All Chapters of รัชทายาทผงาดฟ้า: แผ่นดินนี้ข้าเป็นใหญ่: Chapter 1 - Chapter 10

100 Chapters

บทที่ 1

“ทูลฝ่าบาท ศึกที่เขาซือถัว กองทัพของเราพ่ายแพ้ยับเยิน ทหารห้าหมื่นนายสิ้นชีพในสนามรบ องค์รัชทายาทในฐานะแม่ทัพใหญ่ของสามเหล่าทัพ ต้องได้รับโทษอย่างหนัก เพื่อให้จิตใจของราษฎรสงบลงพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ ต้องลงโทษองค์รัชทายาทอย่างหนัก เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของเหล่าทหารทั้งห้าหมื่นนาย...”“กระหม่อมขอเสนอให้ปลดองค์รัชทายาท และแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ เพื่อความมั่นคงของแผ่นดินพ่ะย่ะค่ะ...”“ฝ่าบาท ถึงแม้องค์รัชทายาทจะพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นการสู้รบเพื่อบ้านเมือง จะปลดจากต้ำแหน่งไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ มิฉะนั้นจะทำให้ราษฎรทั่วหล้าต้องใจสลาย...”“...”ฮ่องเต้อู่เต๋อทอดพระเนตรเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ที่กำลังโต้เถียงกันไม่หยุดเบื้องล่าง ก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาหนึ่งเดือนก่อน จักรวรรดิตงเซิ่งรุกราน ฮ่องเต้อู่เต๋อได้ส่งองค์รัชทายาทหยางเฉินนำทัพออกศึก แต่กลับตกหลุมพรางของศัตรู เป็นเหตุให้กองหน้าห้าหมื่นนายต้องตายในสนามรบหยางเฉินเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส รองแม่ทัพต้องสู้ตายถึงจะช่วยชีวิตเขากลับมาได้ แต่คาดไม่ถึงว่า หลังจากบาดเจ็บสาหัส วรยุทธ์ขององค์รัชทายาทจะสูญสิ้นไปทั้งหมด อ
Read more

บทที่ 2

ช่วงเวลาเนิ่นนานที่ผ่านมา สองพี่น้องมีวรยุทธ์ด้อยกว่าหยางเฉิน ทุกครั้งล้วนถูกเขาสั่งสอน และไม่กล้าตอบโต้เมื่อพวกเขารู้ว่าหยางเฉินสูญสิ้นวรยุทธ์ไปแล้ว ก็ตื่นเต้นจนนิ้วทุกนิ้วสั่นระริกโอกาสในการแก้แค้นมาถึงแล้ว!ถึงแม้พวกเขาจะไม่กล้าสังหารองค์รัชทายาทผู้นี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการระบายความแค้น ด้วยการซ้อมเขาให้หนำใจเลยแม้แต่น้อยพลั่ก พลั่ก พลั่ก...หมัดแล้วหมัดเล่ากระแทกลงบนเนื้อ โลหิตสาดกระเซ็น!สำหรับองค์ชายทั้งสองแล้ว เสียงเหล่านั้นไพเราะราวกับเสียงดนตรีอันงดงาม ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิมราวกับมีพลังเหลือล้นหยางเฉินกัดฟันแน่น ทนรับความทรมานที่เกินกว่ามนุษย์จะทนไหว ดวงตาทั้งคู่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงดุจมัจจุราชแม้ในอดีตเขาจะเคยสั่งสอนเจ้าสองคนนี้ ทว่า เขาก็ยังเห็นแก่ความเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด จึงได้ออมมือไว้ ไม่ได้ลงมือหนักถึงตายคาดไม่ถึงว่า บัดนี้เมื่อตนสูญสิ้นวรยุทธ์ พวกเขาก็เผยธาตุแท้ออกมา คิดจะจัดการเขาให้ถึงตายให้ได้นี่น่ะหรือคือพี่น้องร่วมสายเลือด?หากไม่ใช่เพราะหยางเฉินยังคงเป็นองค์รัชทายาท การสังหารเขาจะนำมาซึ่งปัญหายุ่งยาก เกรงว่าสองพี่น้องคงจะลงมือ
Read more

