ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน