ในขณะที่เดินซื้อของอยู่ ใบหม่อนก็สะดุดตาเห็นลูกค้า VVIP เก่าที่เขาคุ้นเคยมาก่อน นั่นคือคุณอังเดรและคุณพิจิตรา คู่สามีภรรยาที่เคยติดต่อกับเขาเรื่องการหาคอนโดหรูเพื่อมาปักหลักในไทย ใบหม่อนรู้สึกยินดีที่ได้พบพวกเขาโดยบังเอิญ เพราะการพูดคุยและช่วยเหลือคู่สามีภรรยาคู่นี้ทำให้เขาประทับใจในความสุภาพและจริงใจของทั้งสอง“คุณอังเดร กับคุณพิจิตรา สวัสดีครับ” ใบหม่อนเอ่ยทักเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกับส่งยิ้มสุภาพคุณอังเดรและพิจิตราทำท่าทางยินดีที่ได้เจอกับใบหม่อนอีกครั้ง ใบหม่อนนั้นเป็นคนที่เฉลียวฉลาด คนหนุ่มให้บริการพวกเขาอย่างดีเยี่ยม บางครั้งลูกค้าอย่างพวกเขาอาจจะบอกความต้องการตัวเองไม่ถูก หรือยังไม่รู้ความต้องการของตัวเอง แต่ใบหม่อนก็จะมีวิธีพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนจนได้ แถมยังเป็นคนละเอียดอ่อน คอยช่วยตรวจงานให้กับพวกเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วน“สวัสดีค่ะคุณใบหม่อน ดีใจจังเลยที่ได้เจอกัน มาซื้อของเหรอคะ” พิจิตราถาม“ใช่ครับ ดีใจที่ได้เจอเช่นกัน ว่าแต่ซื้อของเยอะจังเลยนะครับ” ใบหม่อนทักทายพร้อมกับหันมองของที่พวกเขากำลังซื้อ มีทั้งของใช้และของตกแต่งมากมาย และยังมีคนงานอีกสามคนคอยช่วยถือของ“โอ๊ย
"แว๊กกกกกกก อ๊ากกกกกก พอแล้ว พอแล้ว!" เสียงโวยวายกรีดร้องของใบหม่อนดังลั่นมอเตอร์ไซค์ สามีของเขาขับบิดเครื่องเร่งความเร็วมากขึ้น ทุกครั้งที่คนตัวเล็กในอ้อมกอดร้องเสียงหลงเหมือนจะแกล้งกัน ใบหม่อนยิ่งโวยวายเท่าไหร่ สีหนุก็ยิ่งหัวเราะและเร่งเครื่องเข้าไปใหญ่ราวกับการเล่นซนของเด็ก ๆ ไอ้แก่ จะรีบไปตายที่ไหนในที่สุด หลังจากแว้นกันมาอย่างบ้าระห่ำ พวกเขาก็พุ่งเข้าสู่คฤหาสน์โดยสวัสดิภาพ ใบหม่อนตัวสั่น ตื่นตระหนกสุดขีด กระโดดลงจากมอเตอร์ไซค์แทบไม่ทัน ก่อนจะเดินเซเข้าไปในห้องรับแขกแล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่บนโซฟา สีหนุมองตามพลางหัวเราะขบขัน ยืนกอดอกมองคนตัวเล็กด้วยสายตาขบขันจนโดนภรรยาด่าด้วยสายตาตลกตายล่ะ ไอ้คนป่า หลังจากนั้นในช่วงเย็น ทั้งคู่ก็ได้ทานข้าวด้วยกันครั้งแรกในรอบหลายวัน ใบหม่อนค่อย ๆ รู้สึกผ่อนคลาย ความหวาดเสียวจากการนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เริ่มจางหาย วันนี้ถือว่าเป็นวันที่เพอร์เฟคเลยก็ว่าได้ ได้ออกจากบ้านในรอบสัปดาห์ ได้ช็อปปิงสนุกสนานแบบเต็มเหนี่ยว แถมบัตรเครดิตก็รูดได้แบบไม่อั้น จะว่าไป สามีคนนี้ก็ดีในบางเรื่องอยู่เหมือนกันนะเรื่องดีที่ว่านั่นคือเรื่องเงินใบหม่อนหน้าดี๊ด๊าไม่น้อยเม
