ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก

ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก

Oleh:  มู่อวิ๋นเฉิงOngoing
Bahasa: Thai
goodnovel4goodnovel
10
27 Peringkat. 27 Ulasan-ulasan
340Bab
62.6KDibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

ในวันวิวาห์ กู้ซิวหมิงผู้เป็นว่าที่สามีได้หนีไปกับสตรีนางอื่น ทำให้เมิ่งจิ่นเหยากลายเป็นตัวตลกถูกผู้คนหัวเราะเยาะ นางจึงตัดสินใจเด็ดขาดเปลี่ยนสามีกลางงาน แต่งงานกับกู้จิ่งซีผู้เป็นบิดาบุญธรรมของกู้ซิวหมิง หลังจากแต่งงาน กู้ซิวหมิงเย้ยหยันนางว่า “เมิ่งจิ่นเหยา เจ้ามียางอายหรือไม่? ไม่ได้เป็นเจ้าสาวของข้า ก็เลยจะมาเป็นแม่ของข้าหรือ?” เมิ่งจิ่นเหยามองไปยังบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูแล้วฟ้องว่า “ท่านพี่ บุตรชายของท่านอกตัญญู ล่วงเกินผู้อาวุโส” กู้จิ่งซีเดินมาอยู่ที่ข้างกายนาง ยื่นกฎตระกูลให้นาง แล้วเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า “ลูกเนรคุณไม่รู้ความ ข้ายุ่งกับงานราชการ วันหน้ายังต้องรบกวนฮูหยินช่วยดูแลสั่งสอนให้ดี” กู้ซิวหมิงตะลึงงัน “???” [แต่งงานแล้วค่อยรัก+รักเดียวใจเดียว+รักหวาน ๆ+การต่อสู้ภายในบ้าน+แก้แค้นคนเลว+ชีวิตประจำวันอันอบอุ่น]

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ 1

จวนหย่งชางป๋อเป็นตระกูลขุนนางตกอับ แต่เมิ่งจิ่นเหยาผู้เป็นบุตรีคนโตของภรรยาเอกกลับได้ตบแต่งเข้าจวนฉางซินโหวที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ[1] ใครบ้างจะไม่บอกว่าเมิ่งจิ่นเหยาโชคดี?

อย่างไรก็ตาม เมิ่งจิ่นเหยากลับไม่คิดเช่นนั้น หากนางโชคดีจริง เหตุใดคู่หมั้นจึงไม่มารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเองในวันวิวาห์? แต่ให้คุณชายรองของจวนฉางซินโหวอุ้มไก่ตัวผู้มาที่จวนหย่งชางป๋อเพื่อรับตัวเจ้าสาวแทนเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าไม่สบาย จึงไม่อาจมารับด้วยตนเอง

ทั้ง ๆ ที่หลายวันก่อนนางเห็นกู้ซิวหมิงผู้เป็นซื่อจื่อดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี เหตุใดจู่ ๆ ก็ล้มป่วยจนลุกจากเตียงไม่ขึ้น มารับตัวเจ้าสาวไม่ได้กันเล่า?

พูดตามตรงคือจวนฉางซินโหวไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานครั้งนี้ ดังนั้นถึงได้ดูแคลนนางเช่นนี้ หากท่านปู่ของนางยังอยู่ ต่อให้ล้มป่วยจริง ตราบใดที่ไม่ถึงขั้นลุกจากเตียงไม่ไหว ก็คงจะมารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเอง

การแต่งงานกระชั้นชิดแล้ว แม่เลี้ยงกับบิดาอยากเชื่อมสัมพันธ์กับจวนฉางซินโหว ไฉนเลยจะละทิ้งการแต่งงานดี ๆ ที่กำหนดไว้เมื่อสิบปีก่อนนี้?

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะทำให้นางไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ยังยัดนางเข้าไปในเกี้ยวเจ้าสาว ส่วนนางนอกจากขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ก็ไม่มีทางให้ถอยอีก

“ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว...”

