Share

อัจฉริยะน้อย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-19 14:08:54

ในความเห็นของนางสถานศึกษามักพร่ำบอกถึงความเที่ยงธรรมแม้จะเพียงฉากหน้าอย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่ควรถูกผ่อนปรนง่ายๆ

เพื่อทำลายภาพลักษณ์ที่ตระกูลเซียวสายหลักเป็นผู้สร้าง คำถามนี้เป็นกับดักที่บิดานางกำชับไว้อย่างแยบคาย นางไหนเลยจะปล่อยผ่านไปอย่างง่ายดายเช่นนี้

ในความเห็นของนาง เด็กหญิงคนหนึ่งย่อมสะท้อนทัศนคติที่ถูกปลูกฝังออกมา

จากนั้นนางจะทิ้งเมล็ดพันธุ์แห่งความบาดหมางเอาไว้กับสายตระกูลอื่นที่จึงจะเป็นผลลัพธ์ที่นางอยากได้

นางกลับไม่คาดคิดว่าเหมยลี่อิงจะไม่เดินตามสามัญสำนึกถึงกับยกพระพุทธรูปองค์ใหญ่๑ออกมา

“เจ้ากำลังเอาท่านผู้อาวุโสมากล่าวอ้าง!”

เหล่าอาจารย์ที่ฟังบทสนทนาสีหน้าขุ่นมัวพลัน

คุณหนูใหญ่สายรองแม้มีแผนการแต่ก็เป็นการบงการของผู้ใหญ่ ตัวนางเล็กนักด้วยอายุเพียงเจ็ดขวบปีย่อมไม่เข้าใจความลึกล้ำของปลักน้ำ

ความเที่ยงธรรมอาจนำกะเกณฑ์กับผู้อื่นได้ แต่เมื่อใช้กับผู้เฒ่าเซียวที่ถือเป็นว่าเป็นกำลังหลักของตระกูล ผู้ทุ่มเทเสียสละเพื่อตระกูลเซียวไปมากมายจนชีวิตครอบครัวแทบพังทลายภรรยาเอกตาย บุตรสาวอีกคนหายสาบสูญเป็นสิ่งสมควรงั้นหรือ

ตัวนางไม่รู้จักพอ ยังสาวความต่อการกระทำเหล่านี้ย่อมเป็นการควงขวานต่อหน้าลู่ปัน๒ สะท้อนความคิดอันแตกแยกที่สายรองมีต่อสายหลักที่นางถูกปลูกฝังออกมาอีกด้วย

เหล่าอาจารย์และลูกศิษย์ทุกคนสามารถอยู่ในตระกูลเซียวแห่งนี้ได้ย่อมไม่ผู้ใดโฉดเขลา

การยั่วยุอันชัดแจ้งของนางย่อมถูกมองออกอย่างง่ายได้

เหมยลี่อิงกลั้นหัวเราะในใจ เอียงคอยิ้มละไม “พี่หญิงท่านนี้ ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความอย่างไรหรือเจ้าคะ?”

ความหมายก็คือผู้อาวุโสของข้ายังมีคุณสมบัติไม่พออย่างนั้นหรือ

“ก็...” แรงดึงของสหายร่วมเรียนทำให้คำพูดที่กำลังจะออกมาชะงักงัน เด็กหญิงชุดขาวหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายคล้ายเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังยกหินทุ่มเท้าตัวเอง๓

อาจารย์ที่มองอยู่กระแอมไอแล้วให้นางไปเข้าชั้นเรียนได้ ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือจงใจด้วยฐานะและส่วนสูงของนางทำให้นางได้นั่งอยู่ด้านหน้าของเซียวมี่ คุณหนูใหญ่สายรองผู้นี้พอดี

หากสายตาสามารถเฉือดเชือนคนได้ แผ่นหลังเล็กของเด็กหญิงของถูกบาดจนแหวงหวิ่น เหมยลี่อิงได้แต่ยักไหล่ ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

ทว่านางปล่อยว่างได้ ไม่ได้ความหมายอีกฝ่ายจะยอมปล่อยนางไป

ยามอาจารย์กำลังสารความรู้พื้นฐาน

“พลังปราณหรือแก่นสารปราณเป็นพลังงานที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ไม่มีผู้ใดค้นพบว่าแท้จริงแล้วจุดกำเนิดอย่างไร แต่มีปรมาจารย์หลายท่านได้ศึกษาและเขียนตำราเบื้องต้นอาไว้เป็นที่ย่อมรับเองแพร่หลายในที่นี้ยังเร็วเกินกว่าเด็กเล็กอย่างพวกเจ้าจะใส่ใจ”

