Share

ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง
ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง
Penulis: หูเทียนเสี่ยว

บทที่ 1

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
“เสียวจิ่ว ผู้นี้คือจวงเหยาเหยา นางมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่ในท้องของนางแล้ว ในเมื่อวันนี้เป็นพิธีงานแต่งระหว่างข้าและเจ้า ข้าไม่อยากปิดบังอะไรเจ้า ข้าได้วางแผนที่จะให้นางมาเป็นนางสนม และข้าจะแต่งเจ้ากับนางเข้าเรือนในวันนี้"

ฉินรุ่ยหยางไม่รู้สึกไร้ยางอายแม้แต่นิดเดียว

“เจ้า...เมื่อครู่นี้เจ้าพูดอะไรนะ เจ้าพูดอีกครั้งสิ…”

สีหน้าของจั๋วซือหรานดูซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับชุดแต่งงานสีแดงสดและมงกุฎหงส์

นางจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้านาง

ฉินรุ่ยหยาง"เสียวจิ่ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป เจ้าจะเป็นภรรยาหลวงที่มีเกียรติเสมอ ไม่มีใครมีอำนาจเหนือเจ้าได้ ในภายภาคหน้า เหยาเหยาจะเคารพเจ้าอันเป็นแท้ และลูกของนางก็จะเรียกเจ้าว่า แม่ใหญ่"

จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ "ข้าเกลียดคำเรียกนี้เสียจริง เด็กเหี้ยอะไรกันกล้ามาเรียกข้าเป็นแม่"

ใบหน้าของฉินรุ่ยหยางนิ่งขรึม

จวงเหยาเหยาน้ำตาเอ่อคลอ " พี่จั๋วเจ้าคะ หนูรู้ดีว่าตนเองมีฐานะต่ำต้อย แต่เด็กที่อยู่ในท้องของข้านั้น เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้ที่เป็นสายเลือดของพี่ฉินด้วยนะ... "

จั๋วซือหรานไม่มองนาง สายตาจ้องไปยังฉินรุ่ยหยางอย่างไม่กระพริบ

“ถ้าเกิดว่าข้าไม่ยอมล่ะ เจ้ายังอยากแต่นางและข้าในวันเดียวหรือ”

ฉินรุ่ยหยางพูดอย่างมีความมั่นใจ "เสียวจิ่ว เจ้าถอนการหมั้นกับตระกูลเฟิง และต่อต้านตระกูลจั๋ว เพียงเพื่อแต่งงานกับข้า และในงานแต่งงานของเราในวันนี้ หากเกิดเรื่องใด ๆ ... เจ้าคงไม่อยากเสียหน้าหรอกใช่ไหม"

จั๋วซือหรานโกรธอย่างมาก หน้าอกของนางราวกับว่า กำลังมีไฟป่าลุกลามเผาไหม้ ทันใดนั้น นางรู้สึกหน้ามืด และเส้นลมปราณของนางผิดปกติ

"ฟึ่บ--!"

มีเลือดที่แดงสด ๆ พุ่งออก และนางล้มลงบนเตียงในทันที

“อ้าว” จวงเหยาเหยากรีดร้องเบา ๆ ราวกับว่านางหวาดกลัว แต่ริมฝีปากของนางแอบมีรอยยิ้มอันดีใจเล็กน้อย "พี่ฉินเจ้าคะ พี่รีบตามหมอมาดูอาการของพี่จั๋วหน่อยนะ”

“ไม่ต้อง นางไม่ตายง่ายหรอก ในหลายร้อยปีของตระกูลจั๋วที่ผ่านมา นางเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ชั้นสูงสุดในด้านจิตวิญญาณและด้านการฝึกฝน มิเช่นนั้น เจ้าคิดว่า ก่อนหนัานี้ นางจะสามารถหมั้นกับลูกชายคนโตของตระกูลเฟิงได้หรือ”

ฉินรุ่ยหยางเหลือบมองหญิงที่อยู่บนพื้นด้วยความรังเกียจ "ถ้าจะตายก็ต้องรอจนกว่านางเสร็จพิธีการแต่งงานก่อน มิช่นนั้น นางมีสินสอดตั้งมากมาย ข้ามิได้สักนิด ข้าจะไม่ขาดทุนอย่างหนักเลยหรือ"

