ ?” ผมค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าร่องแคบช้าๆ ในขณะที่ถาม “อื้อ เร็วๆ สิคะ อลิชไม่ไหวแล้ว อ๊ะ จะ เจ็บ” ผมตัดสินใจอัดกระแทกแก่นกายใหญ่ของตัวเองให้เข้าไปในร่องแคบจนมิดลำ ทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็กดแช่แก่นกายไว้ยังไม่ขยับ ก่อนจะก้มหน้าลงตะโบมดูดดุนหน้าอกทั้งสองเต้าเพื่อให้เธอผ่อนคลาย “ขยับสิคะ อ๊า” เมื่อได้ยินเสียงหวานบอกแบบนั้นผมจึงหยัดตัวขึ้น จากนั้นก็เริ่มอัดกระแทกเอวสอบ ร่างบางที่นอนบิดเร้าดิ้นพล่าน เธอเหมือนจะมีความสุข แต่บางครั้งเธอก็ผลักผมออก เหมือนกับว่าความรู้สึกของเธอกำลังตีกันอยู่ในหัว แต่ถึงเธออยากจะให้หยุดตอนนี้ ผมคงทำให้ไม่ได้… ปัก ปัก ปัก! ผมเอื้อมมือบีบเคล้นหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เต็มมือ พร้อมกับอัดกระแทกแก่นกายเข้าออกด้วยความเสียวซ่าน ความบริสุทธิ์ของเธอมันกำลังทำให้ผมแทบจะคลั่ง ด้านในตัวเธอมันคับแน่นจนผมแทบอยากจะระเบิดอารมณ์ออกมา ผมไม่สามารถทะนุถนอมเธอได้ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม ทุกครั้งที่ขยับแก่นกายเข้าออกร่องแคบมันคับแน่นจนผมอยากจะปลดปล่อย“อ๊า~” ผมเชิดหน้าขึ้นเมื่อปลดปล่อยน้ำแรกออกมา ส่วนผู้หญิงที่นอนอยู่ใต้ร่างดูเหมือนว่าเธอจะยังมีความต้องการอยู่
“ทะ ทำอีกสิคะ อลิชชอบ อ๊า~” เธอบอกพร้อมกับล่อนสะโพกช้าๆ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดึงแก่นกายออกมาเพื่อจะเปลี่ยนใส่ถุงยางชิ้นใหม่ แต่กลับพบว่าถุงยางที่สวมใส่อยู่มันฉีกขาดตรงส่วนหัว คงเป็นเพราะความคับแน่นของเธอถึงทำให้ถุงยางขาดแบบนี้ “เวรเอ้ย!” ผมสบถออกมาเบาๆ แล้วบอกกับเธอ “พรุ่งนี้เธออย่าลืมซื้อยาคุมกินด้วยล่ะ เข้าใจที่ฉันบอกใช่ไหม ?” “อื้อ ขะ เข้าใจค่ะ ทำต่อได้แล้ว เร็วๆ สิคะ” ยาที่เธอโดนมาคงจะแรงใช่เล่น ถึงทำให้มีความต้องการมากขนาดนี้ ถึงขั้นลืมว่านี่คือครั้งแรก ลืมความเจ็บปวด ผมค่อยๆ ก้มหน้าลงกระซิบบอกเธอ “ฉันทำต่อแน่เด็กน้อย….” ในเมื่อเธอต้องการให้ช่วย ผมก็จะช่วยจนกว่าเธอจะหายอยากแน่นอนว่าสายตาของคุณคานส์ในตอนนี้ไม่ได้เชื่อฉัน เขากำลังมองด้วยความสงสัยแววตาจับจ้องมาที่กระเป๋าในมือของฉันอย่างไม่ละสายตา“ส่งกระเป๋ามา” “อะ เอาไปทำไมคะ อลิชลอกว่าไม่มีอะไรไง” “ไม่มีอะไรก็เอามา” ฉันกำชับกระเป๋าแน่นเมื่อคุณคานส์เดินมาใกล้ๆ หมับ!! ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชายจึงดึงกระเป๋าออกไปจากมือของฉันได้อย่างง่ายดาย หัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นคุณคานส์กำลังสำรวจกระเป๋า ฉันได้แต่ยืนแน่นิ่งเพราะรู้ตัวว่าไม่มีทางรอดแล้ว จบกันความลับสามปีที่ฉันปกปิดมา ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผย “นี่อะไร ?” คุณคานส์หยิบแผงยาคุมชูขึ้นมาตรงหน้าของฉัน เขาเอ่ยถามเสียงเย็น “……” ฉันเม้มปากแน่นเพราะหลักฐานมัดตัว จะอธิบายเหตุผลแต่ดูท่าตอนนี้คุณคานส์คงไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น “คงไม่ตอบว่าวิตามินนะ” พอเห็นว่าฉันเงียบเขาก็พูดขึ้นมาดักคอไว้ ใครกันจะไปตอบว่าวิตามิน บ้าหรือเปล่า “อะ อลิชอธิบายได้นะคะ”“กินมานานเท่าไหร่แล้ว ?” ตอนนี้สามีที่แสนดีของฉันกำลังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อำมหิต “สะ สามปี….”