บทที่ 3

หยางเฉินโอรสผู้เปี่ยมพรสวรรค์องค์นี้ เป็นความภาคภูมิใจของฮ่องเต้อู่เต๋อมาโดยตลอด และพระองค์ก็ทรงเลี้ยงดูเขาในฐานะผู้สืบทอดบัลลังก์มาโดยตลอดแน่นอนว่า สิ่งนี้ก็ได้บ่มเพาะนิสัยอันยโสโอหัง มองใต้หล้าด้วยสายตาเหยียดหยาม และไม่เห็นใครอยู่ในสายตาของหยางเฉินขึ้นมาดั่งคำกล่าวที่ว่า ไม้ที่สูงเด่นในป่า ย่อมถูกลมโค่นก่อนเสมอ!ก็เป็นเพราะหยางเฉินเก่งกาจโดดเด่นเกินไป จึงได้นำภัยพิบัติถึงฆาตมาสู่ตน!เจ้าเด็กนี่ถึงกับกล้าเอ่ยคำพูดที่อกตัญญูทรยศอย่างการก่อกบฏออกมา หากเป็นองค์ชายองค์อื่น ฮ่องเต้อู่เต๋อคงสั่งลากตัวไปตัดหัวนานแล้ว“เจ้าลูกอกตัญญู หากไม่ใช่เพราะเจ้าบาดเจ็บอยู่ เราคงจะสังหารเจ้าด้วยฝ่ามือเดียวไปแล้ว! เรื่องที่เราพูดกับเจ้า เจ้าจงกลับไปคิดทบทวนให้ดี ๆ ...” ฮ่องเต้อู่เต๋อสะบัดแขนเสื้ออย่างฉุนเฉียวและจากไป“อั่ก...” หยางเฉินกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ดวงตาฉายแววสังหารอันเย็นเยียบเรื่องที่องค์ชายเจ็ดทำร้ายเขา ในเมื่อเสด็จพ่อทรงทราบแล้วแต่กลับไม่ได้ลงโทษเจ้าเจ็ด นั่นก็หมายความว่าสถานะของเขาในใจของเสด็จพ่อได้ตกต่ำลงอย่างฮวบฮาบแล้วในเมื่อเสด็จพ่อไม่เต็มใจจะช่วยเขาแก้แค้น เช่นนั้นก็มีแต่ต้
Read more

บทที่ 4

หว่านเอ๋อร์เป็นสาวใช้ของเสด็จแม่ นับตั้งแต่ที่ตนย้ายเข้ามาอยู่ในตำหนักบูรพา เสด็จแม่ก็ให้หว่านเอ๋อร์มาคอยดูแลตนเองถึงแม้จะเป็นนายบ่าว แต่ก็สนิทสนมกันราวกับพี่น้อง!บัดนี้กลับมีคนกล้าสังหารนาง แค้นนี้หากไม่ชำระ ข้าหยางเฉินขอสาบานว่าจะไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป!“องค์รัชทายาท เมื่อวานหว่านเอ๋อร์กัดองค์ชายเจ็ดจนบาดเจ็บ ข้าน้อยสงสัยว่าเป็นเขาและองค์ชายรองที่สังหารหว่านเอ๋อร์” แม่ทัพไป๋สะกดกลั้นน้ำตา กล่าวเสียงเย็น“เจ้าเดรัจฉานสองตัวนั่น กล้าดีอย่างไรมาฆ่าหว่านเอ๋อร์ ข้าจะสับพวกมันให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้น!” ดวงตาทั้งคู่ของหยางเฉินแดงก่ำ จิตสังหารพลุ่งพล่านออกมา“องค์รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี?” แม่ทัพไป๋เอ่ยถามเสียงเย็นนางคือแม่ทัพหญิงผู้เด็ดขาดในสนามรบ วรยุทธ์ทั่วร่างบรรลุถึงขั้นเก้าแล้ว ขอเพียงหยางเฉินเอ่ยปากคำเดียว ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ นางก็จะไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อยแม้จะต้องไปสังหารองค์ชายทั้งสอง นางก็จะปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีข้อโต้แย้งทว่า ข้างกายองค์ชายรองและองค์ชายเจ็ดก็มียอดฝีมือคอยคุ้มกันอยู่ หากลงมือขึ้นมา เกรงว่าแม่ทัพไป๋ก็คงจะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้นับตั้งแต่ศึกที
Read more

