เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก
“โห สวยมาก” เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น “แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน “พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง “สวยมั้ยคะ” “อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว “คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว” “ได้” “เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า” “มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจเต้นแรงเพราะกลัวจะเป็นเหมือนเมื่อคืนอีก แต่วันนี้เธอตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเมาเหมือนเมื่อคืนแน่นอน เพราะเธอคิดว่าถ้าไม่เมาก็ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรต้องกังวล เมื่อเธอเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินไปหาเอริคที่นอนพักผ่อนที่เก้าอี้นอกระเบียง เมื่อเดินไปถึงก็เห็นเขากำลังหลับอยู่จึงลงไปนั่งข้างและใช้นิ้วจิ้มที่ดั้งจมูดของเขา “ตอนหลับก็น่ารักดีนะ ขับรถทั้งวันคงจะเพลีย ไม่กวนละปล่อยให้นอนซักพักค่อยปลุกแล้วกัน” เกวลินกำลังจะลุกออกไปแต่เอริคคว้าข้อมือเธอไว้ ทำให้เธอเสียหลักล้มลงไปทับบนตัวเขา “ว๊าย” “แอบทำอะไรตอนพี่หลับ” “ปะ…เปล่านะคะ ปล่อยเกลได้แล้ว” “ไม่ปล่อย เห็นอยู่ว่าเมื่อกี้ลวนลามพี่” “ลวนลามที่ไหนเกลแค่จิ้มจมูกเอง” “นั่นแหละ” “แล้วที่พี่กอดเกลแบบนี้เรียกว่าอะไรคะ” “กอด” “พี่เอริค!! ไอ้คนฉวยโอกาสปล่อยเลย” เอริคไม่ตอบแต่กระชับกอดเกวลินแน่นเขาใช้สองมือโอบรอบเอวหญิงสาวไว้แน่น พร้อมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เธอ “ไอ้พี่เอริคบ้า บอกให้ปล่อยไม่ได้บอกให้กอดแน่นขึ้น” “พี่อยากกอด” “เป็นบ้าอะไรคะ แต่ก่อนไม่ชอบเกลจะตาย ตอนนี้มากอดมาจูบ เกลรับมือไม่ทันแล้วนะ”เธอพูดความในใจที่สงสัยมานาน “ก็ตอนนี้ชอบแล้ว” “พี่เอริค อย่ามาล้อเล่นแบบนี้นะคะ” “พี่ไม่ได้ล้อเล่น”พูดจบเขาก็โน้มหน้าเข้าไปจูบเธอทันที “อื้อ เกลไม่ใช่ของเล่นของพี่นะ” “พี่ไม่ได้บอกว่าเป็นของเล่น แต่เกลเป็นคู่หมั้นพี่” “คู่หมั้นที่ไม่เคยชอบหน้ากันเลยน่ะหรอคะ อีกแค่สามเดือนเราก็จะเป็นอิสระจากกันแล้ว” “พี่ไม่ปล่อยเกลไปไหนทั้งนั้น”เขาขึ้นเสียงใส่เธอ “พี่เอริค!!!” “นอนตรงนี้ซักพักได้มั้ยพี่อยากกอดเกลต่ออีกหน่อย”เขาพูดพลางลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เกวลินจะยอมทำตามคำขอของเขา ขยับลงไปนอนข้างๆปล่อยให้เขาโอบกอดเธออย่างนั้น เกวลินสับสนไปหมดทั้งคำพูดและการกระทำของเอริคที่เปลี่ยนไป ทำให้เธอไม่แน่ใจว่าที่เขาบอกชอบเธอมันเป็นเรื่องจริงหรือแค่แกล้งเธอเล่น คนที่เคยเกลียดกันมากๆอยู่ดีๆจะชอบกันได้ง่ายขนาดนี้เลยหรอ เธอคิดยังไงก็คิดไม่ตก แม้แต่ตัวเธอเองตอนนี้ยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าตอนนี้ชอบเขาเข้าแล้วจริงๆหรอ หรือแค่เผลอตัวเผลอใจไปกับความหล่อเหลาและการดูแลเอาใจใส่ของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ช่างเถอะ วันนี้เธอขอปล่อยตัวปล่อยใจตามใจตัวเองก่อนแล้วกัน อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดก่อนจะหลับตาลงนอนในอ้อมกอดอบอุ่น เอริครู้สึกตัวตื่นขึ้นมาประมาณหกโมงเย็น เขามองหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยความเสน่หา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากและลุกขึ้นไปสั่งอาหารเย็นรอเธอ เกวลินลืมตาตื่นมองไปเห็นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ พลางสายตาเหลือบไปเห็นคนตัวโตว่ายน้ำอยู่ในสระ เธอลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาชายหนุ่มทันที “ขับรถทั้งวันเหนื่อยไม่พอหรอคะ ทำไมมาว่ายน้ำอีก” เอริคที่กำลังว่ายน้ำอยู่เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวก็หยุดและว่ายน้ำกลับไปหาเธอทันที “สดชื่นดีนะ ว่ายน้ำท่ามกลางวิวสวยๆ” “เดี๋ยวก็ไม่สบาย” “ห่วงหรอ” “ป๊าว”เกวลินเสียงสูง “หึ”เอริคหัวเราะในลำคอ พลางส่งมือให้เกวลินดึงเขาขึ้นจากสระ เมื่อเธอจับมือเขาเอริคดึงเกวลินลงมาในสระทันที “อร๊าย ไอ้พี่เอริค!!” “สดชื่นมั้ย”เอริคดึงเธอเข้ามากอด “พอเลย เล่นไม่รู้เรื่อง เกลจะไปอาบน้ำแล้ว” …จุ๊บ… เอริคจุ๊บที่หน้าผากของเธอหนึ่งที “เล่นน้ำเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ”เขาพูดขณะที่ก้มหน้าลงไปหาเธอจนหน้าผากและจมูกชนกัน มือโอบเอวเธอไว้แน่น เกวลินใจเต้นตึกตึกกับการกระทำของเขา “พี่จะ…ทำอะไร”เธอถามเขาเสียงสั่น “อยากเล่นน้ำกับคู่หมั้น”เขาพูดหน้าตานิ่งเฉย จนเกวลินเดาทางไม่ถูกว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่ “ไม่เล่นแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายค่ำแล้ว”เธอตอบพร้อมหลบสายตาเขา เอริคเชยคางเธอให้หันมามองหน้าเขาก่อนจะก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม เกวลินตอนแรกเหมือนจะขัดขืนพยายามผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล ซักพักเธอเริ่มเคลิ้มกับรสจูบที่เขามอบให้เผยอริมฝีปากรับ ทำให้เอริคได้โอกาสส่งลิ้นร้อนมาหยอกล้อกับปากเธอ และจับมือทั้งสองข้างของเกวลินโอบรอบคอของเขาไว้ “หวานจัง”เขาบอกเธอหลังจากคลายจูบออกให้เธอได้หายใจก่อนจะก้มลงไปบรรจงจูบเธออีกครั้ง ทั้งคู่จูบกันท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่ท้องของเกวลินจะร้องขึ้นมาเสียงดัง ทำเอาทั้งคู่หลุดขำกันใหญ่ “หิวหรอ” “ค่ะ” “ไปสิพี่สั่งอาหารไว้ให้แล้ว”พูดจบเขาจูงมือเธอจึ้นจากสระทันที ทั้งที่ใจจริงอยากทำมากกว่านี้ แต่ต้องข่มอารมณ์และความต้องการของตัวเองไว้ หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จอาหารเย็นมื้อใหญ่ก็มีเสิร์ฟพร้อมกับไวน์เย็นๆ ทั้งคู่นั่งทานอาหารเย็นที่โต๊ะทานข้าวริมระเบียง ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืนสุดแสนโรแมนติก เพราะอากาศเย็นๆ และหมู่ดาวที่ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า “สวยจัง”เกวลินมองออกไปยังท้องฟ้ากว้างใหญ่ “อาหารก็น่าทานมาก”เธอพูดก่อนจะจัดการอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ตามประสาคนกินเก่ง เอริคเมื่อเห็นเธอมีความสุข เขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย “ค่อยๆกิน เดี๋ยวก็ติดคอ” “ก็มันอร่อยนี่คะ” “กินเก่งขนาดนี้ ทำไมโตมาถึงผอมได้” “เห็นแบบนี้เกลก็ออกกำลังกายนะ” “ตอนเย็นพี่ชวนว่ายน้ำไม่เห็นสนใจ” เกวลินคิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นหน้าก็แดงขึ้นมา ภาพซิกแพคแน่นๆและใบหน้าหล่อๆของเขาทำให้เธอไม่เป็นอันทำอะไร “วันนี้เกลเหนื่อย เดี๋ยววันหลังจะแข่งให้ดูใครชนะต้องได้รางวัลด้วย ที่บ้านมีสระตั้งใหญ่เกลยังไม่เคยเห็นพี่เอริคไปเล่นเลยซักครั้ง” “ได้ กลับบ้านเราแข่งกัน” “เกลจะเรียกรางวัลให้พี่หมดตัวเลยคอยดู” เธอพูดอย่างมั่นใจเพราะเรื่องว่ายน้ำเธอเองก็ไม่เป็นสองรองใคร เรียกได้ว่าเก่งจนถึงขั้นเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ แค่ผู้ชายที่ว่ายน้ำเบสิคอย่างเขาเธอสู้ได้สบายมาก “คืนนี้พี่นอนด้วยนะ”เขาบอกเธอหลังทานข้าวเสร็จ “ไม่ค่ะ” “พี่สัญาญาจะไม่ทำอะไรแค่กอด” “ไม่ค่ะ” “เกลนะ พี่ขับรถทั้งวันเมื่อยไปหมด พรุ่งนี้ก็ต้องขับรถกลับอีก”เขาทำหน้าตาหน้าสงสาร “พี่เอริคคนหยิ่งหายไปไหนแล้ว”เธอหัวเราะกับท่าทางของเขา “พี่ขอร้องขนาดนี้ยังใจดำอีก” “ก็ได้แต่พี่ห้ามทำอะไรเกลเด็ดขาด” เมื่อถึงเวลาเข้านอนเกวลินเอาหมอนมาทำเป็นเส้นแบ่งระหว่างเขากับเธอ ทำเอาเอริคขัดใจอยู่ไม่น้อย แต่พอนอนหลับเธอกลับถีบหมอนออกและเอาหน้ามาซุกในอ้อมอกเขาแทน “ยัยบ๊องเอ๊ย อยู่ดีๆก็มากอดเขาก่อน ช่วยไม่ได้พี่ไม่ได้เริ่มก่อนนะ” เขาจุ๊บที่หน้าผากและริมฝีปากเธอก่อนจะกระชับกอดและข่มตานอน เพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเธอว่าคืนนี้จะไม่ทำอะไรเกินเลย