“เธอหลอกให้ฉันมีความหวังมาตลอดสามปี หึ!!” คุณคานส์กำแผงยาคุมในมือแน่น จากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันทิ้งลงพื้นด
3 ปีผ่านไป ตอนนี้ฉันกับคุณคานส์แต่งงานกันแล้วเราคือสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนลูคัสก็วันกำลังซน ตอนนี้เข้าเรียนอนุบาลหนึ่งแล้ว แถมยังมาเล่าฉันอีกว่ากำลังแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ห้องเรียนเดียวกัน ลูกฉันนี่คงจะแพรวพราวตั้งแต่เด็กแน่ๆ ตั้งแต่ลูคัสเด็กๆ คุณคานส์ก็ช่วยฉันเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ เขาไม่เข้าบริษัทเป็นเวลาสองปีเพื่อเลี้ยงลูกช่วยฉัน พอลูคัสเกือบจะสามขวบเขาเข้าไปที่บริษัทเหมือนเดิม ไม่ได้เอางานมาทำที่บ้านแล้วลูคัสยิ่งโตหน้าก็ยิ่งเหมือนคุณคานส์ ทั้งคนที่เจอและครูที่โรงเรียนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชายของฉันหล่อตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่มีใบหน้าหล่อเหมือนเทพบุตร ช่วงนี้งานที่บริษัทของคุณคานส์ค่อนข้างจะยุ่งๆ พรุ่งนี้ครบรอบแต่งงานครบสองปีของเราไม่รู้ว่าจะจำได้หรือเปล่า พรุ่งนี้พ่อของฉันจะมารับลูคัสไปอยู่ด้วยไม่รู้จะมารับเองหรือให้อลันมารับเพราะพรุ่งนี้อลันก็จะกลับไปที่บ้านเหมือนกัน เพราะเป็นวันหยุดยาวของลูคัสฉันเองก็ไม่ขัดอะไรเพราะอยากให้ลูกคุ้นชินกับตาของเขา วันนี้ฉันพาลูคัสมาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล ส่วนคุณคานส์เขาอยู่ที่บริษัทงานยุ่งไม่ว่างมาด้วย “ไม่ร้องนะครับ” ฉันอุ้
ฉันรีบเดินหลับเข้ามาในครัวเหตุผลก็เพราะว่าไม่อยากให้มีปัญหา เพราะรู้ว่าคุณคานส์เป็นคนขี้หึงและเขาก็ไม่ค่อยจะมีเหตุผล ถึงแม้ฉันกับไวน์จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยก็ตาม ฉันนั่งกินข้าวเงียบๆ ในห้องครัว รอเวลาให้เพื่อนของคุณคานส์กลับไปก่อนจึงจะออกไปด้านนอก “ขอน้ำกินหน่อยครับ ^_^” เป็นไวน์ที่เดินเข้ามาในครัว เขาเอ่ยขอน้ำกับฉันพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม การได้เจอไวน์ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอก ทุกๆ ครั้งจะมีแต่ความกลัว กลัวว่าคุณคานส์จะมาเจอเข้า แล้วนี่เป็นที่บ้านด้วย “ในตู้เย็นน่ะ เดี๋ยวหยิบให้นะ” “ขนาดคลอดลูกแล้วพี่อลิชก็ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะครับ” ไวน์ก็ยังคงชอบพูดทะเล้นเหมือนเดิม “หยุดพูดหยอดได้แล้ว