LOGINคู่ปรับในวัยเด็กต้องโคจรมาใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกันตามสัญญาหมั้นหมายของพ่อแม่ ต่างฝ่ายต่างมีอคติต่อกันจนไม่อยากมองหน้ากัน พยายามทำทุกอย่างเพื่อถอนหมั้น แต่ดูเหมือนยิ่งพยายามหนียิ่งมีแรงดึงดูดให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น
View Moreเอริค : หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หน้าตาหล่อเหลา ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน สูง 190 เซนติเมตร นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงมาดนิ่ง ประธานบริษัทของธุรกิจทางด้าน IT วัย 31 ปีพึ่งได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปีไปหมาดๆ เอริคไม่เคยครบใครจริงจังเลยซักคน แม้ว่าจะมีข่าวซุบซิบกับดาราและสาวๆในแวดวงไฮโซอยู่เรื่อยๆก็ตาม หากแต่เป็นสาวๆที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง เพราะความหล่อและความรวยของเขา แต่เขาไม่เคยคิดจะมีความรักเพราะเขาถือว่าความรักเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขา
เกวลิน (เกล) : สาวน้อยแสนสวย ตาโตสูง 165 เซนติเมตรวัย 23 ปี ภายนอกดูขี้เล่น ซุกซน แต่จริงๆแล้วเป็นคนหวงตัว จิตใจดี โอบอ้อมอารีย์กับทุกคน เธอเป็นสาวนักเรียนนอก พึ่งเรียนจบและเดินทางกลับประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่เอริค และเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของ เอริค เป็นว่าที่สะใภ้ที่แม่พระเอกหมายตาไว้ เพราะความสวย น่ารัก สดใสและนิสัยที่ดี ทำงานเก่ง คนแบบนี้ถึงจะเอาผู้ชายอย่างเอริคอยู่ คุณนายแอนนา : แม่ของเอริควัย 55 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษกับสามี ชีวิตดีมีความสุขทุกอย่าง มีเรื่องเดียวที่ทำให้เธอเป็นกังวลคือเรื่องคู่ครองของลูกชายสุดที่รัก ที่หนีพ่อกับแม่มาเปิดธุรกิจของตัวเองที่เมืองไทย ความหวังสูงสุดของเธอคือการได้เลี้ยงหลานในบั้นปลายชีวิต เจมส์ : ผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้ใจเอริคมากที่สุด นอกจากเป็นลูกน้อง เขายังเป็นทั้งเพื่อนและน้องชายที่เอริครักและไว้ใจมากที่สุด แต่มีนิสัยที่แตกต่างจากเอริคโดยสิ้นเชิง นอกจากทำงานเก่งเหมือนกันก็ไม่มีอะไรที่เหมือนเอริคเลยเพราะเขาเป็นคนเจ้าเสน่ห์ ร่าเริง และเป็นมิตรกับทุกคน เจน : เจ้าของร้านเบเกอรี่ เป็นคนร่าเริง สนุกสนานและเป็นเพื่อนรักเกวลินตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่สนิทกันมากไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็จะปรึกษากันตลอด เรื่องย่อ คู่ปรับในวัยเด็กอย่างเอริคและเกวลินต้องโคจรมาเจอกันอีกครั้งตามสัญญาหมั้นหมายของพ่อแม่ หลังจากพยายามหลบหน้ากันมานานหลายปี