ไม่มีใครสนใจจั๋วซือหราน ในขณะนี้ นางกำลังนอนเงียบงันอยู่บนเตียงนอน ทว่าเดิมทีดวงตาทั้งสองของคนบนเตียงนั้นยังคงหลับอยู่ วินาทีต่อมา หญิงผู้นี้กลับลืมตาอย่างกะทันหัน

ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา ความโศกเศร้าและความทุกข์ยากที่นางเคยมีในก่อนหน้านี้หายไปอย่างสิ้นเชิง

จั๋วซือหรานมองชายและหญิงที่ร้ายกาจที่อยู่ตรงหน้านางอย่างเย็นชา

เดิมทีนางเป็นสายสืบยอดฝีมือในยุคปัจจุบัน ซึ่งได้รับการส่งต่อวิชาศิลปะการต่อสู้โบาณและการแพทย์วิเศษ ยิ่งมากกว่านี้ นางยังเป็นผู้ที่ได้รับการสืบทอดและเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองเครื่องร่างวิเศษ ซึ่งเครื่องร่างวิเศษนี้ได้ถูกสืบทอดจากบรรพบุรุษ และมีนามว่า แหวนเสวียนเหยียน เนื่องจากแหวนเสวียนเหยียนเป็นที่ต้องการของทุกคน เขาจึงถูกเพื่อนร่วมสำนักลอบทำร้าย กระดูกของแหวนเสวียนเหยียนถูกคนร้ายวางระเบิด จนไหม้แหลกละเอียดเป็นผงคุลี

เมื่อจั๋วซือหรานลืมตาอีกครั้ง ความทรงจำก็ท่วมท้นอยู่ในสมองของนาง

เจ้าของร่างเดิมนี้คือคุณหนูจิ่วของตระกูลจั๋ว ซึ่งคุณหนูท่านนี้มีชื่อเดียวกับจั๋วซือหราน

คุณหนูจั๋วจิ่วมีความสามารถที่โดดเด่นในด้านศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก นางได้รับการยกย่องอย่างสูงจากตระกูลจั๋ว และทางบ้านให้คุณหนูจิ่วหมั้นหมายกับตระกูลเฟิงตั้งแต่เนิ่น ๆ

แต่ใครจะรู้ว่า เพื่อแต่งงานกับฉินรุ่ยหยาง ผู้ที่เป็นบัณฑิตจน คุณหนูจิ่วของตระกูลจั๋วไม่ลังเลเลยสักนิดยกเลิกการหมั้นกับตระกูลเฟิงและยอมตัดขาดกับครอบครัว

ทว่าการกระทำของนางไม่ได้รับการตอบแทนที่ดีจากผู้ใด ในวันพิธีแต่งงาน ฉินตวนหยางพาภรรยาน้อยที่ตั้งท้องของเขา ทั้งให้ภรรยาหลวงกับภรรยาน้อยแต่งงานพร้อมกัน คุณหนูจั๋วจิ่วจึงโกรธอย่างมากจนกลายเป็นปีศาจ

ต่อมา คุณหนูจิ่วของตระกูลจั๋วถูกฉินตวนหยางหลอกลวงต่อเนื่อง และในที่สุดครอบครัวของนางก็ถูกทำลายจนกระทั่งต้องสูญเสียหายสมาชิกครอบครัว สุดท้ายนางก็เสียชีวิตด้วยภาวะซึมเศร้า คุณหนูจิ่วของตระกูลจั๋วถูกเอาเปรียบอย่างชัดเจน

สำหรับจั๋วซือหราน ทันทีที่นางลืมตา นางก็ข้ามเวลาและถูกส่งไปยังวันแต่งงานของคุณหนูจิ่วของตระกูลจั๋วและชายเจ้าเล่ห์ ซึ่งเหตุการณ์เลวร้ายทุกเรื่องยังไม่ได้เกิดขึ้น