เดี๋ยวก็เจอดีหรอก” ฉันดุเขาเบาๆ ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้สังเกตหรือเปล่าที่ไวท์มาในครัวแบบนี้ “ผมอ่ะไม่คิดอะไรแล้วนะ แต่เฮียนี่สิคงจะฝังใจ” ไวท์พูดพร้อมกับรับน้ำไปจากฉัน เป็นจังหวะเดียวกันที่คุณคานส์เดินมาในครัวพอดี ทำเอาฉันตกใจจนทำตัวไม่ถูก รีบถอยห่างจากไวท์ทันที “ลูกร้องหิวนม” คุณคานส์บอกสั้นๆ แล้วจ้องฉันเขม็ง “โธ่เฮีย! ผมมีเมียแล้วนะ ไม่ต้องหึงขนาดนั้น
คุณคานส์โน้มตัวลงมาใช้ลิ้นตวัดเบียบนหน้าท้องที่แบนราบของฉัน “แก้มัดให้อลิชได้แล้วค่ะ อ๊า~” ฉันครางออกมาพร้อมกับค่อยๆ กัดริมฝีปากแน่นเมื่อคุณคานส์กระแทกเอวสอบอีกครั้ง “ขออีกน้ำนะครับที่รัก” เขาพูดเสียงหวานจากนั้นก็หยัดตัวขึ้น ไม่ยอมแก้มัดให้ฉัน ปัก ปัก ปัก~ เสียงของเนื้อที่มันกระทบกันเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง “ค..คุณคานส์ อ๊ะ~ อลิชอยากกอด กะ แก้มัดให้หน่อยได้ไหมคะ อ๊าง~” ฉันพูดอย่างเอาอกเอาใจในขณะที่ร่างกำลังกระเพื่อมสั่นไหวอยู่ ครั้งนี้คุณคานส์ยอมเห็นใจ เขาแก้มัดให้ฉันแต่โดยดี อีกทั้งเอวสอบกระเร่งอัดกระแทกไม่หยุด ปัก ปัก ปัก ~ เมื่อแก้มัดเสร็จแล้วคุณคานส์ก็จับสะโพกของฉันแน่น เขาเร่งจังหวะให้ป่าเถื่อนขึ้น “อึก~ อ๊า อ๊าง~” ฉันครางเสียงดังไปพร้อมกับกับเสียงบองกระดิ่งที่คอ จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วโผล่กอดคุณคานส์แน่น “พะ พอก่อนได้ไหมคะ อ๊า~ อลิชอยากไปล้างก่อน” ฉันบอกอย่างเขินอาย ตอนนี้น้ำกามของคุณคานส์มันเปื้อนเหนอะหนะไปหมดเลย “ไว้ค่อยไปล้างทีเดียวก็ได้ ซี๊ด~” คุณคานส์โอบกอดฉันไว้แน่น จากนั้นเขาก็กระแทกรุนแรงจนก้นฉันมันลอยขึ้นจากโต๊ะทำงาน “อ๊า~ บะ เบาๆ ได้ไหม อื้อซี๊ด~” ฉันไม่ปฏิเสธ
ใบหน้าคมคายก้มลงมาตวัดลิ้นหยอกล้อเล่นกับยอดปทุมถัน ทำเอาฉันสะดุ้งโหย่งด้วยความเสียวซ่านรีบคว้ามือกอดต้นคอแกร่งของคุณคานส์เอาไว้แน่น ความเย็นเฉียบของปรายลิ้นมันทำให้ขนทั้งตัวลุกซู่ “อ๊า~” ฉันกัดริมฝีปากแน่นมองการกระทำของคุณคานส์ด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว “ดะ ดูดเบาๆ หน่อยสิคะ”ถึงกับต้องร้องท้วงเมื่อถูกอุ้งปากร้อนๆ ตะโบมดูดดุนยอดปทุมถันอย่างหิวโหย การดูดเม้มมันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บเอามากๆ “เธอน่าจะชอบนะ ครางไม่หยุดเลย” คุณคานส์เงยหน้าขึ้นมาพูด ทำเอาฉันต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะความเขินอาย ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันจนเกิดรอยแดงเถือก คุณคานส์ยังไม่พอใจเขาก้มลงมาดูดเลียเม็ดไตบนเนินหน้าอกอีกครั้ง “อ๊า อลิช บะ บอกให้ อ๊ะ บะ เบาๆ ไงคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะฟังไม่รู้เรื่อง หมับ! พรึบ! ฝ่ามือใหญ่ช้อนตัวฉันขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงาน ไม่รู้ว่าคุณคานส์ปัดของบนโต๊ะลงไปกองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้โต๊ะทำงานของเขาไม่มีเอกสารอยู่เลย ชุดคลุมของฉันถูกดึงออกไปในพ้นตัว คุณคานส์กรีดกรายนิ้วของตัวเองไต่มาตามเรียวขาอ่อนของฉันด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม “เดี๋ยวลูกตื่นก่อนนะคะ ถ้าไม่รีบทำ” ฉันพูดเตือ
