Share

บทที่ 612

Author: โม่เสียวชี่
เพียงเสียงถอนหายใจนี้ ก็ทำให้สามบุรุษในท้องพระโรงขมวดคิ้วพร้อมกัน

เซียวเหอและเซียวเหิงยิ่งใจหายวาบ

ฮ่องเต้ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าในใจฮ่องเต้เริ่มคิดที่จะจัดการกับเฉียวเนี่ยนแล้ว

ที่สำคัญคือเวลานี้ทั้งสองคนยังไม่สามารถพูดสิ่งใดเพื่อปกป้องเฉียวเนี่ยนได้ มิเช่นนั้นจะยิ่งทำให้ฮ่องเต้ทรงเห็นว่าพวกตนกล้าขัดพระทัยเพื่อเฉียวเนี่ยน ซึ่งจะยิ่งสร้างความขุ่นเคืองให้ทวีความรุนแรงขึ้น

ในท้องพระโรงพลันเงียบสงัดลง

พระเนตรของฮ่องเต้กวาดมองไปมาระหว่างเซียวเหิงและเซียวเหอครู่ใหญ่ ก่อนจะตรัสว่า "อย่าให้มีครั้งต่อไป ถอยออกไปเถิด!"

"พ่ะย่ะค่ะ"

ทั้งสองจึงรีบถวายบังคมลา ถอยออกจากท้องพระโรง

เมื่อเห็นสองพี่น้องตระกูลเซียวจากไปแล้ว ฮ่องเต้จึงหันมองฉู่จืออี้ที่อยู่ด้านข้าง "เป็นอย่างไร มีอะไรจะพูด?"

ฉู่จืออี้ก้าวไปข้างหน้า ถวายบังคมฮ่องเต้ แล้วจึงเอ่ยว่า "เสด็จพี่ทรงทราบดีถึงนิสัยของกระหม่อม ว่าเป็นคนตรงไปตรงมามาโดยตลอด ที่ผ่านมา เนี่ยนเนี่ยนอยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำเสมอ คนที่ก่อเรื่องก็ไม่ใช่นางเลย นางไม่สมควรได้รับฉายาว่า 'นารีเป็นเหตุ' พ่ะย่ะค่ะ"

ฮ่องเต้ทรงเข้าใจแล้วว่าน้องชายของตนกำลังปกป้องสตรีผู้หนึ่งอยู่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
กว่าได้คู่กัน เดี๋ยวจะมีพระทานสมรสคั่นอีกมั้ย
goodnovel comment avatar
Rak Fah
พี่ไป๋ รีบขอสมรสพระราชทายเลย เหิงมันต้องมีแผนการอะไรอีกแน่นอน
goodnovel comment avatar
Rukzy Zeana
โอ้ย ฉันรักเค้าาาา แสนดีและอ่อนโยน
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 616

    ความคิดของเฉียวเนี่ยนพลันย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อนสองฉากประหลาดประสานเข้าด้วยกันสิ่งเดียวที่แตกต่างคือเมื่อสามปีก่อน หลินยวนทำถ้วยแก้วไพทูรย์โดยไม่ได้ตั้งใจแต่ยามนี้ องค์หญิงซูหยวนกลับจงใจทำถ้วยชาแตกอย่างชัดเจน เพื่อใส่ร้ายนางทว่า นางไม่ใช่เฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนอีกต่อไปแล้วคนเมื่อสามปีก่อน เมื่อถูกใส่ร้ายทำได้เพียงตื่นตระหนก ร้องตะโกนว่าถูกใส่ร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเปล่าประโยชน์แต่บัดนี้ นางกลับสามารถเผชิญหน้ากับสายตาที่ท้าทายขององค์หญิงได้อย่างสงบ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ "องค์หญิงเห็นเหล่าฮูหยินและคุณหนูเป็นคนตาบอด หรือเห็นแม้แต่ฮองเฮาก็เป็นคนตาบอดเพคะ?"การใส่ร้ายนางอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ช่างไม่เห็นบรรดาผู้หญิงที่อยู่ในที่นี้ในสายตาเลยจริงๆ!ในที่นี้ มีแม้กระทั่งฮูหยินของอัครมหาเสนาบดีอยู่ด้วย!แต่องค์หญิงซูหยวนกลับไม่ใส่ใจไม่ต้องพูดถึงว่าเฉียวเนี่ยนหันหลังให้กับบรรดาฮูหยินและคุณหนูเหล่านั้น พวกนางอาจมองไม่เห็นว่าเฉียวเนี่ยนทำถ้วยแตกหรือไม่"ถึงจะมองออกแล้วอย่างไร?นางเป็นถึงองค์หญิงหนึ่งเดียวของแคว้นจิ้ง ตั้งแต่เล็กก็ได้รับการโปรดปรานจากเสด็จพ่อมาโดยตลอด อย่าว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 615