บทที่ 5

หยางเฉินทำศึกสงครามมานานหลายปี ทุกครั้งล้วนรอบคอบระมัดระวัง การถูกซุ่มโจมตีที่เขาซือถัวในครั้งนี้ ทำให้เขาสงสัยว่าตนเองถูกหักหลังเมื่อพิจารณาจากการเดินทัพและการจัดทัพของเขา เขาได้หารือแผนการรบนี้กับเสด็จพ่อและแม่ทัพใหญ่แห่งกรมกลาโหมหนานกงอู๋ตี๋เพียงสองคนเท่านั้น หรือว่าแผนการรบจะรั่วไหลออกไป?เสด็จพ่อไม่มีทางหักหลังตนเอง หนานกงอู๋ตี๋ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของจักรวรรดิ ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะคบคิดกับศัตรูเพื่อทรยศชาติหรือว่าเป็นเพราะในกองทัพของตนเองมีไส้ศึกของศัตรูแฝงตัวอยู่ และได้ส่งแผนการเดินทัพของตนออกไป?ในใจของหยางเฉินเต็มไปด้วยความสงสัย แต่กลับไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อย ทำได้เพียงลอบสืบสวนจากแต่ละด้านไปก่อน ดูว่าจะสามารถหาเบาะแสอะไรได้บ้างหรือไม่?ทว่า สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ย่อมเป็นการฟื้นฟูพลังของตนเอง และสร้างกองกำลังใหม่ของตนขึ้นมา จึงจะสามารถรักษาตำแหน่งองค์รัชทายาทของตนไว้ได้“แม่ทัพไป๋ เจ้าไปจัดการเรื่องหนึ่ง...” หยางเฉินส่งสัญญาณให้นาง แม่ทัพหญิงจึงขยับเข้าไปใกล้ไป๋หานอีพยักหน้ารับเล็กน้อย รับคำสั่งแล้วจากไปหยางเฉินมองร่างของหว่านเอ๋อร์ที่อยู่บนพื้น ในสมองหวนนึกถึงภ
Read more

บทที่ 6

หากต้องการช่วงชิงอำนาจใต้หล้า ในอดีตหยางเฉินเคยคิดว่าขอเพียงตนเองแข็งแกร่งพอ องค์ชายองค์อื่น ๆ ก็ไม่นับว่าเป็นที่น่ากังวลแต่อย่างใดทว่า ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรกับคนไร้ค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่เขายังไม่ได้เริ่มฝึกฝน ‘เคล็ดวิชาชีพจรซ่อนเร้นสวรรค์’ ดังนั้น ในช่วงเวลานี้เกรงว่าคงต้องใช้กลอุบายเพื่อถ่วงเวลาองค์ชายองค์อื่น ๆ ไปก่อนการที่เขาโยนปัญหานี้ไปให้ซ่างกวนหลิน ก็เป็นการหยั่งเชิงเขาเช่นกัน เพราะซ่างกวนหลินในตอนนี้ ย่อมต้องมีแผนการในใจที่มากกว่าเป็นไปตามคาด เมื่อซ่างกวนหลินได้ยินเช่นนั้น ก็ยิ้มอย่างเฉยเมยแล้วเอ่ยขึ้น “ความโปรดปรานที่ฝ่าบาททรงมีต่อองค์รัชทายาทนั้น เป็นสิ่งที่องค์ชายองค์อื่นมิอาจเทียบได้ กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทจะไม่ปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งพ่ะย่ะค่ะ”หยางเฉินมองดูคำพูดบ่ายเบี่ยงของซ่างกวนหลิน ก็คล้ายจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา ขณะที่ในใจกำลังทอดถอนใจกับความเปลี่ยนแปลงของน้ำใจผู้คน กลับรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยอย่างบอกไม่ถูกตอนนี้เขาสูญสิ้นวรยุทธ์ และยังเป็นคนพิการ ก็เป็นการดีที่จะได้เห็นอย่างชัดเจนว่าในราชสำนักนี้ ผู้ใดกันแน่ที่เต็มใจจะติดตามตนเองอย่างแท้จริง?ท่
Read more

