…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…
“พี่เอริคเกลเข้าไปได้มั้ยคะ”
“อืม”เอริคตอบรับสั้นๆ
“เราจะกลับบ้านกันตอนไหนหรอคะ”
“รีบ?”เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปหาเธอ
“ป่าวค่ะ แค่เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว”เธอตอบเขาเสียงอ่อย
“ขอเคลียร์งานก่อน ถ้าหิวขนมอยู่ตรงนั้นทานได้”เขาบอกเธอก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ
เกวลินนั่งมองเขาพลางคิดถึงคำพูดของป้าแอนนาที่บอกว่าเอริคเป็นคนบ้างานมากจนบางทีลืมกินข้าว จนทำให้เป็นโรคกระเพราะ แต่ท่าทางจริงจังของเขาก็ทำให้เธอเผลอมองอยู่นาน เพราะเธอรู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ดูมีเสน่ห์มากบวกกับความหล่อของเขายิ่งชวนหลงใหล
“บ้าจริง ยัยเกลคิดอะไรของแก”เกวลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง ก่อนจะนั่งเล่นมือถือรอเขาจนเผลอหลับไป
เอริคเคลียร์งานเสร็จเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาจวนจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนเกวลินกลับบ้าน
“เกลกลับได้แล้ว”เขาเรียกเธอมือก็เก็บเอกสารไปด้วย โดยไม่ได้มองหญิงสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงหันไปมองพบว่าเธอหลับอยู่ เอริคเดินไปนั่งตรงหน้าเธอและมองใบหน้าสวยละมุนของเธอ
“ยัยลูกเป็ดขี้เหร่โตมาสวยได้ขนาดนี้เลยหรอ”เขาพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เกวลินลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี สายตาทั้งคู่มองประสานกันใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบหันไปคนละทางแก้เขิน
“ตื่นแล้วหรอ กลับบ้าน”
“กี่โมงแล้วคะ”
“ทุ่มนึง”
“พี่เอริคกลับค่ำแบบนี้ทุกวันเลยหรอคะ มิน่าล่ะคุณป้าบอกว่า พี่บ้างาน”
“บ้างานไม่ดีรึไง”
“ก็ดีแต่ถ้ามากไปจนลืมกินข้าวก็ไม่ไหวนะคะ”
“ห่วงกิน”
“เกลไม่ได้ห่วงกินนะคะ ก็พี่เอริคเล่นทำงานจนทานข้าวไม่เป็นเวลา โรคกระเพราะก็เลยถามหาอยู่นี่ไงคะ”เธอดุเขา
“ขี้บ่น”
“พี่เอริค!!!”
“กลับได้แล้วจะกินมั้ยข้าว”
เอริคพาหญิงสาวไปทานข้าวก่อนจะกลับบ้านพักผ่อน ทั้งคู่เดินทางมาทำงานพร้อมกันกลับบ้านพร้อมกันแบบนี้ทุกวัน เผลอแป๊บเดียวเกวลินก็เข้ามาทำงานที่นี่ได้สองอาทิตย์แล้ว
“อีกสองอาทิตย์พี่เกตุก็จะลาคลอดแล้วสินะครับ หายไปตั้งหลายเดือนผมคงคิดถึงแย่ ไม่มีคนช่วยรับมือตอนนายอารมณ์ไม่ดีเลย”เจมส์คุยกับเกตุช่วงเช้าก่อนเข้างาน
“แน่ใจหรอคะว่าไม่มี นู่นไงเดินมานู่นแล้ว”เกตุชี้ไปทางเอริคและเกวลินที่กำลังเดินมา
“พี่ว่าคนนั้นน่าจะเอาอยู่สบายมาก”เกตุกระซิบ
“จริงด้วย ตั้งแต่คุณเกลมาทำงานนายก็กลับบ้านเป็นเวลามากขึ้น ไม่ทำงานหามรุ่งหามค่ำเหมือนเมื่อก่อน คุณเกลบอกให้ทานข้าวก็ทาน เดี๋ยวนี้ไม่ขอยาแก้ปวดท้องแล้วด้วย”เจมส์สาธยายให้เกตุฟังและหัวเราะคิกคักกันใหญ่
“คุยอะไรกันอยู่หรอคะ น่าสนุกเชียว”เกวลินถามทั้งคู่
“คุยเรื่องพี่เกตุลาคลอดน่ะครับ”เจมส์ตอบ
“จริงด้วย อีกสองอาทิตย์พี่เกตุจะลาคลอดแล้ว เกลยังเรียนรู้งานไม่ถึงไหนเลยค่ะ”
“ไม่ถึงไหนอะไรกันคะแค่สองอาทิตย์ก็เรียนรู้ได้เกือบหมดแล้วค่ะ คนนี้เก่งมากนะคะบอส”เกตุหันไปบอกบอสของตน
“ดี งั้นบ่ายนี้ออกไปประชุมข้างนอกกับผม คุณเกตุไม่ต้องไป นายด้วยอยู่บริษัท”
“เกลหรอคะ แต่ว่าเกลยังไม่พร้อม”
“ไหนคุณว่าเก่งไงคุณเลขาเกตุ”
“ไปเถอะเกล พี่เชื่อว่าเกลทำได้แน่นอน”เกตุให้กำลังใจเลขาคนใหม่
“ก็ได้ค่ะ”เกลตอบรับแบบไม่มั่นใจนัก
บ่ายวันนั้นเอริคขับรถพาเกวลินเข้ามาประชุมที่บริษัทลูกค้า เกวลินแม้ก่อนออกมาประชุมจะดูตื่นเต้นและประหม่ามาก แต่พอถึงเวลาต้องทำงานคนเดียวจริงๆเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง จนเอริคที่แอบมองอยู่ยิ้มอย่างพอใจ ใช้เวลาประชุมร่วมสองชั่วโมงทั้งคู่ก็ออกจากห้องประชุมและขอตัวกลับ