แต่คืนต่อไปไม่รับปาก“ว๊าย ไอ้พี่เอริคบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง”เกวลินโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกเขา“เกลเสียงดังอะไรแต่เช้า พี่ยังง่วงอยู่เลย”“ไม่ต้องนอนแล้ว นี่หมายความว่าไงพี่แอบเอาหมอนออกตอนเกลหลับหรอ”เอริคลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มองเขาตาเขียวปั๊ด “คิดดีๆว่าใครเป็นคนถีบหมอนลงไปข้างล่าง”“พี่จะหาว่าเกลเป็นคนทำหรอ”“อือ…ฮึ”“ไอ้คนเห็นแก่ตัว”เธอทุบที่อกเขารัวๆ“เกลพี่เจ็บ”เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เพื่อให้เธอหยุดทุบเขา“หันมองข้างๆสิว่าใครเป็นคนขยับหาใคร” เกวลินมองไปรอบๆเตียงก็พบว่าตัวเองเป็นฝ่ายข้ามฝั่งมาหาเอริคเอง จึงได้แต่ถอนหายใจให้กับความโก๊ะของตัวเอง “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย แค่กอด เกลก็นอนกอดพี่ทั้งคืนเหมือนกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”เกวลินหน้าแดงด้วยความเขิน ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงรีบลุกขึ้นไปสูดอากาศที่ระเบียง“ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”“ยัยบ๊องเอ๊ย น่ารักชิบ”เอริคยิ้มให้กับความโก๊ะของเธอ ก่อนจะเดินตามเกวลินออกไปสูดอากาศข้างนอก เขาเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางเกยไหล่เธอไว้“สดชื่นจัง หอมมากด้วย”เขามองวิวด้านนอกสลับ
เอริค : หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หน้าตาหล่อเหลา ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน สูง 190 เซนติเมตร นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรงมาดนิ่ง ประธานบริษัทของธุรกิจทางด้าน IT วัย 31 ปีพึ่งได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปีไปหมาดๆ เอริคไม่เคยครบใครจริงจังเลยซักคน แม้ว่าจะมีข่าวซุบซิบกับดาราและสาวๆในแวดวงไฮโซอยู่เรื่อยๆก็ตาม หากแต่เป็นสาวๆที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง เพราะความหล่อและความรวยของเขา แต่เขาไม่เคยคิดจะมีความรักเพราะเขาถือว่าความรักเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จในหน้าที่การงานของเขาเกวลิน (เกล) : สาวน้อยแสนสวย ตาโตสูง 165 เซนติเมตรวัย 23 ปี ภายนอกดูขี้เล่น ซุกซน แต่จริงๆแล้วเป็นคนหวงตัว จิตใจดี โอบอ้อมอารีย์กับทุกคน เธอเป็นสาวนักเรียนนอก พึ่งเรียนจบและเดินทางกลับประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่เอริค และเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของ เอริค เป็นว่าที่สะใภ้ที่แม่พระเอกหมายตาไว้ เพราะความสวย น่ารัก สดใสและนิสัยที่ดี ทำงานเก่ง คนแบบนี้ถึงจะเอาผู้ชายอย่างเอริคอยู่คุณนายแอนนา : แม่ของเอริควัย 55 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษกับสามี ชีวิตดีมีความสุขทุกอย่าง มีเรื่องเดียวที่ทำให้เธอเป็นกังวลคือเรื
“นายครับ คืนนี้มีงานประมูลเพชรการกุศลสนใจจะเข้าร่วมมั้ยครับ”เจมส์ผู้ช่วยส่วนตัวถามเอริค“ไปสิ”เอริคตอบเสียงเรียบ“คุณนิต้าที่กำลังเป็นข่าวกับนายอยู่ตอนนี้ก็ไปร่วมงานนี้ด้วยนะครับ ผมเกรงว่าคุณแอนนาจะไม่พอใจเอานะครับ”“ดี งั้นนัดนิต้าให้เข้างานพร้อมกัน”“นายถ้าเป็นข่าวจะเป็นเรื่องใหญ่เอานะครับ เดี๋ยวคุณแอนนาจะไม่พอใจนะครับ”“นั่นแหละสิิ่งที่ผมต้องการ แม่จะได้เลิกจับคู่ผมกับยายหมูอ้วนซักที”“คุณเกวลินเธอไม่อ้วนแล้วนะครับนาย รูปที่คุณแอนนาส่งมาให้ล่าสุดเธอสวยมากๆเลยนะครับ”“นายชอบก็จีบเอาสิ”เอริคก็ยังตอบลูกน้องแบบไม่สนใจใยดีอะไร“แต่เธอเป็นคู่หมั้นนายนะครับ”“คู่หมั้นที่แม่เลือกเองน่ะสิ ผมไม่ได้เห็นด้วยซักหน่อย”ในวัยเด็กแอนนาแม่ของเอริคและแม่ของเกวลินเป็นเพื่อนรักกัน สองครอบครัวหมั้นหมายลูกๆให้กันตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก ในตอนนั้นเอริคไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้เลย เพราะเขาไม่ชอบ เกวลินเป็นที่สุด เด็กอะไรกินเก่งแถมยังขี้แยอีกต่างหาก พวกเขาเจอกันล่าสุดตอนเอริคอายุ 21 ปีซึ่งในตอนนั้นเกวลินอายุเพียง 13 ขวบภาพจำของเขาที่มีต่อเธอจึงไม่ค่อยดีนัก ยิ่งพอรู้ว่าจนถึงตอนนี้แม่ของเขาก็ยังไม่ละค
