หลังกลับจากทริปที่คุณนายแอนนาจัดให้เอริคกับเกวลินก็เปิดใจให้กันมากขึ้นเกวลินแม้จะยังไม่รับรักเขาแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ จึงทำให้ทั้งคู่เรียนรู้กันได้ค่อนข้างรวดเร็ว
“เกลพรุ่งนี้พี่ต้องไปดูงานด่วนที่ต่างจังหวัดช่วงเย็นถึงจะกลับ แต่นัดประชุมคุยงานกับบริษัท A ไว้แล้วช่วยเลื่อนนัดให้พี่ด้วยนะ” เอริคบอกเกวลินขณะนั่งทานข้าวเช้าในห้องทำงานของเอริคอยู่ “เกลว่าไม่ควรนะคะ เพราะเรานัดลูกค้าล่วงหน้านานแล้วและอีกอย่างหาคิวว่างตรงกันยากมาก ประชุมวันพรุ่งนี้เป็นการคุยรายละเอียดงาน เกลประชุมแทนพี่เอริคก็ได้ค่ะ” “เกลไหวหรอ” “ไหวสิคะ เรื่องแค่นี้สบายมาก อีกอย่างก็มีพี่ๆทีมอื่นเข้าร่วมประชุมด้วยไม่ใช่เกลคนเดียวซักหน่อย เรื่องแค่นี้สบายมาก เลขาเกลจัดการให้ค่ะ” เอริคมองกญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชมไม่คิดว่าเธอจะทำงานเก่งได้ขนาดนี้ แถมยังมีความเป็นผู้นำ กล้าคิดกล้าทำ สามารถช่วยงานเขาได้เป็นอย่างดี “มองทำไมคะ ไม่เชื่อใจเกลหรอ” “เชื่อสิ คู่หมั้นพี่เก่งจะตาย”เขายื่นมือไปขยี้ผมเธอเบาๆ “อื้อ ผมเกลยุ่งหมดแล้วค่ะ” “น่ารักดีออก” “ไม่ต้องมาล้อเลยค่ะ เกลอิ่มแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะบอส”เธอลุกขึ้นพร้อมกับโค้งให้เขา ทำเอาเอริคหลุดขำกับความน่ารักของเธอ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจมส์เปิดประตูเข้าห้องมาเห็นตอนเขานั่งยิ้มอยู่พอดี “นายยิ้มอะไรครับ” “ซักเรื่อง” “หมู่นี้นายดูมีความสุข ยิ้มง่ายกว่าแต่ก่อนนะครับ ไม่หงุดหงิดง่ายเหมือนเมื่อก่อนด้วย” “ไม่ดีรึไงวะ” “ดีน่ะมันดีอยู่แล้วครับ แต่มันแปลก”เจมส์บอกเจ้านายตามความรู้สึกของตัวเอง “ไอ้เจมส์ เงินเดือนเดือนนี้เหลือครึ่งนึงดีมั้ย ข้อหาว่าเจ้านาย” “ไม่ดีแน่ๆครับนาย นายเป็นแบบนี้มันดีที่สุดแล้วครับผมจะไม่ล้อนายอีกแล้วครับ” “ไอ้นี่ แล้วเข้ามานี่มีธุระอะไร” “พรุ่งนี้เครื่องออก 7 โมงนะครับนาย ตีห้าครึ่งผมไปรับนะครับ ทำไมนายไม่ไปตั้งแต่คืนนี้ล่ะครับจะได้ไม่ต้องตื่นเช้า” “ไม่อยากค้างคืน” ตั้งแต่มีเกวลินเอริคไม่อยากไปนอนที่อื่นโดยที่ไม่มีเธออยู่ด้วย เวลาไปธุระด่วนก็จะรีบไปเช้าเย็นกลับ เพื่อมานอนที่บ้านเสมอ “เกลตื่นมาทำไมแต่เช้า”เอริคที่กำลังจะออกเดินทางตอนเช้าตรู่เห็นเกวลินง่วนอยู่ในครัว “แซนต์วิชค่ะเกลทำไว้ให้ เผื่อคุณเจมส์ด้วยนะคะ”เกวลินยื่นกล่องแซนวิชให้ชายหนุ่ม “ไม่เห็นต้องลำบากเลย แต่ก็ขอบคุณมากนะครับคุณคู่หมั้น” เขารับกล่องแซนต์วิชมาแล้วจุ๊บที่แก้มทั้งสองข้าง กำลังจะเลื่อนไปประกบริมฝีปากเธอ แต่เจมส์เข้ามาขัดจังหวะก่อน ทั้งสองจึงรีบผละออกจากกันทันที “อ้าวคุณเกลตื่นเช้าจังเลยนะครับ” “มาไม่รู้จักดูเวลา ไอ้นี่”เอริคดุลูกน้อง “ก็ตีห้าครึ่งไงครับนาย”เจมส์มองดูเวลาด้วยความงง เพราะเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ ส่วนเกวลินได้แต่ยิ้มให้กับทั้งสองคนที่ยืนเถียงกันอยู่ “ช่างเถอะ ไปได้แล้วเดี๋ยวสาย พี่ไปนะ” “เดินทางปลอดภัยค่ะ” “นายกับคุณเกลนี่จริงจังกันแล้วหรอครับ”เจมส์ถามเอริคหลังขึ้นรถแล้ว “อืม” “ไม่คิดจะปฏิเสธหน่อยหรอครับ ดูไม่ใช่นายคนเดิมเลย” “ทำไม” “ผมไม่เคยเห็นนายมองใครเลยนี่ครับ แต่เป็นคุณเกลก็ดี คุณแอนนาจะได้สบายใจ” “ยังไม่ต้องบอกแม่นะ เกลเขาขอไว้” “ก็ได้ครับ ผมจะรูดซิปปากให้สนิทเลยครับ” “ให้มันจริง” วันนี้เกวลินค่อนข้างตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะต้องทำหน้าที่แทนเขาครั้งแรก แต่พอถึงเวลาประชุมเธอก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ คล่องแคล่ว ทำให้การประชุมในวันนี้ราบรื่นไปด้วยดี แถมยังเป็นที่น่าพอใจของทั้งบริษัทคู่ค้าและเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายอื่นๆ ทุกคนต่างชื่นชมในความสามารถของเธอทั้งที่อายุยังน้อยอยู่ แต่พออยู่ในโหมดจริงจังเธอกลับดูโตเป็นผู้ใหญ่ เอริคเมื่อได้รับโทรศัพท์จากบริษัทคู่ค้าที่โทรมาชมเลขาคนเก่งให้เขาฟัง ก็พลอยยิ้มตามอย่างมีความสุข “เกลวันนี้เลิกงานไปกินชาบูกันมั้ย ฉลองที่ประชุมผ่านไปได้ด้วยดี”พี่ๆที่เข้าร่วมประชุมกับเธอในวันนี้เข้ามาชวนเธอไปทานมื้อเย็น “อืม ได้ค่ะ ขอเกลเคลียร์งานพักนึงนะคะ”เกวลินคิดชั่วครู่ก่อนตอบรับไป ตั้งแต่มาทำงานที่นี่เธอไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนร่วมงานเลย วันๆอยู่แต่กับเอริค ทางด้านเอริคเมื่อลงเครื่องมาก็โทรหาหญิงสาวแต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสาย ทำให้เขากระวนกระวายใจมากเพราะปกติเธอไม่เคยไม่รับสายเขาเลย ในขณะที่ผู้เป็นนายกำลังหัวเสียอยู่เจมส์เห็นภาพเพื่อนร่วมงานโพสต์ลง I* ว่ามาทานชาบูกันอยู่เห็นมีเกวลินนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยจึงส่งให้เจ้านายดู “ไปห้าง” “ห้างไหนครับนาย” “ห้างนี้”เอริคชี้ไปที่รูปภาพในโทรศัพท์ เขาได้แต่นึกน้อยใจที่เลขาของเขาแอบไปทานข้าวกับคนอื่นโดยไม่บอกเขาสักคำ อุตส่ารีบทำงานรีบกลับมาหา ส่วนเกวลินก็กำลังทานอาหารและพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานอย่างสนุกสนานจนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ “บอส!!!”เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็น เอริคเดินเข้ามาในร้าน “จะเป็นไปได้ไงคะบอสไปทำงานที่ต่างจังหวัดอยู่นะคะ”เกวลินที่นั่งหันหลังอยู่บอกทุกคน เพราะเขาบอกเธอเองว่าวันนี้จะมาถึงดึกๆ “พี่ไม่ได้โกหกนะน้องเกล บอสจริงๆ” “กินข้าวกันอยู่หรอขอผมกินด้วยคนสิ”เอริคที่ยืนมาหยุดอยู่ที่โต๊ะของพวกเขาเอ่ยขึ้น พลางสายตามองคาดโทษไปที่เกวลินที่นั่งอยู่ริมสุดติดกับที่เขายืนอยู่ในตอนนี้ “เอ่อ บอสจะทานจริงๆหรอคะ”พี่ใหญ่ในกลุ่มเอ่ยถามบอสด้วยความเกร็ง “อื้ม จริงสิ ฉลองที่วันนี้พวกคุณทำงานได้ดี ผมเลี้ยงเอง” “เกลขยับให้บอสนั่งด้วย ส่วนเจมส์มานั่งข้างพี่ตรงนี้” เกวลินขยับให้เอริคนั่งลงข้างๆตนพลางมองสายตาอำมหิตที่จ้องมาทางเธออย่างไม่ลดละ เกวลินรู้ดีว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะเธอไม่ได้บอกเขาก่อน แต่ก็ช่างเถอะคนอย่างเกวลินจะยอมใครง่ายๆได้ไง เธอต้องเล่นบทเลขามือโปรให้เขาดูซักหน่อย “บอสอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ เดี๋ยวเกลสั่งให้” “ไม่มี ผมทานได้หมด” “งั้นเราจัดชุดใหญ่เลยดีกว่านะคะ ไหนๆวันนี้ก็มีเจ้ามือแล้ว” ทุกคนปรบมือดีใจกันใหญ่ “ขอบคุณค่ะบอส” “บอสจงเจริญ” บรรดารุ่นพี่ต่างของคุณบอสกันใหญ่ เจมส์ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ถึงกับยิ้มออกมา เพราะความจริงแล้วเอริคไม่ชอบมาทานข้าวที่ร้านที่มีคนเยอะๆและเสียงดังแบบนี้ อีกอย่างชาบูก็ไม่อยู่ในตัวเลือกของเขาเลยเพราะร้อนแล้วทำให้เหงื่อออก อาจทำให้เขาหงุดหงิดได้ แต่วันนี้นายของเขาไม่มีอาการเหล่านั้นเลย เขามองเอริคกับเกวลินสลับกันพลางคิดในใจว่าต้องคนแบบนี้ถึงจะเอาเจ้านายเราอยู่ แสบ ซุกซน ไม่กลัวใคร แถมเวลาเอาจริงเอาจังก็นิ่งมาก เจมส์ยิ่งคิดยิ่งคันปากอยากโทรไปเล่าให้คุณนายแอนนาฟังตอนนี้เลย “ลองชิมดูค่ะ อร่อยม๊าก”เกวลินตักอาหารใส่ถ้วยและส่งให้เอริค เอริคหยิบอาหารมาลองชิมดู เขาก็ต้องแปลกใจเพราะชาบูที่หน้าตาบ้านๆแบบนี้กลับมีรสชาติที่อร่อยมาก “อื้ม ใช้ได้” เกวลินและทุกคนที่นั่งลุ้นอยู่ถึงกับโล่งอกและดีใจกันใหญ่ เอริคทานอาหารร่วมกับทุกคนอย่างเอร็ดอร่อย บรรยากาศในโต๊ะก็ดูผ่อนคลายมากขึ้น เกวลินเองเมื่อไม่ต้องกังวลเรื่องเอริคแล้วก็ลงมือทานอย่างมีความสุข “เลอะหมดแล้ว”เอริคบ่นเกวลินที่กินอาหารจนเลอะปากไปหมด พลางใช้นิ้วของตัวเองเช็ดริมฝีปากให้เธออย่างลืมตัว เกวลินและทุกคนในโต๊ะชะงักกับการกระทำของเขา ก่อนที่เกวลินจะได้สติรีบแก้ไขสถานการณ์ “เอ่อ…ของคุณค่ะบอส บอสคงกลัวเสียภาพลักษณ์เลขาใช่มั้ยคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะมีแต่คนกันเอง ไม่มีใครถือ จริงมั้ยคะทุกคน”เธอพูดและหัวเราะกลบเกลื่อน “จริงค่ะบอส”คนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องต่างเห็นด้วยกับเกวลิน มีเพียงเอริคและเจมส์ที่นั่งอมยิ้มอยู่“วันนี้พี่โทรหากี่สาย”เอริคถามเกวลินเสียงเข้มขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน“สิบสายค่ะ..