Share

บทที่ 8

Author: อู๋ตู๋จุ้ยหลิง
การคาดเดาพระราชประสงค์โดยพลการ นับเป็นข้อห้ามร้ายแรง!

เพียงชั่วพริบตาเดียว ฮ่องเต้อู่เต๋อก็ทรงตัดสินพระทัยว่า วันนี้ไม่ใช่วันดีที่จะปลดองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน ทำได้เพียงหาโอกาสในภายหลังเท่านั้น

“เจ้าเจ็ด วันนี้เราเห็นแก่ความเยาว์วัยไม่รู้ความของเจ้า จะไม่ลงโทษเจ้า แต่ว่า ตำแหน่งองค์รัชทายาทคือรากฐานของจักรวรรดิ คือรากฐานของบ้านเมือง พวกเจ้ามิอาจคาดเดาความคิดของเราโดยพลการได้” ฮ่องเต้อู่เต๋อยังทรงเมตตาอยู่มาก ไม่ได้ทรงตำหนิองค์ชายเจ็ดมากเกินไป

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อในพระมหากรุณาธิคุณ ลูกจะจดจำไว้ในใจ ไม่กล้าอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” องค์ชายเจ็ดรีบโขกศีรษะขอบพระทัย

หยางเฉินฉวยโอกาสนี้ทันที ทูลถามเสียงดัง “เสด็จพ่อ เช่นนั้นแล้ว เรื่องการปลดองค์รัชทายาท ก็เป็นเพียงเรื่องเหลวไหลทั้งสิ้นใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“เจ้าในฐานะองค์รัชทายาท แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในศึกที่เขาซือถัว แต่ก็ได้สร้างคุณูปการขยายดินแดนให้จักรวรรดิมามากมาย ถึงแม้ตอนนี้เจ้าจะสูญสิ้นวรยุทธ์แล้ว แต่การปกครองบ้านเมืองนั้น ไม่ได้ต้องการกำลังรบมากนัก เรายังไม่มีแผนที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ในตอนนี้” ฮ่องเต้อู่เต๋อทำได้เพียงฝืนพระทัยตอบรับ

ในขณะนั้นเอง เสนาบดีกรมขุนนางเซวียเจิ้งเต๋อก็ก้าวออกมา ทูลเสียงดัง “ทูลฝ่าบาท ศึกที่เขาซือถัวพ่ายแพ้ยับเยิน ทหารของเราเสียชีวิตและบาดเจ็บถึงห้าหมื่นนาย องค์รัชทายาทในฐานะผู้บัญชาการทัพ จะไม่สอบสวนถึงความรับผิดชอบของเขาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

เซวียเจิ้งเต๋อคือบิดาของเซวียกุ้ยเฟย และเป็นพ่อตาของฮ่องเต้อย่างแท้จริง ย่อมต้องการให้ฝ่าบาทปลดหยางเฉินออกจากตำแหน่ง องค์ชายรองจึงจะมีโอกาสได้ขึ้นสู่ตำแหน่งองค์รัชทายาท

แน่นอนว่า หากองค์ชายรองหยางคุนได้ถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท อำนาจบารมีของตระกูลเซวียของพวกเขาก็ย่อมจะสูงส่งขึ้นไปอีกขั้น

“ตอนนี้หยางเฉินกลายเป็นคนพิการไปแล้ว หากยังคงเป็นองค์รัชทายาทต่อไป ย่อมต้องกลายเป็นเรื่องตลกของจักรวรรดิอื่นเป็นแน่ กระหม่อมขอทูลเสนอให้ปลดองค์รัชทายาท แล้วแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่พ่ะย่ะค่ะ!” เสนาบดีกรมคลังเซียวจงอี้ ก็ก้าวออกมาเช่นกัน

