Share

บทที่ 1133

Author: ไห่ตงชิง
“สวีฉังชิงหรือ?”

หลี่เฉินในขณะถูกวั่นเจียวเจียวช่วยแต่งองค์ก็เดินมาถึงโต๊ะ หยิบถ้วยโจ๊กขึ้นมาเริ่มรับประทานอาหารเช้า

ระหว่างกินโจ๊ก หลี่เฉินก็เอ่ยถามขึ้นว่า “เขาว่าอะไรบ้าง?”

“เขาพา

รองหัวหน้าสำนักจานซื่อมาด้วย คงอยากหาทางจัดวางตำแหน่งที่ดีให้หลานตัวเองกระมัง”

วั่นเจียวเจียวกล่าวด้วยน้ำเสียงดูแคลนไม่น้อย

นางรู้สึกว่าสวีฉังชิงออกจะได้ใจเกินไปแล้ว

ฝ่าบาทเมตตาขนาดนี้ กลับยังไม่รู้จักพอ

หลี่เฉินถลึงตาใส่วั่นเจียวเจียว “ห้ามพูดจาเหลวไหล”

วั่นเจียวเจียวแลบลิ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

หลี่เฉินคีบแป้งแผ่นขึ้นมากินคู่กับโจ๊ก พลางกล่าวว่า “สวีฉังชิงไม่มีบุตร สวีจวินโหลวเป็นหลานชายคนเดียว เขาจึงเลี้ยงดูราวกับลูกแท้ๆ”

“สวีจวินโหลวยังหนุ่ม ยังมีไฟ ย่อมอยากแสดงความสามารถ มีโอกาสก็ไม่ยอมพลาด”

“สองข้อนี้ ล้วนเข้าใจได้ดีทั้งนั้น”

“แค่จุดตั้งต้นต่างกันเท่านั้น หาใช่ความผิดไม่ เจ้าอย่าพูดจาลับหลังผู้คนอีก”

วั่นเจียวเจียวออดอ้อนว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง”

“พูดกับข้าก็ยังพอไหว แต่หากเจ้าพูดบ่อยเข้า กลายเป็นนิสัย แล้วมีผู้หวังร้ายได้ยินเข้า จะหาว่าเจ้าเย่อหยิ่งลำพ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1139

    ในฐานะที่สวีฉังชิงทำงานอยู่ในกรมครัวเรือนมาตลอด หน้าที่หลักของเขาก็เกี่ยวข้องกับด้านภาษี เมื่อเห็นแผนนี้ เขาก็จับสังเกตได้ในทันทีอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองไปยังหลี่เฉิน สวีฉังชิงทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูดเขารู้สึกว่านโยบายข้อนี้มีปัญหา และเป็นปัญหาใหญ่ด้วยแต่ในท้องพระโรง เขาไม่กล้ากล่าวออกมาตรงๆหลี่เฉินยืนอยู่บนบันไดบัลลังก์ มองเห็นปฏิกิริยาของเหล่าขุนนางได้ถนัดชัดเจน สีหน้าของสวีฉังชิงที่เหมือนอยากพูดแต่ไม่กล้าพูด ราวกับจะอึดอัดจนท้องผูก เขาย่อมเห็นได้ชัด“ใต้เท้าสวี หากมีสิ่งใดก็พูดออกมาตรงๆ ได้” หลี่เฉินเป็นฝ่ายเอ่ยก่อนเวลานี้ หลี่เฉินไม่ได้คิดเรื่องการเมือง แต่เป็นการพิจารณาเพื่อแผ่นดินโดยแท้แม้เขาจะมั่นใจว่านโยบายเหล่านี้ที่ถอดแบบมาจากประสบการณ์ในอนาคตจะไม่มีปัญหา แต่สุดท้ายต้าฉินก็มีลักษณะเฉพาะของตนเอง ทุกนโยบายจะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์จริงของบ้านเมือง ดังนั้นในหลักการเช่นนี้ หลี่เฉินจึงยินดีรับฟังความคิดเห็นจากขุนนางที่มุ่งมั่นเพื่อบ้านเมืองสวีฉังชิงประสานมือคำนับก่อนกล่าวขึ้นว่า “ขอพระราชทานอนุญาตฝ่าบาท อำนาจในการจัดเก็บภาษีนั้นเดิมอยู่กับทางการท้องถิ่น เป็นเช่นนี้ม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1138

    ขุนนางทุกคนต่างก้มหน้าพิจารณาแผนในมืออย่างละเอียดละออ หวั่นว่าจะพลาดแม้แต่ตัวอักษรเดียวในขณะนั้นเอง น้ำเสียงของหลี่เฉินก็ค่อยๆ ดังขึ้นด้วยถ้อยคำราบเรียบ“แผนของข้า หกกรมยังคงอำนาจหน้าที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง เบื้องบนตั้งสามกรมใหญ่ ได้แก่ กรมมหาดไทย กรมราชเลขา และกรมตรวจราชการ ทั้งสามกรมล้วนรับพระบัญชาโดยตรงจากองค์จักรพรรดิ”“ในนั้น กรมราชเลขาจะรับผิดชอบเรื่องสำคัญ และประกาศราชโองการ”“กรมตรวจราชการจะรับผิดชอบเรื่องสำคัญร่วมกับกรมราชเลขา ร่วมปรึกษาราชกิจ และตรวจสอบราชโองการ”“กรมมหาดไทยมีอำนาจมากที่สุด บังคับบัญชาหกกรมย่อยยี่สิบสี่ฝ่าย”เพียงแค่เพิ่มตั้งสามกรม ก็ทำให้เหล่าขุนนางมองเห็นความเฉียบคมของแผนการปฏิรูปฉบับนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการรื้อสำนักราชเลขาออก แล้วแบ่งแยกอำนาจของมันออกเป็นสามส่วนเดิมทีสำนักราชเลขามีอำนาจล้นเหลือ ไม่เพียงแทรกแซงการทำงานของหกกรมยี่สิบสี่ฝ่ายได้โดยตรง ยังมีสิทธิในการตรวจสอบและแก้ไขราชโองการและฎีกาอีกด้วยบัดนี้ หลี่เฉินแบ่งอำนาจของสำนักราชเลขาให้กับสามกรม โดยแยกหน้าที่ออกจากกันอย่างชัดเจน ทั้งราชโองการ การตรวจสอบฎีกา และอำนาจทางการบริหาร ต่างไม่รบกวนซ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1137

    “นี่...”เฉียนซื่อยวนถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ กว่าครู่จึงกล่าวว่า “ฝ่าบาทเพิ่งทรงเอ่ยถึงการเปลี่ยนแปลงระบบและการปฏิรูปเป็นครั้งแรก กระหม่อมย่อมไม่เคยเห็นเนื้อหาที่ชัดเจน”“ในเมื่อไม่รู้ เช่นนั้นเจ้าตัดสินได้อย่างไรว่าการปฏิรูปของข้าจะสั่นคลอนแผ่นดิน?” หลี่เฉินถามต่อทันทีเฉียนซื่อยวนรู้สึกว่าหลี่เฉินกำลังเล่นตุกติก ในสายตาของเขา เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ย่อมต้องหารือกับเหล่าขุนนางให้ได้ข้อยุติร่วมกันเสียก่อน แล้วค่อยดำเนินการอย่างมั่นคง จะกล่าวเปลี่ยนก็เปลี่ยนเช่นนี้ได้อย่างไรดังนั้นเฉียนซื่อยวนจึงฝืนใจกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงกระทำเร่งรีบเกินไป เกรงว่าจะคล้ายการเล่นสนุกเสียมากกว่า”“ข้ายังยืนยันคำเดิม ในเมื่อเจ้ายังไม่รู้แผนการของข้า เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเร่งรีบหรือเป็นการเล่นสนุก?”บัดนี้หลี่เฉินก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดจักรพรรดิแห่งทุกยุคทุกสมัยจึงไม่โปรดขุนนางตงฉินพวกนี้สำหรับราชสำนักแล้ว ขุนนางตงฉินกลุ่มนี้ในระยะยาวถือว่ามีคุณประโยชน์ท้ายที่สุด ไม่มีแผ่นดินใดที่จักรพรรดิในแต่ละรัชกาลจะเป็นพระราชาผู้เปี่ยมปัญญาทุกพระองค์ได้แน่นอน จักรพรรดิที่โง่งมก็เป็นส่วนน้อย เพราะตำแ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1136

    บรรดาขุนนางตงฉินที่มีชื่อเสียงล้วนมีลักษณะหนึ่งเหมือนกัน คือไม่กลัวตายกระทั่งยังแอบหวังให้จักรพรรดิทรงมีพระราชโองการประหารตน เพื่อจะได้จารึกชื่อไว้ชั่วกาล เป็นที่เลื่องลือชั่วนิรันดร์ในสายตาของหลี่เฉิน สมองพวกเขาคงมีปัญหาไม่น้อยมิได้คาดหวังจะได้เลื่อนตำแหน่งใหญ่โต เพราะระบบขุนนางตงฉินเป็นวงการที่ค่อนข้างปิด ขุนนางตงฉินน้อยคนนักจะได้โยกย้ายไปที่อื่น หน่วยงานอื่นก็ไม่อยากรับ เพราะหน้าที่ของขุนนางตงฉินเอาเข้าจริงก็คือทำให้ผู้อื่นไม่พอใจในเมื่อไม่มีความหวังจะเลื่อนตำแหน่ง บรรดานักปราชญ์ผู้เคร่งคุณธรรมเหล่านี้ก็ย่อมไม่ใส่ใจในทรัพย์สินเงินทองสิ่งเดียวที่พวกเขาสนใจก็คือชื่อเสียงในสายตาของพวกเขา การถูกจักรพรรดิประหารคือเกียรติสูงสุดพวกเขาเปล่งเสียงแทนราษฎร แนะนำด้านคุณธรรม ถือเป็นแบบอย่างของขุนนางผู้ภักดีแม้หลายสิบปีที่ผ่านมา ราชสำนักวุ่นวาย จ้าวเสวียนจีแทบจะรวบอำนาจไว้คนเดียว ทำให้สำนักตรวจการเสื่อมทรามไม่หยุด ทว่าก็ยังมีคนกระดูกแข็งอยู่บ้าง เฉียนซื่อยวนก็คือหนึ่งในนั้นหลี่เฉินสังหารเจ้าสำนักตรวจการมานักต่อนักแล้ว แม้แต่คลื่นการกวาดล้างในครั้งนี้ก็ยังมิได้กระทบเขา เห็นได้ชัด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1135

