“ใครบอกว่าคนเป็นเนื้อคู่มักจะหน้าตาคล้ายกัน แต่กูรอพี่มายด์มาสามปีแล้วนะเว้ย ทำไมถึงยังไม่เลิกกับแฟนสักทีวะ”
มังกร หนุ่มหล่อหน้าตี๋ นักศึกษาปีสี่ คณะบริหารธุรกิจ ส่งเสียงบ่นให้เพื่อนรักทั้งสองคนฟังราวกับน้อยใจในโชคชะตา พร้อมลมหายใจที่ถอนออกมาอย่างหนักอก
นับเวลาก็สามปีเต็มที่เขาแอบรักพี่สาวคนสวยเจ้าของคาเฟตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก แต่ทว่าอกหักตั้งแต่รักยังไม่เริ่ม เพราะมารู้ทีหลังว่าเธอมีเจ้าของหัวใจแล้ว
“กูล่ะยอมใจมึงจริง ๆ รอมาได้ยังไงตั้งสามปี ถ้าเป็นกูป่านนี้คงเปลี่ยนแฟนไปไม่รู้กี่คนละ”
มังกรเบี่ยงสายตาดุมองใบหน้าของเพื่อนสนิทที่มีชื่อว่า หมอก เพราะถ้อยคำของมันนั้นไม่เข้าหูเอาเสียเลย
“นั่นมันมึง ไม่ใช่กู”
“มึงจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมา พวกกูบอกให้เลิกชอบแล้วไปมองผู้หญิงคนอื่น มึงก็ไม่เอา”
เพื่อนสนิทอีกคนที่ชื่ออชิส่ายหน้าเบา ๆ บ่นอุบอิบใส่มังกร เคยเตือนมันแล้วว่าอย่าไปชอบคนมีเจ้าของ แต่เพื่อนก็ดันไม่ฟัง
มังกรเป็นคนมีความมุ่งมั่น ถ้าตั้งใจทำสิ่งใดแล้วก็จะทำให้สำเร็จ เรื่องความรักก็เช่นเดียวกัน
ตลอดสามปีที่ผ่านมาได้แต่ภาวนาทุกวี่วันขอให้พี่สาวคนสวยเลิกกับแฟนเสียที เขาจะได้เดินหน้าจีบอย่างไม่รู้สึกผิด
“เรื่องของหัวใจมันห้ามกันได้ที่ไหนละวะ” มังกรเอ่ยเสียงเข้ม
*****
สามปีก่อน
หลังจากเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน เขาก็ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นแม่ให้ไปเก็บค่าเช่าบ้านที่อยู่แถวคอนโดยี่สิบหลัง
มังกรเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าสัวมานะและญาดา ผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารอาหารไทย-จีน เจ้าของอาคารพาณิชย์สามสิบแห่ง และบ้านเช่าอีกสองร้อยหลัง
ถึงจะไม่อยากรับหน้าที่แต่ก็ต้องทำด้วยความจำใจ เพราะเงินเหล่านั้นทางครอบครัวจะให้เป็นเงินเดือนสำหรับใช้จ่ายระหว่างพักคอนโดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
เขาเริ่มเก็บเงินจากบ้านหลังสุดท้ายจนมาถึงหลังแรกที่อยู่ตรงหัวมุมของปากซอย เป็นบ้านสองชั้นขนาดสองห้องนอนสองห้องน้ำ ปูหญ้ารอบตัวบ้านเขียวชอุ่มให้ความรู้สึกเย็นตาและสบายใจ
บริเวณหน้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับริมรั้วเคยเปิดเป็นร้านอาหารเก่า โดยคนที่มาเช่าเพิ่งจะรีโนเวทเป็นคาเฟให้บริการอาหาร เบเกอรี และเครื่องดื่ม
ซึ่งมีชื่อร้านว่า Smile cafe (สไมล์ คาเฟ)
หนุ่มหล่อหน้าตี๋เปิดประตูเข้าไปในคาเฟที่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงหนึ่งอาทิตย์ เสียงกระดิ่งลมที่แขวนอยู่บนประตูกระจกบ่งบอกให้คนในร้านทราบว่ามีลูกค้าคนใหม่เข้ามา
“สไมล์ คาเฟ ยินดีต้อนรับค่ะ”
เสียงหวานของคนที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานบาดใจ ส่งผลให้นักศึกษาหนุ่มยืนแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน
ดวงตาของมังกรจ้องมองคนตรงหน้าไม่กระพริบ เสียงเพลงที่เปิดคลอแผ่วเบาภายในร้านได้เงียบลงราวกับหูหนวกฉับพลัน ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงตึกตักอย่างไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน
“คุณลูกค้ารับอะไรดีคะ”