คนผู้นี้ก็คือบิดาของเซียวซูเฟย เซียวซูเฟยได้ให้กำเนิดองค์ชายสามหยางอี้และองค์ชายแปดหยางรุ่ย องค์ชายสามก็มีคุณสมบัติที่จะชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทได้เช่นกัน ย่อมต้องต้องการที่จะขับไล่หยางเฉินลงจากตำแหน่ง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พรสวรรค์ในการฝึกวรยุทธ์ขององค์ชายสามหยางอี้นั้นสูงส่งอย่างยิ่ง และยังเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้อู่เต๋ออย่างมาก เพียงแต่ด้อยกว่าหยางเฉินในอดีตเล็กน้อยเท่านั้น

“ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรงต่อสู้เพื่อบ้านเมืองจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส หากปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่ง จะไม่ทำให้เหล่าทหารทั้งสามเหล่าทัพต้องใจสลายหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ ในภายภาคหน้า ผู้ใดจะยังกล้าต่อสู้เพื่อบ้านเมืองอีก?” ราชครูขององค์รัชทายาทสวี่จื้อเหว่ยก้าวออกมาคัดค้าน

เขาคืออาจารย์ของหยางเฉิน เป็นเพียงบัณฑิตเฒ่าที่อ่อนแอคนหนึ่ง แต่การที่เขายังสามารถก้าวออกมาพูดแทนหยางเฉินได้ ก็นับว่าหาได้ยากยิ่งแล้ว

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมเห็นว่ามิอาจปลดองค์รัชทายาทได้ แต่สามารถลงโทษเล็กน้อยเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างได้ ลงโทษองค์รัชทายาทเล็กน้อย เพื่อให้ราษฎรสงบจิตใจพ่ะย่ะค่ะ!” หนานกงอู๋ตี๋กล่าวเสียงดัง

ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของฝ่ายทหาร เขารู้ซึ้งถึงความยากลำบากในการเดินทัพทำศึก การที่หยางเฉินสามารถนำทัพใหญ่ ยึดครองดินแดนมาได้มากมาย จะปฏิเสธคุณงามความดีของเขาเพียงเพราะความพ่ายแพ้ชั่วครั้งชั่วคราวไม่ได้เป็นอันขาด

“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยกับความเห็นของท่านแม่ทัพอู๋ตี๋ ลงโทษเล็กน้อยเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ!”

“ทูลฝ่าบาท ร่างกายขององค์รัชทายาทไม่สู้ดีนัก ทั้งยังพิการอีก เพื่อเห็นแก่ความมั่นคงของบ้านเมือง ก็สมควรที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่นะพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมยึดตามเหตุผลไม่ยึดติดกับตัวบุคคล บัดนี้หยางเฉินไม่สามารถดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาทได้ ก็สมควรที่จะสละตำแหน่งให้ผู้ที่มีความสามารถมากกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมเห็นด้วย ขอให้ทรงปลดองค์รัชทายาท...”

ในราชสำนัก กลับมาโต้เถียงกันเรื่องตำแหน่งองค์รัชทายาทอีกครั้ง

หยางเฉินมองทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นชา พบว่าคนที่สนับสนุนตนเองอย่างแท้จริง ยังคงเป็นเหล่าสหายเก่าในกองทัพ

อย่างไรเสีย เขาก็เคยนำทัพสร้างผลงานการรบที่ยิ่งใหญ่มาแล้ว ทหารนั้นนับถือเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงได้ก้าวออกมาพูดแทนเขา

ส่วนเจ้าพวกที่ต้องการจะกำจัดตนเองให้สิ้นซาก หยางเฉินก็ได้จดจำพวกเขาไว้แล้วเช่นกัน

“เมื่อครู่เราได้พูดไปแล้วว่า ยังไม่มีแผนที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ในตอนนี้ หากผู้ใดยังหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ก็อย่าหาว่าเราไม่ไว้หน้า” สีหน้าของฮ่องเต้อู่เต๋อเขียวคล้ำ ทำได้เพียงประกาศย้ำอีกครั้งหนึ่ง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 100