แน่นอนกับผีล่ะสิสีหนุพาเขาเดินออกจากห้องแล้วตรงไปยังห้องดูหนังของคฤหาสน์ หน้าจอขนาดใหญ่ตรงหน้าเปิดซีรีส์อเมริกาชื่อดังที่กำลังฮอตฮิตอยู่สีหนุทิ้งตัวลงบนโซฟา ดูจอด้วยความตั้งใจ ไม่มีท่าทีจะสนใจเขาแม้แต่น้อยโง่ โง่ เสื่อมสมรรถภาพแล้วรึเปล่าวะเนี่ย ใบหม่อนหมดอารมณ์ทันทีหลังจากความหวังที่จะยั่วสามีไม่สำเร็จ เขาหยิบหมอนมาวางบนตักของสีหนุอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะทิ้งตัวลงหนุนตักและเงยหน้าขึ้นมองสามีที่มีผมหนาฟูฟ่องไม่เป็นทรง ตาใสแป๋วมองสีหนุราวกับแมวขี้อ้อน"คุณสีหนุ..." ใบหม่อนเรียกด้วยเสียงนุ่ม ๆ“ว่าไง โดเรม่อน” สีหนุเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ทำให้ใบหม่อนหน้ามุ่ยทันที“แกล้งกันอีกแล้วนะ คุณไม่คิดจะจับผมกินบ้างรึไง”สีหนุหัวเราะในลำคอเบา ๆ ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ที่ใบหม่อนได้ยินจนชิน “ฉันไม่ได้รักเธอ”ใบหม่อนถึงกับกลอกตาแล้วถอนหายใจอย่างแรง "โอ๊ย เบื่อจะตายได้ยินทุกวัน ย้ำอะไรนักหนา กลัวลืมรึยังไง"สีหนุยิ้มมุมปาก ตอบกลับสั้น ๆ “อือ กลัวจะลืม”จากนั้นเขาก็จับหัวใบหม่อนให้หันไปดูซีรีส์ต่อ ไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม แต่กลับใช้มือลูบผมใบหม่อนเบา ๆ การสัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ใบหม่อนรู้สึกถึง
“ฝีมือคนเดิมเหรอ”“อืม ไม่เลิกจองเวรจองกรรมสักที”วิทย์ผิวปากด้วยความทึ่ง “ได้ยินว่าแต่งงานแล้วนี่ จดทะเบียนไปเป็นสัปดาห์ ไม่แนะนำให้พวกผมรู้จักเมียบ้างเหรอ”สีหนุหัวเราะหยัน “ขนาดมึงยังรู้ว่ากูแต่งงาน แล้วคิดว่าไอ้หมาบ้านั่นจะไม่รู้ได้ยังไง ทั้งที่กูไม่ได้บอกใครเลย ไม่เคยพาออกไปไหนด้วยซ้ำ แต่มันกลับรู้จนมาวางระเบิดรถของใบหม่อน”อุตส่าห์ทำเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด แต่ดูเหมือนจะเงียบไม่พอ เพราะพวกหมามันจมูกไว“ว้าว...” วิทย์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ พลางส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมาย “เมียคุณชื่อใบหม่อนเหรอ ชื่อน่ารักจัง น่าสงสารเขานะที่ต้องมาเป็นเมียคุณ”สีหนุปรายตาคมดุใส่ ทำเอาวิทย์หัวเราะก่อนจะยกมือขึ้นป้องกันตัวเอง "เอ้า ก็พูดตามความจริงนี่ คุณเองก็รู้ว่าคนอย่างไอ้หมาบ้านั่นจองเวรทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณ โดยเฉพาะคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี มันก็ไม่ลืม ผมยังไม่รู้เลยว่าควรจะสงสารเมียคุณ หรือควรจะสมเพชไอ้เวรนั่นดี"สีหนุสูบบุหรี่อีกครั้งก่อนจะตอบเสียงราบเรียบ “กูไม่ได้รักเขา เราแต่งงานกันเพราะที่บ้านกูบีบให้ทำ”คำพูดนั้นทำให้วิทย์เบิกตากว้าง ก่อนจะระเบิดหัวเราะดังลั่น “โอ๊ย คุณสีหนุ หลอกใคร
เข้าสู่สัปดาห์ที่สองที่ใบหม่อนถูกบังคับให้เก็บตัวเงียบตามคำสั่งของสามี เขานึกเซ็งอยู่ไม่น้อย เกือบจะได้กลับไปทำงานแล้วเชียว แต่กลับถูกล็อกให้อยู่บ้านเฉย ๆ ไม่รู้อีกฝ่ายนึกอะไรขึ้นมา คนที่เคยทำงานไม่อยู่นิ่งแบบเขาคันไม้คันมือทุกวัน จนในที่สุดคฤหาสน์หลังงามของสีหนุ ก็ตกเป็นเหยื่อความเบื่อหน่ายของใบหม่อนโดยปริยายใบหม่อนไม่ใช่คนที่จะนั่งเฉย ๆ ได้อยู่แล้ว เขาพักอยู่บ้านแต่ก็เหมือนกับไม่ได้พัก เพราะเขาลงมือจัดตกแต่งบ้านใหม่หลายจุดตามอารมณ์เบื่อเซ็งของตัวเอง