Mag-log in“ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอเจ้าค่ะ ท่านแม่” ฉินเจียวเยี่ยนชักชวนเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากให้มารดาเอ่ยถึงหลิงอี้ชวนอีกต่อไปให้ลำบากใจ “ข้าเชื่อว่า เมิ่งซื่อจื่อจะต้องรักและดูแลพี่หญิงเป็นอย่างดีแน่นอน”
หลินซื่อเองก็พยักหน้าถี่ ๆ “ใช่ แม่ก็เชื่อเช่นนั้น จวนเมิ่งหลี่ปู้ซ่างซูล้วนแต่เป็นคนดี เมื่อเมิ่งฮูหยินเข้ามาบอกว่า เมิ่งซื่อจื่อมีใจให้เจ้า หวังทาบทามเจ้าเป็นฮูหยิน แม่ยังตกใจนัก”
“แต่ครั้นทบทวนแล้ว ไยต้องให้เจ้าแต่งเข้าจวนผู้อื่นที่พ่อและแม่ไม่สนิทด้วย แต่งเข้าจวนที่ยิ่งใหญ่ไปก็มิได้รับประกันความปลอดภัยของเจ้า แต่จวนของเมิ่งฮูหยินนั้น แม่วางใจนัก”
หลินซื่อเอื้อมมือไปจับมือขาวเนียนของฉินเยี่ยนฟางไว้แน่นอย่างรักใคร่ มิต่างจากบุตรีตามสายเลือดของตน “แม่มิได้ลำเอียงเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้เยี่ยนเอ๋อร์ แม้เจ้าจะได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้เป็นท่านหญิงหมิ่นแล้ว”
“ยามที่จะหาคู่ครองก็ต้องหาผู้ที่มีศักดิ์เสมอกัน แต่แม่เลือกมาให้เจ้าผิดพลาดครั้งหนึ่งแล้ว แม่เรียนรู้แล้วว่า ศักดิ์สูงเพียงใดก็ไม่อาจเทียบเท่าความปลอดภัยในชีวิตหลังออกเรือนของเจ้าได้”
“แม้ว่า ศักดิ์ของจว
ในระหว่างที่เซียวชิงฉีถูกกักบริเวณเนื่องจากความประมาท ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำให้เขาต้องตกเป็นเหยื่อในแผนร้ายของกบฏหมิงอ๋อง ซึ่งหมิงอ๋องถูกโทษทัณฑ์ประหารชีวิต รวมถึงทุกคนในจวนหมิงอ๋องและตระกูลมารดาอย่างตระกูลถัง แม้แต่ถังกุ้ยเฟยก็ไม่รอดหนิงซูเฟยจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหนิงกุ้ยเฟย ส่วนตำแหน่งเสียนเฟยนั้น ตั้งแต่ชุยเสียนเฟยสิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้เจิ้นหลงก็ไม่โปรดแต่งตั้งผู้ใดขึ้นมาแทนที่อีกเลย ปล่อยให้ตำแหน่งนั้นเว้นว่างไปเช่นนั้นหลู่มู่ซิน หรือ หลู่เต๋อเฟยจึงได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นหลู่ซูเฟยทันที ตำแหน่งเต๋อเฟยจึงตกเป็นของจวงลู่เซียนที่กำลังเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้เจิ้นหลง แม้ว่าจะให้ประสูติพระโอรสและพระธิดามาแล้วอย่างละหนึ่งพระองค์ ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นจวงเต๋อเฟยหนิงกุ้ยเฟยนั่งรถม้าออกจากวังหลวงไปถึงจวนฉีอ๋อง เพื่อเยี่ยมเยียนบุตรชายเป็นระยะ ก่อนที่นางจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างในตัวของบุตรชาย และนั่นทำให้นางกังวลใจเป็นอย่างมากเซียวชิงฉีมักจะนั่งเหม่อลอยราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญเป็นอย่างมาก แม้ว่านางจะให้เขาทำสิ่งใด เข