เมื่อจั๋วซือหรานนึกถึงสิ่งนี้ นางยกมือขึ้นเพื่อถอดมงกุฎหงส์อันหนักบนหัวออก และดึงมีดยาวที่อยู่ในมือออกมา

“เจ้า...เจ้า เจ้าดึงมีดมาทำอะไร พวกเราตงกันอย่างดีแล้วว่า เจ้าจะไม่เล่นมีดเช่นนี้มิใช่หรือ เจ้ากระทำเช่นนี้ ช่างไร้มารยาทเสียจริง“

ฉินตวนหยางตระหนกตกใจ จวงเหยาเหยายิ่งหวาดกลัวจนหน้าซีดขาว

เมื่อก่อน ฉินตวนหยางมีความคิดเช่นนี้มาโดยตลอดว่า ผู้หญิงที่ตะโกนจะทุบตีและฆ่ากันไร้ความเป็นสุภาพสตรี และเจ้าของร่างนี้ยอมทำตรามความต้องการของชายผู้นี้

จนกระทั่งฉินตวนหยางลืมไปว่า ตัวจริงของจั๋วซือหรานไม่ใช่คนอ่อนแอและไม่ได้เป็นคนที่ไร้เรี่ยวแรง

เวลานี้ แม่นางที่มีความสามารถอย่างสุงส่งผู้นี้เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง

“นางยังอยากแต่งงานอยู่ไหม รีบวางมีดลง” ฉินตวนหยางขู่ด้วยสีหน้าอันเกรงขาม

เมื่อจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของฉินรุ่ยหยาง นางพลิกข้อมือไป ๆ มา ๆ มีดที่อยู่ในมือของนางกลายเป็นดอกอันแสนสวยงามออกมา “สุภาพสตรีหรือ เจ้ากล้าเอ่ยคำนี้กับข้าหรือ พอดีเลย ข้ากับเจ้ายังไม่ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเขียนจดหมายหย่า”

ฉินตวนหยางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาโการธอเคืองและรู้สึกอับอายจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

“จั๋วซือหราน ถึงอย่างไร ข้าก็เป็นสามีของเจ้า ข้าก็แค่อยากแต่งภรรยาน้อยเพิ่ม นี่เจ้าเป็นอะไรของเจ้า…”

“เจ้าอยากแต่งใครเป็นภรรยาน้อยแล้วแต่เจ้าเลย ข้าไม่สน จั๋วซือหรานขัดจังหวะการพูดของชายคนนี้อย่างเย็นชา “สายหัวไปประเดี๋ยวนี้เลย!”

จวงเหยาเหยาคุกเข่าต่อหน้าจั๋วซือหราน "พี่จั๋วเจ้าคะ ข้าจะไม่กล้าเพ้อฝันที่จะแต่งกับพี่ฉินอีกต่อไป ท่านอย่าโกรธไปเลยนะ ท่านเป็นคนใจกว้าง อย่าโกรธพี่ฉินเลย"

จั๋วซือหรานก้มตัวลงและมองจวงเหยาเหยาด้วยรอยยิ้มที่แฝงด้วยความหมายอันลึกลับ

จวงเหยาเหยาสะอึกสะอึ้น "ข้าขอท่านพี่อภัยข้าเจ้าค่ะ"

จั๋วซือหรานยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว จวงเหยาเหยาสะดุ้งทันที

“ประการแรก ข้าไม่ใช่พี่สาวของเจ้า”

จั๋วซือหรานยกนิ้วขึ้นอีกนิ้วหนึ่งแล้วยกมุมปากขึ้น "ประการที่สอง ข้าไม่เพียงแต่ให้อภัยเจ้าเท่านั้น ข้ายังอยากจะขอบคุณเจ้าด้วย"

“ขอบคุณข้าหรือ” จวงเหยาเหยาไม่อยากจะเชื่อคำพูดของจั๋วซือหราน

“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงไม่มีโอกาสเห็นสภาพที่น่ารังเกียจของฉินตวนหยางหรอก คนยากจนและน่าหมั่นไส้อย่างผู้ชายคนนี้ยังกล้าเพ้อฝันว่าเขาสูงส่ง และยังกล้าได้ภรรยาหลายคน”

