Masukสุดสัปดาห์ต่อมา ลูคัสพาชาลิสานั่งเครื่องบินมาลงที่ภูเก็ตตั้งแต่คืนวันศุกร์ เมื่อหญิงสาวเลิกเรียนในวันศุกร์ ลูคัสก็ให้ณัฐวดีจัดเตรียมกระเป๋าไว้ให้หญิงสาว และเมื่อเขาไปรับเธอที่มหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็พาเธอไปที่สนามบินต่อทันที ซึ่งใช้เวลาบินเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ถึงภูเก็ตแล้วเนื่องจากเมื่อคืนที่พวกเขามาถึงภูเก็ต ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวรู้สึกเหนื่อยจากการเรียน การทำงานและการเดินทาง พวกเขาจึงไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนกันเลย ชายหญิงเข้าห้องพักอาบน้ำและเข้านอนกันทันทีจนกระทั่งถึงเช้าวันเสาร์ ลูคัสลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ของวัน แสงแดดอุ่นๆ ส่องผ่านม่านสีขาวบางเบาเข้ามาในห้องนอน ร่างกำยำแผงอกเปลือยเปล่ากอดรัดหญิงสาวเอาไว้แนบชิดอกแกร่ง เมื่อชายหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นมา หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมามองลูคัสตาใสแป๋ว“ตื่นนานหรือยัง” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับเลื่อนมือหนาไปไกล่เกลี่ยเส้นผมคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา“สักพักแล้วค่ะ” หญิงสาวที่นอนซุกอยู่ตรงอกแกร่งตอบกลับเสียงหวาน“แล้วทำไมไม่ปลุกพี่” “สาอยากให้พี่นอนพักต่ออีกนิดค่ะ”“ยังเพลียอยู่ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามต่อ“นิดหน่อยค่ะ”“ตื่นอาบน้ำได้แล้ว เ
หลายวันต่อมา ชายหนุ่มผู้ที่มีร่างกายกำยำสมบูรณ์แบบกับใบหน้าที่หล่อเข้ม ลูคัสกำลังนั่งทำงานอยู่ภายในห้องทำงานที่โรงพยาบาลของเขาในช่วงบ่ายสองของวัน หลังจากวันนั้นมา ลูคัสก็พยายามที่จะทำตัวปกติกับหญิงสาวเพราะไม่อยากให้ชาลิสาคิดมาก เขาไปรับไปส่งเธอตามปกติ จากนั้นก็พาเธอไปกินข้าวและกลับเพนท์เฮาส์เข้านอนด้วยกัน อีวานเคาะประตูห้องทำงานของลูคัสเบา ๆ สองครั้ง ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางขึงขังและใบหน้านิ่งเรียบไร้อารมณ์ ขณะก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าเจ้านายผู้เป็นนายอย่างสงบนิ่ง“นายท่านครับ” อีวานเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงมั่นคงดุดัน“ว่าไง” ลูคัสตอบกลับ โดยที่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองลูกน้องคนสนิท เขายังคงมุ่งมั่นตั้งใจอ่านเอกสารตรงหน้าอยู่“ท่านลูตินโทรมาครับ” สิ้นเสียงตอบกลับของลูกน้อง ลูคัสชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองอีวาน ลูกน้องคนสนิทจึงยื่นโทรศัพท์มาให้เจ้านายลูคัสถอนหายใจออกด้วยความเบื่อหน่าย มือหนายกขึ้นมาคว้าโทรศัพท์จากมือของอีวานไปกดรับสาย เขายกโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาแนบหูพร้อมกับเอ่ยกับปลายสายทันที“ว่าไงครับ”‘โอลิเวียจะถึงไทยอีกหนึ่งชั่วโมง แกไปรับน้องที่สนามบิ
ลูคัสไม่มีสมาธิทำงานเลยตลอดทั้งวัน เขาเอาแต่จมอยู่กับความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเพิ่งจะไปคุยกับพ่อแม่และเพื่อนพ่อมาในวันนี้เวลาผ่านพ้นไปจนกระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องไปรับชาลิสา ชายหนุ่มจึงวางมือจากงานทุกอย่างและไปรับเธอที่มหาวิทยาลัยเหมือนดั่งเช่นทุกวันชาลิสาเดินออกมารอลูคัสที่หน้ามหาวิทยาลัย จากนั้นทั้งสองคนก็ไปทานอาหารกันต่อที่ร้านอาหารสุดหรู ชาลิสาเห็นอาการที่นิ่งเงียบผิดปกติของลูคัส แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป จวบจนพวกเขากลับมาที่เพนท์เฮาส์ในช่วงหัวค่ำของวันชายหญิงทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของเพนท์เฮาส์ ลูคัสปลดกระดุมเสื้อสูทตัวนอกของตัวเองออก และด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ อีกทั้งยังดูกังวลตลอดเวลาจนชาลิสารู้สึกได้ จึงทำให้คนตัวเล็กเอ่ยถามออกมา“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”“เปล่า” ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย เขามัวแต่ครุ่นคิดเรื่องอื่นจนหลงลืมคนข้างกายของเขาไป ลูคัสเพิ่งมานึกขึ้นได้เมื่อตอนที่เสียงหวานเอ่ยถามเขาขึ้นมานี่แหละ“พี่ดูสีหน้าไม่ค่อยดีตั้งแต่ที่เราไปดินเนอร์ด้วยกันแล้ว” ม