มายด์ สาวสวยเจ้าของคาเฟเอ่ยถามลูกค้าด้วยน้ำเสียงสุภาพและรอยยิ้มต้อนรับ
เธอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่หลังจากเรียนจบแล้วหางานทำไม่ได้ จึงตัดสินใจเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยนำเงินเก็บทั้งหมดทุ่มเทให้กับคาเฟแห่งนี้
ในช่วงเปิดร้านใหม่ลูกค้ายังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกระดิ่งสั่นสะเทือน
“เอ่อ... ผมเอา... นมชมพูครับ”
เสียงทุ้มตอบด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขิน ต่อว่าตัวเองในใจว่าแม่บอกให้มาเก็บค่าเช่าบ้าน แล้วจะมาสั่งนมชมพูทำไม ทั้งที่เขาเองก็ไม่เคยกินเครื่องดื่มรสหวานแบบนี้มาก่อน
“นั่งรอสักครู่นะคะ ที่โต๊ะมีเมนูอาหาร ถ้าอยากสั่งอะไรเพิ่มก็เรียกพนักงานได้เลยนะคะ”
“ครับ”
มังกรเข้าไปนั่งโต๊ะที่จัดวางชิดกับผนังกระจกสีใส ดวงตาคู่คมลอบมองไปยังหน้าเคาน์เตอร์เป็นระยะ ไม่นานพี่สาวคนสวยก็ทำเมนูที่เขาเพิ่งสั่งไป แล้วนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะด้วยตัวเอง
“นมชมพูได้แล้วค่ะ”
หนุ่มหล่อละสายตาจากรอยยิ้มละมุนของพี่สาวคนสวยไม่ได้เลยจริง ๆ เผลอเลื่อนมือไปหยิบแก้วนมชมพูขึ้นมาดื่มไปหลายอึก ลิ้นไม่รับรู้ว่ารสชาติมันหวานหรือเลี่ยนไปหรือไม่ รู้แค่ว่าใบหน้าของพี่สาวเจ้าของร้านนั้นสวยโดนใจเขามาก
จนกระทั่งเธอเดินจากไปพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมเจือจางลงเรื่อย ๆ เปลือกตาของเขาถึงกระพริบ และเพิ่งสังเกตเห็นว่าแก้วน้ำหวานถูกดื่มไปจนเกือบหมดราวกับกระหายน้ำมาตลอดทั้งวัน
มังกรหลงติดใจน้ำสีชมพูที่ชงโดยฝีมือของพี่สาวกลิ่นตัวหอม รสชาตินั้นถูกปากถูกใจจนลืมไปเลยว่ามาที่นี่ด้วยเหตุผลใด พอจ่ายเงินค่าน้ำหวานและผัดกะเพราทะเลที่สั่งใส่กล่องเสร็จแล้ว ก็เดินออกจากร้านไปทันที
ดวงตาแพรวพราวและรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อขณะขับรถมุ่งหน้ากลับคอนโดที่อยู่ห่างกันประมาณสามกิโลเมตร แต่ทว่ากลับมีความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อพี่สาวคนสวย และดันลืมเรื่องสำคัญนั่นก็คือเก็บค่าเช่าไปเลย
หลังจากเรียนจบมังกรก็ได้ทุ่มเทเวลาในการเรียนรู้งานธุรกิจของครอบครัว และในวันหยุดก็มาช่วยงานแฟนสาวที่คาเฟความรักของมังกรและมายด์ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย เขาไม่อิดออดที่จะแสดงความรักและการเอาใจใส่เธอเลยสักครั้ง หนุ่มหล่อมักจะมีของขวัญมอบให้ในวันพิเศษ บางครั้งก็พากันไปกินอาหารนอกบ้าน ไปเดินเล่น ไปดูหนัง ชอปปิง ไม่ต่างจากแรกเริ่มที่คบกันอาทิตย์ละหนึ่งวันก็จะแวะไปรับประทานอาหารกับครอบครัวของแฟนหนุ่ม เพื่อให้พ่อแม่ของเขาอุ่นใจว่าทั้งสองคนยังคบกันด้วยดีและวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของเขาจะมาเยี่ยมชมและรับประทานอาหารมื้อค่ำที่คาเฟของมายด์“ตกแต่งได้สวยมากเลยนะจ๊ะ หนูมายด์เก่งมากที่เริ่มต้นธุรกิจนี้ด้วยตัวเอง แถมยังบริหารงานได้ดีอีกด้วย”ญาดาเอ่ยชื่นชมแฟนของลูกชาย ช่างน่าภูมิใจที่เขาเลือกคนรักได้สวย เก่ง และถูกใจพ่อกับแม่เป็นอย่างมากมายด์เป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตอนเรียนปีสอง เธอใช้เงินที่ได้รับจากประกันชีวิตของบุพการีหกแสนบาท ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบและเริ่มต้นธุรกิจที่นี่ ทว่าหญิงสาวนั้นเก่งมากที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ผ่านเข้ามา“ขอบคุณค่ะ เป็นเพราะไ