จั๋วซือหรานยืนขึ้นและพูดเสริม"เจ้าทำให้ข้าได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก"

ทัศนคติที่ไม่แยแสของนางทำให้ฉินตวนหยางตื่นตระหนก "เจ้ากำลังพูดไร้สาระอะไร หากเจ้าไม่แต่งงานกับข้า เจ้ายังอยากจะแต่งงานกับใครอีก ก่อนหน้านี้เจ้าเคยยกเลิกการแต่งงานระหว่างเจ้ากับเฟิงเหยียนอย่างโจ่งแจ้ง เจ้าคิดว่าตระกูลเฟิงจะยังอยากได้เจ้าอีกหรือ”

จั๋วซือหรานหัวเราะเยาะ "เรื่องนี้ คงไม่ต้องรบกวนเจ้าหรอกนะ"

เฟิงเหยียน—เป็นคู่แต่งงานที่ตระกูลจั๋วจัดให้จั๋วซือหราน

กระกูลเฟิงเป็นผู้นำของห้าตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง และเฟิงเหยียนเป็นทายาทที่ได้รับความสนใจมาที่สุดในรุ่นนี้

เขาเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ อัจฉริยะที่ตระกูลเฟิงไม่เคยเจอในเวลานับศตวรรษ นอกจากนี้แล้ว เขายังเป็นผู้ที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างยิ่งแทบไม่เหมือนคนทั่วไปในใต้หล้า

ในบรรดาลูกหลานของห้าตระกูลใหญ่นี้ เขามีชื่อเสียงและมีนามว่า สุภาพบุนุษขั้นเทพ

เจ้าของร่างนี้ทิ้งสุภาพบุรุษอันหล่อเหลานี้ไป แต่กลับไปเลือกผู้ที่มีฐานะต้อยต่ำอย่างฉินตวนหยาง

จั๋วซือหรานมองฉินรุ่ยหยาง จิตใจของนางเต็มไปด้วยความดูถูก

“ข้าไปคุกเข่าต่อหน้าประตูบ้านของตระกูลเฟิงเป็นเวลานาน และขอเฟิงเหยียนรักข้าอีกครั้งอย่างไร้ยางอาย ข้าไม่เห็นเป็นอะไรเลย มีอะไรจะน่าอายมากกว่าที่ข้าต้องแต่งงานกับเจ้าหรือ”

ทันใดที่จั๋วซือหรานพูดจบ นางก็ทุบโต๊ะ "ใครก็ได้ ไล่ชายและหญิงที่ชู้กันออกไปจากที่นี่ที"

ไม่มีใครเข้ามา

เห็นได้ชัดว่า ที่นี่คือจวนของนาง แต่นางไม่สามารถเรียกใช้คนรับใช้ได้อย่างนั้นหรือ

จั๋วซือพูดต่ออย่างเย็นชา "คนตายกันหมดแล้วหรือ ฝูซางและฝูซูอยู่ไหน ทำไมไม่เข้ามา"

แต่มีเพียงสาวใช้หลิ่วเย่เท่านั้นที่เดินเข้ามาและพูดว่า "คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูโปรดใจเย็น ๆ มีอะไรคุยกับคุณท่านดี ๆ อย่าโกรธคุณท่านเลย"

จั๋วซือหรานถาม " ฝูซางและฝูซูอยู่ไหน"

หลิ่วเย่ฟังคำถามของจั๋วซือหราน นางรู้สึกลำบากใจ"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูเองเป็นคนที่บอกว่า พวกเขาทรยศและไม่มีศักดิ์ศรี ดังนั้นคุณหนูจึงไล่พวกเขาไปอยู่ลานด้านนอกแล้ว ... "

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวเย่ จั๋วซือหรานสะดุ้งและนึกขึ้นได้

เจ้าของร่างนี้ไล่ฝูซางและฝูซูไปที่ลานด้านนอกแล้ว ซึ่งสองคนนี้ได้เติบโตกับนางมาด้วยกันและภักดีต่อนางอย่างมาก