    "เจ้าจริงๆ ด้วย!" ในดวงตาขององค์หญิงซูหยวนพลันเปล่งประกายเจิดจ้าออกมา นางมองสำรวจเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ "แต่ข้าได้ยินมาว่าจวนโหวบอกว่าเจ้าคือบุตรสาวแท้ๆ แล้วตกลงเจ้าแซ่หลินหรือแซ่เฉียวกันแน่?"เฉียวเนี่ยนก้มหน้า ไม่ได้มององค์หญิงซูหยวน และตอบอย่างนอบน้อม "หม่อมฉันได้ตัดสายสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว ไม่ว่าจะแซ่อะไร ต่อไปก็ไม่เกี่ยวข้องกับจวนโหวอีก""เช่นนี้หรือ?" องค์หญิงซูหยวนแสดงท่าทีประหลาดใจ จากนั้นก็หันไปมองฮองเฮา ราวกับไม่เข้าใจอะไร "เสด็จแม่ เพิ่งตรัสเมื่อหนก่อนว่าฮูหยินหลินป่วยเป็นโรคประสาทคลุ้มคลั่ง ไม่ใช่ว่าเพราะเฉียวเนี่ยนตัดสายสัมพันธ์กับจวนโหว จึงถูกกระตุ้นจนเป็นเช่นนั้นหรอกหรือ?"เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็เต้นระรัวขึ้นมาทันทีเป็นบ้าไปแล้วหรือ?ไม่น่ากระมัง?แม้ว่าท่าทีของฮูหยินหลินเมื่อครั้งก่อนจะดูแปลกประหลาดจริงๆ แต่จวนโหวก็มีหมอประจำจวนอยู่ เหตุใดถึงเป็นบ้าไปได้ง่ายดายเช่นนี้?คิ้วของเฉียวเนี่ยนขมวดมุ่นนิดๆ ในสมองเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของฮูหยินหลินที่พูดจาเลอะเลือนในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีปฏิกิริยามากนัก องค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 614

    เมื่อฉู่จืออี้กลับมาถึงจวนอ๋องผิงหยาง ก็พบว่าองครักษ์พยัคฆ์ได้กลับมากันหมดแล้วทุกคนยืนอยู่นอกห้องโถงใหญ่ และเฉียวเนี่ยนกำลังตาแดงก่ำ ไล่มองดูพวกเขาทีละคนฉู่จืออี้ไม่เข้าใจ เดินเข้าไปช้าๆ แล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "เกิดอะไรขึ้น?"เจ้ารองหัวเราะเสียงเบาอย่างจนใจ "เนี่ยนเนี่ยนกลัวว่าพวกเราจะถูกทรมาน เลยกำลังตรวจดูทีละคนน่ะ!"สิ้นเสียง คนอื่นๆ ก็หัวเราะตามกันแต่เฉียวเนี่ยนกลับทำหน้าจริงจัง "พวกพี่หัวเราะอะไรกัน? วิธีการทรมานของเซียวเหิงโหดเหี้ยมมากนะ! ข้าเคยเห็นมาแล้ว!""ก็แล้วแต่คน" เสียงของฉู่จืออี้อ่อนโยนลงเล็กน้อย "จัดการศัตรู พวกเราโหดเหี้ยมมาแต่ไหนแต่ไร แต่กับคนกันเอง ไม่เหมือนกัน"ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็อดแสดงสีหน้าประหลาดใจไม่ได้ "คนกันเอง?"เซียวเหิงกับพวกเขาจะเป็นคนกันเองได้อย่างไร?!แต่ฉู่จืออี้กลับเอ่ยว่า "ขุนพลร่วมราชสำนัก ย่อมถือเป็นคนกันเอง ไม่ต้องพูดถึงยามนี้เลย หากวันใดวันหนึ่งออกรบ บางทีชีวิตก็ต้องฝากไว้ในมือของอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป"พี่หกที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยว่า "พวกข้ารู้ว่าเซียวเหิงไม่กล้าทำอะไรพล่อยๆ หรอก เลยยอมตามไปด้วยแต่โดยดี มิเช่นนั้น แค่องครักษ์พวกน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 613