โดยเฉพาะการเตรียมของใช้จำเป็นสำหรับผู้สูงวัยอย่างสีหนุหลังจากออกไปช็อปปิงครั้งก่อน ใบหม่อนก็จัดการซื้อของจำเป็นกลับมามากมาย เริ่มจากแผ่นกันลื่นในห้องน้ำ เขาไม่อาจละเลยความปลอดภัยของสามีได้ เขามีผัวแก่ ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ข้อมูลที่เคยอ่านมาก็ทำให้เขาหวาดระแวง อัตราการเสียชีวิตของคนแก่ที่ล้มในห้องน้ำนั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียวไฟเซนเซอร์ตามทางเดินก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เขาติดตั้งไว้เผื่อสีหนุนึกครึ้มออกมาเดินเล่นตอนกลางคืน อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องล้มหน้าคะมำเพราะความมืดมิดนอกจากนี้เขายังสั่งเก้าอี้นวดไฟฟ้ามาตั้งไว้ในห้องนอนของสีหนุโดยไม่ต
สักพักสีหนุก็โผล่มาในสภาพสุดเซอร์เหมือนเคย ใบหม่อนที่กำลังแชทกับคุณไซรัสก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างงง ๆ "แด๊ดดี๊ คุณไม่ได้ไปทำงานเหรอ" เขาถามออกไปด้วยความสงสัย"ไปแล้ว กลับมาแล้ว" สีหนุเอ่ยตอบเสียงเรียบ ๆ "คุณทำอะไรกันแน่" ใบหม่อนถามอย่างข้องใจ มันก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี เมื่อสามีของเขาไม่เคยบอกเรื่องงานจริง ๆ จัง ๆ เลยสักครั้ง"คิดว่ายังไง" สีหนุถามกลับด้วยสายตาขี้เล่น"ค้ายา"สีหนุกลอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจ "ไร้สาระ""ก็ดูสภาพคุณสิ" ใบหม่อนบ่นพลางทำหน้ายุ่ง ขณะเดียวกันสีหนุก็เริ่มกวาดสายตาสำรวจรอบ ๆ บ้านที่ตอนนี้ดูมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง"นี่เธอแต่งบ้านให้ฉันหมดเลยเหรอ ห้องน้ำฉันมีแผ่นกันลื่น มีไฟเซนเซอร์ด้วย ในห้องยังมีเก้าอี้นวดไฟฟ้าอีก""ใช่ ผมทำให้เอง มุมตกแต่งที่ห้องรับแขกกับห้องนั่งเล่นก็จัดใหม่หมด คุณควรจะขอบคุณผมด้วยนะ แด๊ดดี๊ ที่ได้มือดีจาก Astorial มาดูแลบ้านให้แบบนี้" ใบหม่อนตอบกลับอย่างภูมิใจสีหนุหัวเราะในลำคอ "เธอกำลังเล่นสนุกล่ะสิ แต่เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำตามใจเธอเลย ฉันไม่ว่า" สีหนุมองไปรอบ ๆ บ้านอย่างพิจารณา เห็นได้ชัดว่าบ้านดูสะอาดและมีระเบียบกว่าที่เคยเป็น บรรยากาศก็
หลังจากพักร้อนไปสองสัปดาห์ด้วยเหตุผลคือหนีตายจากศัตรูของสามี วันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีกลับมาลุยงานต่ออีกครั้ง ใบหม่อนแต่งกายเรียบร้อยเต็มยศ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสดใสอย่างมีความสุข ความคิดถึงที่มีต่อออฟฟิศและการเดินทางที่แสนวุ่นวายของกรุงเทพฯ ทำให้เขารีบเร่งกลับไปทำงานให้ทันก่อนที่จะโดนไล่ออกจริง ๆ วันนี้เขาไม่ได้เดินทางมาคนเดียว แต่มีคุณหนุ่ม หรือที่เขาตั้งชื่อให้ว่าคุณเทกี้ คอยมาส่งถึงที่ ด้วยรถยุโรปสุดหรู ดูราวกับคุณผู้ชาย แต่เมื่อก้าวเข้ามาในออฟฟิศห้อยบัตรพนักงาน ใบหม่อนก็กลับมาเป็นพนักงานต๊อกต๋อยเช่นเดิมแต่ถึงแม้จะเป็นพนักงานต๊อกต๋อย