“นายครับ อาทิตย์หน้าคุณเกวลินจะกลับมาแล้วนะครับ คุณแอนนากำชับว่านายต้องไปรับเธอด้วยตัวเองนะครับ”“เออ รู้แล้ว ตกลงเป็นลูกน้องใครกันแน่วะ แม่หรือผม”“ลูกน้องนายสิครับ”“อืม รู้ตัวก็ดีนึกว่าโดนแม่ซื้อตัวไปแล้วหายใจเข้า หายใจออกก็มีแต่คุณแอนนา”เอริคนึกย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่ผู้เป็นแม่ยื่นข้อเสนอให้เขาใช้เวลากับเกวลินครึ่งปี หากครบกำหนดแล้วทั้งคู่ไม่รักไม่ชอบกันจริง เธอจะไม่บังคับเขาอีกต่อไป และมีข้อแม้ว่าระหว่างที่เกวลินอยู่ที่บ้านเขา ห้ามทำตัวไม่ดีกับน้อง ต้องให้เกียรติเธอทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เอริคเองก็ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดอย่างว่าง่าย เพราะเขาคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางตดหลุมรักยัยเด็กอ้วนขี้แยคนนั้นแน่นอน“หึ ใครจะไปรักเธอลงยัยเกวลิน”เอริคพึมพำกับตัวเอง“นายว่าอะไรนะครับ”เจมส์ถามเขาเพราะได้ยินไม่ถนัด“ป่าว ไม่มีอะไร ไปทำงานต่อได้แล้ว”“ครับ”เจมส์รับคำก่อนจะขอตัวเดินออกจากห้องไปภาพจำของเอริคที่มีต่อเกวลินคือเป็นยัยเด็กอ้วน กินเก่ง ขี้แยสุดๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเอามากๆ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงจับคู่ให้เขากับเธอ ทั้งที่ดูไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย อี
“นายครับผมเอากระเป๋าคุณเกวลินไปเก็บข้างบนเรียบร้อยแล้วถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”เจมส์แจ้งผู้เป็นนายที่ตอนนี้นั่งเล่นที่โซฟากับเกวลินอยู่“อืม ขอบใจ หิวยังไปกินข้าวจะได้พักผ่อน”เขาตอบรับลูกน้องสั้นๆก่อนหันไปตามเกวลินที่นั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้าม“ก็ดีเหมือนกันค่ะ”เอริคเดินนำเกวลินมาที่โต๊ะอาหาร “นั่งสิ”เขาผายมือเชิญเธอนั่งก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“ป้าพิศ ตักข้าวครับ อ้อลืมแนะนำนี่ป้าพิศแม่บ้านของที่นี่ ส่วนนี่เกวลิน…”“สวัสดีค่ะ เรียกเกลเฉยๆก็ได้นะคะ”เธอทักทายแม่บ้านด้วยรอยยิ้มและท่าทางเป็นกันเอง“สวัสดีค่ะคุณเกล คุณเกลสวยมากๆเลยนะคะ สมกับเป็นคู่หมั้นของคุณเอริคเลยค่ะ เหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก”ป้าพิศพูดตามภาพที่เห็น“ป้าพิศ”เอริคปราม“ค่ะๆไม่พูดแล้วค่ะ เชิญคุณๆทานข้าวตามสบายเลยค่ะ ป้าขอตัวก่อน”ป้าพิศพูดด้วยรอยยิ้มก่อนเดินออกไป“คุณป้าเค้าไปไหนคะ”เกวลินถามด้วยความสงสัยหลังเห็นป้าพิศถือกระเป๋าเดินออกจากบ้านไป“กลับบ้าน”“ห๊ะ กลับบ้าน!!!”เกวลินอุทานด้วยความตกใจ“เสียงดังทำไม นี่มันทุ่มนึงแล้วก็ต้องกลับมั้ย?”“แล้วปกติบ้านหลังนี้พี่เอริคอยู่กับใครคะ”“คนเ
หลังเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าเอริคก็ตัดสินใจถามเกวลินอีกครั้ง“อยากกินอะไร”“……”เกวลินไม่ตอบ“เกลพี่ถามว่าอยากกินอะไร อย่าดื้อ”เขาทำเสียงดุเธอ เธอไม่ตอบแต่ชี้ไปที่ร้านสเต๊ก ก่อนจะเดินนำหน้าเขาเข้าไปในร้าน เอริคได้แต่ถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของเธอ เกวลินจากที่น้อยใจอยู่เมื่ออาหารเข้าปากก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้เลย เอริคที่นั่งสังเกตุอาการของเธออยู่ก็พลอยโล่งใจไปด้วยที่บรรยากาศไม่แย่อย่างที่คิด“เอาของหวานมั้ย”“ได้หรอคะ”เกวลินถามเขาด้วยน้ำเสียงดีใจเอริคไม่ตอบแต่ยักคิ้วให้เธอเป็นการตอบรับแทน“เกลอยากกินบิงซูได้มั้ยคะ ไม่ได้กินนานมากแล้ว”“ไปสิ”เขาตอบรับแบบไม่ต้องคิดตลอดเย็นวันนั้นเขาตามใจเธอทุกอย่าง อยากทำอะไรหรือทานอะไรก็ไม่ขัดสักคำ จนกลับมาถึงบ้าน “ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้”“เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ไม่ต้องขอบคุณ”“เอ่อ…เกลว่าเรามาทำข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันดีมั้ยคะ หกเดือนนี้เราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”เกวลินตัดสินใจบอกชายหนุ่มหลังจากคิดเรื่องนี้มาทั้งคืน“ในฐานะที่พี่เอริคเป็นเจ้าของบ้านเกลให้พี่บอกเงื่อนไขของพี่ก่อนเลยค่ะ”เกวลินบอกชายหนุ่มหลังจากที่วิ่