“เราจะกล่าวถึงการดึงพลังปราณมาใช้ชีวิตประจำวันอย่างง่ายๆ ที่พวกเจ้าคุ้นเคยดี เช่น สิ่งประดิษฐ์เวท อาวุธเวท ยันต์อาคม มีผู้ใดช่วยข้าบอกได้ว่ามีอะไรบ้าง?”

อาจารย์ผู้กล่าวส่งยิ้มอย่างมีเมตตาให้กำลังใจเด็กๆ ทำให้บรรยากาศในชั้นเรียนครึกครื้นสนุกสนาน

“โคมไฟพลังปราณเจ้าค่ะ”

“ค่ายกลเคลื่อนย้ายขอรับ”

“หุ่นเชิดรับใช้เจ้าค่ะ”

“ประทีบลอยฟ้าเจ้าค่ะ”

“....แหวนเก็บของกับถุงร้อยสมบัติ”

“กระดานข่าวสารขอรับ”

“ดาบเวทและกระบี่ขอรับ” เมื่อถึงหัวข้อที่น่าสนใจเหล่าเด็กน้อยต่างยกมือแย่งตอบเสียงดังวุ่นวาย

ผู้เป็นอาจารย์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนกล่าวยกมือขึ้นสงบความตื่นเต้นของเหล่าเจ้าตัวเล็ก

เมื่อบรรยากาศสงบลงพร้อมแก่การเรียนต่อไป เด็กหญิงชุดขาวก็รีบยกมือขึ้นอย่างว่องไว อาจารย์วัยกลางคนเลิกคิ้วขึ้นอย่างอย่างแปลกใจ “เซียวมี่เจ้ามีข้อสงสัยใดงั้นหรือ”

สหายร่วมเรียนของเด็กหญิงกระตุกแขนเสื้อคัดค้านอย่างรุนแรง วันนี้พวกนางพลาดไปแล้วครั้งหนึ่งหากยังดึงดันต่อไปย่อมทำให้พวกนางดูกลายเป็นพวกใจแคบเอาได้ นางล่ะอยากใจบ้าตายกับสหายสมองหมูของตน

“ศิษย์เพียงแต่คิดว่าทฤษฎีพลังปราณก่อนหน้าที่อาจารย์ว่าระดับสูงเกินไปสำหรับพวกเรา แต่หากเป็นน้องหญิงที่เข้ามาใหม่คงเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เพราะนางเป็นหลานของผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่

อาจารย์ท่านไฉนไม่ให้นางลองเล่าให้พวกเราฟังเหล่าเจ้าคะ”

“นี่...” ใบหน้าอาจารย์ฉายแววลำบากใจ ไม่ว่าผู้เฒ่าเซียวจะเก่งกาจเพียงใดหลานของเขาก็อายุเพียงห้าขวบจะไปเข้าใจอะไรได้

ทั้งไม่พอใจเซียวมี่ที่ไม่รู้กาลเทศะขัดจังหวะการสอนของตนผู้เป็นอาจารย์เพียงเพราะความริษยาส่วนตน

กลับเป็นเหมยลี่อิงที่ไร้ความกังวลใจ ปลอบโยนผู้เป็นอาจารย์ผ่านนัยน์ตากระจ่างใสดุจท้องฟ้าไร้เมฆหมอก “ท่านอาจารย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ให้ศิษย์ลองกล่าวดูดีไหมเจ้าคะ”

ชายวัยกลางคนยังคงไม่วางใจ “ทฤษฎีเหล่านี้ยังห่างไกลเกินไป พวกเจ้ายังไม่รู้ก็เป็นเรื่องธรรมดา”

เด็กหญิงชุดสีกลีบบัวส่ายหน้ากล่าวว่าตนพอจำได้บ้างผู้เป็นอาจารย์จึงได้แต่ปล่อยให้นางกล่าวไป

“ทฤษฎีพลังปราณนั้นมีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือการศึกษาของผู้ก่อตั้งหุบเขาหมื่นบุปผา เหมยหวังจวิ้น กล่าวว่าพลังปราณก็คือพลังแห่งสรรพชีวิต”