    เวลานี้ ภายห้องโถงใหญ่ของพระตำหนัก ฮ่องเต้อู่เต๋อกำลังนำฮองเฮาถวายพระพรและถวายของขวัญให้ไทเฮา ไทเฮาที่นั่งอยู่ตรงกลางดีพระทัยจนแย้มสรวลไม่หยุด รีบสั่งให้คนจัดที่นั่งให้ฮ่องเต้และฮองเฮาผู้ที่มาร่วมงานคล้ายวันพระราชสมภพในวันนี้ ถูกฮองเฮาแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม กลุ่มที่เข้ามาอวยพรวันเกิดเป็นกลุ่มแรกย่อมเป็นบรรดาพระญาติพระวงศ์ ที่สำคัญก็คือเหล่าองค์ชายและพระราชนัดดา แม้แต่องค์หญิงใหญ่หยางจิ่นอวี๋ก็มาด้วยแล้วต่อจากฮองเฮาก็คือเหล่าพระสนมวังหลัง ที่ตามมาติดๆ กันคือเซวียกุ้ยเฟย เซียวซูเฟย และยังมีเจาหรง เจาอี๋ ไฉเหริน และกุ้ยเหรินจากตำหนักในด้วยแม้แต่มารดาของหยางเฉิน ‘พระสนมฉิงกุ้ยเฟย - หลีหว่านฉิง’ ก็ยังมาอวยพรวันเกิดไทเฮาด้วยทว่านอกจากฮองเฮาและกุ้ยเฟยอีกไม่กี่นางแล้ว เหล่านางสนมที่อยู่ด้านหลังพวกนั้นไม่มีแม้แต่ที่นั่ง จึงทำได้เพียงจากไปทางประตูข้างหยางเฉินในฐานะองค์รัชทายาทและผู้นำของทายาทรุ่นที่สาม แม้จะสูญเสียวรยุทธ์ไปจนสิ้นและต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ทว่าฐานะของเขายังคงตั้งอยู่ตรงนั้น ดังนั้นจึงเป็นคนแรกที่เข้าสู่ห้องโถงเช่นกัน“หลานหยางเฉินขออวยพรเสด็จย่า ขอพระองค์ทรง ‘โชควาสนาเปี่

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 99

    ด้วยความสามารถระดับสามัญวชิระของเขาในอดีต ต่อให้เป็นเพียงพลังยุทธ์สามส่วน ก็สามารถต่อกรกับยอดฝีมือขั้นแปดลงไปได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังมีวิชาลับอันร้ายกาจที่เพิ่มพูนความสามารถได้อีกวันนี้เป็นวันเกิดของเสด็จย่า หยางเฉินเลือกของขวัญที่ดูเข้าเกณฑ์สองชิ้น เตรียมไปอวยพรวันเกิดให้เสด็จย่าเรื่องใหญ่อย่างงานคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา ย่อมมีฮองเฮาประมุขแห่งวังหลังเป็นผู้กำกับดูแล และมีการเชื้อเชิญเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊กับครอบครัว กล่าวได้ว่าครึกครื้นอย่างที่สุดพระตำหนักฉือหนิง เป็นตำหนักที่ประทับของไทเฮา ผู้เป็นพระพันปีหลวงในตอนที่หยางเฉินมาถึงที่นี่ บรรดาเสด็จพี่เสด็จน้องชายทั้งหลายก็ต่างมาถึงกันแล้ว ต่างกำลังเข้าแถวรออยู่นอกตำหนัก เพื่อเข้าไปมอบของขวัญและอวยพรวันเกิดแก่พระพันปี“เสด็จพี่ใหญ่ เสด็จพี่รอง วันนี้พวกท่านไม่ไปเจรจาสันติภาพหรือ?” หยางเฉินแกล้งถามอย่างประหลาดใจ“พอองค์หญิงได้ยินว่าเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา ก็ให้พวกเรามาอวยพรวันเกิดให้เสด็จย่า พรุ่งนี้ค่อยเจรจากันต่อ” องค์ชายใหญ่ตอบด้วยรอยยิ้มองค์ชายรองยิ้มแทรกขึ้นมาว่า “องค์รัชทายาท องค์หญิงผิงหยางผู้นี้คิดได้รอบ