“ยัยเกลมาได้ไง ไหนว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง”เจนหันไปกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ“เลื่อนไฟล์ทน่ะ ก็เลยมาเซอร์ไพร์ส คิดถึงแกมากๆเลย”“คิดถึงเหมือนกัน ไปหาที่นั่งในสวนกัน เดี๋ยวทำของอร่อยไปให้ทาน”ร้านเบอเกอรี่ของเจนเป็นร้านที่ร่มรื่นมากบรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา “เจนแล้วตอนนี้แกพักที่ไหน”“นี่ไงบ้านชั้น”เจนชี้ไปที่บ้านสีขาวที่อยู่ติดกับร้าน“บ้านน่ารักจัง เดี๋ยววันหลังแวะมาเล่นด้วยบ่อยๆ”“ว่าแต่แกเถอะไปอยู่ที่บ้านพี่เค้าเป็นไงบ้าง พี่เขาน่ากลัวรึป่าว”“แกก็พูดไปเรื่อยคนนะไม่ใช่ผี ชั้นว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลย”“ยังไงไหนเล่าซิ”“ก็ตอนแรกที่ชั้นเล่าให้แกฟังว่าเค้าดูไม่น่าคบ ใจร้าย เอาแต่ใจ แต่พอเจอกันจริงๆก็ไม่เป็นแบบนั้นนะ ไม่รู้สิอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก”“แกคงไม่ได้ตกหลุมรักเค้าแล้วนะ”เจนแซวเพื่อน เกวลินตีแขนเพื่อนรักเบาๆ“บ้า!!! พึ่งเจอกันได้สามวันเอง ชั้นใจง่ายขนาดนั้นหรอ อีกอย่างที่มาก็เพื่อให้แม่กับคุณป้าแอนนาสบายใจแค่นั้น อย่างอื่นไม่ได้คิด”“ชั้นจะคอยดู หนุ่มหล่อสาวสวยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เดี๋ยวผีก็ผลักเข้าสักวัน แต่แกระวังไว้หน
ชายหนุ่มคนที่วางยาสองสาวเมื่อเห็นพวกเธอลุกออกจากโต๊ะก็ชวนเพื่อนเดินตามพวกเธอมาไม่ห่าง “ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะคนสวย ดูท่าจะกลับเองไม่ไหวแล้ว”เขาเดินมาหาสองสาวที่ตอนนี้เริ่มมึนหัวจากฤทธิ์ยา ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปประคองสองสาวก็มีมือของเอริคและเจมส์ผลักพวกเขาออกทันที ก่อนจะเข้าไปประคองพวกเธอไว้แทน เอริคดึงเกวลินเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนเจมส์ก็ทำหน้าที่ประคองเจนไว้แบบงงๆ“พวกมึงเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไม”“ผัวเมียหรอ กูคู่หมั้นเธอโว้ย ส่วนมึงจะให้กูแจ้งตำรวจข้อหาวางยามั้ย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้น…”สิ้นคำพูดของเอริคการ์ดของร้านก็เดินตรงเข้ามาหาคนที่วางยาเกวลิน “ทางนี้ฝากด้วย”เขาหันไปบอกการ์ดอีกครั้ง“ครับคุณเอริค”“พี่เอริค เกลมึนหัว”“สมควร!!!”“นายครับผู้หญิงคนนี้ผมต้องไปส่งที่ไหน”“เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้ในกระเป๋าน่าจะมีกุญแจบ้านอยู่ ถ้าไม่มีก็นอนบ้านนายไปก่อน”“เอ่อ นาย นายครับ เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยต้องมาดูแลคนไม่รู้จักกันเนี่ย คุณครับไปขึ้นรถผมพาไปส่งบ้าน”ทางด้านของเกวลินตอนนี้แทบเดินไม่ไหวมีแต่บ่นว่ามึนหัว จนเอริคทนไม่ไหวอุ้มร่างบางขึ้นรีบเดินกลับร
“ว๊าย ไอ้พี่เอริคบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง”เกวลินโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกเขา“เกลเสียงดังอะไรแต่เช้า พี่ยังง่วงอยู่เลย”“ไม่ต้องนอนแล้ว นี่หมายความว่าไงพี่แอบเอาหมอนออกตอนเกลหลับหรอ”เอริคลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มองเขาตาเขียวปั๊ด “คิดดีๆว่าใครเป็นคนถีบหมอนลงไปข้างล่าง”“พี่จะหาว่าเกลเป็นคนทำหรอ”“อือ…ฮึ”“ไอ้คนเห็นแก่ตัว”เธอทุบที่อกเขารัวๆ“เกลพี่เจ็บ”เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เพื่อให้เธอหยุดทุบเขา“หันมองข้างๆสิว่าใครเป็นคนขยับหาใคร” เกวลินมองไปรอบๆเตียงก็พบว่าตัวเองเป็นฝ่ายข้ามฝั่งมาหาเอริคเอง