ภาพลักษณ์ของใบหม่อนก็ไม่ได้ธรรมดาเช่นนั้น อย่างน้อยเขาก็ต้องแต่งตัวให้เนี้ยบและดูดีกว่าพนักงานทั่วไปหนึ่งขึ้น เพราะเขาเป็นคนที่ดูแลเหล่าลูกค้าวีไอพีและเป็นคนสร้างรายได้ระดับต้น ๆ ของบริษัท ฉะนั้นจะมาเป็นพนักงานต๊อกต๋อยเหมือนกันไม่ได้ใบหม่อน ภควัต นำหนึ่งก้าวเสมอ"พี่พี!" ใบหม่อนตะโกนเรียกเจ้านายของเขาอย่างสดใส พร้อมวิ่งเข้าไปหา พีระหัวหน้าสายตรงของใบหม่อนถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นเจ้าตัวป่วนกลับมาทำงานอีกครั้ง"พี่พี ผมกลับมาแล้วนะ คิดถึงจังเลย" ใบหม่อนพูด
ในขณะกำลังคุยกันออกรสเสียงเข้มเย็นเฉียบก็ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ทั้งกลุ่มสะดุ้ง"ไม่ทำการทำงานวัน ๆ เอาแต่คุยกันเรื่องไร้สาระ หยุดไปตั้งหลายวัน กลับมาก็ทำตัวไร้ประโยชน์เลยนะครับ" เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยทำให้ทั้งแผนกหยุดหัวเราะทันทีทุกคนเงียบกริบแล้วหันไปมองผู้มาใหม่พร้อมกัน เขาคือกาย คู่กัดของใบหม่อน ที่เข้ามาพร้อมกับท่าทางตำหนิและความไม่พอใจอยู่เต็มหน้า แต่ในบรรดาพนักงานทุกคน ดูเหมือนจะมีเพียงใบหม่อนคนเดียวที่กล้าชนกับกาย"ก็กลับมาแล้วไงครับ พร้อมทำงาน พอดีว่าช่วงนี้ฮอตนิดหน่อย เลยมีคนมารุมเยอะ เลยไม่ค่อยว่าง" ใบหม่อนพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ยียวนกายสิทธิ์เลิกคิ้ว ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "ฟังดูไม่เหมือนสิ่งหอม ๆ เลยนะ แต่ก็เหมาะกับเธอดี"กายสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายประสานงานผู้บริหารของบริษัท เขาชอบโผล่มาที่แผนกของใบหม่อนอยู่เสมอ ไม่รู้เพราะงานหรือเพราะต้องการจับผิดกันแน่ การได้พบหน้ากายสิทธิ์แต่ละครั้งทำให้ใบหม่อนรู้สึกเหมือนโดนจ้องจับผิดทุกครั้ง บริษัท Astorial เป็นที่ทำงานที่ดีในทุกด้าน ยกเว้นท็อกซิกคนเดียวอย่างกายสิทธิ์ที่ทำให้ใบหม่อนแทบอยากจะหนีออกไปหาลูกค้าเสมอกายไม่ได้เป็น
“เท่าไหร่ล่ะครับ” ใบหม่อนเอ่ยแหย่ สีหน้าแฝงความตื่นเต้นปนขี้เล่น“เท่าที่เธออยากได้” สีหนุตอบด้วยความมั่นใจเยี่ยมมากครับแด๊ดดี๊ มันต้องแบบนี้สิ"มีแค่เงินเหรอครับ" สีหนุมองเขาด้วยสายตาจริงจัง “มีงานแต่งด้วยนะ ฉันจะให้เกียรติเธออย่างเต็มที่ ในฐานะภรรยาของสีหนุ วสุธร เราจะจัดงานแต่งงานกัน”ใบหม่อนหน้าแดงทันที หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นและจริงจังของสีหนุ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย หัวเราะอย่างเขิน ๆ ก่อนจะบ่นอุบอิบ“นั่นมันก็ต้องแต่งอยู่แล้วนี่ครับ ถ้าจะต่อสัญญา คุณควงผมไปทั่วจนลงข่าวทุกสำนัก ผมเสียหายหมดแล้วนะครับ”สีหนุยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม “เรื่องนั้นฉันยินดีชดใช้ให้เต็มที่…ฉันไม่ได้มีให้เธอแค่เงินหรอกนะ” เขาพูดจบก็หยิบเอกสารบางอย่างออกมายื่นให้ใบหม่อนใบหม่อนมองลงไปที่เอกสารในมือ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เป็นเอกสารโฉนดที่ดินบ้านหลังเก่าที่เขาเคยฝันอยากได้กลับคืน บ้านที่เป็นแหล่งรวมความทรงจำที่มีทั้งพ่อและแม่ บ้านที่เต็มไปด้วยความรักและอบอุ่นที่เขาโหยหามาตลอดชีวิตเขาจับเอกสารนั้นด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย หัวใจของเขาเต้นแรง พลางลูบโฉนดเบา ๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตา น้ำตาเริ