ในห้องรับรองห้องหนึ่งบริเวณชั้นสี่ของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอ ฮูหยินสี่นางกำลังนั่งล้อมโต๊ะกลมขนาดใหญ่ เพื่อจิบน้ำชาและทานขนมกันอยู่“ชาหลงจิ่งของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอช่างรสดียิ่งนัก” ฮูหยินท่านหนึ่งเอ่ยขึ้น หลังจากลองจิบชาไปหนึ่งอึก “จิบแล้วสดชื่น หอมหวานดีนัก”ฮูหยินอีกนางที่นั่งตรงข้ามกันก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “จริงอย่างที่เจ้ากล่าว ขนมบัวหิมะที่นำมาก็นุ่มและละลายในปาก รสชาติหวานมันกำลังดี ทานคู่กับชาหลงจิ่งได้ดีทีเดียว”“หากเหวินฉีกล่าวเช่นนั้น ย่อมต้องอร่อยเป็นแน่” ฮูหยินอีกนางเลื่อนมือจากขนมถั่วเขียวอัดที่วางอยู่บนจาน ย้ายไปลองหยิบขนมบัวหิมะมาชิมบ้าง ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำกล่าวของสหาย “ขนมอร่อยนี่ต้องเชื่อเหวินฉีจริง ๆ ”ฮูหยินนามว่า ซวี่เหวินฉี เชิดหน้าพลางตบอกอย่างภูมิใจ “พวกเจ้าเชื่อในลิ้นของข้าได้เลย หากไม่อร่อย ข้ามิชวนพวกเจ้ามาชิมหรอก”“ว่าแต่เจ้ารู้จักขนมอร่อย ๆ ของที่นี่ได้อย่างไรเล่า?” ฮูหยินอีกท่านถามขึ้น“ก็พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าพามาน่ะสิ แต่... แท้จริงแล้วก็เป็นลูกสะใภ้ของนางต่างหากที่พานางมา หลังจากนั้นพี่สะใภ้ใหญ่จึงได้พ
ดวงตาดอกท้อเปล่งประกายวิบวับ เขาผละริมฝีปากออกจากยอดถันที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำลาย แล้วยันร่างสูงใหญ่ของตัวเองขึ้น สองฝ่ามือโอบกระชับเอวคอดกิ่วให้ลอยขึ้นจากเตียงแล้วจับร่างนางให้พลิกคว่ำ อวดแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่แดงก่ำ“อ๊ะ!” ฉินเจียวเยี่ยนร้องอุทาน เมื่อรู้สึกว่าโลกกำลังพลิกคว่ำ โชคดีว่าปลายเชือกมีความยาวเพียงพอ ทำให้นางสามารถหมุนตัวมานอนคว่ำ ฟุบใบหน้าลงบนหมอนนุ่มได้อย่างง่ายดายแผ่นหลังนวลเนียนและบั้นท้ายกลมกลึงถูกเซียวชิงเฟิงใช้สายตาและฝ่ามือลูบไล้โลมเลียอย่างเป็นเจ้าของ ก่อนที่เขาจะบังคับให้นางคุกเข่าลงบนเตียง เพื่ออวดช่วงล่างให้เขาเชยชม“อา... ฮูหยินน้อย...” เสียงครางแหบพร่าดังขึ้น ก่อนที่สะโพกได้รูปของเซียวชิงเฟิงจะขยับดั่งใจหมายสวบ“อื้อ! อ่ะ อ่า อา....” ฉินเจียวเยี่ยนสะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกเขาแทรกกายเข้ามาประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัว ทั่วร่างสั่นสะท้านจนเขายังรู้สึกได้ภายในของฉินเจียวเยี่ยนตอบรับเขาด้วยการบีบรัดและดูดกลืนเขาทุกอณู จนเซียวชิงเฟิงทนไม่ไหว ต้องขยับสะโพกตอบรับความรักนั้นอย่างแรงด้วยการกะแทกเข้าห
‘เสี่ยวเฟิง? เหมือนที่ข้าแอบเรียกท่านพี่ในใจเลย...’มุมปากของเซียวชิงเฟิงวาดเป็นรอยโค้ง ก่อนที่จะเริ่มขยับมือไปที่จุดต่อไป “อากาศวันนี้ช่างอบอ้าวนัก ให้ข้าช่วยถอดอาภรณ์ดีกว่านะขอรับ”เมื่อฉินเจียวเยี่ยนถูกตรึงข้อมือไว้แล้ว จึงไม่อาจขยับหนีหรือปัดป้องมือปีศาจที่ปลดเปลื้องอาภรณ์บนตัวของนางได้เลย โดยที่เซียวชิงเฟิงก็ทำเพียงแค่กระตุกปมของชุด แล้วแหวกผ้าเนื้อดีออกจากกันราวกับแกะกล่องของขวัญอันล้ำค่า เปิดเผยเนื้อตัวขาวผุดผ่องทั่วร่างของคนตัวเล็ก“ฮูหยินน้อยรู้หรือไม่ขอรับ? ข้าอุตส่าห์ไปร่ำเรียนวิชามัดใจชายของไท่จื่อเฟยถึงหอไป่ฮวาเลยนะขอรับ อีกทั้งยังตั้งใจนำของเล่นเหล่านี้มาดูแลฮูหยินน้อยเป็นการเฉพาะอีกด้วย”เซียวชิงเฟิงไม่พูดเปล่า เขาชูผ้าปิดตาสีดำขึ้นสูง ก่อนจะวางทาบลงปิดดวงตาจิ้งจอกที่ฉินเจียวเยี่ยนคอยย่นคอหลบหนี หากแต่ก็หนีไม่พ้น ถูกสวามีปิดกั้นการมองเห็นอย่างสิ้นเชิง“ท่านพี่...”