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 98

    คนที่มีเจตนาร้ายแอบแฝงทั้งสองต่างวางแผนเล่นงานอีกฝ่าย เจ้าวางแผนใส่ข้า ข้าก็วางแผนใส่เจ้า!ในขณะที่องค์หญิงผิงหยางกำลังยินดีนั่นเอง สาวใช้ทั้งสองคนของนางก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบงัน คุกเข่าลงกับพื้นทั้งคู่“ทูลองค์หญิง ภารกิจล้มเหลวแล้วเพคะ!”“ว่าอย่างไรนะ? ล้มเหลวแล้ว? หรือถูกเขาค้นพบเข้าแล้ว?” องค์หญิงผิงหยางตกตะลึง“องค์หญิง พวกเราวางกำลังดักซุ่มถึงสองครั้ง แต่ในขณะกำลังจะเข้าสู่หลุมพราง เจ้าหยางเฉินผู้นี้ล้วนวกรถม้ากลับไป ทำให้แผนการของเราล้มเหลวทั้งหมด!” ถัดมา อวิ๋นจือก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างละเอียดอีกรอบหนึ่งองค์หญิงผิงหยางฟังคำรายงานของสาวใช้ ในใจพลันกระตุกขึ้นมา โพล่งออกมาว่า “หรือหยางเฉินจะพบว่าพวกเราคิดลอบสังหารเขาจริงๆ ?”“องค์หญิง พวกเรามิได้ถูกเปิดโปงเพคะ เขาน่าจะไม่รู้ว่าพวกเราคิดลอบสังหารเขา!” ชูเซี่ยส่ายหัว คิดว่าหยางเฉินไม่มีทางสังเกตเห็นพวกนาง“หรือเขาคิดได้ระหว่างทางจริงๆ เลยยอมรับข้อเสนอของข้าแล้วย้อนกลับมาบอกข้า?” องค์หญิงผิงหยางคาดเดา“ข้อเสนออะไรหรือเพคะ?” สาวใช้อวิ๋นจือถาม“ข้าคิดขจัดความสงสัยของเขา จึงบอกไปว่าจะแต่งงานกับเขา แล้วช่วยให้ตำแ

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 97

    “เป็นไปไม่ได้ หากฮ่องเต้กล้าปลดท่าน ข้าก็จะให้จักรวรรดิตงเซิ่งเริ่มทำสงคราม หรือฮ่องเต้จะไม่กลัวราษฎรต้องทุกข์ร้อนหรือ?” องค์หญิงผิงหยางเต็มไปด้วยความอหังการหยางเฉินขมวดคิ้ว กล่าวหน้ามุ่ยว่า “องค์หญิง ท่านก็อย่างได้จ้องจะจับข้าอีกเลย ไม่งั้น ท่านไปทำร้ายเสด็จพี่ใหญ่ หรือเสด็จพี่รองแทนเถอะ?”“หยางเฉิน…เจ้ามัน…” องค์หญิงผิงหยางรู้สึกว่าโมโหจนแม้แต่ปอดก็จะระเบิดแล้ว“องค์หญิง ขอลาก่อนล่ะ!” หยางเฉินกลัวจนต้องรีบเผ่นองค์หญิงผิงหยางมองเงาหลังที่จากไปของเขา ความโมโหบนใบหน้าก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็นรอยยิ้มเยาะหยันที่แสนเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกแทน……หลังหยางเฉินขึ้นรถม้าแล้ว ก็มุ่งหน้าไปทางพระราชวัง เตรียมกลับไปที่ตำหนักรัชทายาททว่า หลังจากรถม้าแล่นออกไปได้ไม่ไกล หัวใจของหยางเฉินที่นั่งอยู่ในรถม้าก็สั่นสะท้านขึ้นมา เขารีบเปิดใช้วิชาสดับฟ้าแผ่ขยายออกไปทันที“หยุดรถ!” หยางเฉินออกคำสั่งเสียงดังยอดฝีมือที่สำนักตรวจการส่งมาคุ้มครองเขามีราวยี่สิบคน แต่ฝีมือของคนพวกนี้กลับมิได้สูงมากนัก“องค์รัชทายาท เกิดสิ่งใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” คนผู้หนึ่งเข้ามาใกล้รถม้าแล้วกระซิบถาม“พวกเจ้าไม่สังเกตเห็นว่า