“สรุปแล้วมันยังไง แกกับคุณนุ จากตอนแรกเหมือนจะจีบกับคนน้อง แล้วสรุปได้มาคบกับคนพี่ ฉันสับสนไปหมด แล้วถามจริง ๆ นะเขาแก่กว่าแกตั้งเยอะ หนุ่ม ๆ อย่างแกไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอ”“พี่พีไม่รู้อะไร คนแก่นี่แหละแซ่บ ผมชอบ” ใบหม่อนเอ่ยอย่างทะเล้นส่ายหัวอย่างระอาพร้อมกับกลอกตามองบนใบหม่อนหัวเราะลั่นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเช็กข้อความ“อุ๊ย ไปก่อนนะครับ ผัวมารับแล้ว บาย” ใบหม่อนโบกมือให้หัวหน้าหนุ่มโสดจอมสอดแล้วหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งพีระไว้ลำพังเออ ให้มันโสดแค่กูนี่แหละใบหม่อนเดินลงมาด้านล่างด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสดใส ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความสุข ตลอดทางมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา คนในบริษัทต่างกระซิบกระซาบกันเบา ๆ ถึงเมียเจ้านายที่เดินยิ้มแย้มราวกับมีโลกเป็นของตัวเอง วันนี้ใบหม่อนตั้งใจออกไปเดทกับสามี หลังจากที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกไปเที่ยวด้วยกันเพราะตารางงานแน่นเอี้ยดครั้งสุดท้ายที่ใบหม่อนตื่นเต้นกับการเดทขนาดนี้ คือครั้งนั้นที่เขาเคยไปเดทกับคุณนันท์ อีกฝ่ายอุตส่าห์ให้คนขับรถหรูมารับเพื่อพาไปดินเนอร์ร้านอาหารฝรั่งเศสหรูหรา เหมือนเป็นความฝันที่กลายเป็นการหลอกลวงอันขมขื่น แต่เขาปฏิเสธไม่ได
“มึงมาขอโทษเมียกูก่อน” เสียงของสีหนุดังขึ้นก่อนที่อลันจะเปลี่ยนเป้าหมายไปกล่าวขอโทษ แต่ขอโทษเปล่า ๆ ก็เกรงว่าจะไม่ได้คนตัวเล็กที่ทั้งโดนตบ โดนบีบคอ แล้วยังโดนลูกปืนเชิดหน้าขึ้นอย่างเอาแต่ใจ“ผมรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น” เจ็บทั้งตัว แถมยังถูกขังตั้งหลายวัน เรื่องอะไรจะยอมง่าย ๆ อย่างน้อยเขาต้องได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง สุดท้ายใบหม่อนก็ได้รับการชดเชยเป็นคอนโดแถววิทยุเดิมทีริคาร์โดคู่สัญญาต้องการซื้อ กระบวนการผ่านไปได้ด้วยดีด้วยความรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีโบนัสเป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งให้แก่พนักงานที่ดูแล (ใบหม่อน) เงินที่ทำให้คนตัวเล็กแทบลืมความข้องหมองใจไปเสียหมดอย่างไรก็ตาม สำหรับตระกูลวิลาวรรณนั้นก็ยังคงไม่สามารถให้อภัยตระกูลวสุธรได้อย่างสนิทใจ เธอเลือกที่จะเว้นระยะห่างจากคนในตระกูล แม้จะไม่ได้แสดงออกถึงความโกรธแค้นอย่างเดิม แต่ความบาดหมางยังคงค้างคาอยู่ในใจของพวกเขาในส่วนของพิจิตราผู้ที่เป็นคนพบข้อมูลและคลิปที่เก็บซ่อนเอาไว้ของพี่สาวแล้วเอามาเปิดโปง เธอเองก็ยังคงวางเฉยต่อสีหนุ ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าพี่สาวของเธอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุความตายนั้นมาจากคนในครอบครัววสุธร อย่างไรก