เกลไม่ได้ยินเสียงจริงๆนะคะ ในร้านเสียงดังมาก”เกวลินรีบแก้ตัว“…”เอริคนิ่งไม่คุยต่อ “เกลขอโทษค่ะ วันหลังจะรีบรับสายเลย โอเคมั้ยคะ”เธอพูดพลางส่งสายตาอ้อนเขา “คราวหลังจะไปไหนมาไหนให้บอกก่อน”เอริคพูดเสียงอ่อนลง แพ้สายตายัยตัวแสบทั้งที่ตั้งใจว่าจะทำมาดเคร่งขรึมใส่เธอ เพราะเขาอุตส่าห์รีบทำงานรีบกลับมาก่อนเวลาเพื่อรีบกลับมาหาเธอ แต่เธอกลับแอบไปกินข้าวกับเพื่อน พอเจอลูกอ้อนยัยหนูเกลเข้าไปถึงกับไปไม่เป็น“แล้วทำไมถึงกลับมาเร็วล่ะคะไหนบอกจะถึงดึกๆ”“ก็เลยไม่บอก”เขายังวางมาดทำเป็นงอลเธออยู่“ป่าวซักหน่อย แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเอง แค่กินข้าวแล้วก็กลับไม่ได้ไปเที่ยวไหนซักหน่อย”เกวลินเริ่มทำหน้างอใส่เขาบ้าง คนอะไรเอาแต่ใจไม่มีเหตุผล แค่นี้ต้องโกรธด้วย“เอาล่ะ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว วันนี้ประชุมทำได้ดี ลูกค้าเขาฝากชม”“จริงหรอคะ แล้วพี่เอริคมีรางวัลให้เกลมั้ยคะ”เธอดีใจทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนเขา ทำเอาเอริคเผลอยิ้มในความน่ารักของเธอ“อยากได้อะไร”“อะไรก็ได้หรอคะ”เอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นเชิงตอบรับ“รางวัลจากพี
ทันทีที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เอริคอุ้ม เกวลินไปวางบนเตียงนอนนุ่มขนาดคิงไซต์ทันที และจัดการถอดเสื้อของตัวเองและเกวลินออก ก่อนจะก้มลงไปดูดกินสองเต้างามของเธออย่างหื่นกระหาย เกวลินที่ตอนนี้สติกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้วได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามความต้องการของตนเองอย่างไม่ขัดขืน แถมยังส่งเสียงครางไม่หยุดยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเอริคเข้าไปใหญ่ เอริคทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกงามของคู่หมั้นสาวอย่างเอร็ดอร่อย หน้าอกคู่นี้เขาพอใจและมีความสุขมากที่ได้ชิม “เกลจ๋า…สวยมากเลย มองทางไหนก็สวยไปหมด พี่อยากจะกินเกลทั้งตัวเลย”เขาเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเธอหลังดูดกินหน้าอกอิ่มจนหนำใจ“อื้ม คนบ้าเกลเขินนะ”เธอค้อนเขา“ก็คู่หมั้นพี่สวยจริงๆนี่นา”พูดจบเขาก็ละเลงลิ้นลงบนหน้าอกงามของเธออีกรอบ ทั้งใช้สองมือบีบขยำ ปากและลิ้นดูดกิน ทำเอาเกวลินเสียวจนร้องครางเสียงดังลั่นห้อง“อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊าย เสียวจัง พี่เอริคเกลเสียว อื้ม”เกวลินทั้งร้องครางและใช้สองมือดึงทึ้งผมของ เอริคเพื่อระบายความเสียว ยิ่งทำให้เอริคพอใจและมีความสุขที่คู่หมั้นสาวชอบบทรักที่ตนมอบให้“เกล วันนี้พี่ขอได้มั้ย”เขาผละจากสองเต้างามหันมาคุยกับหญิงสาวเสียงกระเส่า
เอริค : หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หน้าตาหล่อเหลา ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน สูง 190 เซนติเมตร นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงมาดนิ่ง ประธานบริษัทของธุรกิจทางด้าน IT วัย 31 ปีพึ่งได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปีไปหมาดๆ เอริคไม่เคยครบใครจริงจังเลยซักคน แม้ว่าจะมีข่าวซุบซิบกับดาราและสาวๆในแวดวงไฮโซอยู่เรื่อยๆก็ตาม หากแต่เป็นสาวๆที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง เพราะความหล่อและความรวยของเขา แต่เขาไม่เคยคิดจะมีความรักเพราะเขาถือว่าความรักเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขาเกวลิน (เกล) : สาวน้อยแสนสวย ตาโตสูง 165 เซนติเมตรวัย 23 ปี ภายนอกดูขี้เล่น