    ฉู่จืออี้ตกตะลึง แค่งานเลี้ยงต้อนรับ ทำไมต้องพาเฉียวเนี่ยนเข้าวังด้วย?เห็นได้ชัดว่านางไม่ชอบรับมือกับเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ที่สุดกำลังจะปฏิเสธ แต่ไม่ทันที่นางจะได้พูด ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นก่อนว่า "ดูท่าทางเจ้าสิ เป็นอะไรไป? กลัวว่าข้าจะกินนางอย่างนั้นหรือ?"เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วแล้ว ฉู่จืออี้จึงได้ทำความเคารพและตอบรับว่า ‘น้อมรับพระบัญชา‘ขณะเดียวกัน บนถนนที่ออกจากวัง เซียวเหอและเซียวเหิงเดินนำหน้าไปทางซ้ายและขวาเซียวเหิงยังคงแสดงสีหน้าเย็นชาตลอดเวลาและมองตรงไปข้างหน้าเซียวเหอกลับมองเขาเป็นระยะ ราวกับลังเลที่จะเอ่ยในที่สุด เซียวเหิงก็ทนไม่ไหวเอ่ยปาก "มีอะไรก็พูดมา อย่าทำตัวอืดอาด"น้ำเสียงเย็นชาเหมือนเคย แต่กลับทำให้มุมปากของเซียวเหอยกยิ้มดังนั้น เขาจึงเอ่ยปาก "พี่ใหญ่ไม่ควรไม่เชื่อเขา"เซียวเหิงเหลือบมองหน้าเซียวเหอแวบหนึ่ง แล้วแค่นเสียงเย็นชาก็ไม่ควรไม่เชื่อเขาตั้งแต่แรกมองใบหน้าครึ่งซีกอันหยิ่งทระนงของเซียวเหิง รอยยิ้มที่มุมปากของเซียวเหอค่อยๆ ลึกขึ้น แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัสเมื่อครู่ เขาก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้ "เหิงเอ๋อร์ เพื่อเนี่ยนเนี่ยน เจ้าห้ามหุนหันพ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 612

    เพียงเสียงถอนหายใจนี้ ก็ทำให้สามบุรุษในท้องพระโรงขมวดคิ้วพร้อมกันเซียวเหอและเซียวเหิงยิ่งใจหายวาบฮ่องเต้ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าในใจฮ่องเต้เริ่มคิดที่จะจัดการกับเฉียวเนี่ยนแล้วที่สำคัญคือเวลานี้ทั้งสองคนยังไม่สามารถพูดสิ่งใดเพื่อปกป้องเฉียวเนี่ยนได้ มิเช่นนั้นจะยิ่งทำให้ฮ่องเต้ทรงเห็นว่าพวกตนกล้าขัดพระทัยเพื่อเฉียวเนี่ยน ซึ่งจะยิ่งสร้างความขุ่นเคืองให้ทวีความรุนแรงขึ้นในท้องพระโรงพลันเงียบสงัดลงพระเนตรของฮ่องเต้กวาดมองไปมาระหว่างเซียวเหิงและเซียวเหอครู่ใหญ่ ก่อนจะตรัสว่า "อย่าให้มีครั้งต่อไป ถอยออกไปเถิด!""พ่ะย่ะค่ะ"ทั้งสองจึงรีบถวายบังคมลา ถอยออกจากท้องพระโรงเมื่อเห็นสองพี่น้องตระกูลเซียวจากไปแล้ว ฮ่องเต้จึงหันมองฉู่จืออี้ที่อยู่ด้านข้าง "เป็นอย่างไร มีอะไรจะพูด?"ฉู่จืออี้ก้าวไปข้างหน้า ถวายบังคมฮ่องเต้ แล้วจึงเอ่ยว่า "เสด็จพี่ทรงทราบดีถึงนิสัยของกระหม่อม ว่าเป็นคนตรงไปตรงมามาโดยตลอด ที่ผ่านมา เนี่ยนเนี่ยนอยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำเสมอ คนที่ก่อเรื่องก็ไม่ใช่นางเลย นางไม่สมควรได้รับฉายาว่า 'นารีเป็นเหตุ' พ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้ทรงเข้าใจแล้วว่าน้องชายของตนกำลังปกป้องสตรีผู้หนึ่งอยู่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 611

