“ไม่เป็นไรนะชา “นุชเอื้อมมือรั้งศีรษะของใบชาเข้ามาซบอกพลางลูบไหล่เล็กเพื่อปลอบขวัญ เธอทั้งเห็นใจและสงสารที่เพื่อนสาวต้องมาเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนั้น“..” ใบชาสวมกอดนุชไว้ด้วยความเหนื่อยล้า ขณะหยาดน้ำตากลับมารินไหลไม่ขาดสายอีกครั้ง หนำซ้ำตอนนี้ร่างกายที่บอบซ้ำ ยังเริ่มปวดหนึบจากการกระทำของแพททริคที่ยังไม่หายดีนัก“ไอ้แพททริคมันเป็นผู้ชายประสาอะไรวะ!..แม่งโคตรน่าตัวเมีย! ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ยังทำรุนแรงได้ “อาร์ตโพล่งขึ้นเสียงห้าวอย่างรู้สึกแค้นใจแทนใบชาหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะพูดต่อว่า “ชาคิดถูกแล้วที่ออกจากบ้านมันมาได้ หากวันไหนมันโมโหขึ้นมาอีก ชาอาจจะเจ็บหนักกว่านี้ก็ได้ใครจะไปรู้ สันดานคนเรามันแก้กันยากซะด้วยสิ ““ผู้ชายอะไรไร้เหตุผลสิ้นดี! “นุชทุบกำปั้นลงโซฟาตัวยาวด้วยความโมโห“วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ชาจะร้องไห้ “ใบชาผละตัวออกจากเพื่อนสาว พลางใช้หลังมือบาดน้ำตาออกจากพวกแก้มนวลลวก ๆ ระหว่างนั้นประโยคของแพททริคก็ประดังประเดเข้ามาให้หวนย้อนถึง ( ก็ไม่แปลกที่มึงจะทำความรักของมึงหายไปโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน) ใช่ความรักของเธอหายไปโดยไม่รู้ตัวจริง ๆ หายไปพร้อมกับผู้ชายที่ท
วันต่อมา ~~ก๊อก ก๊อก ก๊อก“สักครู่นะคะ “ใบชาตะโกนบอกออกไป เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ขณะที่สองมือกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมย้ายกลับไปอยู่ที่คอนโดเหมือนเดิม เธอไม่มีทางหน้าด้านอยู่ต่อ ทั้งที่เจ้าของบ้านเป็นฝ่ายเอ่ยปากไล่ไปเองอย่างไร้เยื่อใย แม้ว่าเขาจะกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเธอจะทำใจยอมรับมันได้ แต่ก่อนอยู่คนเดียวยังอยู่ได้ ทำไมตอนนี้ถึงจะอยู่ไม่ได้ล่ะ..ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ..? ที่เธอจะได้อิสระคืนโดยไม่ต้องให้ใครมาบงการแกร๊ก ~~“พี่ไทม์ “ใบชาเอ่ยเรียกชื่อคนตัวสูงด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แต่รอบดวงตายังบวมเบ่งเนื่องจากผ่านการร้องไห้มาตลอดทั้งคืน จนไม่มีกะจิตกะใจจะข่มตาหลับลง จึงหันกลับมาจัดการในสิ่งที่ต้องทำแทน อีกอย่างหน้าห้องนอนก็ไม่มีการ์ดเฝ้าแล้วแม้แต่คนเดียว“คุณใบชาเป็นยังไงบ้างครับ? “ไทม์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าหญิงสาวร่างบอบบางตรงหน้าจะเป็นอะไรไป ดูจากอาการของเธอแล้วเขาพอจะคาดเดาได้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผู้เป็นนายถึงได้ขับรถออกไปดึกดื่นป่านนั้น ทั้งที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานหลัง จากกลับไปเปลี่ยนชุดเปื้อนเลือดที่คอนโด“ชาดีขึ้นแล