ซุกซน แต่จริงๆแล้วเป็นคนหวงตัว จิตใจดี โอบอ้อมอารีย์กับทุกคน เธอเป็นสาวนักเรียนนอก พึ่งเรียนจบและเดินทางกลับประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่เอริค และเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของ เอริค เป็นว่าที่สะใภ้ที่แม่พระเอกหมายตาไว้ เพราะความสวย น่ารัก สดใสและนิสัยที่ดี ทำงานเก่ง คนแบบนี้ถึงจะเอาผู้ชายอย่างเอริคอยู่คุณนายแอนนา : แม่ของเอริควัย 55 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษกับสามี ชีวิตดีมีความสุขทุกอย่าง มีเรื่องเดียวที่ทำให้เธอเป็นกังวลคือเรื
“นายครับ คืนนี้มีงานประมูลเพชรการกุศลสนใจจะเข้าร่วมมั้ยครับ”เจมส์ผู้ช่วยส่วนตัวถามเอริค“ไปสิ”เอริคตอบเสียงเรียบ“คุณนิต้าที่กำลังเป็นข่าวกับนายอยู่ตอนนี้ก็ไปร่วมงานนี้ด้วยนะครับ ผมเกรงว่าคุณแอนนาจะไม่พอใจเอานะครับ”“ดี งั้นนัดนิต้าให้เข้างานพร้อมกัน”“นายถ้าเป็นข่าวจะเป็นเรื่องใหญ่เอานะครับ เดี๋ยวคุณแอนนาจะไม่พอใจนะครับ”“นั่นแหละสิิ่งที่ผมต้องการ แม่จะได้เลิกจับคู่ผมกับยายหมูอ้วนซักที”“คุณเกวลินเธอไม่อ้วนแล้วนะครับนาย รูปที่คุณแอนนาส่งมาให้ล่าสุดเธอสวยมากๆเลยนะครับ”“นายชอบก็จีบเอาสิ”เอริคก็ยังตอบลูกน้องแบบไม่สนใจใยดีอะไร“แต่เธอเป็นคู่หมั้นนายนะครับ”“คู่หมั้นที่แม่เลือกเองน่ะสิ ผมไม่ได้เห็นด้วยซักหน่อย”ในวัยเด็กแอนนาแม่ของเอริคและแม่ของเกวลินเป็นเพื่อนรักกัน สองครอบครัวหมั้นหมายลูกๆให้กันตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก ในตอนนั้นเอริคไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้เลย เพราะเขาไม่ชอบ เกวลินเป็นที่สุด เด็กอะไรกินเก่งแถมยังขี้แยอีกต่างหาก พวกเขาเจอกันล่าสุดตอนเอริคอายุ 21 ปีซึ่งในตอนนั้นเกวลินอายุเพียง 13 ขวบภาพจำของเขาที่มีต่อเธอจึงไม่ค่อยดีนัก ยิ่งพอรู้ว่าจนถึงตอนนี้แม่ของเขาก็ยังไม่ละค
“นายครับ อาทิตย์หน้าคุณเกวลินจะกลับมาแล้วนะครับ คุณแอนนากำชับว่านายต้องไปรับเธอด้วยตัวเองนะครับ”“เออ รู้แล้ว ตกลงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะ แม่หรือผม”“ลูกน้องนายสิครับ”“อืม รู้ตัวก็ดีนึกว่าโดนแม่ซื้อตัวไปแล้วหายใจเข้า หายใจออกก็มีแต่คุณแอนนา”เอริคนึกย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่ผู้เป็นแม่ยื่นข้อเสนอให้เขาใช้เวลากับเกวลินครึ่งปี หากครบกำหนดแล้วทั้งคู่ไม่รักไม่ชอบกันจริง เธอจะไม่บังคับเขาอีกต่อไป และมีข้อแม้ว่าระหว่างที่เกวลินอยู่ที่บ้านเขา ห้ามทำตัวไม่ดีกับน้อง ต้องให้เกียรติเธอทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เอริคเองก็ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดอย่างว่าง่าย เพราะเขาคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางตดหลุมรักยัยเด็กอ้วนขี้แยคนนั้นแน่นอน“หึ ใครจะไปรักเธอลงยัยเกวลิน”เอริคพึมพำกับตัวเอง“นายว่าอะไรนะครับ”เจมส์ถามเขาเพราะได้ยินไม่ถนัด“ป่าว ไม่มีอะไร ไปทำงานต่อได้แล้ว”“ครับ”เจมส์รับคำก่อนจะขอตัวเดินออกจากห้องไปภาพจำของเอริคที่มีต่อเกวลินคือเป็นยัยเด็กอ้วน กินเก่ง ขี้แยสุดๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเอามากๆ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงจับคู่ให้เขากับเธอ ทั้งที่ดูไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย อี