หากเจ้าของร่างนี้ไม่ฟังคำใส่ร้ายของฉินรุ่ยหยาง ฝูซางและฝูซูถึงต้องมีฐานะที่ต่ำเช่นนี้หรือ

หลิ่วเย่ที่อยู่ตรงหน้านางต่างหากคือผู้ที่ทรยศคน

จั๋วซือหรานสั่งหลิวเย่ "ไปตามพวกเขามา"

หลิ่วเย่ยังคิดอยู่ว่า นางยังคงเป็นคุณหนูคนเดิม "คุณหนูเจ้าคะ พวกเขาทรยศคุณหนูเอง ท่านอย่าใจอ่อนเกินไป"

วินาทีต่อมา นางถูกจั๋วซือหรานจ้องมองอย่างเย็นชา นางหวาดกลัวจนตัวสั่น

หลิ่วเย่ตกตะลึงแววตาอันเย็นชาของจั๋วซือหราน นางกลัวและพูดต่อ "ข้าน้อยไปตามหาเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"

หลังจากนั้นไม่นาน ฝูซูและฝูซางก็มา พวกเขาสองคนมองจั๋วซือหรานด้วยความวิตกกังวล "คุณหนู"

“เอาไอ้พวกนี้ออกไป”

ฝูซางและฝูดีใจ ทั้งคู่ทำท่าคำนับให้กับจั๋วซือหราน

“ตามที่ท่านสั่ง”

หลิ่วเย่รีบโน้มน้าวจั๋วซือหราน "คุณหนูเจ้าคะ แขกทุกคนมารอข้างนอกพร้อมกันแล้วเจ้าค่ะ ทุกคนกำลังรอคุณหนูและคุณท่านทำพิธีการกัน ทีนี้ คุณหนูก่อความวุ่นวายเช่นนี้ จะไม่ทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะหรือเจ้าคะ"

“เจ้าอยากตัดสินใจแทนข้าหรือ” จั๋วซือหรานถามกลับอย่างไร้อารมณ์ กลิ่นอายอันดุร้ายของนางทำให้หลิ่วเย่วหวาดกลัวจนหน้าซีด

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ทำให้ฉินตวนหยางตื่นตระหนก และเขาทำได้เพียงประนีประนอมเท่านั้น

“เสียวจิ่ว เจ้าอย่าโกรธนเลย มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าจะไม่นางเข้ามาละกัน หลังจากที่ลูกเกิดแล้ว ข้าจะอุ้มเด็กมาให้เจ้าเลี้ยงทันที”

เมื่อจวงเหยาเหยาได้ยินคำพูดของฉินรุ่ยหยาง นางหน้าซีดทันที

จั๋วซือหรานรู้สึกหมั่นไส้ "ใครอยากได้ไอ้สารเลวของเจ้า"

เมื่อฉินรุ่ยหยางเห็นจั๋วซือหรานไม่ยอมเสียที ฉินตวนหยางก็โกรธและพูดว่า "จั๋วซือหราน ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็รอเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวงละกัน"

จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของฉินรุ่ยหยาง นางยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้ฝูซางและฝูซูหยุด

ทั้งสองพูดด้วยความกังวล"คุณหนู คุณหนูอย่าไปฟังคำพูดของเขา"

ฉินต้วนหยาง "หุบปากเดี๋ยวนี้เลย ทาสสองคนนี้จะกล้ามากเกินไปแล้วนะ"

"ข้าคิดว่า เจ้าเป็นคนกล้าหาญมากกว่า" จั๋วซือหรานมองเขาอย่างเย็นชา "ข้าอยากรู้เสียจริงว่า ใครกันแน่ที่เป็นตัวตลกในเมืองหลวงกันแน่"

แต่เดิมจั๋วซือหรานแค่อยากไล่สองคนนี้ออกไป แต่ทีนี้นางตัดสินใจเปลี่ยนแผน

“มัดพวกมันไว้ ลากพวกมันไปที่ห้องโถง”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (8)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
ฉินรุ่ยหยาง กับ ฉินตวนหยาง ใช่คนเดียวกันรึป่าว มึนไปหมดแล้ว
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
อ่านต่อเรื่องที่ค้าง
goodnovel comment avatar
Bunny Beamz
คำที่ใช้ไม่ตรงกับที่บรรยายเลย ดูขัดๆกันไปหมด อ่านแล้วภาษาดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ รู้สึกขัดๆตบอดเลย
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1460