“เรากลับบริษัทกันเลยมั้ยคะหรือพี่เอริคต้องไปที่อื่นต่อ”
“กลับบ้าน”เขาตอบเธอสั้นๆ
“แต่นี่พึ่งสี่โมงเองนะคะ”
“กลับไปสรุปการประชุมวันนี้ให้พี่ต่อที่บ้าน”
“ก็ได้ค่ะ จะใช้ทำงานต่อก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก”เธอก้มหน้าบ่นเบาๆ แต่ก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาเหยี่ยวของเอริคไปได้ เขามองท่าทางของเธอแล้วก็เผลอยิ้มออกมา พักหลังเอริคก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมแค่ได้แกล้งเธอนิดหน่อยก็ทำให้ตัวเองยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย หรือบางทีที่ทำงานเหนื่อยๆแค่เห็นหน้าเธอก็มีรอยยิ้มได้ หลายครั้งที่ต้องถามตัวเองว่าคงไม่ได้ชอบยัยคู่ปรับเก่าเข้าให้แล้วนะ
“เย็นนี้เราสั่งอาหารไปทานดีมั้ยคะ จะได้รีบทำงานให้เสร็จ”เกวลินถามชายหนุ่มขณะกำลังขับรถกลับบ้าน
“ก็ดีเหมือนกัน”
เย็นวันนั้นขณะทั้งคู่นั่งทำงานกันอยู่ก็มีสายเรียกเข้าจากคุณนายแอนนาที่วีดิโอคอลมาหาลูกชาย
“แม่มีอะไรครับ”เอริคทำเสียงเข้มใส่แม่ทันทีที่กดรับสาย
“เจ้าลูกคนนี้ แม่จะโทรหาไม่ได้รึไง”
“ได้ครับแต่ตอนนี้ผมกำลังยุ่งอยู่”
“ยุ่งอะไรนี่มันจะทุ่มนึงแล้ว ยังไม่เลิกงานอีกหรอ”
“เลิกแล้วนี่ไงแม่ดูสิผมอยู่ที่บ้าน”เขาบอกผู้เป็นแม่พลางหันกล้องไปรอบบ้านให้แม่ดู
“เดี๋ยวนะ นั่นหนูเกลใช่มั้ยที่นั่งหัวฟูอยู่หน้าคอม”
“ครับ นั่งสรุปการประชุมกันอยู่”
“นี่แกใช้งานหลานสาวชั้นหนักขนาดนี้เลยหรอ”แอนนาบ่นลูกชายเสียงดัง
“คุณป้าอย่าเข้าใจผิดนะคะ”เกวลินรีบร้องบอกป้าแอนนาและหยิบโทรศัพท์จากมือเอริคไปคุย
“คือว่าพี่เอริคเค้าสอนเกลทำสรุปการประชุมอยู่ค่ะ”
“ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นนี่ลูก เลขาก็มีให้เขาทำไป”
“ไม่ได้ค่ะเกลต้องทำให้ได้ด้วยตัวเอง อีกไม่กี่วันพี่เลขาเค้าจะลาคลอดแล้วค่ะเกลเลยต้องรีบเรียนรู้งาน”
“เจมส์ก็อยู่ ให้เจมส์ทำก็ได้”
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณป้าเดี๋ยวคนแถวนี้จะหาว่าเกลทำอะไรไม่ได้เรื่อง เกลต้องโชว์ฝีมือซักหน่อย”เธอพูดพลางหันไปทำหน้าทะเล้นใส่เอริค ที่ตอนนี้นั่งทำหน้าดุใส่เธออยู่
“นี่แกดุน้องด้วยหรอเจ้าริค”
“แม่ ผมยังไม่เคยดุเลย แต่วันนี้น่าจะได้ดุจริงๆแล้ว โทษฐานใส่ร้ายผม”
“เอาล่ะๆ คุยกันดีๆอย่าทะเลาะกัน แต่แกก็อย่าใช้งานน้องหนักนัก วันหยุดก็พาน้องไปเที่ยวบ้าง”
“…..”เอริคไม่ตอบผู้เป็นแม่
“แค่นี้นะ อย่าลืมกินข้าวกินปลากันด้วย หนูเกลก็พักผ่อนบ้างนะลูก”
“ค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะ”
“อยู่ที่นู่นคงเอาอกเอาใจคุณแม่จนหลงหัวปักหัวปำเลยสิท่า พูดอะไรท่านก็เชื่อหมด”เอริคประชดเกวลินหลังกดวางสายจากแม่
“พี่เอริคทำตัวไม่น่าไว้ใจเองรึป่าวคะ อย่ามาโทษเกลนะ”
“เกล!!!”เขาเสียงดังใส่เธอ
“ก็มันจริงอ่ะ ตอนเด็กพี่เอริคเคยชอบหน้าเกลที่ไหน”เธอพูดโดยไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย
“เกล!!จะทำมั้ยงาน”
“ทำค่ะ…งือ..เกลหยอกเล่นนิดเดียวเอง”เธอทำท่าทางและหน้าตาน่าสงสารใส่เขา
“ยัยบ๊องเอ๊ย”เขาว่าเธอ พลางหัวเราะใส่กัน
เอริคประธานหนุ่มมาดนิ่ง เสือยิ้มยาก เย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ ตั้งแต่เจอเกวลินเธอก็ค่อยๆละลายพฤติกรรมของเขาให้เปลี่ยนไปทีละน้อย
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดคืนนี้เอริคจึงถือโอกาสสอนงานเกวลินจนถึงดึกดื่น หญิงสาวเองก็ตั้งใจเรียนรู้งานเป็นอย่างดี ไม่มีบ่นซักคำ ยิ่งทำให้เอริคประทับใจในความขยันและใจสู้ของเธอมากขึ้น