ทั้งคู่ต้องมาใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกันเป็นเวลาครึ่งปีตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ต่างคนต่างมีอคติต่อกันจนไม่อยากมองหน้ากันแต่เหมือนว่ายิ่งพยายามหนีเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น“เป็นไงบ้างคะเหนื่อยมั้ย เจนแวะเอาข้าวมาให้”เจนถือกล่องข้าวเที่ยงเดินเข้ามาหาเจมส์ในห้องทำงาน“เหนื่อยนิดหน่อยครับ ยังต้องปรับตัวอีกเยอะ แต่มีกำลังใจดีอย่างนี้พี่สู้ตาย”เจมส์เดินเข้าไปกอดและหอมเจนหลายฟอดตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่เจมส์ออกมาดูแลบริษัทใหม่ที่เอริคสร้างไว้ให้ เขาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างหนักเพื่อเรียนรู้งาน ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้นแต่เขายังไม่อยากให้คนที่ไว้ใจและเชื่อใจเขามากที่สุดอย่างเอริคต้องผิดหวัง เจนที่รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีจึงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆเสมอ “หวานเกินไปแล้ว”เอริคที่พึ่งเปิดประตูเข้ามาแซวคนทั้งคู่“พี่มาได้ไงครับ”เจมส์รีบผละออกจากเจนทันที“ได้ยินข่าวว่ายุ่งเลยแวะมาดู แต่ได้กำลังใจดีขนาดนี้น่าจะไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วมั้ง”“กำลังใจดีครับ แต่เรื่องงานก็ยังต้องปรึกษาพี่อยู่ดี”“กำลังใจอะไรคะเกลได้ยินไม่ถนัด”เกวลินที่พึ่งถือถุงอาหารเดินตามมาถามทุกคน“ก็คนที่เรากำลังห่วง ดูท่าจะไม่ต้องการเราแล้ว”เอริคยังแซวเจมส์ไม่เลิก“พี่เอริคก็แซวเกินไปค่ะเจนเขินไปหมดแล้ว”เจนพูดติดตลกกับทุกคน ทำเอาคนอื่นๆพลอยหัวเราะไปด้วย“ใช่ค่ะ พี่ก็แซวเกินไป แต่แกก็หวา
“เกลเสร็จยัง”“มาแล้วค่ะ”วันนี้ทั้งคู่มีนัดแคมป์ปิ้งกับเจมส์และเจน เมื่อ เอริคขนของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วจึงเรียกภรรยาที่ตอนนี้ยังแต่งตัวไม่เสร็จ“เร่งจัง เกลเลือกชุดอยู่”เกวลินที่พึ่งแต่งตัวเสร็จรีบวิ่งลงมาหาสามีข้างล่างหาพร้อมกับชุดเอี๊ยมสีน้ำตาลน่ารัก“สวยแล้ว แต่งอะไรขนาดนั้นพี่หวง วันนี้เมียพี่แต่งตัวน่ารักจัง”เขาบอกภรรยาหลังจากมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าและดึงเธอเข้าไปกอดและหอมอย่างหมั่นเขี้ยว “อื้อ พอแล้วค่ะเครื่องสำอางลบหมดแล้ว”“เมียพี่ถึงไม่แต่งก็สวย อย่าสวยให้มันมากนักพี่ไม่ชอบให้คนอื่นมอง”“ขี้หวง ไปกันได้แล้วค่ะเดี๋ยวถึงช้ายัยเจนจะบ่นเอา”ทั้งคู่ใช้เวลาเดินทางเกือบสามชั่วโมงก็ถึงสถานที่ แคมป์ปิ้ง โดยมีเจมส์และเจนที่รออยู่ก่อนหน้าแล้ว “ยัยเกลทางนี้”เจนโบกมือเรียกเพื่อนรัก“สดชื่นจังเลยอากาศดีมาก”เกลคุยกับเพื่อนรักเมื่อเดินมาถึงเดิมทีวันนี้เอริคกับเจมส์อยากมากางเต้นท์นอนแต่กลัวสาวๆลำบากเกินไปจึงเลือกที่แคมป์ปิ้งที่มีรถบ้าน