กว่าฉันจะเกลี่ยกล่อมคุณคานส์ให้ใจเย็นๆ ได้ใช้เวลานานนับชั่วโมงเลย เขามุ่งมั่นคิดแต่เรื่องพันนั้นอย่างเดียว มันน่าตีจริงๆ ตอนนี้ฉันอุ้มลูกลงมาเลี้ยงที่ชั้นล่าง คุณคานส์จัดเตรียมที่ไว้สำหรับลูคัสแล้วเรียบร้อย ลูกน้องของคุณคานส์ก็น่ารักนะคอยมาหยอกเล่นกับลูคัสไม่ขาดสายเลย พี่เจกับพี่โจ้สองคนนี้เอ็นดูลูคัสสุดๆ แถมยังเรียกลูคัสว่านายน้อย น่าเอ็นดูเชียวล่ะ “อุแง ~” ลูคัสร้องออกมาเสียงดังลั่น ฉันที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่จึงรีบวิ่งมาดูลูกทั้งที่เพิ่งกินข้าวไปได้แค่สามคำ “โอ้ๆ แม่อยู่นี่ครับแม่อยู่นี่ หิวนมหรอครับ” ฉันเอาลูกเข้าเต้าแต่ทว่าลูคัสส่ายหน้าไปมาไม่ยอมกินนม “ลูกเป็นอะไร” คุณคานส์ได้ยินเสียงร้องของลูคัสจึงเดินมาดู เขานั่งทำงานที่ห้องอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะเอาแต่ร้อง ให้กินนมก็ไม่ยอมกิน” ฉันมองลูกชายตัวน้อยในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วง เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ใจแม่ไม่ดีเลยนะลูคัส “มาเดี๋ยวฉันลองอุ้ม” “คุณคานส์ทำงานอยู่ไม่ใช่หรอคะ”“ลูกสำคัญกว่างานนะ” “อลิชล่ะคะสำคัญกว่าหรือเปล่า”“เธอยังเห็นว่าฉันเป็นผัวอยู่หรือเปล่าล่ะ” คุณคานส์ยังคงนอยที่ฉันไม่ยอมให้เขาทำเรื่องอย่าง
“พะ พาเธอมาทำไมคะ” ฉันกำมือแน่นพร้อมกับเอ่ยถามคุณคานส์เสียงสั่น เพราะความรู้สึกตอนนี้มันเริ่มกลัวไปหมดทุกอย่าง “คานส์ออกไปข้างนอกก่อนก็ได้ค่ะ แป้งขอคุยกับเธอสองคน” แป้งเธอบอกคุณคานส์ฉันจึงรีบค้านขึ้น “คุยอะไร….”คุณคานส์เดินมาหาฉันแล้วก้มลงมาจูบลงบนหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ลูบศรีษะของฉันไปมาแล้วพูด “แป้งแค่อยากเคลียร์เรื่องตอนนั้น ก่อนที่เธอจะกลับต่างประเทศ”“คุณคานส์บอกอลิชว่าเธอกลับไปแล้วนี่คะ” “…..” พอฉันท้วงไปแบบนั้นคุณคานส์ก็หน้าซีด แปลว่าเขาโกหกกันอย่างนั้นหรอ “ฉันมาดี” แป้งเธอพูดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่คุณคานส์จะเดินออกไปจากห้อง ฉันไม่รู้ว่าเธอมาดีจริงหรือเปล่าเพราะมารยาของเธอนั้นเยอะเหลือเกิน และถึงจะมาดีแต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นมิตรด้วย ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเกลียดใคร แต่ถ้าฉันได้เกลียดก็ยากที่จะเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้ “มีอะไรก็พูดมาสิ” เป็นฉันที่เปิดเรื่องพูดขึ้นมาก่อนเพราะอยากให้เธอรีบพูดแล้วก็รีบกลับไป“ฉันขอพูดตรงๆ ว่ายังรู้สึกดีๆ กับคานส์อยู่” ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอไม่ได้มาดีตั้งแต่แรก พอคุณคานส์ออกไปธาตุแท้ก็ออกมา “จะมาขอเขาคืนอีกหรอคะ ก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันปล่