“อ๊ะ อ๊ะ ข้าน้อยมีนามว่า เสี่ยวเฟิง” เซียวชิงเฟิงร้องแย้ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเร้นลึก โดยที่ฉินเจียวเยี่ยนไม่มีโอกาสได้เห็น “ฮูหยินน้อยเรียกผิดเช่นนี้ จะต้องโดน
“หื้ม? ท่านพี่จะเป็นเจ้าของที่นี่ได้อย่างไร?”“แล้วเจ้าคิดว่า สหายของเจ้าจะสามารถหาเสี่ยวเอ้อร์หน้าตาดีจำนวนมากเหล่านี้ได้จากที่ใด หากมิใช่เพราะข้าช่วยหา”‘เออ... ใช่’ ฉินเจียวเยี่ยนกลอกตาไปมา เมื่อคิดตามความเป็นจริง‘ท่านพี่เป็นคนที่มีเส้นสายในด้านบุรุษมากที่สุดแล้ว เพราะต้องหาไพร่พลมาฝึกซ้อมทหาร ดังนั้น ถ้าหากเจอบุรุษกำยำแล้วนำตัวมาฝึกฝนให้เป็นทหาร แล้วบังเอิญเจอหนุ่มหน้าตาดีไปด้วย ก็แค่แยกส่งเขาให้มาทำงานที่นี่แทนสินะ...’ฉินเจียวเยี่ยนอดมองค้อนไม่ได้ “แล้วท่านพี่รู้ได้อย่างไรว่า หม่อมฉันกับอาหงสร้างโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอแห่งนี้ขึ้นมา?”เซียวชิงเฟิงเม้มริมฝีปากแล้วข้าจะบอกเจ้าได้อย่างไร ว่าข้าได้ยินเสียงความคิดของเจ้าตั้งแต่แรกตั้งแต่ที่เจ้าเริ่มคิดจะฝังเสาเข็มของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอในความคิดนั่นแล...“เจ้าเป็นคนบอกข้าเองนะ เสี่ยวเยี่ยน”ฉินเจียวเยี่ยนขมวดคิ้วมุ่น พลางนึกทบทวนว่า ตนเองเผลอพลั้งปากหลุดความลับสุดยอดเช่นนี้ออกไปเมื่อใด “หม่อมฉันนึกมะ... อุ๊บ!”เซียวชิงเฟิงไม่เปิดโอกาสให้ฉินเจ
ฉินเจียวเยี่ยนอ้าปากค้างตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นสวามีของตนเองในชุดเสี่ยวเอ้อร์ของโรงน้ำชาเชิ่งเยี่ยนเกอ ก็มือไม้อ่อนจนเผลอปล่อยถ้วยเปล่าและตะเกียบให้ร่วงหล่นจากมือลงกระทบโต๊ะเคร้ง!“อ๊ะ! ร้อน!” มือเล็กสะบัดไปมา เมื่อถูกน้ำซุปในถ้วยกระเด็นใส่ เซียวชิงเฟิงเห็นดังนั้นก็รีบเดินเข้ามาดูอาการที่มือเล็กอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเห็นเพียงแค่หยดน้ำซุปเล็กน้อยที่กระเด็นโดนมือของนาง เขาจึงได้ใช้แขนเสื้อของตนเช็ดให้อย่างอ่อนโยน“เหตุใดจึงไม่ระวังเอาเสียเลย” เซียวชิงเฟิงดุเสียงอ่อน ก่อนจะคว้าจอกชาสาดดับถ่านไม้ไผ่ที่กำลังลุกโชนฉินเจียวเยี่ยนยู่ปากใส่ “ก็เพราะท่านพี่มานั่นแหละเพคะ ทำหม่อมฉันตกใจจนเผลอปล่อยถ้วยให้ตกเลย”‘ต้องโยนความผิดให้ท่านพี่ ท่านพี่จึงจะไม่สามารถเอาผิดข้าได้...’มุมปากของเซียวชิงเฟิงกระตุกประเสริฐนัก ช่วงนี้ ทั้งแม่ทั้งลูกต่างก็จ้องจะเอาผิดเขาอยู่ฝ่ายเดียว...“เพราะข้ามาจึงทำให้เจ้าตกใจ แล้วเจ้าเล่า?” เซียวชิงเฟิงย้อนถาม “เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่?”ฉินเจียวเยี่ยนสูดลมหายใจลึก “จิบน้ำชา!! หม่อมฉันมาจิบ