ในเวลานี้เอง หนิงตงรีบร้อนวิ่งเข้ามา เอ่ยกับเมิ่งจิ่นเหยาว่า “คุณหนูเจ้าคะ ซื่อจื่อไม่ได้ล้มป่วย เขาหนีการแต่งงานไปกับสตรีนางอื่นแล้วเจ้าค่ะ!”

เมื่อคำพูดนี้ออกมาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง

บรรดาแขกเหรื่อต่างก็นึกว่าซื่อจื่อล้มป่วย คิดไม่ถึงว่าจะหนีการแต่งงานไปกับผู้อื่นแล้ว?

คนของจวนฉางซินโหวหน้าแข็งทื่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ใดปากพล่อยเปิดเผยข่าว

เมิ่งจิ่นเหยาได้ยินคำกล่าวนี้ก็ตัวแข็งทื่อไปหมด นางเองก็นึกว่าบางทีว่าที่เจ้าบ่าวอาจจะล้มป่วย คิดไม่ถึงว่าจะหนีไปกับผู้อื่น เรื่องล้มป่วยไม่อาจมารับตัวเจ้าสาวและกราบไหว้ฟ้าดินด้วยตนเอง นางกัดฟันทนได้ แต่เรื่องหนีไปกับผู้อื่น ขออภัยด้วยที่นางทนไม่ได้

นางยื่นมือไปเลิกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงออกทันที เผยให้เห็นดวงหน้าโฉมสะคราญล่มชาติบ้านเมือง ดวงหน้าเล็กบึ้งตึง มองไปยังคนของจวนฉางซินโหวด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว ก่อนจะเอ่ยถามว่า “หนีการแต่งงานอย่างไร้ความรับผิดชอบในวันวิวาห์เช่นนี้ นี่ก็คือการอบรมสั่งสอนซื่อจื่อของจวนฉางซินโหวของพวกท่านหรือ?”

นางจางผู้เป็นภรรยาเอกของทายาทสายหลักที่เกิดจากอนุภรรยารีบกล่าวว่า “หลานสะใภ้ เจ้าวางใจได้ พวกเราส่งคนไปตามหาแล้ว เจ้ายังคงเป็นฮูหยินของซื่อจื่อที่ตบแต่งเข้าตระกูลกู้ของพวกเราอย่างถูกต้องตามประเพณี ส่วนสตรีนางอื่น หากเจ้าพอใจก็รับนางเข้ามา สุดท้ายก็เป็นได้เพียงอนุที่ไม่มีหน้ามีตาเท่านั้น”

เมิ่งจิ่นเหยารู้สึกเสียหน้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นางโกรธจนตาแดงก่ำ มือที่อยู่ในแขนเสื้อสั่นเทาเล็กน้อย แต่นางยังคงยืนตัวตรง รักษาความเยือกเย็นอย่างสุดความสามารถแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเขาหนีไปกับผู้อื่น ทอดทิ้งไม่ไยดีข้าในวันมงคล เช่นนั้นข้ายังต้องแต่งงานกับเขาต่อไป เป็นฮูหยินของซื่อจื่อแค่ในนามไปทำไม?”

นางจางมึนงงเล็กน้อย ถามตามคำพูดของนางว่า “เช่นนั้นความหมายของเจ้าคือ?”

เมิ่งจิ่นเหยาใคร่ครวญอย่างรวดเร็วและถามอีกว่า “บุตรีคนโตของภรรยาเอกตระกูลเมิ่งมีสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลกู้ การแต่งงานนี้กำหนดขึ้นในสมัยของท่านปู่ แต่ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าต้องตบแต่งให้คุณชายท่านใดของตระกูลกู้ ฮูหยินใหญ่ว่าใช่หรือไม่?”