“นายครับผมเอากระเป๋าคุณเกวลินไปเก็บข้างบนเรียบร้อยแล้วถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”เจมส์แจ้งผู้เป็นนายที่ตอนนี้นั่งเล่นที่โซฟากับเกวลินอยู่“อืม ขอบใจ หิวยังไปกินข้าวจะได้พักผ่อน”เขาตอบรับลูกน้องสั้นๆก่อนหันไปตามเกวลินที่นั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้าม“ก็ดีเหมือนกันค่ะ”เอริคเดินนำเกวลินมาที่โต๊ะอาหาร “นั่งสิ”เขาผายมือเชิญเธอนั่งก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“ป้าพิศ ตักข้าวครับ อ้อลืมแนะนำนี่ป้าพิศแม่บ้านของที่นี่ ส่วนนี่เกวลิน…”“สวัสดีค่ะ เรียกเกลเฉยๆก็ได้นะคะ”เธอทักทายแม่บ้านด้วยรอยยิ้มและท่าทางเป็นกันเอง“สวัสดีค่ะคุณเกล คุณเกลสวยมากๆเลยนะคะ สมกับเป็นคู่หมั้นของคุณเอริคเลยค่ะ เหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก”ป้าพิศพูดตามภาพที่เห็น“ป้าพิศ”เอริคปราม“ค่ะๆไม่พูดแล้วค่ะ เชิญคุณๆทานข้าวตามสบายเลยค่ะ ป้าขอตัวก่อน”ป้าพิศพูดด้วยรอยยิ้มก่อนเดินออกไป“คุณป้าเค้าไปไหนคะ”เกวลินถามด้วยความสงสัยหลังเห็นป้าพิศถือกระเป๋าเดินออกจากบ้านไป“กลับบ้าน”“ห๊ะ กลับบ้าน!!!”เกวลินอุทานด้วยความตกใจ“เสียงดังทำไม นี่มันทุ่มนึงแล้วก็ต้องกลับมั้ย?”“แล้วปกติบ้านหลังนี้พี่เอริคอยู่กับใครคะ”“คนเ
หลังเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าเอริคก็ตัดสินใจถามเกวลินอีกครั้ง“อยากกินอะไร”“……”เกวลินไม่ตอบ“เกลพี่ถามว่าอยากกินอะไร อย่าดื้อ”เขาทำเสียงดุเธอ เธอไม่ตอบแต่ชี้ไปที่ร้านสเต๊ก ก่อนจะเดินนำหน้าเขาเข้าไปในร้าน เอริคได้แต่ถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของเธอ เกวลินจากที่น้อยใจอยู่เมื่ออาหารเข้าปากก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้เลย เอริคที่นั่งสังเกตุอาการของเธออยู่ก็พลอยโล่งใจไปด้วยที่บรรยากาศไม่แย่อย่างที่คิด“เอาของหวานมั้ย”“ได้หรอคะ”เกวลินถามเขาด้วยน้ำเสียงดีใจเอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นการตอบรับแทน“เกลอยากกินบิงซูได้มั้ยคะ ไม่ได้กินนานมากแล้ว”“ไปสิ”เขาตอบรับแบบไม่ต้องคิดตลอดเย็นวันนั้นเขาตามใจเธอทุกอย่าง อยากทำอะไรหรือทานอะไรก็ไม่ขัดสักคำ จนกลับมาถึงบ้าน “ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้”“เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ไม่ต้องขอบคุณ”“เอ่อ…เกลว่าเรามาทำข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันดีมั้ยคะ หกเดือนนี้เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”เกวลินตัดสินใจบอกชายหนุ่มหลังจากคิดเรื่องนี้มาทั้งคืน“ในฐานะที่พี่เอริคเป็นเจ้าของบ้านเกลให้พี่บอกเงื่อนไขของพี่ก่อนเลยค่ะ”เกวลินบอกชายหนุ่มหลังจากที่วิ่
“ยัยเกลมาได้ไง ไหนว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง”เจนหันไปกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ“เลื่อนไฟล์ทน่ะ ก็เลยมาเซอร์ไพร์ส คิดถึงแกมากๆเลย”“คิดถึงเหมือนกัน ไปหาที่นั่งในสวนกัน เดี๋ยวทำของอร่อยไปให้ทาน”ร้านเบอเกอรี่ของเจนเป็นร้านที่ร่มรื่นมากบรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา “เจนแล้วตอนนี้แกพักที่ไหน”“นี่ไงบ้านชั้น”เจนชี้ไปที่บ้านสีขาวที่อยู่ติดกับร้าน“บ้านน่ารักจัง เดี๋ยววันหลังแวะมาเล่นด้วยบ่อยๆ”“ว่าแต่แกเถอะไปอยู่ที่บ้านพี่เค้าเป็นไงบ้าง พี่เขาน่ากลัวรึป่าว”“แกก็พูดไปเรื่อยคนนะไม่ใช่ผี ชั้นว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลย”“ยังไงไหนเล่าซิ”“ก็ตอนแรกที่ชั้นเล่าให้แกฟังว่าเค้าดูไม่น่าคบ ใจร้าย เอาแต่ใจ แต่พอเจอกันจริงๆก็ไม่เป็นแบบนั้นนะ ไม่รู้สิอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก”“แกคงไม่ได้ตกหลุมรักเค้าแล้วนะ”เจนแซวเพื่อน เกวลินตีแขนเพื่อนรักเบาๆ“บ้า!!! พึ่งเจอกันได้สามวันเอง ชั้นใจง่ายขนาดนั้นหรอ อีกอย่างที่มาก็เพื่อให้แม่กับคุณป้าแอนนาสบายใจแค่นั้น อย่างอื่นไม่ได้คิด”“ชั้นจะคอยดู หนุ่มหล่อสาวสวยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เดี๋ยวผีก็ผลักเข้าสักวัน แต่แกระวังไว้หน