ช่วงเย็นของสุดสัปดาห์ค่ำวันนี้มังกรจะพาแฟนสาวไปเปิดตัวกับพ่อแม่เป็นครั้งแรก ทว่ามายด์อาบน้ำเรียบร้อยแล้วแต่ยังหาชุดใส่ไม่ได้ เธอได้ลองหยิบชุดนี้มาทาบตัวก็ดูไม่เหมาะ พอหยิบอีกชุดก็ดูไม่สวย เขาจึงเข้าไปสวมกอดจากทางด้านหลังและหอมแก้มเนียนนุ่มทั้งสองข้างสูดกลิ่นหอมฟอดใหญ่“ผมเลือกให้นะครับ”“อือ” เธอขานรับในลำคอหนุ่มหล่อเข้าไปหยิบชุดเดรสสีครีมทรงระบาย ความยาวเลยหัวเข่า พิมพ์ลายดอกไม้เล็ก ๆ แขนจั๊มทั้งสองข้าง ในความคิดของมังกร มายด์ใส่ชุดอะไรก็สวย ที่เธอเลือกชุดไหนก็ไม่ถูกใจคงเป็นเพราะเกิดความกังวลมากเกินไป“เอาชุดนี้ละกันครับ”“เลือกเก่งเหมือนกันนะ”หญิงสาวเลื่อนมือออกไปรับชุดที่มังกรเลือกให้ซึ่งเป็นชุดตัวแรกที่เธอหยิบขึ้นมาทาบตัว ทว่าตอนนั้นมองว่ามันอาจจะเชยเกินไปเลยเปลี่ยนเป็นตัวใหม่ แต่ถ้ามังกรชอบชุดนี้ เธอก็จะสวมใส่ชุดที่เขาช่วยเลือกไปพบบิดามารดาของแฟนหนุ่ม และหวังว่าพวกท่านจะประทับใจในตัวเธอมังกรได้พามายด์ไปที่ภัตตาคารอาหารไทย-จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัว เป็นสถานที่ที่พ่อแม่ของเขามักจะใช้ต้อนรับแขกคนสำคัญ มายด์สวมชุดเดรสเรียบร้อยแต่ดูดี ใบหน้าของเธอที่แต่งแต้มเครื่องสำอาง
พูดคุยกับพ่อแม่เสร็จ หนุ่มหล่อก็เดินทางกลับไปยัง Smile cafe (สไมล์ คาเฟ) เพื่อไปอยู่เป็นกำลังใจให้กับแฟนสาวภายในร้านเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึม แม้จะมีเสียงเพลงแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เจ้าของอย่างมายด์รู้สึกผ่อนคลายแต่อย่างใดเสียงกระดิ่งตรงประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของแฟนหนุ่มเดินเข้ามา เรียกสายตาของหญิงสาวให้หันไปมอง“กลับมาแล้วเหรอ”“ครับ”มังกรเข้าไปนั่งอยู่เป็นเพื่อนเธอที่โต๊ะด้านหลังเคาน์เตอร์ วันนี้ที่ร้านไม่คึกคักเหมือนเก่า มายด์แทบไม่ได้ลุกออกไปต้อนรับลูกค้าเลย ใบหน้าของเธอห่อเหี่ยวราวกับดอกไม้กำลังเฉาลงเรื่อย ๆ เขาจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้“พี่มายด์”“ฮึ”“เรามาทำให้คาเฟกลับมาคึกคักกันเถอะครับ”มายด์จ้องใบหน้าของแฟนหนุ่มด้วยความประหลาดใจ หรือว่าเขามีไอเดียดี ๆ ที่จะช่วยให้คาเฟของเธอพลิกจากสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้แล้วมังกรนำเสนอแผนงานเรียกลูกค้าที่เขาคิดไว้ ในเมื่ออดีตคนรักของเธอใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้ภาพลักษณ์ของคาเฟแย่ลงภายในพริบตา เขาก็จะใช้หลักการเดียวกันในการเรียกลูกค้ากลับคืน ซึ่งมายด์ได้ฟังก็พยักหน้าเห็นด้วยวันนี้คาเฟได้ปิดให้บริก