“พี่เอริควันนี้หลังเลิกงานเกลจะไปเยี่ยมพี่เกตุนะคะ”“ไปสิพี่ไปด้วย”หลังเลิกงานทั้งคู่ไปเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนก่อนเดินทางไปเยี่ยมเกตุที่โรงพยาบาล“คุณลูกค้าต้องการของใช้แบบไหนคะ”พนักงานขายเดินมาถามทั้งคู่เพราะเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของพวกเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่“ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ เด็กต้องใช้อะไรบ้างเอามาให้หมดเลยค่ะ”เกวลินตอบพนักงานสาว“เป็นพ่อแม่มือใหม่สินะคะ น่ารักจังเลยนะคะมาช่วยกันเลือกของให้ลูกด้วย”พนักงานสาวพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่นะคะ คือซื้อไปให้หลายค่ะ”เกวลินรีบปฏิเสธทันที ผิดกับเอริคที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา…โรงพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย…“น่ารักน่าชังจังเลยเจ้าตัวเล็ก”เกวลินหมั่นเขี้ยวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกตัวเอง“พี่เอริคอยากลองอุ้มมั้ยคะ”“อุ้มไม่เป็น”“มาเกลช่วย”เธอพาเจ้าตัวเล็กเดินไปหาเอริคที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวโตจะทำสีหน้าดุเธอแค่ไหน“เกล ไม่เอา”เขาปฏิเสธหญิงสาวแต่มือก็ยื่นไปรับลูกชายของเกตุและทำตามคำบอกของเกวลิน อย่างว่าง่าย จนคนอื่นๆหลุดขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเขา เขามองเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน ในหัวพลันคิดว่าถ้าเป็นลูกของเขากับคนท
เกวลินพอเจอฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพลงที่ชอบก็เต้นอย่างสนุก จนเอริคที่ยืนอยู่ข้างๆเกิดอาการหวง ขยับเข้าไปโอบเอวเธอไว้ เกวลินที่สติเหลืออยู่แทบไม่ถึงครึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังยกแขนมาคล้องคอเขาให้เต้นไปด้วยกัน กลับกลายเป็นเอริคเองที่ตกใจกับการกระทำของเธอแทน“เกลทำอะไร”เขากระซิบข้างหูเธอ“ชวนพี่เต้น”“เกลเอามือออกยืนเต้นดีๆ”“ก็เกลอยากเห็นพี่เต้นนี่คะ”“ไม่เต้น หันไปเต้นดีๆ ถ้าไม่ปล่อยพี่พากลับแล้วนะ”“ไม่กลับ กำลังสนุก”“งั้นก็หันกลับไปเต้นดีๆ อย่าดื้อ”“โอเคๆ เต้นกับคนแก่ไม่สนุกละ”เธอบ่นเขา“เกล เดี๋ยวจะโดน”เธอไม่สนใจคำพูดเขาซักนิดหันกลับไปเต้นต่ออย่างสนุก ปล่อยให้เอริคยืนใจเต้นรัวข้างๆเธอ เกวลินไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย คงเป็นเพราะสบายใจ อุ่นใจและเชื่อใจที่เป็นเขาถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้“ยัยเด็กแสบใครใช้ให้มาเต้นยั่วแบบนี้”เขาบ่นพึมพำเบาๆ เพราะการกระทำของเธอทำให้เขาคลั่งแทบอยากจะพาเธอกลับไปจัดการที่ห้องตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนข่มใจให้เย็นลง“พี่เอริค…เกล…มึนหัว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มหลังจากดื่มไปหลายแก้วจนเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ใครให้ดื่มเยอะขนาดนี้ กลั
“ปวดหัวจัง”เกวลินบ่นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า“เอ๊ะ ไม่ใช่หมอนข้าง”เธอเอามือลูบคลำไปทั่วแผงอกแกร่งของเอริค และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ หมอนที่เธอกอดทั้งคืนคือตัวเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินทำตัวไม่ถูกจะมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม“จะหลบไปไหน ยัยตัวแสบ”เอริคที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอดิ้นยุกยิกเรียกให้หยุด เกวลินยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมรอยยิ้มแห้ง“เมื่อคืนเราไม่ได้…เอ่อ…มีอะไรกันใช่มั้ยคะ”“ไม่มี”“เฮ้อ ค่อยยังชั่วนึกว่าเมาแล้วเผลอ…”“แค่จูบ”เขาตอบเธอเสียงนิ่ง“ห๊ะ!!!อะไรนะคะ อีกแล้วหรอเนี่ยยัยเกล ไม่น่าดื่มเยอะเลย”เธอบ่นตัวเอง“อีกแล้ว”เขาเลิกคิ้วถามเธอด้วยความสงสัย“กับใคร”“ไอ้พี่เอริคบ้า”เธอทุบไปที่อกแกร่งของเขา“จะใครล่ะที่ขโมยจูบแรกของเกลไป อุตส่าห์เก็บรักษามาตั้งนาน”“คืนนั้นรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“เอ่อ..จำได้ลางๆค่ะ”“แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ”“รับผิดชอบอะไรคะ เกลเป็นผู้หญิงเกลเสียหายนะ พี่ต้องรับผิดชอบเกลสิถึงจะถูก”“ใครเริ่มก่อนจำได้มั้ย”เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทำทีจะจูบเธอเพื่อระลึกความหลัง“พอแล้วค่ะ เกลจำได้”“งั้น วันนี้ก็รับผิดชอบ”“ให้รับผิดชอบอะไร”“พาเที่
เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก“โห สวยมาก”เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น“แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน“พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง“สวยมั้ยคะ”“อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว“คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว”“ได้”“เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า”“มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจ
“ว๊าย ไอ้พี่เอริคบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง”เกวลินโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกเขา“เกลเสียงดังอะไรแต่เช้า พี่ยังง่วงอยู่เลย”“ไม่ต้องนอนแล้ว นี่หมายความว่าไงพี่แอบเอาหมอนออกตอนเกลหลับหรอ”เอริคลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มองเขาตาเขียวปั๊ด “คิดดีๆว่าใครเป็นคนถีบหมอนลงไปข้างล่าง”“พี่จะหาว่าเกลเป็นคนทำหรอ”“อือ…ฮึ”“ไอ้คนเห็นแก่ตัว”เธอทุบที่อกเขารัวๆ“เกลพี่เจ็บ”เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เพื่อให้เธอหยุดทุบเขา“หันมองข้างๆสิว่าใครเป็นคนขยับหาใคร” เกวลินมองไปรอบๆเตียงก็พบว่าตัวเองเป็นฝ่ายข้ามฝั่งมาหาเอริคเอง จึงได้แต่ถอนหายใจให้กับความโก๊ะของตัวเอง “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย แค่กอด เกลก็นอนกอดพี่ทั้งคืนเหมือนกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”เกวลินหน้าแดงด้วยความเขิน ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงรีบลุกขึ้นไปสูดอากาศที่ระเบียง“ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”“ยัยบ๊องเอ๊ย น่ารักชิบ”เอริคยิ้มให้กับความโก๊ะของเธอ ก่อนจะเดินตามเกวลินออกไปสูดอากาศข้างนอก เขาเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางเกยไหล่เธอไว้“สดชื่นจัง หอมมากด้วย”เขามองวิวด้านนอกสลับ
หลังกลับจากทริปที่คุณนายแอนนาจัดให้เอริคกับเกวลินก็เปิดใจให้กันมากขึ้นเกวลินแม้จะยังไม่รับรักเขาแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ จึงทำให้ทั้งคู่เรียนรู้กันได้ค่อนข้างรวดเร็ว “เกลพรุ่งนี้พี่ต้องไปดูงานด่วนที่ต่างจังหวัดช่วงเย็นถึงจะกลับ แต่นัดประชุมคุยงานกับบริษัท A ไว้แล้วช่วยเลื่อนนัดให้พี่ด้วยนะ” เอริคบอกเกวลินขณะนั่งทานข้าวเช้าในห้องทำงานของเอริคอยู่ “เกลว่าไม่ควรนะคะ เพราะเรานัดลูกค้าล่วงหน้านานแล้วและอีกอย่างหาคิวว่างตรงกันยากมาก ประชุมวันพรุ่งนี้เป็นการคุยรายละเอียดงาน เกลประชุมแทนพี่เอริคก็ได้ค่ะ”“เกลไหวหรอ”“ไหวสิคะ เรื่องแค่นี้สบายมาก อีกอย่างก็มีพี่ๆทีมอื่นเข้าร่วมประชุมด้วยไม่ใช่เกลคนเดียวซักหน่อย เรื่องแค่นี้สบายมาก เลขาเกลจัดการให้ค่ะ”เอริคมองกญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชมไม่คิดว่าเธอจะทำงานเก่งได้ขนาดนี้ แถมยังมีความเป็นผู้นำ กล้าคิดกล้าทำ สามารถช่วยงานเขาได้เป็นอย่างดี“มองทำไมคะ ไม่เชื่อใจเกลหรอ”“เชื่อสิ คู่หมั้นพี่เก่งจะตาย”เขายื่นมือไปขยี้ผมเธอเบาๆ“อื้อ ผมเกลยุ่งหมดแล้วค่ะ”“น่ารักดีออก”“ไม่ต้องมาล้อเลยค่ะ เกลอิ่มแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะบอส”เธอลุกขึ้นพร้อมกับโค้งให้เขา ทำเอาเอ