นางจางพยักหน้า “เป็นเช่นนี้จริง ๆ”

แต่ในบรรดาเด็กรุ่นหลังที่เหมาะสมจะแต่งงาน ผู้ที่สูงศักดิ์ที่สุดก็คือซื่อจื่อของจวนโหว และยังเป็นการแต่งงานที่กำหนดโดยท่านโหวผู้เฒ่า ดังนั้นทุกคนจึงยอมรับโดยปริยายว่าเป็นซื่อจื่อ แต่งงานกับซื่อจื่อ และเป็นตระกูลเมิ่งพวกเขาที่อาจเอื้อมผู้ที่มีฐานะสูงส่งกว่า วันข้างหน้าซื่อจื่อจะเป็นผู้ที่ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์

เมิ่งจิ่นเหยาสูดลมหายใจลึก ราวกับใช้ความกล้าทั้งชีวิต เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เป็นตระกูลกู้ของพวกท่านที่ทำผิดกับข้าก่อน ในเมื่อข้านั่งเกี้ยวแปดคนหามเข้ามา ย่อมไม่มีเหตุผลให้ข้าเดินกลับไป ถ้าเช่นนั้นก็เปลี่ยนคนมากราบไหว้ฟ้าดินกับข้า เรียกบุรุษที่ยังไม่ได้แต่งงานในตระกูลกู้ของพวกท่านออกมา ให้ข้าเลือกคนที่เจริญตา”

_________________________________

[1] ซื่อจื่อ คือผู้สืบทอดตำแหน่งยศของบิดา
Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Peringkat

10
96%(26)
9
4%(1)
8
0%(0)
7
0%(0)
6
0%(0)
5
0%(0)
4
0%(0)
3
0%(0)
2
0%(0)
1
0%(0)
10 / 10.0
27 Peringkat · 27 Ulasan-ulasan
Tulis Ulasan