    คำว่าปฏิรูปและปรับโครงสร้างนั้น สำหรับขุนนางจำนวนมากแล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ยินชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ผู้ที่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ไม่มีใครเลยที่เป็นคนเขลาหรือไร้ประสบการณ์ถึงจะไม่เคยกินหมู อย่างน้อยก็เคยเห็นหมูวิ่งแม้ไม่เคยเห็นหมูวิ่ง อย่างน้อยก็ต้องเคยได้ยินว่ามีหมูอยู่จริงคำว่าปฏิรูปคำนี้ ในประวัติศาสตร์ของแต่ละราชวงศ์ ถือเป็นคำต้องห้าม เพราะนั่นคือการสั่นคลอนระเบียบเก่าและการตั้งต้นระเบียบใหม่ ซึ่งมักไม่มีวันเกิดขึ้นโดยง่าย โดยปกติแล้ว เมื่อราชวงศ์หนึ่งก่อตั้งขึ้น ระบบระเบียบจะถูกกำหนดไว้แต่ต้น และมักจะดำรงอยู่อย่างนั้นไปจนถึงวาระสุดท้ายโดยไม่เปลี่ยนแปลงเหตุผลนั้นซับซ้อนอย่างยิ่ง มิใช่จะอธิบายให้เข้าใจได้ในสองสามประโยคแต่โดยสรุปก็คือ ในสายตาของคนโบราณ การเปลี่ยนแปลงระบบที่ปู่ย่าตายายตั้งไว้คือการผิดธรรมเนียม ผิดความกตัญญู อีกทั้งการปฏิรูปต้องอาศัยอำนาจ ความกล้าหาญ และบารมีอย่างล้นเหลือ จักรพรรดิต้องมีอำนาจควบคุมราชสำนักอย่างแน่นหนา และมีใจใฝ่ก้าวหน้าอย่างแท้จริง จึงจะฝ่าฟันอุปสรรคและแรงต่อต้านนับไม่ถ้วนไปได้ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า เมื่อแลกกับคว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1134

    ประตูข้างของพระที่นั่งไท่เหอ หลี่เฉินทรงชุดองค์รัชทายาทประดับมังกรทอง ก้าวขึ้นบันไดอย่างองอาจด้วยอิริยาบถทรงพลัง ก่อนจะหยุดยืนข้างบัลลังก์มังกร“พวกกระหม่อม คาราวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”“องค์รัชทายาทพันปี พันปี พันๆ ปี!”เหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ นำโดยจ้าวเสวียนจีและซูเจิ้นถิง พากันก้มคำนับถวายบังคมพร้อมเสียงโห่ร้องกึกก้องหลี่เฉินยกมือขึ้นกล่าวว่า “ขุนนางทุกท่าน ลุกขึ้นเถิด”เมื่อเสร็จพิธีตามธรรมเนียม ประชุมเช้าในวันนี้ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการสายตาหลี่เฉินกวาดมองไปรอบๆ พบว่าขุนนางที่มาร่วมวันนี้หายไปจากเดิมถึงหนึ่งในสามพวกที่หายไป ล้วนไม่ต้องเดาให้มาก ก็เป็นเหล่าวิญญาณที่ถูกประหารภายใต้คมดาบของหัวเสือหลี่เฉินหยุดพักหายใจเล็กน้อย แล้วเริ่มกล่าวขึ้นว่า “ช่วงที่ผ่านมา ในเมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมากมาย พวกท่านล้วนทราบดีอยู่แล้ว”ทั่วพระที่นั่งเงียบสงัด มีเพียงเสียงของหลี่เฉินดังก้องกังวานสะท้อนกับเสาหินแกะสลักมังกร“อดีตจ้าวอ๋อง องค์ชายแปด หลี่อิ๋นหู่ ได้ก่อการขบถ ลุกฮือขึ้นต่อต้านแผ่นดิน โชคดีอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของพวกท่าน ขณะนี้เรื่องก็ได้ยุติลงแล้ว”คำพูดประ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status