“วันนี้พี่โทรหากี่สาย”เอริคถามเกวลินเสียงเข้มขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน“สิบสายค่ะ..เกลไม่ได้ยินเสียงจริงๆนะคะ ในร้านเสียงดังมาก”เกวลินรีบแก้ตัว“…”เอริคนิ่งไม่คุยต่อ “เกลขอโทษค่ะ วันหลังจะรีบรับสายเลย โอเคมั้ยคะ”เธอพูดพลางส่งสายตาอ้อนเขา “คราวหลังจะไปไหนมาไหนให้บอกก่อน”เอริคพูดเสียงอ่อนลง แพ้สายตายัยตัวแสบทั้งที่ตั้งใจว่าจะทำมาดเคร่งขรึมใส่เธอ เพราะเขาอุตส่าห์รีบทำงานรีบกลับมาก่อนเวลาเพื่อรีบกลับมาหาเธอ แต่เธอกลับแอบไปกินข้าวกับเพื่อน พอเจอลูกอ้อนยัยหนูเกลเข้าไปถึงกับไปไม่เป็น“แล้วทำไมถึงกลับมาเร็วล่ะคะไหนบอกจะถึงดึกๆ”“ก็เลยไม่บอก”เขายังวางมาดทำเป็นงอลเธออยู่“ป่าวซักหน่อย แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเอง แค่กินข้าวแล้วก็กลับไม่ได้ไปเที่ยวไหนซักหน่อย”เกวลินเริ่มทำหน้างอใส่เขาบ้าง คนอะไรเอาแต่ใจไม่มีเหตุผล แค่นี้ต้องโกรธด้วย“เอาล่ะ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว วันนี้ประชุมทำได้ดี ลูกค้าเขาฝากชม”“จริงหรอคะ แล้วพี่เอริคมีรางวัลให้เกลมั้ยคะ”เธอดีใจทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนเขา ทำเอาเอริคเผลอยิ้มในความน่ารักของเธอ“อยากได้อะไร”“อะไรก็ได้หรอคะ”เอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นเชิงตอบรับ“รางวัลจากพี
ทันทีที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เอริคอุ้ม เกวลินไปวางบนเตียงนอนนุ่มขนาดคิงไซต์ทันที และจัดการถอดเสื้อของตัวเองและเกวลินออก ก่อนจะก้มลงไปดูดกินสองเต้างามของเธออย่างหื่นกระหาย เกวลินที่ตอนนี้สติกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้วได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามความต้องการของตนเองอย่างไม่ขัดขืน แถมยังส่งเสียงครางไม่หยุดยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเอริคเข้าไปใหญ่ เอริคทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกงามของคู่หมั้นสาวอย่างเอร็ดอร่อย หน้าอกคู่นี้เขาพอใจและมีความสุขมากที่ได้ชิม “เกลจ๋า…สวยมากเลย มองทางไหนก็สวยไปหมด พี่อยากจะกินเกลทั้งตัวเลย”เขาเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเธอหลังดูดกินหน้าอกอิ่มจนหนำใจ“อื้ม คนบ้าเกลเขินนะ”เธอค้อนเขา“ก็คู่หมั้นพี่สวยจริงๆนี่นา”พูดจบเขาก็ละเลงลิ้นลงบนหน้าอกงามของเธออีกรอบ ทั้งใช้สองมือบีบขยำ ปากและลิ้นดูดกิน ทำเอาเกวลินเสียวจนร้องครางเสียงดังลั่นห้อง“อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊าย เสียวจัง พี่เอริคเกลเสียว อื้ม”เกวลินทั้งร้องครางและใช้สองมือดึงทึ้งผมของ เอริคเพื่อระบายความเสียว ยิ่งทำให้เอริคพอใจและมีความสุขที่คู่หมั้นสาวชอบบทรักที่ตนมอบให้“เกล วันนี้พี่ขอได้มั้ย”เขาผละจากสองเต้างามหันมาคุยกับหญิงสาวเสียงกระเส่า
ทันทีที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เอริคอุ้ม เกวลินไปวางบนเตียงนอนนุ่มขนาดคิงไซต์ทันที และจัดการถอดเสื้อของตัวเองและเกวลินออก ก่อนจะก้มลงไปดูดกินสองเต้างามของเธออย่างหื่นกระหาย เกวลินที่ตอนนี้สติกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้วได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามความต้องการของตนเองอย่างไม่ขัดขืน แถมยังส่งเสียงครางไม่หยุดยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเอริคเข้าไปใหญ่ เอริคทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกงามของคู่หมั้นสาวอย่างเอร็ดอร่อย หน้าอกคู่นี้เขาพอใจและมีความสุขมากที่ได้ชิม “เกลจ๋า…สวยมากเลย มองทางไหนก็สวยไปหมด