Ulasan-ulasanLebih banyak

Thitima Pradtipong
Thitima Pradtipong
อีเหี้ยเรื่องชายชั่วหนีขันหมากทำไมไม่เขียนต่ออีร้อยควย
2025-07-27 09:40:26
2
0
Thitima Pradtipong
Thitima Pradtipong
อัฟใหม่มาเร็วๆๆ
2025-07-09 12:20:02
0
0
Thitima Pradtipong
Thitima Pradtipong
นึกว่าตรงเราหายคนเดียวแม่หายไปทุกคนนักเขียนตายห่าแล้วมัก
2025-07-09 12:19:05
0
0
Thitima Pradtipong
Thitima Pradtipong
ต๋องเมื่อไหร่ช้ามากรำคาญ
2025-07-09 12:17:52
0
0
Kom Kom
Kom Kom
วนกลับมาดูก็ยังไม่อัฟเดตเลย...เทแล้วมั๊งคะหายไปนานมากเลยค่ะ
2025-06-21 04:00:40
2
0
340 Bab
บทที่ 1
จวนหย่งชางป๋อเป็นตระกูลขุนนางตกอับ แต่เมิ่งจิ่นเหยาผู้เป็นบุตรีคนโตของภรรยาเอกกลับได้ตบแต่งเข้าจวนฉางซินโหวที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ[1] ใครบ้างจะไม่บอกว่าเมิ่งจิ่นเหยาโชคดี?อย่างไรก็ตาม เมิ่งจิ่นเหยากลับไม่คิดเช่นนั้น หากนางโชคดีจริง เหตุใดคู่หมั้นจึงไม่มารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเองในวันวิวาห์? แต่ให้คุณชายรองของจวนฉางซินโหวอุ้มไก่ตัวผู้มาที่จวนหย่งชางป๋อเพื่อรับตัวเจ้าสาวแทนเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าไม่สบาย จึงไม่อาจมารับด้วยตนเองทั้ง ๆ ที่หลายวันก่อนนางเห็นกู้ซิวหมิงผู้เป็นซื่อจื่อดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี เหตุใดจู่ ๆ ก็ล้มป่วยจนลุกจากเตียงไม่ขึ้น มารับตัวเจ้าสาวไม่ได้กันเล่า? พูดตามตรงคือจวนฉางซินโหวไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานครั้งนี้ ดังนั้นถึงได้ดูแคลนนางเช่นนี้ หากท่านปู่ของนางยังอยู่ ต่อให้ล้มป่วยจริง ตราบใดที่ไม่ถึงขั้นลุกจากเตียงไม่ไหว ก็คงจะมารับตัวเจ้าสาวด้วยตนเองการแต่งงานกระชั้นชิดแล้ว แม่เลี้ยงกับบิดาอยากเชื่อมสัมพันธ์กับจวนฉางซินโหว ไฉนเลยจะละทิ้งการแต่งงานดี ๆ ที่กำหนดไว้เมื่อสิบปีก่อนนี้? ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะทำให้นางไม่ได้รับความเป็นธรร
Baca selengkapnya
บทที่ 2
เมื่อสิ้นเสียงกล่าวของนาง ทุกคนล้วนตกตะลึงไม่หยุดบัดนี้จวนหย่งชางป๋อไม่ใช่จวนหย่งชางป๋อเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว หลังจากที่หย่งชางป๋อผู้เฒ่าเสียชีวิต หย่งชางป๋อคนปัจจุบันมีความสามารถพื้น ๆ ธรรมดา ทายาทผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์มีอายุเพียงสิบสองปี ยังไม่ได้เข้ารับราชการ ปัจจุบันยังไม่สามารถตั้งตัวได้ บุตรชายคนโตที่เกิดจากอนุภรรยาก็มีอายุเพียงสิบสามปีเช่นกัน จวนหย่งชางป๋อตกอับแล้ว แม้กู้ซิวหมิงหลบหนีงานแต่งงาน สกุลกู้ก็ยังจัดพิธีวิวาห์ตามกำหนดการ ตบแต่งเมิ่งจิ่นเหยาเข้าสกุลส่วนเมิ่งจิ่นเหยาก็ยอมตามน้ำไป แต่งงานกับกู้ซิวหมิง เป็นฮูหยินของซื่อจื่อที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี แม้สตรีนางอื่นได้รับความรักความโปรดปรานจากกู้ซิวหมิงอีกเพียงใด สุดท้ายก็เป็นได้เพียงอนุภรรยาที่ไม่มีหน้ามีตาเท่านั้น วันหน้าค่อยจัดการในภายหลังทว่าบัดนี้เมิ่งจิ่นเหยากลับบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าว?จวนฉางซินโหวมีสามบ้าน บ้านใหญ่กับบ้านรองล้วนเกิดจากอนุภรรยา บ้านสามคือบุตรที่เกิดจากภรรยาเอก ซึ่งเกิดจากฮูหยินผู้เฒ่ากู้ หลังจากที่ท่านโหวผู้เฒ่าเสียชีวิตแล้วก็ได้มีการสืบทอดตำแหน่งฉางซินโหวคนใหม่ ฉางซินโหวกู้จิ่งซีม