    เอ่ยจบ เซียวเหอก็หันหลังเดินจากไปเขารู้ว่าถึงเขาจะอยู่พูดต่อไปอีกก็ไม่มีประโยชน์ในเมื่อองครักษ์พยัคฆ์ไม่อยู่ที่นี่ เขาไม่สามารถช่วยคนออกมาจากมือของเซียวเหิงได้ ดังนั้นจึงมีทางเลือกเดียวสืบหาความจริง ลบล้างความผิดให้แก่องครักษ์พยัคฆ์แม้เซียวเหิงจะน่าโมโห แต่มีอยู่คำหนึ่งที่เขาพูดถูกบางเรื่องไม่ใช่แค่เขาคนเดียวพูดแล้วจะจบในราชสำนักมีคนจำนวนมากที่จ้องอ๋องผิงหยางและองครักษ์พยัคฆ์ตาเขม็ง เขาจะไม่ปล่อยให้คนเหล่านั้นฉวยโอกาสได้!การสืบสวนเป็นไปอย่างราบรื่นเซียวเหอส่งคนไปยังหมู่บ้านเหอวาน สอบถามชาวบ้านในท้องถิ่น แม้จะไม่รู้ว่าฉู่จืออี้และองครักษ์พยัคฆ์เป็นใคร แต่เมื่อพูดถึงไป๋อวี่และพี่น้องของเขา ชาวบ้านต่างก็ชื่นชมไม่ขาดปากดังนั้น เซียวเหอจึงตั้งใจพาพยานบุคคลหลายคนเข้าเมืองหลวงแต่นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงกลับได้ข้อสรุปก่อนเขาเสียแล้วบนท้องพระโรง เซียวเหิงคุกเข่าลงข้างหนึ่ง รายงานสถานการณ์การสืบสวนในช่วงที่ผ่านมา “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมได้ตรวจสอบรอยสักรูปหัวเสือทั้งสองอย่างละเอียดแล้ว พบว่ามีความแตกต่างกันจริง และรอยสักขององครักษ์พยัคฆ์จะอยู่บริเวณหน้าอก ในขณะที่รอยสักของโจรภูเขาส

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 610

    เมื่อเห็นว่าเซียวเหิงเดินเข้ามาใกล้ เหล่าทหารยามก็รีบทำความเคารพ “คารวะแม่ทัพเซียว!”เซียวเหิงเพียงกวาดตามองสีหน้าดุดันของเซียวเหอ แล้วจึงหันไปพูดกับยาม “ที่ที่พี่ใหญ่ข้าจะเข้า พวกเจ้ากล้าขวางหรือ?”ได้ยินดังนั้น ทหารยามก็รีบหลีกทาง “ข้าน้อยไม่กล้าขอรับ!”เซียวเหิงแค่นเสียง แล้วก้าวเท้าเข้าไปในคุกใต้ดินทันทีเซียวเหอเองก็เดินตามเข้าไปภายในคุกใต้ดินนั้น อากาศช่างเลวร้ายทั้งชื้น อบอ้าว แถมยังเจือกลิ่นเหม็นเน่ากับคาวเลือดจนแทบอาเจียนแต่เซียวเหิงดูจะชินกับบรรยากาศนี้แล้ว เขาเดินไปนั่งที่โต๊ะไม่ไกลนัก รินน้ำชาให้เซียวเหอหนึ่งถ้วย “พี่ใหญ่มาที่นี่แต่เช้า มีเรื่องอะไรหรือ?”แววตาของเซียวเหอเย็นยะเยือกกว่าครั้งใด ๆ "พวกเขาอยู่ไหน?”ตั้งแต่ได้ยินน้ำเสียงแดกดันของเซียวเหิงตอนอนุญาตให้เขาเข้ามา เซียวเหอก็รู้แล้วว่าองครักษ์พยัคฆ์ไม่ได้ถูกขังอยู่ที่นี่แต่แม้แต่ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าพวกองครักษ์พยัคฆ์อยู่ในคุกใต้ดินแห่งนี้แท้ ๆ!เซียวเหิงเงยหน้าขึ้นมองเซียวเหอ สีหน้าขึงขัง “ในเมื่อข้าคาดไว้แล้วว่าพี่ใหญ่ต้องมา ข้าย่อมต้องซ่อนคนไว้ก่อน”หมัดของเซียวเหอเริ่มกำแน่น ไฟโทสะในอกลุกโชนขึ้นเรื่อย ๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 609