พี่อยากจะกินเกลทั้งตัวเลย”เขาเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเธอหลังดูดกินหน้าอกอิ่มจนหนำใจ“อื้ม คนบ้าเกลเขินนะ”เธอค้อนเขา“ก็คู่หมั้นพี่สวยจริงๆนี่นา”พูดจบเขาก็ละเลงลิ้นลงบนหน้าอกงามของเธออีกรอบ ทั้งใช้สองมือบีบขยำ ปากและลิ้นดูดกิน ทำเอาเกวลินเสียวจนร้องครางเสียงดังลั่นห้อง“อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊าย เสียวจัง พี่เอริคเกลเสียว อื้ม”เกวลินทั้งร้องครางและใช้สองมือดึงทึ้งผมของ เอริคเพื่อระบายความเสียว ยิ่งทำให้เอริคพอใจและมีความสุขที่คู่หมั้นสาวชอบบทรักที่ตนมอบให้“เกล วันนี้พี่ขอได้มั้ย”เขาผละจากสองเต้างามหันมาคุยกับหญิงสาวเสียงกระเส่า
“วันนี้พี่โทรหากี่สาย”เอริคถามเกวลินเสียงเข้มขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน“สิบสายค่ะ..เกลไม่ได้ยินเสียงจริงๆนะคะ ในร้านเสียงดังมาก”เกวลินรีบแก้ตัว“…”เอริคนิ่งไม่คุยต่อ “เกลขอโทษค่ะ วันหลังจะรีบรับสายเลย โอเคมั้ยคะ”เธอพูดพลางส่งสายตาอ้อนเขา “คราวหลังจะไปไหนมาไหนให้บอกก่อน”เอริคพูดเสียงอ่อนลง แพ้สายตายัยตัวแสบทั้งที่ตั้งใจว่าจะทำมาดเคร่งขรึมใส่เธอ เพราะเขาอุตส่าห์รีบทำงานรีบกลับมาก่อนเวลาเพื่อรีบกลับมาหาเธอ แต่เธอกลับแอบไปกินข้าวกับเพื่อน พอเจอลูกอ้อนยัยหนูเกลเข้าไปถึงกับไปไม่เป็น“แล้วทำไมถึงกลับมาเร็วล่ะคะไหนบอกจะถึงดึกๆ”“ก็เลยไม่บอก”เขายังวางมาดทำเป็นงอลเธออยู่“ป่าวซักหน่อย แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเอง แค่กินข้าวแล้วก็กลับไม่ได้ไปเที่ยวไหนซักหน่อย”เกวลินเริ่มทำหน้างอใส่เขาบ้าง คนอะไรเอาแต่ใจไม่มีเหตุผล แค่นี้ต้องโกรธด้วย“เอาล่ะ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว วันนี้ประชุมทำได้ดี ลูกค้าเขาฝากชม”“จริงหรอคะ แล้วพี่เอริคมีรางวัลให้เกลมั้ยคะ”เธอดีใจทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนเขา ทำเอาเอริคเผลอยิ้มในความน่ารักของเธอ“อยากได้อะไร”“อะไรก็ได้หรอคะ”เอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นเชิงตอบรับ“รางวัลจากพี
หลังกลับจากทริปที่คุณนายแอนนาจัดให้เอริคกับเกวลินก็เปิดใจให้กันมากขึ้นเกวลินแม้จะยังไม่รับรักเขาแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ จึงทำให้ทั้งคู่เรียนรู้กันได้ค่อนข้างรวดเร็ว “เกลพรุ่งนี้พี่ต้องไปดูงานด่วนที่ต่างจังหวัดช่วงเย็นถึงจะกลับ แต่นัดประชุมคุยงานกับบริษัท A ไว้แล้วช่วยเลื่อนนัดให้พี่ด้วยนะ” เอริคบอกเกวลินขณะนั่งทานข้าวเช้าในห้องทำงานของเอริคอยู่ “เกลว่าไม่ควรนะคะ เพราะเรานัดลูกค้าล่วงหน้านานแล้วและอีกอย่างหาคิวว่างตรงกันยากมาก ประชุมวันพรุ่งนี้เป็นการคุยรายละเอียดงาน เกลประชุมแทนพี่เอริคก็ได้ค่ะ”“เกลไหวหรอ”“ไหวสิคะ เรื่องแค่นี้สบายมาก อีกอย่างก็มีพี่ๆทีมอื่นเข้าร่วมประชุมด้วยไม่ใช่เกลคนเดียวซักหน่อย เรื่องแค่นี้สบายมาก เลขาเกลจัดการให้ค่ะ”เอริคมองกญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชมไม่คิดว่าเธอจะทำงานเก่งได้ขนาดนี้ แถมยังมีความเป็นผู้นำ กล้าคิดกล้าทำ สามารถช่วยงานเขาได้เป็นอย่างดี“มองทำไมคะ ไม่เชื่อใจเกลหรอ”“เชื่อสิ คู่หมั้นพี่เก่งจะตาย”เขายื่นมือไปขยี้ผมเธอเบาๆ“อื้อ ผมเกลยุ่งหมดแล้วค่ะ”“น่ารักดีออก”“ไม่ต้องมาล้อเลยค่ะ เกลอิ่มแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะบอส”เธอลุกขึ้นพร้อมกับโค้งให้เขา ทำเอาเอ