Baca selengkapnya
บทที่ 3
ทุกคนมองไปตามทิศทางที่เมิ่งจิ่นเหยาชี้ หลังจากที่สายตาทอดมองบนร่างของกู้จิ่งซี พวกเขาก็พากันสูดลมหายใจเย็นเยียบเมิ่งจิ่นเหยาบ้าไปแล้วหรือนี่? เดิมทีกู้จิ่งซีเป็นว่าที่พ่อสามีของนาง บัดนี้ว่าที่ลูกสะใภ้จะกลายเป็นว่าที่ภรรยาหรือ?หากกู้จิ่งซีและกู้ซิวหมิงเป็นคนรุ่นเดียวกัน เช่นนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่กู้จิ่งซีเป็นบิดาของกู้ซิวหมิง เป็นผู้อาวุโส แล้วผู้อาวุโสจะแต่งภรรยาที่ควรเป็นเด็กรุ่นหลังได้อย่างไร?นี่มันผิดหลักจริยธรรมกู้จิ่งซีเป็นผู้ที่แม้ภูเขาไท่ซานถล่มตรงหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวอันน่าตกตะลึงของว่าที่ลูกสะใภ้ สีหน้าของเขาก็แตกร้าวในพริบตา ก่อนจะหรี่ตามองเมิ่งจิ่นเหยาเมื่อเมิ่งจิ่นเหยาสบสายตาอันเย็นชาของกู้จิ่งซี หัวใจของนางก็สั่นเทิ้ม หากบอกว่าไม่ประหม่าไม่หวาดกลัว นั่นคงเป็นการโกหก ทว่านางเลือกเด็กรุ่นหลานสองคนนั้นของสกุลกู้ไม่ได้ แต่กู้จิ่งซีกลับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นางไม่มีทางถอยแล้ว หากกลับไปที่สกุลเมิ่ง สถานการณ์ก็คงไม่ดีไปกว่าการอยู่ในสกุลกู้ กู้ซิวหมิงทำผิดต่อนาง ทำให้นางเป็นที่ขบขันในวันวิวาห์ นางไม่อาจเป็นเจ้าสาวของกู้ซิวหมิง เช่นนั้นก
Baca selengkapnya
บทที่ 4
“หนึ่งคำนับฟ้าดิน!”“สองคำนับบิดามารดา!”“สามีภรรยาคำนับกันและกัน!”“พิธีเสร็จสิ้น ส่งตัวเข้าห้องหอ!”งานแต่งงานที่เหลวไหลเป็นไปไม่ได้แต่กลับกลายเป็นความจริง เมิ่งจิ่นเหยาไม่ได้เป็นฮูหยินของซื่อจื่อ แต่กลายเป็นฮูหยินของฉางซินโหวแทนบรรดาแขกเหรื่อต่างมึนงง รู้สึกว่าเข้าร่วมงานแต่งงานมามากมาย ทว่าครั้งนี้เป็นงานที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ช่วงเวลาว่างหลังดื่มชารับประทานอาหารจะมีเรื่องใหม่ให้พูดคุยกันแล้ว และพวกเขายังเป็นประจักษ์พยานที่ได้เห็นกับตาตัวเองอีกด้วยต้องกล่าวว่าเมิ่งจิ่นเหยามีสายตาแหลมคมมาก กู้จิ่งซีมีทั้งความสามารถและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น บัดนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีศาลต้าหลี่ หากไม่ใช่เพราะช่วยเหลือฮ่องเต้จนได้รับบาดเจ็บ เป็นโรคที่มิอาจกล่าวได้ และถูกคู่หมั้นถอนหมั้นจนหมดกำลังใจเรื่องแต่งงานมาตลอด ก็คงไม่ถึงตาให้เมิ่งจิ่นเหยามาเก็บตกไปได้คนของบ้านใหญ่กับบ้านรองก็มึนงงเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป คิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่ากู้จะเห็นด้วยกับเรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ได้ อีกทั้งกู้จิ่งซีที่เคร่งครัดมาตลอดก็แต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้ในตอนแรกเช่นกัน พรุ่งนี้บ้านของพวกเขาย่อมก