เอี๊ยดดดดดดดดด !กรึก! กรึก!แพททริคบังคับพวงมาลัยขับแทรกกลางช่องว่างระหว่างรถของศัตรู และ หมุนพวงมาลัยไปด้านข้างเพื่อเบียดชนให้รถหนึ่งคันเสียหลักพลิกคว่ำเข้าข้างทาง และ มันก็สำเร็จในพริบตาเดียว สองมือพยายามประคองรถไว้ได้ด้วยความชำนาญ เป็นจังหวะที่รถของเหล่าลูกน้องขับสวนเข้ามาช่วยจัดการได้ทันดีที่เขาสั่งให้ช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก สร้างเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือขึ้นมาชนิดพิเศษ เพียงแค่กดปุ่มส่งสัญญาณที่ติดตั้งอยู่ตรงเกียร์รถ ก็สามารถทำให้ลูกน้องทุกคนทราบเรื่องรวมถึงตำแหน่งจีพีเอสผ่านโทรศัพท์ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว“นายรีบไปทำแผลก่อนดีกว่าครับ “ไทม์รีบเร่งเข้ามาหาผู้เป็นนาย เมื่อแพททริคเปิดประตูลงมาพร้อมกับกระบอกปืน ทว่าบริเวณเนินข้างหน้าผากกลับมีเลือดไหลย้อยผ่านกกหู ลงมาถึงคอปกเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นสีแดงสด ซึ่งบาดแผลเกิดจากเศษกระจกหน้ารถที่แตกกระจายเพราะลูกกระสุนกระหน่ำเข้ามา แต่ยังโชคดีที่ก้มหลบทันในจังหวะที่เหยียบเบรก จึงไม่ได้รับบาดเจ็บมาก“แค่นี้กูไม่ตายหรอก “แพททริคตอบอย่างขอไปที รีบหมุนตัวกลับหลังหวังบุกไปช่วยลูกน้องที่ยังคงยิงโต้ตอบก
ปึก !แพททริคกัดฟันแน่นจนสันกรามปูด สองเท้าก้าวขาลงจากรถสปอร์ตหรูผลักประตูปิดสุดแรง แววตาคมกริบจ้องไอ้มาเฟียหน้าอ่อนเขม็ง และ เหล่าลูกน้องของแต่ละฝ่ายก็ทยอยกันตรงเข้ามาหาผู้เป็นนาย เว้นซะแต่แพททริคที่ไม่มีลูกน้องตามติดมาด้วยแม้แต่คนเดียว เพราะเร่งรีบออกจากบ้านหลบหน้าแฟนสาวเพื่อหนีมาสงบสติอารมณ์“มึงคงอยากตายมากสินะ !! “สองมือกระชากคอเสื้อคู่อริเก่าตวาดใส่หน้าอย่างเอาเรื่อง ทว่าฮัททสึกลับหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างเย้ยหยัน พลางดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มด้วยความสนุก โดยไม่รู้สึกหวั่นกลัวมาเฟียเลือดร้อนตรงหน้าเลยสักนิด“ใจเย็น ๆ สิครับ ““ไอ้แพท ! “กรรีบเดินเข้ามาปราบ พร้อมกับกระชากมือหนาของแพททริคออกจากคอเสื้อฮัททสึ“มึงปล่อยให้ไอ้นี่มาขวางกูทำไม !! ““กูไม่ได้ปล่อยแต่กูห้ามมันไม่ทันต่างหาก อีกอย่างมึงก็พูดเหมือนมึงพึ่งเห็นมัน ทั้งที่ไอ้ฮัทมันยืนขวางรถมึงตั้งนานแล้ว ““แม่ง ! มันก็เหมือนกันนั่นแหละ..น่ารำคาญฉิบหาย “ แพททริคสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอีกครั้ง พลางเสยผมหน้าม้าขึ้นลวก ๆ พร้อมกับยกมืออีกข้างเท้าสะเอวขยับฝ่าเท้าไปด้านข้างเล็กน้อยด้วยความขัดใจ แต่ก็จริงที่ว่าพึ่งเห็นไอ้หน้าอ่อน“สนใจแข่งกั