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 96

    ซยงหนูเคลื่อนลงใต้มารุกรานที่ราบภาคกลาง นี่เป็นภัยคุกคามที่มีมานานของจักรวรรดิส่วนการรุกรานในครั้งนี้ของพวกซยงหนู จะเป็นการร่วมมือกับจักรวรรดิตงเซิ่งหรือไม่ หรือจะเป็นเพราะซยงหนูเห็นจักรวรรดิตงเซิ่งปิดล้อมป้อมปราการเกอเอ่อเติง อยากฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ จับปลาในน้ำขุ่น จึงเคลื่อนทัพลงใต้ก็ยากที่จะบอกได้อันที่จริงแล้ว ในสายตาของหยางเฉิน ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนไม่ได้สำคัญถึงเพียงนั้น ยามนี้พลังยุทธ์ของเขาฟื้นตัวกลับมาได้สามส่วนแล้ว ขอเพียงฟื้นฟูกลับมาได้ห้าส่วน ต่อให้เป็นยอดฝีมือขั้นเก้าเขาก็ไม่กลัว สามารถนำทัพออกศึกได้แล้วตามการขยายขอบเขตของ ‘วิชาสดับฟ้า’ ตอนนี้เพียงพอที่จะครอบคลุมระยะยี่สิบเมตรแล้ว หากเขาฝึกฝนต่อไป ระยะหลายร้อยหรือกระทั่งหลายพันเมตรก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาขอเพียงมีวิชาลับนี้อยู่ เขาก็จะไม่มีทางตกสู่หลุมพรางของศัตรูอีกเมื่อเผชิญกับท่าทีบีบคั้นผู้คนขององค์หญิงผิงหยาง หยางเฉินก็มิได้ใส่ใจเลย เขากลับหลุดหัวเราะออกมาราวได้ยินเรื่องตลกว่า “องค์หญิง ท่านคิดว่าคำข่มขู่เล็กๆ นี้ของท่าน จะทำให้พวกเรายอมแพ้ได้หรือ?”“ความหมายขององค์รัชทายาทคือ จะรอจนพวกเราตีป้อมปรา

  • รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่   บทที่ 95

    การเจรจาสันติภาพของนางกับองค์ชายทั้งสองในวันนี้ ไม่อาจเรียกว่าการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งเลยสักนิด รู้สึกเพียงว่ามีแมลงวันสองตัวกำลังส่งเสียงหึ่งหึ่งอยู่ข้างหูนาง และทุกครั้งที่พูดถึงประเด็นสำคัญ พวกเขาก็จะหลีกเลี่ยงไม่ยอมคุยที่น่าโมโหกว่านั้นก็คือ องค์ชายใหญ่จะเชิญนางไปร่วมรับประทานอาหารค่ำ ส่วนองค์ชายรองก็จะเชิญนางไปร่วมชมจันทร์ทันทีที่นึกถึงองค์ชายทั้งสองผู้ใช้ร่างกายท่อนร่างแทนสมอง องค์หญิงผิงหยางก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย ทว่า เมื่อนางแสร้งส่งสัญญาณเป็นนัยว่าตนสนใจหยางเฉิน ก็สามารถปลุกเพลิงโทสะในตัวองค์ชายทั้งสองขึ้นมาได้สำเร็จหากกระตุ้นพวกเขาต่อไป ไม่แน่อาจทำให้พวกเขากำจัดหยางเฉินทิ้งก็ได้นับแต่โบราณมา ‘อุบายหญิงงาม’ ก็เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ร้อยครั้งสัมฤทธิ์ผลร้อยครา องค์หญิงผิงหยางใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อ องค์ชายทั้งสองย่อมติดกับเป็นธรรมดาในความเป็นจริงแล้ว เพื่อต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ องค์ชายทั้งสองก็มีความคิดจะสังหารหยางเฉินมานานแล้ว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ส่งคนไปลอบโจมตีเรือนรับรองทิงเฟิงครั้งนี้ องค์หญิงผิงหยางแค่กระตุ้นพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาก็พลันเกิดจิตสังหารต่อหยางเฉินแล้ว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status