บทที่ 7

แม้ว่าจักรวรรดิเฉียนอู่จะก่อตั้งขึ้นด้วยการทหาร ทว่า ขนบธรรมเนียมและกฎเกณฑ์ก็ยังคงเข้มงวดอย่างยิ่งองค์รัชทายาทคือองค์รัชทายาทของจักรวรรดิ การที่องค์ชายรองเรียกชื่อของเขาตรง ๆ นับเป็นการไม่เคารพอย่างยิ่ง หากเป็นในยามปกติ หยางเฉินคงตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่งแล้วแต่ว่า ตอนนี้เขาสูญสิ้นวรยุทธ์ไปแล้ว หากลงมือขึ้นมา ย่อมไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดองค์ชายรองกล่าวเย้ยหยันหยางเฉินว่าเป็นคนพิการต่อหน้าเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ เดิมทีแล้วก็เพื่อต้องการที่จะยั่วยุหยางเฉิน และในขณะเดียวกัน ก็เพื่อให้เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ได้เห็นว่า ตนเองแข็งข้อกับองค์รัชทายาทอย่างไร?แน่นอนว่า นี่ก็เป็นการบอกแก่ขุนนางที่เคยสนับสนุนหยางเฉินว่า ยุคของหยางเฉินได้ผ่านพ้นไปแล้ว พวกท่านสามารถเลือกข้างใหม่ได้แล้ว“พี่รอง ความหมายของท่านคือท่านคู่ควรที่จะเป็นองค์รัชทายาทสินะ” หยางเฉินกล่าวพลางแค่นเสียงเย็น“อย่างน้อยข้าก็ไม่ใช่คนพิการ ไม่ใช่คนไร้ค่า เจ้าว่าจริงหรือไม่?” หยางคุนถามกลับเสียงเย็น“เมื่อก่อนยามเจอหน้าข้า ก็เหมือนหนูเจอแมว ไม่เดินเลี่ยงก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น คนไร้ค่าอย่างท่านยังกล้ามาเยาะเย้ยข้าอีกหรือ? ช่าง
Read more

บทที่ 8

การคาดเดาพระราชประสงค์โดยพลการ นับเป็นข้อห้ามร้ายแรง!เพียงชั่วพริบตาเดียว ฮ่องเต้อู่เต๋อก็ทรงตัดสินพระทัยว่า วันนี้ไม่ใช่วันดีที่จะปลดองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน ทำได้เพียงหาโอกาสในภายหลังเท่านั้น“เจ้าเจ็ด วันนี้เราเห็นแก่ความเยาว์วัยไม่รู้ความของเจ้า จะไม่ลงโทษเจ้า แต่ว่า ตำแหน่งองค์รัชทายาทคือรากฐานของจักรวรรดิ คือรากฐานของบ้านเมือง พวกเจ้ามิอาจคาดเดาความคิดของเราโดยพลการได้” ฮ่องเต้อู่เต๋อยังทรงเมตตาอยู่มาก ไม่ได้ทรงตำหนิองค์ชายเจ็ดมากเกินไป“ขอบพระทัยเสด็จพ่อในพระมหากรุณาธิคุณ ลูกจะจดจำไว้ในใจ ไม่กล้าอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” องค์ชายเจ็ดรีบโขกศีรษะขอบพระทัยหยางเฉินฉวยโอกาสนี้ทันที ทูลถามเสียงดัง “เสด็จพ่อ เช่นนั้นแล้ว เรื่องการปลดองค์รัชทายาท ก็เป็นเพียงเรื่องเหลวไหลทั้งสิ้นใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“เจ้าในฐานะองค์รัชทายาท แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในศึกที่เขาซือถัว แต่ก็ได้สร้างคุณูปการขยายดินแดนให้จักรวรรดิมามากมาย ถึงแม้ตอนนี้เจ้าจะสูญสิ้นวรยุทธ์แล้ว แต่การปกครองบ้านเมืองนั้น ไม่ได้ต้องการกำลังรบมากนัก เรายังไม่มีแผนที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ในตอนนี้” ฮ่องเต้อู่เต๋อทำได้เพียงฝืนพระทัยตอบรั
Read more