หลังจากนั้น พิณธาราถูกจับ และเรื่องราวที่เธอเคยพยายามปกปิดก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาจนกลายเป็นข่าวฉาว การกระทำผิดของเธอถูกเปิดเผยมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะนับไม่ถ้วน เรื่องราวของเธอและตระกูลวสุธรกลายเป็นข่าวใหญ่โต สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วทั้งสังคม บ้างก็พูดกันว่า สีหนุ พี่ชายของเธอ ตั้งใจจะมาซ้ำเติมบริษัท ตั้งใจมากระทำเพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ ภรรยา และตัวเองอย่างชัดเจนส่วนคุณนันท์ หลังจากเรื่องนั้นก็ไม่ยอมพบปะใคร หายหน้าหายตาจากสังคมไปช่วงหนึ่ง นอกจากเรื่องงานแล้วเขาก็ไม่ออกมาพบปะกับใคร อาการที่แสดงออกมาดูน่าเป็นห่วงมาก แต่สีหนุจะบอกกับใบหม่อนให้วางใจเพราะข้างกายของนันท์ยังมีวิทย์คอยประกบอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะมองออกได้ว่าสีหนุเองก็ยังกังวลและเป็นห่วงน้องชายของเขาไม่น้อยเลยเรื่องราวยิ่งครึกโครมมากขึ้น จากการสืบสวนย้อนหลังของเรื่องนี้นำไปสู่การเปิดเผยคดีเก่าที่ยังไม่ได้รับการไขปริศนา การเสียชีวิตของบิดาสีหนุและนันท์ถูกขุดขึ้นมาใหม่ เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม ซึ่งเรื่องราวค่อย ๆ แสดงให้เห็นถึงความจริงเบื้องหลังอันโหดเหี้ยมของพิณธาราที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางใจเย็นน่าเชื่อถื
ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเธอจะไม่สัมฤทธิ์ผล คนร้ายตัวจริงคงรู้อยู่แน่ชัดว่าเธอจะต้องบอกความจริงกับสีหนุเข้าสักวันจึงได้ไปจัดการเธอเสียก่อน“คนที่ฆ่าพ่อแม่ของคุณ คนที่หวังจะฮุบอำนาจของวสุธรไปไว้อยู่ในมือ ก็คือคุณพิณธารา คุณอาของคุณค่ะ”สิ้นเสียงของพลอยคลิปก่อนดับไปพร้อมกับเสียงฮือฮาของผู้คน ตามด้วยเสียงโวยวายของเจ้าของงานอย่างพิณธาราที่อยู่ในภาพช็อกไม่ต่างจากคนอื่น“นี่มันอะไรน่ะ มันไม่จริงเลยนะคะทุกคน ต้องมีใครตั้งใจใส่ร้ายฉันแน่นอน ฉันไม่ได้ทำนะคะ” พิณธาราประกาศกร้าว ทว่าสักพักพิจิตรา น้องสาวของพลอยไพลินก็บุกเข้ามาในงานด้วยท่าทางมาดมั่น“จะไม่จริงได้ยังไง หลักฐานพวกนี้ คลิปนี้ฉันเจอมันถูกเก็บไว้ในห้องของพี่พลอย มันถูกซ่อนในนั้นตั้งแปดปีก่อนพี่พลอยจะตายด้วยซ้ำ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเข้ม เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนมากขึ้นไปอีก นักข่าวในงานนั้นถึงกับยิงแฟลชใส่เธอและพิณธาราไม่หยุด“และไม่ได้มีแค่คลิปนี้นะ ยังมีหลักฐานทุกอย่างที่เป็นลายลักษณ์อักษร พี่พลอยเป็นคนรวบรวมด้วยตัวเองแล้วซ่อนเอาไว้” ทันทีที่สิ้นเสียงของพิจิตรา ตำรวจก็บุกเข้ามาในงานอย่างไม่มีใครคาดฝันเพื่อมาจับกุมตัวเจ้าของงานอย่างพิณธารา