จึงได้แต่ถอนหายใจให้กับความโก๊ะของตัวเอง “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย แค่กอด เกลก็นอนกอดพี่ทั้งคืนเหมือนกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”เกวลินหน้าแดงด้วยความเขิน ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงรีบลุกขึ้นไปสูดอากาศที่ระเบียง“ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”“ยัยบ๊องเอ๊ย น่ารักชิบ”เอริคยิ้มให้กับความโก๊ะของเธอ ก่อนจะเดินตามเกวลินออกไปสูดอากาศข้างนอก เขาเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางเกยไหล่เธอไว้“สดชื่นจัง หอมมากด้วย”เขามองวิวด้านนอกสลับ
เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก“โห สวยมาก”เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น“แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน“พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง“สวยมั้ยคะ”“อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว“คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว”“ได้”“เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า”“มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจ
“ปวดหัวจัง”เกวลินบ่นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า“เอ๊ะ ไม่ใช่หมอนข้าง”เธอเอามือลูบคลำไปทั่วแผงอกแกร่งของเอริค และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ หมอนที่เธอกอดทั้งคืนคือตัวเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินทำตัวไม่ถูกจะมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม“จะหลบไปไหน ยัยตัวแสบ”เอริคที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอดิ้นยุกยิกเรียกให้หยุด เกวลินยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมรอยยิ้มแห้ง“เมื่อคืนเราไม่ได้…เอ่อ…มีอะไรกันใช่มั้ยคะ”“ไม่มี”“เฮ้อ ค่อยยังชั่วนึกว่าเมาแล้วเผลอ…”“แค่จูบ”เขาตอบเธอเสียงนิ่ง“ห๊ะ!!!อะไรนะคะ อีกแล้วหรอเนี่ยยัยเกล ไม่น่าดื่มเยอะเลย”เธอบ่นตัวเอง“อีกแล้ว”เขาเลิกคิ้วถามเธอด้วยความสงสัย“กับใคร”“ไอ้พี่เอริคบ้า”เธอทุบไปที่อกแกร่งของเขา“จะใครล่ะที่ขโมยจูบแรกของเกลไป อุตส่าห์เก็บรักษามาตั้งนาน”“คืนนั้นรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“เอ่อ..จำได้ลางๆค่ะ”“แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ”“รับผิดชอบอะไรคะ เกลเป็นผู้หญิงเกลเสียหายนะ พี่ต้องรับผิดชอบเกลสิถึงจะถูก”“ใครเริ่มก่อนจำได้มั้ย”เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทำทีจะจูบเธอเพื่อระลึกความหลัง“พอแล้วค่ะ เกลจำได้”“งั้น วันนี้ก็รับผิดชอบ”“ให้รับผิดชอบอะไร”“พาเที่
เกวลินพอเจอฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพลงที่ชอบก็เต้นอย่างสนุก จนเอริคที่ยืนอยู่ข้างๆเกิดอาการหวง ขยับเข้าไปโอบเอวเธอไว้ เกวลินที่สติเหลืออยู่แทบไม่ถึงครึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังยกแขนมาคล้องคอเขาให้เต้นไปด้วยกัน กลับกลายเป็นเอริคเองที่ตกใจกับการกระทำของเธอแทน“เกลทำอะไร”เขากระซิบข้างหูเธอ“ชวนพี่เต้น”“เกลเอามือออกยืนเต้นดีๆ”“ก็เกลอยากเห็นพี่เต้นนี่คะ”“ไม่เต้น หันไปเต้นดีๆ ถ้าไม่ปล่อยพี่พากลับแล้วนะ”“ไม่กลับ กำลังสนุก”“งั้นก็หันกลับไปเต้นดีๆ อย่าดื้อ”“โอเคๆ เต้นกับคนแก่ไม่สนุกละ”เธอบ่นเขา“เกล เดี๋ยวจะโดน”เธอไม่สนใจคำพูดเขาซักนิดหันกลับไปเต้นต่ออย่างสนุก ปล่อยให้เอริคยืนใจเต้นรัวข้างๆเธอ เกวลินไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย คงเป็นเพราะสบายใจ อุ่นใจและเชื่อใจที่เป็นเขาถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้“ยัยเด็กแสบใครใช้ให้มาเต้นยั่วแบบนี้”เขาบ่นพึมพำเบาๆ เพราะการกระทำของเธอทำให้เขาคลั่งแทบอยากจะพาเธอกลับไปจัดการที่ห้องตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนข่มใจให้เย็นลง“พี่เอริค…เกล…มึนหัว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มหลังจากดื่มไปหลายแก้วจนเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ใครให้ดื่มเยอะขนาดนี้ กลั