#ช่วงเย็น หมอเอาลูกมาให้และสอนวิธีเอาลูกเข้าเต้านมและสอนวิธีอาบน้ำให้ฉันกับคุณคานส์ดูแล้ว ลูคัสกินนมจนอิ่มแต่ก็ยังไม่ยอมนอน คงจะเป็นเพราะคุณปู่กับคุณตาคอยกวนแน่เลย อย่างที่คุณคานส์บอกว่าลูกเหมือนเขาเปะๆ ฉันได้เห็นหน้าลูกชัดๆ แล้วก็นึกน้อยใจเพราะไม่มีส่วนไหนของใบหน้าที่ลูกเหมือนฉันเลย “หน้าตาเหมือนตาคานส์ตอนเกิดไม่มีผิด” พ่อของคุณคานส์มองเจ้าตัวเล็กในรถเข็นแล้วก็หันมาพูดกับฉัน “ไม่ยุติธรรมเลยค่ะ” ฉันบอกอย่างน้อยอกน้อยใจ “ครั้งต่อไปต้องทำให้เหมือนตัวเองนะจะได้ไม่น้อยหน้า” พ่อของฉันบอก พูดมาแบบนี้แปลว่าอยากจะให้ฉันมีหลานให้อีกคนแน่ๆ “นั่นสิ คนต่อไปพ่อขอผู้หญิงนะอยากอุ้มหลานผู้หญิงบ้าง ไอริสก็มีหลานชายให้ นี่ท้องอีกคนก็เป็นผู้ชาย” พ่อของคุณคานส์แทนตัวเองกับฉันว่าพ่อแล้ว แต่ที่น่าตกใจกว่าคือได้ยินว่าไอริสน้องสาวของคุณคานส์กำลังท้องลูกคนที่สอง “ไอริสเพิ่งคลอดไปเองไม่ใช่หรอคะ ทะ ทำไมถึงท้องเร็วจัง” “เธอก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนะ คลอดปุบท้องปับ” คุณคานส์พูดขึ้น ฉันรู้ทันหรอกว่าเขาคิดเรื่องอะไรอยู่ “ไม่เอาค่ะ เว้นไปก่อนสักสองสามปีก็ได้” ฉันยังเข็ดกับการคลอดอยู่เลย ตอนนี้ไม่มีความรู้สึ
ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดผ่านพ้นไปด้วยดีตอนนี้ฉันกำลังพักฟื้นหลังคลอดอยู่ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาล ฉันรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้มันไม่ง่ายเลย แต่มันคือความเจ็บปวดที่งดงามความเจ็บปวดที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดเก้าเดือน ตอนนี้ลูกชายของฉันได้คลอดออกมาแล้ว ช่วงเวลาที่ฉันเจ็บที่สุดในชีวิตคุณคานส์คอยอยู่ใกล้ๆ จับมือให้กำลังใจฉันไม่ห่าง ครั้งแรกที่เราเห็นหน้าลูกทั้งฉันและคุณคานส์เราก็ต่างร้องไห้ออกมา “เป็นไงบ้างเจ็บอยู่ไหม” คุณคานส์ไปจัดการเรื่องเอกสาร พอกลับมาที่ห้องพักฟื้นก็รีบถามฉันด้วยความเป็นห่วง “เจ็บสิคะ เจ็บมากด้วย” ตอนนี้แผลที่เย็บมันยังเจ็บมากๆ ขยับตัวแทบไม่ได้เลย “เดี๋ยวหมอเอาลูกมาให้ตอนเช้า เธอมีน้ำนมแล้วใช่ไหม” คุณคานส์ดูตื่นเต้นมากกว่าตอนที่ฉันคลอดอีกนะตอนนี้ เขามีท่าทางรนๆ อยู่ไม่นิ่ง “มีแล้วค่ะ ไหลออกมาเยอะเลย” โชคดีที่น้ำนมของฉันมีพร้อมให้ลูกดื่มทันที ได้ยินคุณหมอบอกว่าบางคนต้องรอหลายวันกว่าน้ำนมจะมา “ลูกหน้าเหมือนฉันเปะๆ เลย” คุณคานส์บอกอย่างภูมิใจ ตอนคลอดฉันเห็นหน้าลูกไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะมัวแต่ร้องไห้ด้วย คุณคานส์ก็คงจะไปดูลูกมาแล้วถึงมาพูดแบบนี้ “ไม่เห
Comments