“ดิฉันเชื่อนะคะว่าทุกท่านที่มาที่นี่ก็ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สังคมของเรานั้นดีขึ้น” พิณธาราเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจ ดวงตาของเธอฉายแววมั่นคง“พวกเราเองก็เช่นกัน แม้ว่าสีหนุจะมีกิจการเติบโตแตกแขนงแยกไปจากวสุธร แต่หลานรักของดิฉันก็ยังไม่ลืมรากเหง้า เราต่างทำงานเพื่อความสำเร็จและการเติบโตของตระกูล” เธอยิ้มให้สีหนุและนรภัทรอย่างภาคภูมิใจ“และเพื่อความตั้งใจในการตอบแทนสังคม เราได้จัดงานการกุศลในคืนนี้ขึ้น โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับโครงการช่วยเหลือคนไร้บ้าน”เธอผายมือไปทางหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลัง ขณะที่ผู้ร่วมงานตั้งตารอรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการและความร่วมมือระหว่างสองบริษัทใหญ่ ทว่าภาพที่ปรากฏกลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เพราะหน้าจอใหญ่กลับเป็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวผู้ล่วงลับพลอยไพลิน วิลาวรรณ อดีตภรรยาของสีหนุพลอยมีท่าทีหวาดระแวงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฉันมีเวลาไม่มากนะคะ หวังว่าคลิปนี้จะส่งถึงมือของคุณนุ ฉันจะเขียนพินัยกรรมไว้แล้ว ถ้าฉันตายจริง ๆ หวังว่าเขาจะยื่นสิ่งนั้นให้คุณกับมือนะคะ เพราะถ้าคุณได้เห็นวิดีโอนี้แสดงว่าฉันคงตายไปแล้ว ฉันทนเก็บความรู้สึกผิดแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวหลั่
เมื่อควงคู่กันเข้ามา สีหนุและใบหม่อนราวกับเป็นกิ่งทองใบหยกอย่างแท้จริง ความสุขุมและเข้มแข็งของสีหนุถูกเสริมด้วยความอ่อนหวานและอ่อนโยนของใบหม่อน ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันอย่างสง่างาม และประหนึ่งว่าโลกทั้งใบหยุดหมุนชั่วขณะเพื่อให้ทุกสายตาพุ่งตรงมายังทั้งสองเสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในงาน บรรดานักข่าวกรูกันเข้ามาถ่ายรูป และพวกแขกก็ไม่พลาดที่จะแอบซุบซิบกันหรือว่าคนนี้คือคนรักคนใหม่ของคุณสีหนุ วสุธรใบหม่อนกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างภาคภูมิใจ นี่สิการเปิดตัวเป็นภรรยาคุณสีหนุครั้งแรก มันต้องเล่นใหญ่ยิ่งใหญ่อลังการให้สมศักดิ์ศรีความมั่นหน้าของเขาเสียหน่อยจากภรรยาเชิงธุรกิจที่แต่งงานแลกเงินยี่สิบล้าน ถูกสามีเก็บไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน วันนี้พอตกลงปลงใจคบหากันอย่างจริงจังแล้ว พวกเขาก็เปิดตัวด้วยกันอย่างยิ่งใหญ่ได้สาแก่ใจยิ่งนัก บรรยากาศงานที่ตึงเครียดค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เหล่าคนในตระกูลวสุธรต่างยิ้มโล่งอกที่ในที่สุดคนสำคัญอย่างสีหนุก็มาเสียที แม้ว่าตอนนี้ความสนใจของผู้คนจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในตระกูลเลยสักนิด เพราะดูเหมือนผู้คนกำลังสนใจกับหนุ่มน้อยน่ารักที่ควงคู่กับสีหนุมาด้
หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากเหตุการณ์ลักพาตัวและถล่มแก๊ง Black Craw ทุกอย่างก็กลับสู่สถานการณ์ปกติ และแล้วก็ถึงช่วงเวลาจัดงานการกุศลเพื่อสร้างภาพสมานฉันท์ในครอบครัวให้คนภายนอกได้รับรู้ งานนี้พิณธาราเป็นแม่งาน เธอเชื่อว่างานวันนี้จะช่วยกอบกู้วิกฤตความเชื่อมั่นของวสุธรกลับมาได้ แถมก่อนหน้านี้เธอเพิ่งได้รับข่าวดีจากหลานชาย นันท์มาบอกกับเธอว่าสีหนุยินดีร่วมทุนในโครงการบ้าน Smart Living ที่เธอเคยเสนอไปเมื่อครั้งก่อน เธอไม่รู้ว่าหลานชายของเธอไปทำอีท่าไหนสีหนุถึงได้ยินยอม แต่ดูจากสีหน้าซีดเซียวก็คาดว่าพี่น้องคงเคลียร์ใจกันหนักหน่วงไม่น้อยงานการกุศลระหว่างสองบริษัทใหญ่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ โถงห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งอย่างหรูหรา สะท้อนถึงความสำคัญของงานนี้ รายได้ทั้งหมดนั้นจะถูกนำไปช่วยเหลือโครงการคนไร้บ้านต่อไปงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้มีผู้เข้าร่วมมากมาย คนในวงสังคม นักธุรกิจชั้นนำ รวมถึงแขกสำคัญต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญ ทุกสายตาจับจ้องไปที่การปรากฏตัวของตระกูลวสุธร และแน่นอนว่า นันท์ นรภัทร วสุธร ประธานบริษัทคนปัจจุบันได้แสดงตัวในฐานะผู้นำทำหน้าที่ผู้รับหน้าแขกในงานไม่หยุด เขาในชุดสูทหรูมีท่าทีสง่างาม
ใบหม่อนพยายามกลั้นยิ้มจนหน้าเบี้ยวพร้อมกับพิจารณาแหวนในนิ้วมือย่างพอใจ“ขอผมแต่งงานเหรอ สวมแหวนให้แบบนี้ ไม่คิดจะถามผมก่อนเหรอครับ” สีหนุขยับเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความตั้งใจ “แล้วจะแต่งมั้ยครับคุณใบหม่อน ฉันอายุ 42 แล้ว รุ่นนี้ไม่อ้อมค้อม ฉันอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต พร้อมจัดงานแต่งเสมอ สปอร์ต ใจดี พร้อมเปย์ สัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี ทำให้เธอมีความสุขแน่นอน ให้ได้ขนาดนี้เธอจะแต่งกับฉันมั้ย” ใบหม่อนหลุดขำออกมาเมื่อเห็นความทะเล้นของสีหนุ ดวงตาเป็นประกายสดใสจากหัวใจ ที่ผ่านแม้ว่าเขาจะแต่งงานกันเพื่อปรับดวงแลกกับเงินทอง แต่สีหนุก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างให้เกียรติดีเยี่ยม สีหนุอาจจะห้าว ดิบ เถื่อน น่ากลัวไปบ้าง ไม่ได้มีความเนี้ยบแบบที่ใบหม่อนชื่นชอบ ผมเผ้าก็ยาวรุงรังไม่ได้มัดรวบทุกครั้ง จนใบหม่อนรู้สึกเหมือนได้แต่งกับอาจารย์แดงบ้าง ทว่าเมื่อได้สัมผัสใกล้ชิดหัวใจไม่นานก็รับรู้ได้ว่าสีหนุเป็นสามีในฝันที่เขาตามหามาตลอดทั้งชีวิตหัวใจของเขาในเวลานี้มีสีหนุนั่งอยู่เต็มหัวใจ“แต่งครับ ยอมตั้งแต่บอกว่าพร้อมเปย์แล้ว” ใบหม่อนตอบพร้อมรอยยิ้มซุกซนน่ามันเขี้ยวจนคนตัวโตอดใจไม่ไหว ก้มลงจูบที่ปากไปอีกครั้