เสียงเด็กหญิงกังวานใสฉะฉาน กล่าวอย่างมั่นใจชัดถ้อยชัดคำผิดกับเด็กวัยเดียวกัน

“คือแก่นสารแห่งชีวิตที่คงอยู่และแปรเปลี่ยนโดยมิอาจดับสลายเพียงแปลี่ยนจากรูปแบบหนึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อหมุนเวียนระหว่างสรรพสิ่งในโลกหล้า”

นางกล่าวเว้นช่วงเสียงเป็นจังหวะ การเน้น วรรคตอนคำกล่าวราวท่วงทำนอง เสนาะหูน่าฟังราวกับกำลังกล่าวคำกลอนอวยพรอันน่าฟัง

“เฉกเช่นว่า หากเป็นดอกไม้ปราณก็ปราณดินในการเติบโต ใช้ปราณหยางของดวงตะวันและปราณน้ำล่อเลี้ยง เมื่อสัตว์ปราณกินดอกไม้ปราณเข้าไปหากสัตว์ปราณตาย พลังปราณก็สลายคืนสู้ดินและฟ้าหมุนเวียนให้สิ่งอื่นต่อไปเช่นนี้พลังปราณจึงไม่อาจแห้งเหือดไปสามารถมีให้สิ่งมีชิวิตทั้งหลายใช้ต่อเนื่องมาแต่โบราณ”

แสงอาทิตย์ส่องลอดผ่านหน้าตาทำให้ทั้งร่างของเด็กหญิงตัวเล็กๆ เปล่งแสงเรืองรองดุจห่อหุ้มด้วยอาภรณ์ทองราวเซียนน้อยมงคล

สายลมพัดปลายผมดำปกปรายใบหน้าเล็ก ทำให้ขนตายาวนางสั่นไหวราวนกน้อยกระพือปีก ริมฝีปากสีชมพูเล็กๆ เจื้อยแจ้วข้างแก้มหยกมันแพะเนียนขาว ราวสะกดใจคนฟังให้เผลอไผล

เด็กหญิงตัวน้อยยังคงกล่าวสิ่งที่นางรู้ต่อไป ท่าทางงดงามเหนือสามัญราวกับภาพวาดอันเฉลียวฉลาดและมีชีวิตชีวาโดดเด่นออกมาจากทิวทัศน์เบื้องหลัง

“เช่นนั้นแก่นสารพลังปราณเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างไร? สามารถนำมาเพิ่มพูดจากของที่มีอยู่เดิมได้หรือไม่

จะเกิดอะไรหากสิ่งมีชีวิตหนึ่งสามารถสร้างและดูดซับพลังปราณได้มากเกินกว่าที่ของเขตของโลกจะรับไหว

การบรรลุเซียนจริงแท้แล้วคือสิ่งใด? เซียนเหล่านั้นเมื่อบรรลุแล้วไปที่ไหน นี่อาจเชื่อมโยงกับดินแดนเบื้องบน สวรรค์หรือแดนเซียนในตำนานหรือไม่ ประมาณนี้เจ้าค่ะ”

ผลลัพธ์ก็คือนางทิ้งภาพจำของอัจฉริยะน้อยไว้ในใจอาจารย์ตั้งแต่ชั้นเรียนแรกชั้นเรียนแรกจบลงพร้อมกับความเหนื่อยล้า เหมยลี่อิงไม่ได้สุงสิงกับผู้ใด นางเพียงเดินนำขบวนบ่าวไพรไปยังห้องพักส่วนตัวเพื่อทานมื้อเที่ยง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   บันไดหินทดสอบจิตสำนึก