“พี่เอริควันนี้หลังเลิกงานเกลจะไปเยี่ยมพี่เกตุนะคะ”“ไปสิพี่ไปด้วย”หลังเลิกงานทั้งคู่ไปเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนก่อนเดินทางไปเยี่ยมเกตุที่โรงพยาบาล“คุณลูกค้าต้องการของใช้แบบไหนคะ”พนักงานขายเดินมาถามทั้งคู่เพราะเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของพวกเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่“ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ เด็กต้องใช้อะไรบ้างเอามาให้หมดเลยค่ะ”เกวลินตอบพนักงานสาว“เป็นพ่อแม่มือใหม่สินะคะ น่ารักจังเลยนะคะมาช่วยกันเลือกของให้ลูกด้วย”พนักงานสาวพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่นะคะ คือซื้อไปให้หลายค่ะ”เกวลินรีบปฏิเสธทันที ผิดกับเอริคที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา…โรงพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย…“น่ารักน่าชังจังเลยเจ้าตัวเล็ก”เกวลินหมั่นเขี้ยวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกตัวเอง“พี่เอริคอยากลองอุ้มมั้ยคะ”“อุ้มไม่เป็น”“มาเกลช่วย”เธอพาเจ้าตัวเล็กเดินไปหาเอริคที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวโตจะทำสีหน้าดุเธอแค่ไหน“เกล ไม่เอา”เขาปฏิเสธหญิงสาวแต่มือก็ยื่นไปรับลูกชายของเกตุและทำตามคำบอกของเกวลิน อย่างว่าง่าย จนคนอื่นๆหลุดขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเขา เขามองเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน ในหัวพลันคิดว่าถ้าเป็นลูกของเขากับคนท
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เอริคเกลเข้าไปได้มั้ยคะ”“อืม”เอริคตอบรับสั้นๆ“เราจะกลับบ้านกันตอนไหนหรอคะ”“รีบ?”เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปหาเธอ“ป่าวค่ะ แค่เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว”เธอตอบเขาเสียงอ่อย“ขอเคลียร์งานก่อน ถ้าหิวขนมอยู่ตรงนั้นทานได้”เขาบอกเธอก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อเกวลินนั่งมองเขาพลางคิดถึงคำพูดของป้าแอนนาที่บอกว่าเอริคเป็นคนบ้างานมากจนบางทีลืมกินข้าว จนทำให้เป็นโรคกระเพราะ แต่ท่าทางจริงจังของเขาก็ทำให้เธอเผลอมองอยู่นาน เพราะเธอรู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ดูมีเสน่ห์มากบวกกับความหล่อของเขายิ่งชวนหลงใหล“บ้าจริง ยัยเกลคิดอะไรของแก”เกวลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง ก่อนจะนั่งเล่นมือถือรอเขาจนเผลอหลับไปเอริคเคลียร์งานเสร็จเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาจวนจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนเกวลินกลับบ้าน“เกลกลับได้แล้ว”เขาเรียกเธอมือก็เก็บเอกสารไปด้วย โดยไม่ได้มองหญิงสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงหันไปมองพบว่าเธอหลับอยู่ เอริคเดินไปนั่งตรงหน้าเธอและมองใบหน้าสวยละมุนของเธอ“ยัยลูกเป็ดขี้เหร่โตมาสวยได้ขนาดนี้เลยหรอ”เขาพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เกวลินลืมตาตื่นขึ้นม