หลังจากหมอสาวเดินออกไปใบชาจึงมองหากระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง เมื่อไม่พบจึงพยายามก้าวขาลงจากเตียงด้วยความยากลำบากตรงไปยังห้องแต่งตัว หยิบกางเกงขาสั้นขึ้นมาสวมใส่ให้เรียบร้อย แม้ว่าจะยังเจ็บแผลอยู่มากก็ตาม……….แกร๊ก ~ใบชาเปิดประตูออกมาก็เจอกับการ์ดสองคนเฝ้าตรงหน้าห้อง พวกเขากำลังโค้งศีรษะทำความเคารพเธออยู่ ด้วยความแปลกใจจึงเอ่ยถาม เมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง “ทำไมพี่สองคนถึงมาอยู่ตรงนี้คะ? ““นายใหญ่สั่งให้ขึ้นมาเฝ้าคุณใบชา ห้ามให้ออกจากห้องครับ “การ์ดฝั่งซ้ายก้มหน้าตอบ“ทำไมคะ? ““นายไม่ได้บอกรายละเอียดไว้ครับ ““แล้วตอนนี้เขาไปไหน? “คิ้วบางทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันยุ่งอย่างไม่พอใจ เขาถึงกับจะขังเธอไว้ในห้องนี้ ไม่ให้ออกไปไหนเลยอย่างนั้นเหรอ ไม่ฟังเหตุผลอะไรใครเลย เอาแต่ความคิดและอารมณ์ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง…“ขับรถออกไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ ไม่แน่ใจว่าไปไหน ““ค่ะ “ใบชาตอบรับเสียงแผ่วเบา หวังจะเดินเลี่ยงลงไปด้านล่าง ทว่าท่อนแขนยาวของการ์ดดันขวางเอาไว้ซะก่อน ไม่ยอมให้เธอเดินออกจากห้องนอน“คุณใบชาออกไปจากห้องไม่ได้นะครับ ““แค่ลงไปข้างล่างเองนะคะ ชาลงไปแป๊บเดียวค่ะ ““ไม่ได้ครับ
“ก็ชาใส่อะ.. “ประโยคถูกชะงัก ในตอนที่แพททริครั้งข้อมือกลับมาให้เธอดู ทำเอาดวงตาคู่งามที่เปียกชุ่มเบิกโพลงทันที รู้สึกกระวนกระวายกลางอกมากกว่าเดิม สร้อยมันหายไปตอนไหนกัน ทำไมคดีของเธอเยอะแบบนี้ล่ะ..แค่นี้ก็จะโดนเขาฆ่าตายอยู่แล้ว“มันหายไปไหน? “แพททริคกดเสียงต่ำถามอีกครั้ง เป็นเชิงบอกว่าเขากำลังจะหมดความอดทน หากเธอยังเอาแต่ทำหน้าอึ้ง“มะ..เมื่อเช้ายังใส่อยู่เลย ““สร้อยเส้นแค่นี้มึงยังทำหาย ก็ไม่แปลกที่มึงจะทำความรักของมึงหายไปโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ! “ประโยคแฝงความนัยของแฟนหนุ่ม เหมือนมีอะไรบางอย่างแล่นมากระทบจิตใจจนสั่นกระเทือนเบา ๆ คล้ายกับว่าเขากำลังจะเลิกรัก หรือไม่ เขาอาจจะไม่เคยรักเธอเลย แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร ทำไมเขาถึงไม่เชื่อใจเธอบ้างล่ะ…ทำไม..?ใบชาจ้องคนใจร้ายด้วยแววตาผิดหวัง น้ำตาก็เอาแต่รินไหลออกจากหางตาหยดลงหมอนใบใหญ่ “เลิกพูดคำหยาบกับชาสักทีเถอะ ! เรื่องสร้อยชาไม่รู้ว่ามันหายไปตอนไหน ตอนอยู่ที่ผับชายังสะ….อื้อออ~ “คำพูดถูกกลืนหายไปพร้อมกับเรียวปากร้อน ที่ประกบเข้ามาขบกัดเรียวลิ้นเล็กด้านในโพรงปากอย่างอุกอาจ จนใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บพรวด !!!!ขณะเดียวกันมาเฟียหน