จะได้สะดวกสบายหน่อยหากสาวๆชอบครั้งหน้าถึงจะพาพวกเธอไปกางเต้นท์นอน“รถบ้านก็น่าอยู่จัง ข้างในสวยมากเลยพี่เอริคมาดูทางนี้ค่ะ”เกวลินที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เจมส์มีอะไรคะ”เจนนึกแปลกใจที่เจมส์มาเคาะประตูกลางดึกแต่เมื่อถามไปก็ไม่มีเสียงตอบกลับจึงเดินออกมาเปิดประตูเจมส์ไม่พูดพร่ำทำเพลงเข้าไปจูบเธออย่างเร่าร้อนทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว“อื้อ คนบ้าเป็นอะไรคะ อยู่ดีๆมาเคาะห้องจูบคนอื่น”“เป็นคนที่รักเจนไงครับ”“นี่พี่ดื่มเหล้ามาหรอคะ พี่เมารึเปล่า”“ไม่เมาพี่แค่ย้อมใจ”“ย้อมใจทำไม”เจนถามเขาเสียงสั่นชายหนุ่มไม่ตอบแต่ก้มลงไปจูบเธอพร้อมกับผลักประตูออกและดันเธอเข้าห้อง เขาเลื่อนสองมือลงมาบีบเค้นสะโพกงามพลางจูบแลกลิ้นกับเธออย่างเร่าร้อน เจนที่โดนรสจูบของเขาเข้าไปถึงกับอ่อนระทวยยืนแทบไม่อยู่จนต้องใช้สองแขนโอบรอบคอเขาไว้“วันนี้พี่ขอได้มั้ย”“ขะ…ขออะไรคะ”“เป็นของพี่นะ”เขากระซิบข้างหูเธอด้วยเสียงกระเส่า“พี่เจมส์เจนไม่เคย”“พี่จะสอนเจนเองนะครับ”พูดจบเจมส์ไม่รอคำตอบประกบปากจูบเธอทันทีพร้อมกับดันหญิงสาวให้เดินไปนั่งบนเตียงก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักตัวเองเจมส์ใช้สองมือบีบคลึงสองเต้างามของเจนจากด้านนอกก่อนจะสอดมือเข้าไปสัมผัสและบีบคลึงสองเต้าอวบอิ่มในชุดนอน“อื้อ”เจนสะดุ้งและร้องครางออกมา“หืม ไม่ได้ใส่เสื้อในด้วยจะยั่วพี่หรอ”“บ้า
เจมส์นั่งดื่มกับญาติๆของเจนจนดึกดื่นก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนพ่อกับแม่ก็เข้านอนกันหมดแล้ว เหลือเพียงเจนที่นั่งดูทีวีรอเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น“ยังไม่นอนอีกหรอ”“รอพี่นั่นแหละ ดื่มอะไรขนาดนั้น ไปค่ะเดี๋ยวเจนพาไปดูห้องนอน”เจนพาเขาเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน ข้างบนมีห้องนอนสองห้องคือห้องของเธอกับอีกห้องเอาไว้รับรองแขก ส่วนพ่อกับแม่นอนข้างล่างเพราะอายุมากแล้วเดินขึ้นข้างบนไม่ไหว“พี่นอนห้องนี้นะคะ ตรงนั้นห้องนอนเจนถ้าอยากได้อะไรก็บอก”“อยากได้เจน”“ไอ้พี่เจมส์บ้าเข้าห้องไปเลย”“งั้นขอพี่มัดจำไว้ก่อน”พูดจบเขาก้มลงประกบริมฝีปากจูบเธออย่างดูดดื่มทันที ก่อนจะผลักประตูห้องนอนของตัวเองและดึงเธอล้มลงไปนอนด้วยกัน“พี่กลัวผีคืนนี้นอนด้วยกันนะ”“ไม่เอา ปล่อยเลยเจนจะกลับห้อง”“สัญญาว่านอนกอดเฉยๆไม่ทำอะไร นะครับ”เจนที่แพ้ลูกอ้อนของเขาก็ยอมใจอ่อนตามใจเขาจนได้“งั้นก็รีบนอนค่ะ”เมื่อแสงจากแดดในยามเช้าส่องลอดผ้าม่านหน้าต่างเข้ามาทำให้เจนลืมตาตื่น เธอมองไปรอบๆก็ไม่พบเจมส์อยู่ในห้อง เจนเดินกลับห้องไปอาบน้ำและเดินลงไปข้างล่างเห็นเจมส์เดินถือผักเต็มตะกร้ากำลังกลับเข้าบ้านพร้อมพ่อของตน เธอมองดูทั้งคู่