    บุคคลอันเป็นที่รักที่สุดจากไป ก็เจ็บปวดจนแทบขาดใจพอแล้ว แต่นั่นยังมีคนที่เอาคำพูดเหล่านั้นมากรีดซ้ำหัวใจนางซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมนางถึงได้พูดว่าเป็นความผิดของนางทั้งหมดเมื่อคืนแท้จริงแล้ว นางถึงกับโทษตัวเองในเรื่องที่องครักษ์พยัคฆ์ถูกจับด้วยซ้ำไปทั้งที่ชีวิตของนางก็ลำบากเพียงนั้นอยู่แล้ว ยังต้องแบกภาระหนักหนาเช่นนี้ไว้บนบ่าอีกหากไม่ใช่นางที่พังทลาย ใครเล่าจะพังแทนขณะนั้นเอง หนิงซวงก็ยกยาเข้ามาเด็กสาวเอาแต่เร่งให้นายสาวรีบดื่มยา จนไม่ทันได้สังเกตสีหน้าประหลาดใจและซาบซึ้งของเฉียวเนี่ยนฉู่จืออี้พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูดจบแล้วก็ลุกขึ้นยืน มองไปยังเฉียวเนี่ยนแล้วกล่าวว่า “พักรักษาตัวให้ดี เรื่องข้างนอกข้าจะจัดการเอง เจ้าอย่าคิดมาก”พูดจบก็หันหลังเดินจากไปหนิงซวงไม่เข้าใจนัก จึงตักยาใส่ช้อนแล้วส่งไปที่ปากเฉียวเนี่ยน แต่ก็อดถามอย่างสงสัยไม่ได้ว่า “คุณหนู ท่านอ๋องพูดอะไรกับท่านหรือเจ้าคะ?”เฉียวเนี่ยนเหมือนเพิ่งได้สติกลับมา ดวงตาเปียกชื้นด้วยน้ำตากลับมีรอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้น นางหันไปมองหนิงซวง ยิ้มบางพลางส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกลืนยาลงไปนางไม่รู้จะบอกกับหนิงซว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 608

    ฉู่จืออี้ดูแลนางทั้งคืน?เฉียวเนี่ยนรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยนางจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นจำได้เพียงว่าหลังจากเซียวเหิงพาพวกพี่ชายของนางไปแล้ว นางก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดเป็นปมช่างน่าอับอายเสียจริงขณะที่กำลังคิดอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากด้านนอกหนิงซวงรีบไปเปิดประตู ก็เห็นว่าผู้ที่อยู่ด้านนอกคือฉู่จืออี้หนิงซวงตกใจ รีบทำความเคารพทันที “บ่าวขอคารวะท่านอ๋องเพคะ”นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่ฉู่จืออี้เป็นคนไม่ดี แต่นางกลับรู้สึกหวาดกลัวโชคดีที่ฉู่จืออี้ไม่ได้ใส่ใจท่าทีของนาง เพียงถามเบา ๆ “เนี่ยนเนี่ยนฟื้นหรือยัง?”หนิงซวงถึงได้พยักหน้า “กราบทูลท่านอ๋อง คุณหนูของบ่าวเพิ่งตื่นเมื่อครู่เพคะ”พูดจบก็หลีกทางให้ฉู่จืออี้จึงเดินเข้ามาในห้อง เห็นว่าเฉียวเนี่ยนลุกขึ้นจากเตียงแล้ว ยังไม่ได้คลุมเสื้อคลุมด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เดินเข้ามาอย่างเร็ว เอื้อมมือแตะหน้าผากของนาง คิ้วขมวดเป็นปม “ตัวยังร้อนอยู่เลย หนิงซวง ยาของคุณหนูเจ้าล่ะ?”เมื่อถูกเรียกชื่อ หนิงซวงยิ่งลน รีบตอบว่า “บ่าวจะไปเอามาเดี๋ยวนี้เพคะ!” พู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status