    บันไดศิลาดำทอดยาวเป็นวงเวียนจรดฟ้า กลางนภาสีครามสว่างเจิดจ้า ฟ้าเหนือศีรษะเป็นหมู่เมฆและดวงตะวัน หันหน้าลงมาเพียงเงาลานหินสีดำและผู้คุ้มสอบที่สีหน้าเย็นชา“ผู้เข้าสอบซ่งหลิงหลิงตกรอบ” ฟ่งปิงเยว่ประกาศ ศิษย์สายนอกสวมเครื่องแบบสีเขียวมรกตดิ้นเงินขึ้นไปรับตัวเด็กหญิงที่ไร้เรี่ยวแรงลงมาด้วยความเร็วแทบเป็นภาพติดตานี่สามารถพิสูจน์ได้ว่าแม้แต่ศิษย์สายนอกของสำนักแพทย์เขาปุบผาก็ยังมีพลังจิตสำนึกในระดับน่าตระหนกผู้รอบการทดสอบเห็นดังนั้นก็พยายามรุดหน้าต่อไป เพราะขอเพียงพวกหยุดช้าเพียงยี่สิบลมหายใจ สายตาอันแหลมคมของผู้คุมสอบก็จะจับจ้องไปยังพวกเขาในทันใด หากมีวี่แววว่าเจ้าจะไปต่อไม่ไหว สุ้มเสียงไร้น้ำใจไมตรีก็ประกาศว่าเจ้าตกรอบทันทีเด็กชายที่อยู่ข้างคนที่เพิ่งประกาศตกรอบไปถึงกับเสียวสันหลังวาบ ขนหัวลุกชี้ชัน กัดฟันเดินต่อแทบไม่คิดชีวิตเสียงสายลมกระพือพัดชายผ้าดุจท้องฟ้าคำรามหวีดวิวอยู่ข้างหู เหมยลี่อิงยังคงก้าวขึ้นบันไดดำอย่างใจเย็น สีดำทะมึนใต้ฟ้าเท้าราวกับมีชีวิตชีวายื่นมือออกมาดึงรั้งขายิ่งกว่าตะกั่วหนัก ช่างเป็นจิตสำนึกนึกอันทรงพลังอะไรเช่นนี้ขั้นที่ห้าสิบ เด็กหญิงยังเดินรุดหน้าด้วยท่าทาง

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   การทดสอบเข้าสำนักด่านแรก

    “เหอะ หากข้าไม่ขอโทษแล้วอย่างไร พวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้” สวี่อวี้หลันยังคงเย่อหยิ่ง เรื่องอันใดต้องให้นางไปขอโทษคนไม่หัวนอนปลายเท้าจินเกอพ่นลมหายใจคราหนึ่ง เดินผ่านนางเข้าห้องไปเลือกเตียงที่อยู่หัวมุม“พวกเราก็จะได้รู้เช่นเห็นชาติสันดานเจ้ากระมัง”“เจ้า !!”“อวี้หลัน!! เจ้าพอได้แล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้าน”สุดท้ายแล้วกลับเป็นสวี่ฟางเฟยที่เกลี้ยกล่อมน้องสาวอย่างอดทนพลางขอโทษสหายร่วมห้องแทน คนอื่นๆ ไม่พูดอะไร แม้แต่หลินรั่วอีก็ไม่รับคำขอโทษนั้น มีเพียงเหมยลี่อิงที่มองพวกนางสองพี่น้องอย่างมีความหมายสวี่ฟางเฟยได้แต่ยิ้มเจื่อน นางเองก็อับจนปัญญากระทั่งเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนมาถึงบรรยากาศที่อึดอัดระหว่างพวกเขาถึงได้ผ่อนคลายลงรุ่งสางอาทิตยายังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า รัตติกาลกำลังจะจางหาย แสงรำไรเพียงมองเห็นปลายฝ่ามือได้รางๆ ปรางแก้มสีชมพูอิ่มนิ่มนวลคลอเคลียเกศางาม อารามสาวน้อยกอดจิ้งจอกสีขาวขนฟูหลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้าเมื่อคืนนางวางค่ายกลป้องกันไว้รอบเตียง จึงสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจจินเกอที่นอนอยู่เตียงข้างกันพลันลืมตาโผล่ เอื้อมมือคว้ามีดพกในอกเสื้อทันใด ประตูไม้ในเรือนนอนพวกนางเปิดออกโดยไร้ผ

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   สหายร่วมห้องสอบ

    แสงตะวันพลบค่ำอัสดงสีส้มนวลสว่างฉาบย้อมท้องฟ้าจนกลายเป็นผ้าไหมทองเข้มผืนหนึ่ง เหมยลี่อิงไม่ได้มีเวลาในรำพึงในใจนานนัก รองเท้าปักเดินก้าวตามขบวนคุ้มกันเข้าสู้สำนักในที่สุดพวกนางเดินตามสันเขาชมเมฆา ม่านหมอกเมฆหนาทึบลอยเอื่อยอ้อยอิ่ง กิ่งพัดใบไม่ไหวตามสายลมดังเคล้า เหล่าภมรปราณเริงร่าชมแนวผกาทอดทิวเขา ราวเหล่าภูติกระซิบสำเนียงแห่งพงไพร หัวใจที่เต้นกระหน่ำของเด็กหญิงก็ค่อยๆ เบาลง “เจ้าเป็นอะไรไป” จิงซิงเฉินถามเมื่อเห็นนางเหม่อลอย เหมยลี่อิงส่ายหน้าหยิบองหญิงจิ้งจอกหน่อยสีขาวฟูออกมาจากถุงเลี้ยงสัตว์ โม่เสวี่ยงัวเงียอยู่ในอ้อมแขนนางพลางหาวหวาดแม้แต่ตายังไม่ลืม “นั่นสัตว์สัญญาของเจ้าหรือ สายเลือดไม่เลวเลย แต่เจ้าต้องระวังการทดสอบไม่อนุญาติให้ใช้สัตว์ปราณช่วยเหลือเจ้าสามารฝากไว้ที่โถงสำนักระหว่างการสอบได้” ศิษย์หญิงที่เป็นผู้นำขบวนมากล่าวกับนางเล็กน้อยด้วยใบหน้าเรียบเฉยผู้ไม่สนิทย่อมฟังไม่ออกถึงความอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ชาติที่แล้วนางคบหากับศิษย์พี่หญิงจางผิงจูมาหลายปีไหนเลยจะไม่ออก เหมยลี่อิงคลี่ยิ้มจนตาปิด เด็กหญิงนัยน์ตาดอกท้อใสกระจ่าง เรื่องหน้าจิ้มลิ้มม

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   นางมาถึงแล้ว

    เสียงกระบี่ฟาดฟันไล่ล่า คลื่นพลังปราณประทุเดือดพล่านทำลายป่าไม้ล้มระเนระนาด เหมยลี่อิงกับจิงซิงเฉินเห็นผู้ถูกไล่ล่าก็ม่านตาหดแคบ เป็นหลงเทียนสือผู้นั้นที่เคยมีปากเสียงกันที่โรงเตี๊ยมตงฟู ยามนี้ที่เด็กชายที่จมูกชี้ฟ้าสง่างามยิ่งผยองกลับไม่หลงเหลือความหยิ่งยโสเลยแม้แต่น้อย เสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นดีของเขาในยามนี้ล้วนขาดวิ่นเนื้อตัวเต็มไปตัวบาดแผลฉกรร บางตำแหน่งลึกแทบเห็นกระดูก หากไม่ได้ผู้คุ้มกันทั้งสองสละชีวิตรั้งศัตรูไว้ตัวเขาก็แทบเอาชีวิตไม่รอด เด็กผู้นั้นเห็นได้ชัดว่าหนีการไล่ล่ามา เมื่อพวกจิงซิงเฉินในแววตาก็ปรากฎแววโล่งใจ แคว้นหลงกับแคว้นจินอยู่ข้างเคียงกัน ราชวงศ์ของพวกเขาล้วนมีความสัมพันธ์อันดี ถึงขึ้นมีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันมาหลายรุ่น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด จิงซิงเฉินไม่อาจปล่อยให้เขาตายโดยไม่ช่วยเหลือ หลงเทียนสือแม้หยิ่งผยองแต่ไม่ใช่ตัวโง่งม เพียงประสานมือคาราวะพวกเขานัยต์ทอแววอับอายอยู่บ้าง “บุญคุณครั้งนี้ข้าจะทดแทนภายหลังอย่างแน่นอน” จิงซิงเฉินลังเลเล็กน้อยหากมีเพียงเขาคนเดียวย่อมลงมือช่วยเหลืออีกฝ่ายโดยไม่คิดอะไร แต่ยามนี้เพื่อนร่วม