Baca selengkapnya
บทที่ 5
หลังจากแขกเหรื่อแยกย้ายกลับกันไปหมดแล้ว กู้จิ่งซีก็กลับมาที่เรือนของตัวเอง ภายในเรือนจุดโคมไฟสว่างไสววันนี้เขาดื่มไปไม่น้อย เมาได้ห้าหกส่วนแล้ว เขานวดหว่างคิ้ว เหลือบมองไปทางห้องหลัก ตัวเขาเองก็คิดว่าเรื่องมันเหลวไหล เห็นชัดว่าเป็นลูกสะใภ้ สุดท้ายกลับจับพลัดจับผลู กลายเป็นเขาที่แต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้แทนนี่เป็นเรื่องที่ออกนอกลู่นอกทางที่สุดที่เขาเคยทำตลอดยี่สิบเก้าปีที่ผ่านมา เมื่อเมิ่งจิ่นเหยาเลือกเขาอย่างแน่วแน่ ดึงดันที่จะแต่งงานกับเขา เมื่อเขาสบสายตาที่เด็ดเดี่ยวของเมิ่งจิ่นเหยา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดความคิดแบบไหนถึงดลใจให้ตอบตกลงโดยไม่รู้ตัวในขณะนั้น เมิ่งจิ่นเหยาลบเครื่องสำอางออกแล้ว หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็นั่งรออยู่ในห้องด้วยความกระสับกระส่าย เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู นางจึงคลายมือที่กำแน่นออก เชยตามองไปก็เห็นบุรุษร่างสูงตระหง่านราวกับต้นสน ก้าวเดินเข้ามาอย่างมั่นคง เวลานี้ไม่มีผู้ชมรอบข้างคอยชมละคร สภาพจิตใจของนางกลับไม่ได้สงบนิ่งไปกว่าตอนที่มีผู้ชมอยู่เลย นางฝืนเดินเข้ามาโดยแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามทำหน้าที่ภรรยาอย่างเต็มที่ เอ่ยถามอย่างนอบน้อมว่
Baca selengkapnya
บทที่ 6
คู่บ่าวสาวห่มผ้านอนหลับเฉย ๆ อย่างที่คาดไว้ไม่ผิดหลังจากที่วุ่นวายมาตลอดทั้งวัน อีกทั้งผ่านการแต่งงานที่เหลวไหลเช่นนี้ เมิ่งจิ่นเหยาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ แม้ว่าตนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย และยังมีบุรุษที่เป็นผู้ใหญ่นอนอยู่ข้างกาย แต่นางก็ผล็อยหลับไปอย่างสบายใจ ถึงอย่างไรสามีผู้นี้ของนางก็มีโรคที่มิอาจบอกผู้ใดได้ นางจึงไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ต่อให้สามีไม่มีโรคที่มิอาจบอกผู้ใดได้ นางก็ไม่ปฏิเสธที่จะใช้ชีวิตครองคู่กันอย่างสมบูรณ์ แต่งงานก็แต่งไปแล้ว ยังอยากรักษาความบริสุทธิ์เป็นหญิงพรหมจรรย์อีกทำไม เช่นนั้นก็ไม่มีความหมายแล้ว กู้จิ่งซีก็นอนลงโดยที่ไม่รู้เช่นกันว่ารู้สึกอย่างไร เขาใช้ชีวิตมายี่สิบเก้าปี เพิ่งจะเคยนอนหลับร่วมเตียงกับสตรีเป็นครั้งแรก เขานึกว่าอีกฝ่ายเป็นสตรีย่อมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แต่คิดไม่ถึงว่าแค่ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังมาที่ข้างหู เขาเบนศีรษะด้วยความประหลาดใจ มองภรรยาที่เพิ่งแต่งงานนอนหลับสนิทโดยไร้ความระแวดระวัง แม่นางน้อยเพิ่งจะอายุสิบห้าสิบหก กลับมีจิตใจที่สงบนิ่งและปรับตัวไปตามสถานการณ์ สุขุมจนไม่เหมือนกับแม่นางน้อยในวัยนี้