บทที่ 9

เมื่อฝ่าบาททรงเอ่ยปากแล้ว เจ้าพวกนั้นก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของตนอีกต่อไป บรรยากาศพลันเงียบสงบลงทันทีขณะที่ทุกคนกำลังปิดปากเงียบ หยางเฉินก็ทูลขึ้นเสียงดัง “ทูลเสด็จพ่อ ตอนนี้ลูกสูญสิ้นวรยุทธ์ไปแล้ว ขาข้างขวาก็พิการ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นองค์รัชทายาทของจักรวรรดิจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ลูกทูลขอให้เสด็จพ่อทรงปลดลูกออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาท แล้วแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”“ว่ากระไรนะ? เจ้า...เจ้าจะให้เราปลดเจ้าหรือ?” ฮ่องเต้อู่เต๋อทรงตกพระทัยอย่างยิ่งเจ้าลูกสารเลวคนนี้ เมื่อวานซืนยังพูดอยู่เลยว่า “แผ่นดินของข้า ข้าเป็นผู้ครอง” วันนี้กลับมาจะให้เราปลดเขา เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือ ตนเพิ่งจะพูดไปว่า ยังไม่มีแผนที่จะแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ใหม่ในตอนนี้ เจ้าเด็กนี่กลับกระโดดออกมาจะให้เราปลดเขาอีก?นี่ต้องการจะให้เราถอนคำสั่ง ตบหน้าตัวเองอย่างนั้นหรือ?เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊คนอื่น ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ก็ตกใจอย่างยิ่ง ต่างพากันหันขวับมามอง รู้สึกงุนงงไปตาม ๆ กันแน่นอนว่า คนที่ตกใจที่สุดย่อมต้องเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าอย่างซ่างกวนหลิน อย่างไรเสีย
Read more

บทที่ 10

ฮองเฮาในฐานะมารดาผู้ให้กำเนิดองค์ชายใหญ่ ย่อมหวังให้หยางเฉินสละตำแหน่งให้ผู้ที่มีความสามารถมากกว่า ทว่า นางมองปราดเดียวก็รู้ว่าหยางเฉินกำลังใช้กลยุทธ์ถอยเพื่อรุก จึงไม่ได้รีบเอ่ยปากอย่างไรเสีย เรื่องเช่นนี้ก็ต้องให้ฮ่องเต้อู่เต๋อทรงตัดสินพระทัยด้วยพระองค์เอง แต่การที่องค์ชายทั้งสองรีบร้อนก้าวออกมาเช่นนี้ ก็ทำให้ฮ่องเต้อู่เต๋อจำต้องยึดมั่นในคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสไปก่อนหน้านี้แน่นอนว่า ในพระทัยของฮ่องเต้อู่เต๋อก็ทรงทราบดีว่า ถึงแม้หยางเฉินจะพ่ายศึก แต่ก็เป็นความพ่ายแพ้ที่ยังคงไว้ซึ่งเกียรติภูมิ ไม่ได้มีความผิดมหันต์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ในราชสำนักยังมีคนช่วยทูลขอความเมตตาให้เขาฮ่องเต้อู่เต๋อไม่ต้องการที่จะยืดเยื้อเรื่องนี้อีกต่อไป ทรงหันไปทอดพระเนตรแม่ทัพหนานกง แล้วตรัสถามเสียงดัง หนานกงอู๋ตี๋ สถานการณ์ทางฝั่งจักรวรรดิตงเซิ่งเป็นอย่างไรบ้าง?”“ทูลฝ่าบาท แม้ว่าจักรวรรดิตงเซิ่งจะได้รับชัยชนะในศึกที่เขาซือถัว แต่เมื่อเทียบกับกองทัพห้าหมื่นนายของเราแล้ว พวกเขากลับมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บถึงแปดหมื่นนาย อาจกล่าวได้ว่า ศึกที่เขาซือถัวนั้น จักรวรรดิตงเซิ่งพ่ายแพ้อย่างยับเยินพ่ะย่ะค่ะ” หนานกง
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status