ใจของอวิ๋นเอ๋อร์สะท้านขึ้นมาเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังคงแต้มด้วยรอยยิ้ม เอ่ยยกยอว่า “องค์หญิงช่างมากด้วยไหวพริบจริงๆ อัครมหาเสนาบดีบ้าง ศิษย์หมอเทวดาบ้าง ล้วนถูกองค์หญิงซูหยวนของพวกเราเขี่ยเล่นอยู่ในฝ่ามือไม่ใช่หรือ?”คำพูดนี้ของอวิ๋นเอ๋อร์นับว่าโดนใจองค์หญิงซูหยวนเข้าเต็มเปาเห็นนางยกมือขึ้นแตะปลายจมูกของอวิ๋นเอ๋อร์เบาๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “ก็เจ้าปากหวานแบบนี้แหละ!”อวิ๋นเอ๋อร์รู้ว่าองค์หญิงซูหยวนกำลังอารมณ์ดี รีบเอ่ยเสริมว่า “บ่าวพูดความจริงทั้งนั้นเพคะ!”ได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหยวนยิ่งรู้สึกดีใจยิ่งขึ้น ยื่นใบรายการยาสมุนไพรในมือส่งให้อวิ๋นเอ๋อร์ “เจ้าไปเตรียมของพวกนี้ให้เรียบร้อย แล้วเอาไปส่งให้นาง!”"เพคะ"อวิ๋นเอ๋อร์รับใบรายการไป องค์หญิงซูหยวนก็เดินนำเหล่าขันทีและนางกำนัลคนอื่นๆ จากไปอย่างองอาจพอองค์หญิงซูหยวนเดินห่างออกไปแล้ว อวิ๋นเอ๋อร์จึงเพิ่งยกใบรายการยาในมือขึ้นดู สูดลมหายใจเข้าลึกจากนั้นจึงหมุนตัว มุ่งหน้าไปยังโรงหมอหลวงหลังจากจัดเตรียมยาตามที่ระบุไว้ในใบรายการยาเรียบร้อยแล้ว อวิ๋นเอ๋อร์ก็กลับไปยังที่พักของเฉียวเนี่ยนเมื่อเห็นอวิ๋นเอ๋อร์นำคนหามสมุนไพรมา เฉียวเนี่ยนที่ก
เฉียวเนี่ยนเก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ สีหน้ายังแสดงความเคารพเช่นเดิมยาและสมุนไพรที่องค์หญิงซูหยวนส่งมาให้มีจำนวนมาก บางอย่างก็เป็นของที่ใช้ทำยาปลุกกำหนัดจริง แต่บางอย่างกลับไม่ใช่คิดว่าองค์หญิงก็คงได้เรียนรู้กลวิธีที่นางใช้บำรุงร่างกายให้องค์หญิงหลังจากตกเลือดในครานั้นแล้วเพียงแต่เฉียวเนี่ยนมองดูสมุนไพรที่องค์หญิงส่งมาครบถ้วนแล้วจึงกล่าวว่า “ขอบพระทัยองค์หญิงที่เห็นใจ เพียงแต่สมุนไพรพวกนี้ยังไม่เพียงพอเพคะ”เมื่อได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหยวนก็ชะงัก “ไม่พอรึ? องค์หญิงผู้นี้สอบถามมาแล้ว สมุนไพรเหล่านี้...”เห็นๆ อยู่ว่าสมุนไพรที่ใช้ปรุงยาปลุกกำหนัดนั้นมีอยู่ครบถ้วนแล้ว!เฉียวเนี่ยนกลับยิ้ม “องค์หญิงก็ทรงทราบว่ายาที่ไม่เคยมีใครปรุงมาก่อนย่อมดีกว่าของสามัญ เช่นนั้นย่อมไม่อาจเหมือนกับที่ผู้อื่นใช้เพคะ”ถ้อยคำนี้ฟังดูสมเหตุสมผลองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เช่นนั้นก็ว่ามา ยังขาดสิ่งใดอีก?”เฉียวเนี่ยนมองดู แล้วกล่าวว่า “อีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะจัดทำรายการให้เพคะ ต้องขอรบกวนองค์หญิงแล้ว”เดิมทีนางยังเป็นกังวลว่าเมื่อเข้าวังหลวงมาแล้วจะไม่อาจวิจัยยานิทราจำแ