    จั๋วซือหรานคิดๆ เสริมเข้ามาอีกประโยคหนึ่ง "ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้ต้องหนี ก็ต้องไปทำความเข้าใจสถานการณ์แบบรูปธรรมมาก่อน"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งยิ่งไปกว่านั้นจั๋วซือหรานหลังจากที่รู้เป้าหมายของสภาผู้อาวุโส ในใจก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นรางๆอันที่จริงนางเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามิติในแหวนเสวียนเหยียนของตนเองมันคืออะไรกันแน่ไม่แน่ การเดินทางครั้งนี้อาจจะได้คำตอบเส้นทางไปยังเมืองโม่ ยาวไกลมากจริงๆ ระหว่างทางก็เจอสถานการณ์หลายอย่าง ทั้งคนปล้นกับสัตว์ประหลาด เจอมาหมดถ้านี่เป็นกลุ่มอื่นคงจะจบลงที่กลางทางแล้วแต่โจรพวกนี้ก็ดวงไม่ดี ดันมาเจอกับกลุ่มของพวกเขาขั้นตอนโดยพื้นฐานจะเป็นปันอวิ๋นกับถังฉือสองคน ซึ่งหารือกันอย่างเกียจคร้านถังฉือ: "เจ้าไปไหม?"ปันอวิ๋น: "ข้าขี้เกียจ เจ้าไปแล้วกัน"ถังฉือ: "ข้าเองก็ขี้เกียจ"ปันอวิ๋น: "คืนนี้ข้าจะให้ซือหรานย่างปลา น้ำจิ้มผลไม้ปลาย่างของนางนี่อย่างเด็ด"ถังฉือ: "ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"จากนั้นถังฉือก็ออกไปไม่ถึงสองนาที การต่อสู้ก็สิ้นสุดลงจั๋วซือหรานบางครั้งตอนที่นอนกลางวันก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย! เพิ่งมารู้เรื่องเอาตอนย่างปลาช่วง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1459

    ถังฉือน่าจะไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้จริงๆ ดังนั้นจึงรู้เนื้อหาไม่ค่อยมากนักถ้าหากเป็นจั๋วซือหรานล่ะก็ คงจะตรวจสอบเป้าหมาย แผนการ ของอีกฝ่ายมาจนหมดแล้วยังดีที่ถึงแม้ข้อมูลของถังฉือจะไม่เยอะมาก แต่พอบวกกับข้อมูลที่ปันอวิ๋นรู้บางส่วนรวมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน ก็พอปะติดปะต่อเรื่องราวออกมาได้จั๋วซือหรานรวบรวมข้อมูลคร่าวๆ แล้วจึงสรุปออกมา"สรุปก็คือ ในเรื่องที่สภาผู้อาวุโสลิ้มรสความหอมหวานจากเกาะลอยฟ้าด้วยพลังแห่งมังกรคราม เลยคิดอยากจะได้พลังแห่งสัตว์เทพที่มากกว่า หวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ต้องการ...แดนอุดมคติบนโลกมนุษย์"พูดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็หัวเราะเบาๆ ขึ้นมาทีหนึ่ง ทั้งเหมือนประชดและเหมือนไม่มี นางเสริมขึ้นมาคำหนึ่ง "แดนอุดมคติบนโลกมนุษย์ที่เป็นของพวกเขาเท่านั้น"น่าจะประมาณนี้นั่นล่ะเพียงแต่ว่าล้มเหลวไปแล้ว เพราะพลังสัตว์เทพที่ได้รับมาจากการพันธนาการ มันไม่ได้ผลลัพธ์แบบที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้"หลักๆ คือเจ้าเสียวหม่านี่รู้ข้อมูลมาน้อยเกินไปแล้ว" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ดังนั้นพวกเรารีบไปที่เมืองโม่ดีกว่า ชิงตัวซงซีกับเยี่ยนเหวยมาก่อน ข้อมูลที่พวกเขารู้ต้องมากกว่านี้แน่นอน"จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1458