ทันทีที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก เอริคอุ้ม เกวลินไปวางบนเตียงนอนนุ่มขนาดคิงไซต์ทันที และจัดการถอดเสื้อของตัวเองและเกวลินออก ก่อนจะก้มลงไปดูดกินสองเต้างามของเธออย่างหื่นกระหาย เกวลินที่ตอนนี้สติกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้วได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามความต้องการของตนเองอย่างไม่ขัดขืน แถมยังส่งเสียงครางไม่หยุดยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเอริคเข้าไปใหญ่ เอริคทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกงามของคู่หมั้นสาวอย่างเอร็ดอร่อย หน้าอกคู่นี้เขาพอใจและมีความสุขมากที่ได้ชิม “เกลจ๋า…สวยมากเลย มองทางไหนก็สวยไปหมด พี่อยากจะกินเกลทั้งตัวเลย”เขาเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเธอหลังดูดกินหน้าอกอิ่มจนหนำใจ“อื้ม คนบ้าเกลเขินนะ”เธอค้อนเขา“ก็คู่หมั้นพี่สวยจริงๆนี่นา”พูดจบเขาก็ละเลงลิ้นลงบนหน้าอกงามของเธออีกรอบ ทั้งใช้สองมือบีบขยำ ปากและลิ้นดูดกิน ทำเอาเกวลินเสียวจนร้องครางเสียงดังลั่นห้อง“อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊าย เสียวจัง พี่เอริคเกลเสียว อื้ม”เกวลินทั้งร้องครางและใช้สองมือดึงทึ้งผมของ เอริคเพื่อระบายความเสียว ยิ่งทำให้เอริคพอใจและมีความสุขที่คู่หมั้นสาวชอบบทรักที่ตนมอบให้“เกล วันนี้พี่ขอได้มั้ย”เขาผละจากสองเต้างามหันมาคุยกับหญิงสาวเสียงกระเส่า
“วันนี้พี่โทรหากี่สาย”เอริคถามเกวลินเสียงเข้มขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน“สิบสายค่ะ..เกลไม่ได้ยินเสียงจริงๆนะคะ ในร้านเสียงดังมาก”เกวลินรีบแก้ตัว“…”เอริคนิ่งไม่คุยต่อ “เกลขอโทษค่ะ วันหลังจะรีบรับสายเลย โอเคมั้ยคะ”เธอพูดพลางส่งสายตาอ้อนเขา “คราวหลังจะไปไหนมาไหนให้บอกก่อน”เอริคพูดเสียงอ่อนลง แพ้สายตายัยตัวแสบทั้งที่ตั้งใจว่าจะทำมาดเคร่งขรึมใส่เธอ เพราะเขาอุตส่าห์รีบทำงานรีบกลับมาก่อนเวลาเพื่อรีบกลับมาหาเธอ แต่เธอกลับแอบไปกินข้าวกับเพื่อน พอเจอลูกอ้อนยัยหนูเกลเข้าไปถึงกับไปไม่เป็น“แล้วทำไมถึงกลับมาเร็วล่ะคะไหนบอกจะถึงดึกๆ”“ก็เลยไม่บอก”เขายังวางมาดทำเป็นงอลเธออยู่“ป่าวซักหน่อย แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเอง แค่กินข้าวแล้วก็กลับไม่ได้ไปเที่ยวไหนซักหน่อย”เกวลินเริ่มทำหน้างอใส่เขาบ้าง คนอะไรเอาแต่ใจไม่มีเหตุผล แค่นี้ต้องโกรธด้วย“เอาล่ะ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว วันนี้ประชุมทำได้ดี ลูกค้าเขาฝากชม”“จริงหรอคะ แล้วพี่เอริคมีรางวัลให้เกลมั้ยคะ”เธอดีใจทำเสียงเล็กเสียงน้อยอ้อนเขา ทำเอาเอริคเผลอยิ้มในความน่ารักของเธอ“อยากได้อะไร”“อะไรก็ได้หรอคะ”เอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นเชิงตอบรับ“รางวัลจากพี
หลังกลับจากทริปที่คุณนายแอนนาจัดให้เอริคกับเกวลินก็เปิดใจให้กันมากขึ้นเกวลินแม้จะยังไม่รับรักเขาแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ จึงทำให้ทั้งคู่เรียนรู้กันได้ค่อนข้างรวดเร็ว “เกลพรุ่งนี้พี่ต้องไปดูงานด่วนที่ต่างจังหวัดช่วงเย็นถึงจะกลับ แต่นัดประชุมคุยงานกับบริษัท A ไว้แล้วช่วยเลื่อนนัดให้พี่ด้วยนะ” เอริคบอกเกวลินขณะนั่งทานข้าวเช้าในห้องทำงานของเอริคอยู่ “เกลว่าไม่ควรนะคะ เพราะเรานัดลูกค้าล่วงหน้านานแล้วและอีกอย่างหาคิวว่างตรงกันยากมาก ประชุมวันพรุ่งนี้เป็นการคุยรายละเอียดงาน เกลประชุมแทนพี่เอริคก็ได้ค่ะ”“เกลไหวหรอ”“ไหวสิคะ เรื่องแค่นี้สบายมาก อีกอย่างก็มีพี่ๆทีมอื่นเข้าร่วมประชุมด้วยไม่ใช่เกลคนเดียวซักหน่อย เรื่องแค่นี้สบายมาก เลขาเกลจัดการให้ค่ะ”เอริคมองกญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชมไม่คิดว่าเธอจะทำงานเก่งได้ขนาดนี้ แถมยังมีความเป็นผู้นำ กล้าคิดกล้าทำ สามารถช่วยงานเขาได้เป็นอย่างดี“มองทำไมคะ ไม่เชื่อใจเกลหรอ”“เชื่อสิ คู่หมั้นพี่เก่งจะตาย”เขายื่นมือไปขยี้ผมเธอเบาๆ“อื้อ ผมเกลยุ่งหมดแล้วค่ะ”“น่ารักดีออก”“ไม่ต้องมาล้อเลยค่ะ เกลอิ่มแล้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะบอส”เธอลุกขึ้นพร้อมกับโค้งให้เขา ทำเอาเอ