เฉียวเนี่ยนมองเห็นชัดเจนว่าสิ่งที่เอ่อล้นอยู่ในดวงตาของเซียวเหอคืออะไรนางเองก็พลันนึกถึงคำพูดที่เซียวเหอเคยพูดกับนางในสวนของตระกูลเซียวในวันนั้นครั้งนั้น นางเคยลังเลลังเลว่าจะให้โอกาสเซียวเหอดีหรือไม่ อย่างไรเสีย เซียวเหอก็เป็นคนดีจริงๆแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในภายหลังล้วนฉับพลันเกินไป จนความลังเลในใจของนางพลันจางหายไปหมดสิ้นนางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยช้าๆ ว่า “ท่านพี่เซียว ข้า...”“ข้ามิได้ต้องการให้เจ้าตอบตกลงอันใด” เซียวเหอขัดคำพูดของเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง “ข้าเพียงไม่อยากให้เจ้าเข้าใจผิด”หากจะให้นางเข้าใจผิดว่าที่เขายอมเสี่ยงก็เพื่อเมิ่งอิ้งจือ เช่นนั้นก็ให้รู้อย่างชัดเจนดีกว่า ว่าสิ่งที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อเฉียวเนี่ยนเขารู้ว่านางยังมิได้ตัดสินใจว่าจะรักใครแต่เขาก็มิได้รีบร้อน เพียงแค่คิดว่า หากตนทุ่มเทดีกับนางอย่างสม่ำเสมอ สักวันหนึ่ง นางก็จะรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาแต่สิ่งสำคัญคือนางต้องรู้ ว่าเขานั้นมอบหัวใจทั้งหมดให้นางเพียงผู้เดียวเฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจลึก ในที่สุดก็พยักหน้าเบาๆ แต่แล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงมองไปยังข้อมือของเซียวเหอ “สร้อยข้อมือลูกประคำ
ดูท่าว่า ที่นางยอมถ่อมตนอยู่ต่อหน้าองค์หญิงซูหยวนมานานเพียงนี้เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ กลับทำให้องค์หญิงซูหยวนเห็นนางเป็นเพียงลูกพลับนิ่มที่นึกจะบีบจะปั้นอย่างไรก็ได้!เรื่องของตระกูลวั่นในวันนี้ องค์หญิงซูหยวนลากท่านพี่เซียวเข้ามาเกี่ยว แล้วยังข่มขู่เกี่ยวกับฉู่จืออี้ที่อยู่ไกลถึงชายแดนอย่างชัดเจนยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังต้องการให้นางวางยาปลุกกําหนัดเซียวเหิง แล้วส่งเซียวเหิงขึ้นเตียงขององค์หญิงซูหยวนอีกด้วย!องค์หญิงซูหยวนชอบเซียวเหิงมานานปานนั้น จะไม่รู้หรือว่าเซียวเหิงเป็นคนเช่นไร หากเรื่องสำเร็จ เซียวเหิงต้องอาละวาดพลิกทั้งวังหลังแน่นอน!ถึงตอนนั้น ฮ่องเต้ย่อมต้องทรงห่วงเกียรติยศขององค์หญิงกับราชวงศ์ ย่อมบีบบังคับให้เซียวเหิงสมรสกับองค์หญิงซูหยวนแต่ก็ต้องมีคำอธิบายให้กับเซียวเหิงและถึงตอนนั้น ผู้ที่ปรุงยาปลุกกําหนัดขึ้นมาก็คือนาง ที่จะถูกผลักออกมาเผชิญหน้ากับผู้คนเซียวเหิงจะฆ่านางหรือไม่ นางไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ องค์หญิงซูหยวนต้องฆ่านางเพื่อปิดปากแน่!ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ทำได้เพียงชิงลงมือก่อนองค์หญิงซูหยวนเท่านั้น!ครู่ต่อมาเฉียวเนี่ยนพบเซียวเหอระหว่างทางกลับโรงหม