Baca selengkapnya
บทที่ 7
โถงโซ่วอันโถงโซ่วอันที่เคยเงียบเหงาเปลี่ยนเป็นคึกคักเพราะสะใภ้ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเช้าตรู่นี้ บรรดาเด็กรุ่นหลังในตระกูลมาที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่ากู้กันแต่เช้า รอดูว่าวันนี้สะใภ้ใหม่จะรับมือเช่นไรบ้านใหญ่กับบ้านรองไม่รู้ว่าผ่านข้ามคืนด้วยอารมณ์แบบใด กู้ซิวหมิงหลบหนีการแต่งงาน ในฐานะที่กู้จิ่งซีเป็นว่าที่บิดาสามีจึงแต่งงานกับว่าที่ลูกสะใภ้ เรื่องที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ย่อมแพร่กระจายออกไปแล้ว ตระกูลของพวกเขาก็กลายเป็นที่ขบขันของทั้งเมืองหลวง ระหว่างที่รอ คนของทั้งสองบ้านแอบส่งสายตาให้กันไม่รู้กี่ครั้งวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่ากู้กลับดูกระปรี้กระเปร่า ดวงหน้ามีรอยยิ้มใจดี เรื่องการแต่งงานของบุตรชายเป็นปัญหาทางใจของนาง บัดนี้บุตรชายมีภรรยาแล้ว นางก็ปีติยินดีในใจ ใช้ชีวิตของตัวเอง นางไม่สนใจว่าคนนอกจะพูดอะไร ขอเพียงบุตรชายมีภรรยา ไม่ต้องอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพังจนแก่เฒ่าก็พอแล้ว นางจางเห็นแบบนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “คนเราเมื่อพบเจอเรื่องน่ายินดีก็จะเบิกบานใจจริง ๆ ด้วย วันนี้ท่านแม่อารมณ์ดียิ่ง”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “นั่นเป็นเรื่องธรรมดา เจ้าสามมีครอบครัวแล้ว ในที่สุดข้าก็
Baca selengkapnya
บทที่ 8
เมื่อคำกล่าวนี้ออกมา ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็ปรายตามองนางด้วยสีหน้าไม่คาดฝัน ไม่พอใจที่นางพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูด เมิ่งจิ่นเหยาเองก็รู้ว่านางกำลังยั่วยุ แถมยังบอกเป็นนัยว่ากู้จิ่งซีใช้การไม่ได้ จึงตอบกลับอย่างนุ่มนวลว่า “ขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่ที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ เมื่อคืนข้าดีหมดทุกอย่าง” นางกล่าวพลางชะงักไป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นทำสีหน้าเหมือนมารดาผู้อ่อนโยนแล้วเอ่ยต่อว่า “เจ้าเด็กซิวหมิงไม่รู้ความจริง ๆ แต่นี่ก็โทษเขาทั้งหมดไม่ได้ เขาไม่มีมารดาอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เล็ก ท่านพี่ก็ยุ่งกับราชกิจ ขาดการดูแลสั่งสอนเขา ส่วนท่านแม่ก็อายุมากแล้ว ไม่มีแรงดูแลสั่งสอน บัดนี้ข้าแต่งงานเข้ามาแล้ว เขาก็มีมารดาแล้ว ต่อไปจะต้องสั่งสอนเขาอย่างเข้มงวดเจ้าค่ะ” เมื่อสิ้นเสียงพูด กู้จิ่งซีเลิกคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงอ่อนโยนถึงเพียงนี้ เหตุใดเขาถึงฟังออกว่าเหมือนกัดฟันกล่าว?ส่วนนางจางก็สำลักในใจ จ้องมองเมิ่งจิ่นเหยาที่มีสีหน้าอบอุ่น รอยยิ้มอ่อนโยน วางท่าเหมือนญาติผู้ใหญ่ได้ดีมาก นางยิ่งรู้ว่าเมิ่งจิ่นเหยาจะต้องเป็นโหดเหี้ยม สามารถยืดได้หดได้ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี คนแบบนี้รับมือได้ยาก มารดาใหม่ของซื