    สายตาของปันอวิ๋นก็มองมาทางเขา รู้สึกทอดถอนใจหน่อยๆถังฉือไม่พูดต่อ แต่ปันอวิ๋นก็เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องราวหลังจากนั้นจึงหันมาบอกกับจั๋วซือหรานว่า "พยัคฆ์ขาวนั่นตอนนั้นก็เป็นเขานี่ล่ะที่จับไป""..." จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายความเงียบงันของถังฉือเมื่อครู่ทันทีมิน่า น่าจะตอนนั้นสินะ เขาถึงได้เข้าใจต่อเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง"สรุปคือ..." ถังฉือเนื่องจากมีนิสัยแบบนั้น ดังนั้นต่อให้รู้สึกเชิงขอโทษอยู่บ้าง แต่มันก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นเขาพูดต่อว่า "สรุปคือ หลังจากข้าพาเขาไป พวกเขาก็หาวิธีคิดจะใช้พลังแห่งพยัคฆ์ขาว ข้าเข้าใจไม่มากนัก จำได้ลางๆ ว่า พวกเขาหวังจะมีพลังแห่งสัตว์เทพ แล้วจะสร้างปาฏิหาริย์เหมือนเกาะลอยฟ้าขึ้นมา"ฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ถึงอย่างไร คนที่เคยลิ้มรสความหอมหวานมาแล้ว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อยากจะลิ้มรสความหอมหวานมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เพียงแต่ว่า จั๋วซือหรานเพิ่งจะคิดแบบนี้ ก็เห็นถังฉือขมวดคิ้ว เหมือนจะดูไม่ค่อยพอใจกับเนื้อหาคำพูดของตัวเองราวกับว่า รู้สึกว่าคำพูดของตัวเอง ยังแสดงความหมายที่อยากจะบอกออกมาไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1457

    จั๋วซือหรานพูดถึงตรงนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา แต่ไม่ใช่หัวเราะใส่เฟิงเหยียนหรือปันอวิ๋นถ้าให้พูดจริงๆ น่าจะเป็นเจ้าสภาผู้อาวุโสสมควรตายนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานหัวเราะเสียงเย็นชา "พวกเขาพอได้ลิ้มลองของดีแล้ว ต้องไม่ยอมปล่อยวางพลังสัตว์เทพไปแน่นอน"พลังแห่งมังกรครามสามารถทำให้เกาะมังกรลอยบนท้องฟ้าได้ ทำให้ฐานที่มั่นพวกเขาดูราวกับเป็นปาฏิหาริย์แห่งทวยเทพได้อย่าว่าแต่สภาผู้อาวุโสพวกนี้เลยจั๋วซือหรานลองสมมติว่าถ้าตนเองเป็นแบบนั้น ก็คงรู้สึกอยากจะรู้ว่าพลังของสัตว์เทพอื่นๆ จะเป็นเช่นไร"ใช่เลย" ปันอวิ๋นถอนหายใจ "เพียงแต่ว่า พลังสัตว์เทพมันหาได้ง่ายๆ เสียที่ไหนกัน"ถังฉือที่อยู่ข้างๆ ก็พูดต่อมาว่า "พวกเราหามาตั้งหลายปี ไอ้ที่หาเจอจริงๆ ก็มีแค่หงส์แดงกับพยัคฆ์ขาวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นแค่พวกน้ำไร้รากด้วย"จั๋วซือหรานรู้สึกสนใจกับคำพูดนี้ของถังฉือ"น้ำไร้ราก..."ประหลาด จั๋วซือหรานเข้าใจความหมายคำนี้ของถังฉือขึ้นทันทีพลังแห่งพยัคฆ์ขาวที่ถังฉือพูดถึงเป็นอย่างไร จั๋วซือหรานไม่รู้แต่ที่นางรู้คือบนตัวเฟิงเหยียน หรือก็คือพลังหงส์แดงที่สืบทอดมาของตระกูลเฟิงมันก็ดูเป็นน้ำไร้รากจริงๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1456