เห็นสีหน้าของเฉียวเนี่ยนเริ่มแสดงความไม่สู้ดีออกมา องค์หญิงซูหยวนจึงหัวเราะออกมาในที่สุด“เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องกังวล ขอเพียงเจ้าตั้งใจทำงานให้กับเรา เราก็ย่อมจะไม่ทำอะไรพระปิตุลาแน่” องค์หญิงซูหยวนกล่าวอย่างช้าๆ แต่เสียงของนางกลับยิ่งฟังดูเย็นเยียบ “ถึงอย่างไร เขาก็เป็นวีรบุรุษผู้ปกป้องบ้านเมืองนี่นะ”ยังคงเป็นน้ำเสียงที่ฟังไม่ออกว่าเป็นการชมเชยหรือแดกดันกันแน่เฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มความไม่สบายใจในใจลงไปเพียงได้ยินองค์หญิงซูหยวนกล่าวว่า “แต่เอาเข้าจริง เจ้าก็เป็นคุณหนูบุตรสาวสายตรงของจวนโหว หากอยากจะเป็นพระชายาอ๋องผิงหยางขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถึงตอนนั้น เราจะช่วยพูดเรื่องดีๆ เกี่ยวกับเจ้าต่อเสด็จพ่อ เสด็จพ่อย่อมพระราชทานการสมรสให้เป็นแน่”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันมิได้มี...”“แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าต้องช่วยเราอย่างหนึ่งก่อน”องค์หญิงซูหยวนไม่คิดจะฟังเฉียวเนี่ยนพูดเลย และก็ไม่ได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนพูดอะไรออกมาด้วยซ้ำนางพูดต่อ “ในเมื่อเจ้าหมายมั่นจะเป็นพระชายาอ๋องผิงหยาง เช่นนั้นย่อมไม่เหลียวแลเซียวเหิงแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ช่วยเราหน่อ
เฉียวเนี่ยนทำหน้าตาไร้เดียงสา “องค์หญิงอยากฟังหม่อมฉันพูดอะไรหรือเพคะ”“เซียวเหอเคยเป็นสามีของเจ้า ตอนนี้เขายอมเสี่ยงเพื่อผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เจ้าไม่โกรธหรือ?”เฉียวเนี่ยนจึงหัวเราะเบาๆ “เรื่องการแต่งงานระหว่างหม่อมฉันกับคุณชายใหญ่ตระกูลเซียว ก็เป็นเพียงการจัดฉากเพียงเพราะหม่อมฉันไม่อยากแต่งงานกับท่านแม่ทัพเซียวเท่านั้นเพคะ หม่อมฉันกับเขา ระหว่างเราจึงไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวใดๆ ทั้งสิ้น”องค์หญิงซูหยวนจ้องมองใบหน้าเฉียวเนี่ยน คิดอยู่ในใจว่านางดูเหมือนจะไม่ได้ชอบเซียวเหอจริงๆแต่ก็อดถามต่อไม่ได้ “เช่นนั้น เจ้าก็ไม่ได้ชอบเซียวเหิงด้วยหรือ?”ทั้งพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหลีกเลี่ยงการสมรสพระราชทานจากเสด็จพ่อ ทั้งถึงขั้นยอมแต่งกับคนพิการ ไม่ยอมแต่งกับเซียวเหิง แบบนี้ก็คงเรียกว่าไม่ชอบได้ใช่ไหม!เฉียวเนี่ยนยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อยแม้ว่าองค์หญิงซูหยวนจะรู้คำตอบในใจอยู่แล้ว แต่พอเห็นเฉียวเนี่ยนยอมรับอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นางกลับรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลหว่างขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมองเฉียวเนี่ยนอย่างพิจารณาอีกครั้ง แล้วจึงหัวเราะเย็นชา “ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าคุณหนูเฉียวจ