วันนี้เป็นวันจันทร์และเป็นวันแรกที่เกวลินต้องไปทำงานในฐานะเลขาของเอริค เธอตื่นเต้นและประหม่าพอสมควร หลังแต่งตัวเสร็จเธอเดินมาคุยกับตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง“สู้ๆยัยเกล แกมันคนเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”วันนี้เกวลินแต่งตัวนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ตรวจเช็คความเรียบร้อยจึงไม่ได้ลงมาทำข้าวเช้าให้ เอริคทาน เมื่อเช็คความเรียบร้อยทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมจนมั่นใจแล้ว เธอจึงรีบลงมาข้างล่างก็เห็นเอริคนั่งรอที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เกวลินมาในลุคชุดสูทแขนยาวกระโปรงสั้น สไตล์เกาหลี ดูเรียบหรูและน่ารักในคราวเดียวกัน เอริคที่นั่งรออยู่ถึงตะลึงในความสวยของหญิงสาวไปพักใหญ่ เขาคิดในใจว่าบทจะแต่งตัวเป็นทางการก็ดูดีไม่เบา“พี่เอริคไปกันได้รึยังคะ”“ไปสิ”เขาตอบกลับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ภายในใจตื่นเต้นไม้แพ้เกวลินเลย“วันนี้เกลขอโทษนะคะ ไม่ได้ลงมาทำอาหารเช้าให้ทานเลย ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ”“ตื่นเต้นทำไม แค่มาทำงาน”“ก็เกลตื่นเต้นนี่คะ”“กลัวทำไม่ได้”เขาเลิกคิ้วถามเธอ“ป่าวซักหน่อย คนอย่างเกวลินไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”“ดี จะคอยดู ถ้าไม่ไหวก็บอกจะได้ส่งกลับบ้าน”“ไม่มีทาง”เธอตอบเขาด้วยน้ำเ
เจนเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ต้องแปลกใจที่ตัวเองมานอนอยู่ที่บ้าน และที่สำคัญเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย เธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เพียงเลือนลางเท่านั้น พยายามนึกทบทวนและเดินลงมาหาน้ำดื่ม หางตาก็ไปสะดุดกับชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนโซฟาบ้านตน “อ๊าย แกเป็นใครเข้ามาในบ้านชั้นได้ยังไง”เจมส์สะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องของหญิงสาว ก่อนจะรีบอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง“ผมเป็นผู้ช่วยคุณเอริค ที่พาคุณมาส่งบ้านเมื่อคืนไงครับ คุณพอจะจำได้มั้ย”เจนพยายามนึกภาพตามก็เห็นว่าเป็นความจริงตามที่เขาพูด “แล้วทำไมเสื้อผ้าชั้นถึงได้….”“เมื่อคืนคุณอ้วกผมก็เลยจำเป็นต้องเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้”“อีตาบ้า!! นายฉวยโอกาสหรอ”“ป่าวนะครับตอนเปลี่ยนผมก็ไม่ได้มอง หรือจะให้ผมปล่อยให้คุณนอนจมกองอ้วกแบบนั้น ก็เลยต้องอยู่รออธิบายให้คุณฟังนี่ไงครับ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”เจมส์บ่น“แล้วชั้นจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ล่วงเกินชั้น”“แล้วคุณเจ็บปวดตรงไหนมั้ยล่ะครับ ถ้าไม่มั่นใจไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยก็ได้”เขาพูดพลางจะดึงแขนเธอให้ไปด้วยกัน“ไม่ต้อง ชั้นจะลองเชื่อคุณดูซักครั้ง ยังไงก็ขอบคุณคุณด้วยแล้วกันที่มาส
ชายหนุ่มคนที่วางยาสองสาวเมื่อเห็นพวกเธอลุกออกจากโต๊ะก็ชวนเพื่อนเดินตามพวกเธอมาไม่ห่าง “ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะคนสวย ดูท่าจะกลับเองไม่ไหวแล้ว”เขาเดินมาหาสองสาวที่ตอนนี้เริ่มมึนหัวจากฤทธิ์ยา ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปประคองสองสาวก็มีมือของเอริคและเจมส์ผลักพวกเขาออกทันที ก่อนจะเข้าไปประคองพวกเธอไว้แทน เอริคดึงเกวลินเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนเจมส์ก็ทำหน้าที่ประคองเจนไว้แบบงงๆ“พวกมึงเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไม”“ผัวเมียหรอ กูคู่หมั้นเธอโว้ย ส่วนมึงจะให้กูแจ้งตำรวจข้อหาวางยามั้ย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้น…”สิ้นคำพูดของเอริคการ์ดของร้านก็เดินตรงเข้ามาหาคนที่วางยาเกวลิน “ทางนี้ฝากด้วย”เขาหันไปบอกการ์ดอีกครั้ง“ครับคุณเอริค”“พี่เอริค เกลมึนหัว”“สมควร!!!”“นายครับผู้หญิงคนนี้ผมต้องไปส่งที่ไหน”“เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้ในกระเป๋าน่าจะมีกุญแจบ้านอยู่ ถ้าไม่มีก็นอนบ้านนายไปก่อน”“เอ่อ นาย นายครับ เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยต้องมาดูแลคนไม่รู้จักกันเนี่ย คุณครับไปขึ้นรถผมพาไปส่งบ้าน”ทางด้านของเกวลินตอนนี้แทบเดินไม่ไหวมีแต่บ่นว่ามึนหัว จนเอริคทนไม่ไหวอุ้มร่างบางขึ้นรีบเดินกลับร