    เขาพยักหน้า "พวกเขาสะสมมานานหลายปี มีทรัพยากรที่ดีที่สุด มีเส้นสายที่ดีที่สุดกับสำนักต่างๆ"ถังฉือพูดต่อไปและเพราะมีทรัพยากรเช่นนี้ พวกเขาจึงมีสายข่าวที่เยอะถึงเยอะมากๆสัตว์เทพเอย สัตว์ชั่วร้ายเอย สิ่งที่คนปรารถนาแต่ไม่อาจเอื้อมถึง แค่คิดก็ยังไม่กล้าจะคิด ทว่าสำหรับพวกเขาแล้ว กลับเป็นสิ่งที่ได้มาง่ายดายและเพราะได้มาง่ายดาย จึงไม่ได้ดูมีคุณค่าขนาดนั้นดังนั้น จึงมีทะเลทรายทางเหนือขึ้นมาทะเลทรายทางเหนือก็เหมือนกับเป็นศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งของสภาผู้อาวุโส รวบรวมตัวตนอันตรายจำนวนมากไว้ เป็นตัวตนที่สภาผู้อาวุโสรู้สึกว่าเก็บไว้ก็ไม่ได้ประโยชน์ แต่จะทิ้งก็เสียดายถ้าบอกว่าให้ทิ้งไป พวกเขาก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ถ้าจะบอกว่ามีค่า...ก็เหมือนไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นดังนั้นจึงให้พวกเขาอยู่กันที่ทะเลทรายทางเหนือ อยู่ในเมืองโม่ทั้งใช้งานต่อได้ และไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตของสภาผู้อาวุโสด้วยจั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายในคำพูดนี้"ดังนั้นก็คือ...ที่พวกเขาเอาคนเหล่านี้มาทำงานในเมืองโม่ อันที่จริงก็เพื่อไม่ให้พวกเขาไปยังฐานที่มั่นสภาผู้อาวุโส แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของพวกเขาต่อไปได้"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1455

    ถังฉือชอบจั๋วซือหราน ไม่ใช่ความรู้สึกชอบแบบหนุ่มสาว แต่เป็นความชอบแบบบริสุทธิ์ใจดังนั้น ขอแค่จั๋วซือหรานอยากรู้ ถังฉือก็จะตอบสิ่งที่รู้ออกมาทั้งหมดดังนั้นจั๋วซือหรานจึงมีความเข้าใจต่อสภาผู้อาวุโส และทะเลทรายทางเหนือพอควรแล้วสภาผู้อาวุโส ตอนแรกสุดที่ก่อตั้ง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และไม่มีการกดขี่ข่มเหงตอนนั้น แผ่นดินใหญ่แตกแยกล่มสลายแคว้นเล็กต่างๆ สับสนวุ่นวายไม่พัก สู้กันไปสู้กันมาตอนนั้นลัทธิยังไม่เรียกเป็นลัทธิ แต่ยังเรียกเป็นแค่กลุ่มสำนัก และกลุ่มสำนักภูเขาหรือกลุ่มสำนักริมน้ำก็ผุดขึ้นมาไม่ขาดสายและก็มีการช่วงชิงระหว่างกันทั้งที่ลับที่แจ้งอยู่ไม่น้อยพูดแบบนี้ดีกว่า เป็นยุคสมัยที่ค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียวระหว่างแคว้นรบราต่อสู้กัน วุ่นวายไม่หยุดหย่อนระหว่างสำนักเองก็ต่อสู้กัน มีคนตายไปไม่น้อยสถานการณ์เช่นนี้ยืดยาวต่อมาเป็นเวลานาน กินเวลาหลายสิบปีเลยทีเดียวต่อมาไม่รู้เนื่องจากโอกาสอะไร โดยรวมคือ มีสำนักอันดับแรกที่ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมตัวเป็นพันธมิตรพลังของสำนักเช่นนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ธรรมดา ดีกว่ากลุ่มสำนักแต่ก่อนมากมายดังนั้น เพื่อจะต่อสู้กับสำนักนี้ สำนักอื่นๆ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status