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   อ้ายฉินฮวา

    ปัง ! กระแทกผนังจนแตกกระจาย ผนังไม่กลับเป็นเพียงรอยขีดข่วน ผู้คุ้มกันทั้งลายออกมาคุ้มกันคุณหนูคุณชายของพวกเขาไว้ตรงกลางป้องกันการโดนลูกหลง เหมยลี่อิงอดพำพึมไม่ได้ “ช่างเป็นพนังไม้ที่แข็งแกร่งสมคำโอ่จริงๆ” “อาศัยสวะเช่นเจ้ากล้าเหิมเกริมกับข้า ช่างไม่รู้จักคำว่า ‘ตาย’สะกดอย่างไร” ดรุณีนางหนึ่งหน้าตาสระสวยสะพายกระบี่เล่มใหญ่ ระเบิดพลังสวะของหนิงม่ายออกมาเต็มที่ พวกเหมยลี่อิงมีผู้คุ้มกัยปิดป้องย่อมไม่เป็นไร เหล่าเสี่ยวเอ้อร์ล้วนหลับไปยังค่ายกลหลังร้านอย่างรู้หน้าที่ มีเพียงรู้ค้าบ้างคนพลังฝีมือต่ำอยู่บ้างทุกลูกหลงกันไปหอมปากหอมคอ ไม่มีใครเข้าไปห้าม ประการแรกเพราะยอกข้าวของในร้านแล้วไม่มีผู้ใดได้รับความเสียหาย นับว่าหญิงสาวนางนั้นควบคุมตนเองได้ดีอยู่บ้าง ประการที่สองผู้ใดจะอยากหาเรื่องใส่ตัวด้วยการแส่เรื่องของผู้อื่น หญิงสาวนางนั้นร่างกายไม่กำยำแต่สังขารแข็งแกร่งยิ่ง ปราบอันธพาลรานถิ่นที่กล่าววาจาแทะโลมนางด้วยหมัดหลุนๆ อีกหมัดตามด้วยอีกหมัด เสียงถูกชกอย่างรุนแรงปานนี้ อันธพาลผู้นั้นโดนอัดไม่กี่ทีก็หลงเหลือเพียงลมหายใจรวยริน ถู

  • ระบบเพิ่มพูนวาสนา บพิธมิสิ้นไร้วาสนาบุปผาตระการ   จิงซิงเฉิน

    “ข้าจ่ายไปสองจิงสือระดับสามเมื่อท่านเสนอเพิ่มราคาให้ เช่นนั้นมิสู้ให้ข้าสี่จิงสือระดับสามเถอะ”หลงเทียนสือแม้มาจากแคว้นไหนแต่ไม่ใช่ตระกูลยอดยุทธไม่มีเหมืองหินผลึกปราณ เขาไหนเลยจะมีจิงสือมากมายปานนั้น ขณะกำลังจะทักท้วงมองเห็นรูปโฉมของคนที่ออกมาจากประตูเสียงก็พลันขากห้วงไป“นี่เจ้ากะจะปล้นชิงกันหร--”“ข้าจ่ายให้เขาราคานี่จริงๆ เมื่อท่านเสนอเพิ่มราคาก็สมควรใจกว้างกว่านี้สักหน่อย”เหมยลี่อิงงามยามนี้สวมผ้าคลุมเพียงครึ่งหน้า เห็นคิวโก่งเรียวดุจใบหลิว แพขนตาเงาหนาดุจม่านฝน นัยต์ตาดอกท้อสวยหวานราวลูกกวางทั้งเย้ายวนทั้งดูไร้เดียงสา เพียงเท่านี้ก็เผยรูปลักษณ์ปานหยาดฟ้ามาดินของนางจนผู้มองอดไม่ได้จะสูดลมหายใจลึกกับการงานห้องนั้นนางหาได้มีปัญหาอันใด เพียงเหมยลี่อิงไม่ชมชอบพฤติการณ์ของคนผู้นี้ฝ่ายหลงเทียนสือผู้ถูกสบประมาท ตัวเขามาจากราชวงศ์แคว้นใหญ่แคว้นหนึ่ง แต่ไหนแต่ไหนก็ไม่เคยไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เด็กหญิงนางนี้กลับกล้าขัดใจเขา แม้เด็กหญิงผู้นั้นจะเป็นสาวงาม แต่ตัวเขาเป็นลูกผู้ชายกลับถูกผู้อื่นหยามว่าใจไม่กว้างพอ เรื่องนี้ยอมไม่ได้เด็กทั้งสองรวามถึงผู้คุ้มกันฝ่ายพวกเขาจ้องมองกันด้วยความเป็นป

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status