เฉียวเนี่ยนยังคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่เปล่งเสียงเพียงคิดในใจ ว่าดีแล้วที่ไม่ใช่ห้าสิบไม้ทวนเซียวเหอน่าจะทนผ่านไปได้ไม่ให้คนไปเยี่ยม ไม่ใช่ว่าห้ามนำยารักษาแผลเข้าไปอย่างน้อยก็ถูกปล่อยออกมาจากคุกหลวงแล้วมีเกอซูอวิ๋นดูแลอยู่ คงไม่เป็นไรขณะกำลังคิดอยู่ ฮองเฮากลับหัวเราะขึ้นมา “คุณหนูเฉียวกำลังคิดอะไรอยู่?”เฉียวเนี่ยนถึงได้สติ หันมองไปยังฮองเฮา แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็ได้ยินฮองเฮาหัวเราะต่อว่า “หรือกำลังคิดว่า โบยห้าสิบไม้เอาชีวิตเซียวเหอไม่ได้ อีกทั้งองค์หญิงเกอซูก็ยังกลับไปดูแลเขาได้?”“……”เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าความคิดของนางแสดงออกมาชัดเกินไป หรือดวงตาของฮองเฮาจะมองทะลุใจคนได้ในเวลานั้นก็ยังไม่เอ่ยปากฮองเฮาก็หาได้คิดจะฟังว่านางจะพูดอะไร เพียงหัวเราะเยาะ เอ่ยว่า “เจ้ามาขอร้องเรา เราก็ไว้หน้าเจ้า ปล่อยคนหนึ่งกลับไป แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะให้กลับไปทั้งสอง”ได้ยินดังนั้น ดวงตาของเฉียวเนี่ยนพลันเบิกกว้าง“ฮองเฮาเพคะ องค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกฐานะสูงศักดิ์...”“หุบปาก!” มามาที่อยู่ข้างๆ ตวาดเสียงดัง “เป็นแค่องค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิก จะเทียบชั้นกับฮองเฮาของพวกเราได้อย่างนั้นหร
เช่นนั้น การตอบคำถามก็ต้องระมัดระวังยิ่งนัก “หม่อมฉันมาเพื่อองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิก และก็เพื่อแคว้นจิ้งของหม่อมฉันด้วยเพคะ”ไม่ว่าฮองเฮาจะคิดก่อกบฏหรือไม่ ไม่ว่าพระราชวังแห่งนี้สถานการณ์จะเป็นเช่นไรเฉียวเนี่ยนคิดว่าต้องเอ่ยถึงแคว้นจิ้งก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เข้ามามีส่วนกับความขัดแย้งในวังดังนั้น ไม่ว่าฮองเฮาหรือฮ่องเต้ ก็คงไม่อยากให้บ้านเมืองแคว้นจิ้งเกิดความผิดพลาดใดๆแล้วก็จริงดังคาดเฉียวเนี่ยนพูดจบ สีหน้าฮองเฮาก็เปลี่ยนไป “เจ้าหมายความว่าอะไร?”เฉียวเนี่ยนยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น ดวงตามองต่ำ กล่าวอย่างนอบน้อม “องค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกมาเพื่อการอภิเษกสมรส และในหนังสือการอภิเษกนั้นได้เขียนไว้ชัดว่า องค์หญิงจะต้องอภิเษกกับท่านอ๋องแห่งแคว้นจิ้งเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคราวนั้นฮ่องเต้ถึงได้ทรงโปรดให้แต่งตั้งเซียวเหอเป็นรุ่ยอ๋อง”“อย่าพล่ามไร้สาระ” ฮองเฮาแสดงท่าทีหงุดหงิด “สิ่งที่เจ้าพูดมา เราจะไม่รู้ได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปยังฮองเฮา แววตาแฝงความลึกซึ้งและหนักแน่น “กลุ่มชนเตอร์กิกเป็นประเทศที่พ่ายแพ้ แต่กลับกล้าเสนอข้อเรียกร้องนี้ และฮ่องเต้ถึงกับทรงยอมเลื