วันต่อมา หลังจากที่ลูคัสไปส่งชาลิสาที่มหาวิทยาลัยเสร็จสรรพ ชายหนุ่มก็ตรงมาที่คฤหาสน์ตระกูลโลรองต์ทันที รถยนต์คันสีดำเงาขับเคลื่อนเข้ามาในคฤหาสน์ที่สุดแสนจะใหญ่โตกว้างขวางอย่างช้าๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าวงเวียนน้ำพุหน้าคฤหาสน์ เสียงเครื่องยนต์ดับลงเมื่ออีวานจอดรถสนิทใกล้บันไดหินอ่อนที่ทอดยาวขึ้นไปสู่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์หลังนี้“ช่วงเช้าฝากดูงานที่โรงพยาบาลให้กูก่อนนะ เดี๋ยวช่วงบ่ายกูเข้าไป” ลูคัสนั่งอยู่หลังเบาะคนขับ เขาบอกกล่าวกับอีวานที่ประจำตำแหน่งคนขับรถ“ครับนาย” สิ้นเสียงตอบกลับของอีวาน เจ้านายของเขาก็เปิดประตูรถและลงไปจากรถยนต์คันสีดำเงาอย่างช้าๆ ลูคัสย่างกรายเดินขึ้นไปยังบนบันไดหินอ่อน สาวใช้ชุดสีดำที่ยืนประจำอยู่ตรงประตูทั้งสองคนก้มศีรษะให้ชายหนุ่ม ก่อนที่พวกสาวใช้จะเอ่ยทักทายลูคัสขึ้นมาอย่างนอบน้อม“สวัสดีค่ะท่านลูคัส”“พ่อกับแม่ของฉันอยู่ที่ไหน” ลูคัสเอ่ยถามสาวใช้ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ“นายท่านกับมาดามรอท่านลูคัสมาทานอาหารด้วยอยู่ที่ห้องอาหารค่ะ” หนึ่งในสองคนนั้นตอบกลับมา ชายหนุ่มจึงรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ เข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลอย่างช้าๆ ร่างกำยำสวมชุดสูทดูสง่างามเดินเข้ามาเรื่อยๆ จนกร
สองร่างหอบหายใจแรงอยู่บนโซฟาสักพักหนึ่ง ก่อนที่ลูคัสจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชูที่อยู่บนโต๊ะตรงโซฟามาเช็ดน้ำเชื้อสีขาวข้นที่เลอะเต็มหลังและเสื้อนอนของหญิงสาวอย่างลวกๆ เมื่อมือแกร่งเช็ดน้ำกามบนหลังหญิงสาวออกจนหมด เขาก็หันมาจัดการเช็ดแท่งลำลึงค์ใหญ่ของตัวเองต่อ มือหนาโยนทิชชูที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำรักของตัวเองลงไปทิ้งในถังขยะใกล้ๆ มือของเขา ก่อนที่ลูคัสจะจับหญิงสาวพลิกหันหน้ากลับมาหาตัวเอง ชายหนุ่มขยับตัวพลางเอื้อมมือไปหยิบกางเกงผ้าบางเบาสบายของชาลิสาขึ้นมาสวมใส่ให้หญิงสาวเช่นเดิม ดวงตากลมโตมองการกระทำของชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่แดงก่ำอย่างเขินอาย จนกระทั่งเขาสวมใส่กางเกงให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นลูคัสเคลื่อนมือมาดึงรั้งกางเกงของตัวเองขึ้นมาและยัดแก่นกายที่เริ่มอ่อนยวบกลับเข้าไปในกางเกง ในขณะที่ชายหนุ่มมัวแต่จัดการกับกางเกงของตัวเองอยู่ ชาลิสาจึงเลื่อนมือบางมาดึงสปอร์ตบราที่กองอยู่บนเนินอกลงและติดกระดุมเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย“ชาลิสา” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกหญิงสาวขึ้นมา หลังจากที่เขาจัดแจงตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว“คะ?” ใบหน้าหวานขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เนื่องจากน้ำเสียงของลูคัสที่เอ่ยเรียกเ
หลังจากที่ชายหนุ่มหอมแก้มหญิงสาว ชายหนุ่มก็เลื่อนใบหน้าหล่อเหลามาซุกไซ้ลำคอระหงต่อ เขาจูบซับไปทั่วลำคอของเธอ ก่อนที่เขาจะเอ่ยกระซิบถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“หายเจ็บหรือยัง”“จะทำอีกเหรอคะ” น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความหื่นกระหายของชายหนุ่ม ทำให้หญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร“ฉันไม่ได้ทำมาสองวันแล้วนะ” ลูคัสกระซิบแล้วจูบลงบนต้นคอของเธอซ้ำๆ“งั้นก็เบาๆ หน่อยนะคะ มันยังเจ็บอยู่นิดๆ ค่ะ” สุดท้ายเธอก็ต้องยอมให้กับชายหนุ่มทุกครั้ง“ครับ” เสียงทุ้มตอบกลับอย่างแหบพร่า ก่อนที่เขาจะพรมจูบจากต้นคอลงมาเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันมือแกร่งก็ยังเคลื่อนมาปลดกระดุมชุดนอนออกตั้งแต่เม็ดบนสุดอีกด้วย“เดี๋ยวค่ะ! จะทำตรงนี้เลยเหรอคะ” หญิงสาวทักท้วงชายหนุ่มขึ้นมา เธอคิดว่าลูคัสจะพาเธอไปในห้องนอนเสียอีก“ทำไมละ”“เดี๋ยวป้าณัฐจะออกมาเห็นหรือเปล่าคะ”“ไม่หรอก เธอไม่เคยออกมาเดินเพ่นพ่านตอนกลางคืนเลยสักครั้ง” พูดจบ ชายหนุ่มก็เลื่อนใบห