“ว๊าย ไอ้พี่เอริคบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง”เกวลินโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกเขา“เกลเสียงดังอะไรแต่เช้า พี่ยังง่วงอยู่เลย”“ไม่ต้องนอนแล้ว นี่หมายความว่าไงพี่แอบเอาหมอนออกตอนเกลหลับหรอ”เอริคลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มองเขาตาเขียวปั๊ด “คิดดีๆว่าใครเป็นคนถีบหมอนลงไปข้างล่าง”“พี่จะหาว่าเกลเป็นคนทำหรอ”“อือ…ฮึ”“ไอ้คนเห็นแก่ตัว”เธอทุบที่อกเขารัวๆ“เกลพี่เจ็บ”เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เพื่อให้เธอหยุดทุบเขา“หันมองข้างๆสิว่าใครเป็นคนขยับหาใคร” เกวลินมองไปรอบๆเตียงก็พบว่าตัวเองเป็นฝ่ายข้ามฝั่งมาหาเอริคเอง จึงได้แต่ถอนหายใจให้กับความโก๊ะของตัวเอง “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย แค่กอด เกลก็นอนกอดพี่ทั้งคืนเหมือนกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”เกวลินหน้าแดงด้วยความเขิน ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงรีบลุกขึ้นไปสูดอากาศที่ระเบียง“ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”“ยัยบ๊องเอ๊ย น่ารักชิบ”เอริคยิ้มให้กับความโก๊ะของเธอ ก่อนจะเดินตามเกวลินออกไปสูดอากาศข้างนอก เขาเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางเกยไหล่เธอไว้“สดชื่นจัง หอมมากด้วย”เขามองวิวด้านนอกสลับ
เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก“โห สวยมาก”เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น“แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน“พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง“สวยมั้ยคะ”“อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว“คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว”“ได้”“เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า”“มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจ
“ปวดหัวจัง”เกวลินบ่นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า“เอ๊ะ ไม่ใช่หมอนข้าง”เธอเอามือลูบคลำไปทั่วแผงอกแกร่งของเอริค และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ หมอนที่เธอกอดทั้งคืนคือตัวเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินทำตัวไม่ถูกจะมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม“จะหลบไปไหน ยัยตัวแสบ”เอริคที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอดิ้นยุกยิกเรียกให้หยุด เกวลินยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมรอยยิ้มแห้ง“เมื่อคืนเราไม่ได้…เอ่อ…มีอะไรกันใช่มั้ยคะ”“ไม่มี”“เฮ้อ ค่อยยังชั่วนึกว่าเมาแล้วเผลอ…”“แค่จูบ”เขาตอบเธอเสียงนิ่ง“ห๊ะ!!!อะไรนะคะ อีกแล้วหรอเนี่ยยัยเกล ไม่น่าดื่มเยอะเลย”เธอบ่นตัวเอง“อีกแล้ว”เขาเลิกคิ้วถามเธอด้วยความสงสัย“กับใคร”“ไอ้พี่เอริคบ้า”เธอทุบไปที่อกแกร่งของเขา“จะใครล่ะที่ขโมยจูบแรกของเกลไป อุตส่าห์เก็บรักษามาตั้งนาน”“คืนนั้นรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“เอ่อ..จำได้ลางๆค่ะ”“แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ”“รับผิดชอบอะไรคะ เกลเป็นผู้หญิงเกลเสียหายนะ พี่ต้องรับผิดชอบเกลสิถึงจะถูก”“ใครเริ่มก่อนจำได้มั้ย”เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทำทีจะจูบเธอเพื่อระลึกความหลัง“พอแล้วค่ะ เกลจำได้”“งั้น วันนี้ก็รับผิดชอบ”“ให้รับผิดชอบอะไร”“พาเที่
เกวลินพอเจอฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพลงที่ชอบก็เต้นอย่างสนุก จนเอริคที่ยืนอยู่ข้างๆเกิดอาการหวง ขยับเข้าไปโอบเอวเธอไว้ เกวลินที่สติเหลืออยู่แทบไม่ถึงครึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังยกแขนมาคล้องคอเขาให้เต้นไปด้วยกัน กลับกลายเป็นเอริคเองที่ตกใจกับการกระทำของเธอแทน“เกลทำอะไร”เขากระซิบข้างหูเธอ“ชวนพี่เต้น”“เกลเอามือออกยืนเต้นดีๆ”“ก็เกลอยากเห็นพี่เต้นนี่คะ”“ไม่เต้น หันไปเต้นดีๆ ถ้าไม่ปล่อยพี่พากลับแล้วนะ”“ไม่กลับ กำลังสนุก”“งั้นก็หันกลับไปเต้นดีๆ อย่าดื้อ”“โอเคๆ เต้นกับคนแก่ไม่สนุกละ”เธอบ่นเขา“เกล เดี๋ยวจะโดน”เธอไม่สนใจคำพูดเขาซักนิดหันกลับไปเต้นต่ออย่างสนุก