ได้ยินดังนั้น ฮองเฮาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เหลือบสายตามองไปด้านข้าง “หมอหลวงเซวียได้ยินหรือไม่? ศิษย์ที่ท่านสอนมากับมือ ตอนนี้กลับจะมาแย่งชามข้าวของท่านแล้ว!”เฉียวเนี่ยนอดอ้าปากค้างไม่ได้นางมิได้หมายความเช่นนั้นเลย ใครจะไปคิดว่าฮองเฮาจะเริ่มยุแยงหมอหลวงเซวียต่อหน้านางเช่นนี้?โชคดีที่หมอหลวงเซวียรู้นิสัยของเฉียวเนี่ยนดี จึงมิได้ใส่ใจกลับเป็นก้าวเข้ามาคุกเข่าเอ่ยกับฮองเฮาว่า “ฮองเฮาโปรดทรงพิจารณา กระหม่อมก็เพียงสอนคุณหนูเฉียวแค่เคล็ดวิชาพื้นฐานเล็กน้อย หาใช่ว่าเป็นอาจารย์ของนางไม่ คุณหนูเฉียวสืบทอดวิชามาจากหมอเทวดา วิชาแพทย์ของนางเหนือชั้นกว่ากระหม่อมจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”ไม่เพียงไม่โทษ กลับยังช่วยพูดแทนเฉียวเนี่ยนอีกด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าฮองเฮากลับเย็นเยือกลง “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยแพทย์ของโรงหมอหลวงท่านก็ไม่ต้องทำแล้ว”“ฮองเฮาเพคะ!” เฉียวเนี่ยนใจสะท้านพูดไว้ว่ามาเข้าวังครั้งนี้ก็เพื่อเกอซูอวิ๋น เหตุใดถึงกลับกลายเป็นทำให้หมอหลวงเซวียเสียตำแหน่งไป?แต่หมอหลวงเซวียกลับก้มศีรษะโขกพื้น “ขอบพระทัยฮองเฮาที่ประทานเมตตา”เดิมทีเขาก็อยู่ในวัยใกล้จะเกษียณอายุแล้วตอน
ได้รับคำยืนยันจากเฉียวเนี่ยนแล้ว ลุงเกิ่งถึงได้พยักหน้าหนักแน่น “เช่นนั้นข้าจะไปเตรียมรถม้าเดี๋ยวนี้!”พูดจบก็หันหลังจากไปด้านข้าง จี้เยว่เห็นดังนั้น ก็อดก้าวมาพูดขึ้นไม่ได้ “คุณหนูเฉียว เรื่องคุณชายใหญ่ของข้า ก็รบกวนคุณหนูเฉียวช่วยใส่ใจด้วย”เฉียวเนี่ยนเหลียวกลับไปยิ้มให้เขา “ไม่ต้องห่วง ข้ารู้ดีอยู่แล้ว”ครึ่งชั่วยามต่อมา เฉียวเนี่ยนก็มาถึงหน้าประตูวังเพียงแต่บัดนี้นางมิใช่หมอหญิงแล้ว และไม่มีป้ายประจำตัวใดๆ หากจะเข้าวังก็ต้องได้รับอนุญาตจากผู้มีตำแหน่งสูงในวังทหารองครักษ์หน้าประตูวังเพียงบอกว่าจะส่งคนไปแจ้งฮองเฮากับฮ่องเต้ ให้เฉียวเนี่ยนรออยู่ข้างนอกวังแต่ไม่คิดเลยว่าการรอครั้งนี้ กลับต้องรอจนฟ้ามืดเห็นพระจันทร์ลอยเด่นอยู่บนฟ้า ลุงเกิ่งก็อดทนไม่ไหว ก้าวมาพูดเสียงเบา “คุณหนู ดูท่าเหล่าผู้สูงส่งในวังทั้งหลายไม่ประสงค์จะพบคุณหนู กลับจวนก่อนเถิด ค่อยหาวิธีใหม่”เฉียวเนี่ยนมองรถม้าของจวนรุ่ยอ๋องที่อยู่ไม่ไกล ส่ายหน้า “ในเมื่อยังไม่ปฏิเสธ แสดงว่ายังมีความหวัง ข้าจะรออีกหน่อย”ลุงเกิ่งรู้ดีว่านิสัยเฉียวเนี่ยนนั้นดื้อรั้น จึงไม่พูดเกลี้ยกล่อมอีก เพียงอยู่รอเป็นเพื่อนเฉียวเนี่
ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนลุกพรวดขึ้นด้วยความกังวล “เกิดอะไรขึ้น?”จี้เยว่มีสีหน้าเคร่งเครียด “ฮองเฮาตรัสว่าทหารรักษาพระองค์มีความผิดที่ละเลยหน้าที่ ไม่เพียงแต่ปลดคุณชายใหญ่ของข้าจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ ยังจับกุมตัวไปคุมขังในคุกหลวง รอการไต่สวน”ร้ายแรงถึงเพียงนี้เชียว!“ฮ่องเต้ไม่ได้ตรัสอะไรหรือ?” เฉียวเนี่ยนถามอีกจี้เยว่ส่ายหัว “ฮ่องเต้ดูเหมือนจะเชื่อแต่ฮองเฮา”อะไรนะ?เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น พลันนึกถึงเรื่องเมื่อคราวก่อน ที่จี้เยว่เคยบอกว่ามีบางอย่างที่เซียวเหอรู้สึกว่าฮ่องเต้ผิดปกติไปทว่าในใจฮ่องเต้นั้น เซียวเหอมีความสำคัญที่ไม่มีใครเปรียบได้ ต่อให้ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของทหารรักษาพระองค์จริง ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางจับเซียวเหอเข้าคุกเพื่อไต่สวนพูดง่ายๆ ก็คือฮ่องเต้จะเชื่อแต่ฮองเฮาได้อย่างไร?นางค่อยๆ นั่งลง ภาพถ้อยคำของอัครมหาเสนาบดีวั่นผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่รู้ตัวหรือว่าอัครมหาเสนาบดีวั่นพูดถูก?ฮ่องเต้ถูกฮองเฮาขู่เข็ญงั้นหรือ?แต่ฮ่องเต้คือประมุขแผ่นดิน ในดินแดนแคว้นจิ้ง เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแล้วเหตุใดจึงถูกขู่เข็ญได้?นางไม่เข้าใจอะไรเลย จึงถอนหายใจ
เกอซูอวิ๋นพยักหน้ารัวๆ “ข้ารู้ ข้ารู้ว่าความผูกพันระหว่างเจ้ากับท่านพี่เซียว ก็เหมือนพี่น้อง แถมยังมีน้ำใจต่อกันยิ่งกว่าพี่น้องเสียอีก! แต่ถ้าข้าอยู่ ข้าก็จะเป็นยันต์ป้องกันภัยของท่านพี่เซียวได้!”เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ชะงักนางไม่เคยนึกถึงมาก่อนเกอซูอวิ๋นพูดต่อ “ไม่เพียงแต่เป็นยันต์ป้องกันภัยของท่านพี่เซียว ข้ายังจะเป็นยันต์ป้องกันภัยของเจ้าด้วย! เนี่ยนเนี่ยน เจ้าอย่าลืมสิว่าข้าเป็นองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิก! ถึงแม้ข้าจะไม่ได้เป็นที่โปรดปรานในกลุ่มชนเตอร์กิก ใช้ชีวิตย่ำแย่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน แต่ในแคว้นจิ้ง ข้าคือองค์หญิงจากต่างแคว้น ฐานะของข้า จะกลายเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าและท่านพี่เซียว!”ไม่ว่าสุดท้ายเมืองหลวงจะวุ่นวายเพียงใด ไม่ว่าสุดท้ายใครจะได้ครอบครองบัลลังก์มังกรในวังหลวงแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่แน่นอนแคว้นจิ้งจะไม่อยากเปิดศึกกับกลุ่มชนเตอร์กิกอีกแน่องค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกผู้นี้ จะต้องอยู่ในแคว้นจิ้งอย่างปลอดภัย ไม่เช่นนั้น ก็จะกลายเป็นข้ออ้างให้กลุ่มชนเตอร์กิกยกทัพก่อสงคราม!ถึงแม้กลุ่มชนเตอร์กิกจะบอบช้ำหนัก ต้องการพักฟื้น แต่หมาป่าที่บา