Baca selengkapnya
บทที่ 9
ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ได้ยินคำกล่าวนี้ สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “นางดูเป็นคนเฉลียวฉลาด สามารถแก้ปัญหาหลายเรื่องด้วยตนเอง แต่ไม่ว่านางจะต้องการหรือไม่ ท่าทีของเจ้าทำให้นางหลบเลี่ยงเรื่องวุ่นวายมากมายได้ ปีนั้นข้าไม่ตั้งครรภ์อยู่นาน อนุภรรยาทั้งสองคนของพ่อเจ้าต่างก็ให้กำเนิดบุตรชาย ข้าโดนมารดาสามีกดดัน อนุภรรยาเยาะเย้ยทั้งต่อหน้าและลับหลัง บิดาของเจ้าเอาแต่นิ่งดูดาย ข้าทนรับความเจ็บช้ำน้ำใจมากมายไม่ไหว” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องในวัยสาวของตนเอง ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็หลั่งน้ำตาแห่งความชอกช้ำในใจ โชคดีที่นางให้กำเนิดบุตรชายตอนอายุยี่สิบห้า สถานการณ์ถึงค่อย ๆ ดีขึ้น ความทุกข์ที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับ นางไม่อยากให้ลูกสะใภ้ต้องทนรับเช่นกันกู้จิ่งซีตะลึงงัน ก่อนผงกศีรษะ “ท่านแม่โปรดวางใจ ลูกไม่มีทางปล่อยให้นางโดนรังแก นางคือฮูหยินของท่านโหว เป็นตัวแทนศักดิ์ศรีของสกุลกู้ หากคนอื่นดูหมิ่นนาง ลูกก็ไม่มีหน้าแล้วเช่นกัน”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ไม่ค่อยพอใจกับคำตอบนี้จึงเอ่ยว่า “วางเรื่องมีหน้าหรือไม่มีหน้าไว้ข้าง ๆ ก่อน อย่างน้อยเจ้าต้องปฏิบัติต่อนางเหมือนภรรยา เมื่อก่อนนางเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเจ้า แต่บัดนี้
Baca selengkapnya
บทที่ 10
เรือนเวยหรุยเซวียนบ่าวไพร่ในเรือนเห็นเมิ่งจิ่นเหยากลับมาจากการไปหาฮูหยินผู้เฒ่า โดยมีเพียงสาวใช้คนสนิทของนางอยู่ข้างกาย ท่านโหวไม่ได้มาด้วย สายตาที่มองนางก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยจริงอยู่ที่สุดท้ายนางบีบบังคับให้ท่านโหวแต่งงานกับนาง และทำให้ท่านโหวขายหน้า กลายเป็นที่ขบขันไปด้วย ท่านโหวจะสนใจตัวต้นเหตุอย่างนางได้อย่างไร?นางเป็นเพียงบุตรสาวจากตระกูลตกอับ อาศัยสัญญาหมั้นหมายที่ตกลงกันไว้ในรุ่นท่านโหวผู้เฒ่าแต่งงานกับซื่อจื่อได้ก็เป็นการปีนขึ้นที่สูงแล้ว ซื่อจื่อหลบหนีการแต่งงาน จวนโหวให้จัดพิธีแต่งงานตามที่กำหนดไว้เพื่อรับนางเข้ามา นี่เป็นการไว้หน้านางแล้ว ใครจะรู้ว่านางจะก่อปัญหาสร้างเรื่องราวที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ ไม่แต่งงานกับซื่อจื่อ ทว่าแต่งงานกับท่านโหวอย่างไร้ยางอาย ใครจะรู้ว่านางทำเพื่อแก้แค้นซื่อจื่อหรือเปล่า ถึงได้ไม่เป็นภรรยาของซื่อจื่อ แต่เป็นมารดาของซื่อจื่อแทน ซื่อจื่อย่อมมีความผิด แต่การที่นางแต่งงานกับว่าที่บิดาสามีในตอนแรกก็เป็นเรื่องเหลวไหลอย่างยิ่ง ต่อให้ไม่แต่งงานกับซื่อจื่อ จะแต่งงานกับคุณชายรองหรือคุณชายสี่ก็ได้ทันทีที่เข้ามาในห้อง หนิงตงก็อดกล่าวไม่ได้ว่า “ฮ
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status