“ว๊าย ไอ้พี่เอริคบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง”เกวลินโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกเขา“เกลเสียงดังอะไรแต่เช้า พี่ยังง่วงอยู่เลย”“ไม่ต้องนอนแล้ว นี่หมายความว่าไงพี่แอบเอาหมอนออกตอนเกลหลับหรอ”เอริคลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มองเขาตาเขียวปั๊ด “คิดดีๆว่าใครเป็นคนถีบหมอนลงไปข้างล่าง”“พี่จะหาว่าเกลเป็นคนทำหรอ”“อือ…ฮึ”“ไอ้คนเห็นแก่ตัว”เธอทุบที่อกเขารัวๆ“เกลพี่เจ็บ”เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เพื่อให้เธอหยุดทุบเขา“หันมองข้างๆสิว่าใครเป็นคนขยับหาใคร” เกวลินมองไปรอบๆเตียงก็พบว่าตัวเองเป็นฝ่ายข้ามฝั่งมาหาเอริคเอง จึงได้แต่ถอนหายใจให้กับความโก๊ะของตัวเอง “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย แค่กอด เกลก็นอนกอดพี่ทั้งคืนเหมือนกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”เกวลินหน้าแดงด้วยความเขิน ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงรีบลุกขึ้นไปสูดอากาศที่ระเบียง“ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”“ยัยบ๊องเอ๊ย น่ารักชิบ”เอริคยิ้มให้กับความโก๊ะของเธอ ก่อนจะเดินตามเกวลินออกไปสูดอากาศข้างนอก เขาเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางเกยไหล่เธอไว้“สดชื่นจัง หอมมากด้วย”เขามองวิวด้านนอกสลับ
เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก“โห สวยมาก”เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น“แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน“พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง“สวยมั้ยคะ”“อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว“คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว”“ได้”“เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า”“มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจ
“ปวดหัวจัง”เกวลินบ่นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า“เอ๊ะ ไม่ใช่หมอนข้าง”เธอเอามือลูบคลำไปทั่วแผงอกแกร่งของเอริค และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ หมอนที่เธอกอดทั้งคืนคือตัวเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินทำตัวไม่ถูกจะมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม“จะหลบไปไหน ยัยตัวแสบ”เอริคที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอดิ้นยุกยิกเรียกให้หยุด เกวลินยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมรอยยิ้มแห้ง“เมื่อคืนเราไม่ได้…เอ่อ…มีอะไรกันใช่มั้ยคะ”“ไม่มี”“เฮ้อ ค่อยยังชั่วนึกว่าเมาแล้วเผลอ…”“แค่จูบ”เขาตอบเธอเสียงนิ่ง“ห๊ะ!!!อะไรนะคะ อีกแล้วหรอเนี่ยยัยเกล ไม่น่าดื่มเยอะเลย”เธอบ่นตัวเอง“อีกแล้ว”เขาเลิกคิ้วถามเธอด้วยความสงสัย“กับใคร”“ไอ้พี่เอริคบ้า”เธอทุบไปที่อกแกร่งของเขา“จะใครล่ะที่ขโมยจูบแรกของเกลไป อุตส่าห์เก็บรักษามาตั้งนาน”“คืนนั้นรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“เอ่อ..จำได้ลางๆค่ะ”“แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ”“รับผิดชอบอะไรคะ เกลเป็นผู้หญิงเกลเสียหายนะ พี่ต้องรับผิดชอบเกลสิถึงจะถูก”“ใครเริ่มก่อนจำได้มั้ย”เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทำทีจะจูบเธอเพื่อระลึกความหลัง“พอแล้วค่ะ เกลจำได้”“งั้น วันนี้ก็รับผิดชอบ”“ให้รับผิดชอบอะไร”“พาเที่
เกวลินพอเจอฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพลงที่ชอบก็เต้นอย่างสนุก จนเอริคที่ยืนอยู่ข้างๆเกิดอาการหวง ขยับเข้าไปโอบเอวเธอไว้ เกวลินที่สติเหลืออยู่แทบไม่ถึงครึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังยกแขนมาคล้องคอเขาให้เต้นไปด้วยกัน กลับกลายเป็นเอริคเองที่ตกใจกับการกระทำของเธอแทน“เกลทำอะไร”เขากระซิบข้างหูเธอ“ชวนพี่เต้น”“เกลเอามือออกยืนเต้นดีๆ”“ก็เกลอยากเห็นพี่เต้นนี่คะ”“ไม่เต้น หันไปเต้นดีๆ ถ้าไม่ปล่อยพี่พากลับแล้วนะ”“ไม่กลับ กำลังสนุก”“งั้นก็หันกลับไปเต้นดีๆ อย่าดื้อ”“โอเคๆ เต้นกับคนแก่ไม่สนุกละ”เธอบ่นเขา“เกล เดี๋ยวจะโดน”เธอไม่สนใจคำพูดเขาซักนิดหันกลับไปเต้นต่ออย่างสนุก ปล่อยให้เอริคยืนใจเต้นรัวข้างๆเธอ เกวลินไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย คงเป็นเพราะสบายใจ อุ่นใจและเชื่อใจที่เป็นเขาถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้“ยัยเด็กแสบใครใช้ให้มาเต้นยั่วแบบนี้”เขาบ่นพึมพำเบาๆ เพราะการกระทำของเธอทำให้เขาคลั่งแทบอยากจะพาเธอกลับไปจัดการที่ห้องตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนข่มใจให้เย็นลง“พี่เอริค…เกล…มึนหัว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มหลังจากดื่มไปหลายแก้วจนเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ใครให้ดื่มเยอะขนาดนี้ กลั
“พี่เอริควันนี้หลังเลิกงานเกลจะไปเยี่ยมพี่เกตุนะคะ”“ไปสิพี่ไปด้วย”หลังเลิกงานทั้งคู่ไปเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนก่อนเดินทางไปเยี่ยมเกตุที่โรงพยาบาล“คุณลูกค้าต้องการของใช้แบบไหนคะ”พนักงานขายเดินมาถามทั้งคู่เพราะเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของพวกเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่“ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ เด็กต้องใช้อะไรบ้างเอามาให้หมดเลยค่ะ”เกวลินตอบพนักงานสาว“เป็นพ่อแม่มือใหม่สินะคะ น่ารักจังเลยนะคะมาช่วยกันเลือกของให้ลูกด้วย”พนักงานสาวพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่นะคะ คือซื้อไปให้หลายค่ะ”เกวลินรีบปฏิเสธทันที ผิดกับเอริคที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา…โรงพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย…“น่ารักน่าชังจังเลยเจ้าตัวเล็ก”เกวลินหมั่นเขี้ยวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกตัวเอง“พี่เอริคอยากลองอุ้มมั้ยคะ”“อุ้มไม่เป็น”“มาเกลช่วย”เธอพาเจ้าตัวเล็กเดินไปหาเอริคที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวโตจะทำสีหน้าดุเธอแค่ไหน“เกล ไม่เอา”เขาปฏิเสธหญิงสาวแต่มือก็ยื่นไปรับลูกชายของเกตุและทำตามคำบอกของเกวลิน อย่างว่าง่าย จนคนอื่นๆหลุดขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเขา เขามองเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน ในหัวพลันคิดว่าถ้าเป็นลูกของเขากับคนท
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เอริคเกลเข้าไปได้มั้ยคะ”“อืม”เอริคตอบรับสั้นๆ“เราจะกลับบ้านกันตอนไหนหรอคะ”“รีบ?”เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปหาเธอ“ป่าวค่ะ แค่เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว”เธอตอบเขาเสียงอ่อย“ขอเคลียร์งานก่อน ถ้าหิวขนมอยู่ตรงนั้นทานได้”เขาบอกเธอก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อเกวลินนั่งมองเขาพลางคิดถึงคำพูดของป้าแอนนาที่บอกว่าเอริคเป็นคนบ้างานมากจนบางทีลืมกินข้าว จนทำให้เป็นโรคกระเพราะ แต่ท่าทางจริงจังของเขาก็ทำให้เธอเผลอมองอยู่นาน เพราะเธอรู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ดูมีเสน่ห์มากบวกกับความหล่อของเขายิ่งชวนหลงใหล“บ้าจริง ยัยเกลคิดอะไรของแก”เกวลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง ก่อนจะนั่งเล่นมือถือรอเขาจนเผลอหลับไปเอริคเคลียร์งานเสร็จเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาจวนจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนเกวลินกลับบ้าน“เกลกลับได้แล้ว”เขาเรียกเธอมือก็เก็บเอกสารไปด้วย โดยไม่ได้มองหญิงสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงหันไปมองพบว่าเธอหลับอยู่ เอริคเดินไปนั่งตรงหน้าเธอและมองใบหน้าสวยละมุนของเธอ“ยัยลูกเป็ดขี้เหร่โตมาสวยได้ขนาดนี้เลยหรอ”เขาพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เกวลินลืมตาตื่นขึ้นม