ปล่อยให้เอริคยืนใจเต้นรัวข้างๆเธอ เกวลินไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย คงเป็นเพราะสบายใจ อุ่นใจและเชื่อใจที่เป็นเขาถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้“ยัยเด็กแสบใครใช้ให้มาเต้นยั่วแบบนี้”เขาบ่นพึมพำเบาๆ เพราะการกระทำของเธอทำให้เขาคลั่งแทบอยากจะพาเธอกลับไปจัดการที่ห้องตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนข่มใจให้เย็นลง“พี่เอริค…เกล…มึนหัว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มหลังจากดื่มไปหลายแก้วจนเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ใครให้ดื่มเยอะขนาดนี้ กลั
“พี่เอริควันนี้หลังเลิกงานเกลจะไปเยี่ยมพี่เกตุนะคะ”“ไปสิพี่ไปด้วย”หลังเลิกงานทั้งคู่ไปเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนก่อนเดินทางไปเยี่ยมเกตุที่โรงพยาบาล“คุณลูกค้าต้องการของใช้แบบไหนคะ”พนักงานขายเดินมาถามทั้งคู่เพราะเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของพวกเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่“ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ เด็กต้องใช้อะไรบ้างเอามาให้หมดเลยค่ะ”เกวลินตอบพนักงานสาว“เป็นพ่อแม่มือใหม่สินะคะ น่ารักจังเลยนะคะมาช่วยกันเลือกของให้ลูกด้วย”พนักงานสาวพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่นะคะ คือซื้อไปให้หลายค่ะ”เกวลินรีบปฏิเสธทันที ผิดกับเอริคที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา…โรงพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย…“น่ารักน่าชังจังเลยเจ้าตัวเล็ก”เกวลินหมั่นเขี้ยวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกตัวเอง“พี่เอริคอยากลองอุ้มมั้ยคะ”“อุ้มไม่เป็น”“มาเกลช่วย”เธอพาเจ้าตัวเล็กเดินไปหาเอริคที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวโตจะทำสีหน้าดุเธอแค่ไหน“เกล ไม่เอา”เขาปฏิเสธหญิงสาวแต่มือก็ยื่นไปรับลูกชายของเกตุและทำตามคำบอกของเกวลิน อย่างว่าง่าย จนคนอื่นๆหลุดขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเขา เขามองเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน ในหัวพลันคิดว่าถ้าเป็นลูกของเขากับคนท
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เอริคเกลเข้าไปได้มั้ยคะ”“อืม”เอริคตอบรับสั้นๆ“เราจะกลับบ้านกันตอนไหนหรอคะ”“รีบ?”เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปหาเธอ“ป่าวค่ะ แค่เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว”เธอตอบเขาเสียงอ่อย“ขอเคลียร์งานก่อน ถ้าหิวขนมอยู่ตรงนั้นทานได้”เขาบอกเธอก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อเกวลินนั่งมองเขาพลางคิดถึงคำพูดของป้าแอนนาที่บอกว่าเอริคเป็นคนบ้างานมากจนบางทีลืมกินข้าว จนทำให้เป็นโรคกระเพราะ แต่ท่าทางจริงจังของเขาก็ทำให้เธอเผลอมองอยู่นาน เพราะเธอรู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ดูมีเสน่ห์มากบวกกับความหล่อของเขายิ่งชวนหลงใหล“บ้าจริง ยัยเกลคิดอะไรของแก”เกวลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง ก่อนจะนั่งเล่นมือถือรอเขาจนเผลอหลับไปเอริคเคลียร์งานเสร็จเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาจวนจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนเกวลินกลับบ้าน“เกลกลับได้แล้ว”เขาเรียกเธอมือก็เก็บเอกสารไปด้วย โดยไม่ได้มองหญิงสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงหันไปมองพบว่าเธอหลับอยู่ เอริคเดินไปนั่งตรงหน้าเธอและมองใบหน้าสวยละมุนของเธอ“ยัยลูกเป็ดขี้เหร่โตมาสวยได้ขนาดนี้เลยหรอ”เขาพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เกวลินลืมตาตื่นขึ้นม