มายด์จับมือของมังกรพาเข้าไปหลบอยู่ในบ้าน เพราะตอนนี้ในคาเฟคงกำลังวุ่นวายอยู่กับการโพสต์คลิปภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาพนักงานคนหนึ่ง(ค่ะพี่มายด์)“ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”(พวกเราช่วยกันขอร้องลูกค้าไม่ให้ถ่ายรูปกับถ่ายคลิปแล้วค่ะ แต่ว่าน่าจะห้ามได้แค่บางคน)เกรซเอ่ยเสียงแผ่วที่ไม่สามารถช่วยได้มากกว่านี้ ซึ่งมายด์ก็เข้าใจดีว่าเหล่าพนักงานของเธอทำเต็มที่แล้ว“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เข้าใจ ยังไงพี่ฝากพวกเราดูแลคาเฟไปก่อนนะ พี่คงจะเข้าไปอีกทีตอนปิดร้านเลย”(ได้ค่ะ พี่มายด์ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ)หลังจากวางสายมายด์ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ดูท่าแล้วเรื่องราวคงใหญ่โตกว่าที่เธอคิด ถ้ามีคนปล่อยภาพเหตุการณ์ในวันนี้ออกไป คงหลีกเลี่ยงกระแสด้านลบที่จะเกิดขึ้นไม่ได้“ผมขอโทษนะพี่มายด์”ชายหนุ่มเอ่ยอย่างรู้สึกผิด ถ้าเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีกว่านี้ ไอ้หมอนั่นก็คงไม่มีโอกาสดึงคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทว่าอยู่ในเหตุการณ์พอดี และเก็บหลักฐานที่เขากระทืบมันเอาไว้ได้“อืม ไม่เป็นไร เราค่อยมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยกันนะ”มายด์เข้าใจความรู้สึกของแฟนหนุ่มดี เขายังเป็
หัวใจของโน้ตสั่นไหวรุนแรง เลื่อนใบหน้ามองไปยังเจ้าของรถสปอร์ตที่กำลังเปิดประตูลงมายืนอยู่ด้านนอกตัวรถ แต่แล้วก็ต้องกัดกรามแน่นไม่พอใจ เพราะคนที่เกือบจะขับรถชนเขาคือแฟนใหม่ของมายด์ทางด้านหญิงสาวเมื่อเห็นแฟนของเธอย้อนกลับมาทั้งที่เพิ่งออกจากคาเฟไปได้ไม่นาน ก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยเกรงว่ามังกรจะหุนหันพลันแล่น ปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายอดีตคนรักให้เป็นเรื่องใหญ่“นี่มึงจงใจขับรถชนกูใช่ไหม”“สมองฝ่อหรือไงครับ ไหนที่เรียกว่าชน รถของผมยังไม่โดนตัวคุณแม้แต่นิดเดียว” มังกรเอ่ยพลางไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ มุมปากกระตุกขึ้นกวนโทสะอีกฝ่ายเมื่อเอาผิดเรื่องรถชนไม่ได้ โน้ตก็หันไปเล่นงานเรื่องอื่นแทน“หึ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มึงก็เป็นได้แค่ตัวแทนของกูละวะ มายด์ไม่มีวันรักผู้ชายที่ทำตัวเป็นปลิงอย่างมึงหรอก”"พอได้แล้วพี่โน้ต ออกไปจากที่นี่ซะ ร้านของฉันไม่ต้อนรับพี่”เธอไม่อยากเป็นต้นเหตุให้สองคนนี้ทะเลาะกัน ทว่ายิ่งฟังประโยคที่โน้ตพูดออกมาแล้วก็รู้สึกโกรธที่ปล่อยให้เขามาดูถูกความรักที่มังกรมีให้เธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ จึงตัดสินใจเอ่ยปากไล่ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้และคำพูดของโน้ตก็ทำให้ใบหน้
โน้ตปรากฏตัวที่คาเฟอีกครั้งหลังจากหายหน้าไปนานหลายอาทิตย์ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนคลุมทับด้วยเสื้อสูตสีดำ กางเกงสแล็กส์สีดำ รองเท้าหนังดำขลับเป็นเงางาม ดูดีมีภูมิฐาน เหมาะกับมาดพนักงานระดับหัวหน้าแผนกจัดซื้อในบริษัทใหญ่ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปทั่วคาเฟอย่างละเอียด ทว่าเจ้าของอย่างมายด์กลับรู้สึกได้ถึงสายตาของคนรักเก่าหยุดอยู่ที่โต๊ะติดกับผนังกระจก ซึ่งมังกรกำลังนั่งทำงานอยู่โน้ตเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ เปล่งเสียงสั่งอาหารและเครื่องดื่ม พลางชำเลืองหางตามองไปที่หนุ่มหล่อหน้าตี๋ที่น่าจะอายุน้อยกว่าเขาเป็นระยะ“มายด์ครับ วันนี้พี่เอาราดหน้าทะเล กับโซดาน้ำผึ้งมะนาว”พัดชายืนอยู่หลังเคาน์เตอร์คู่กับเกรซ เมื่อเห็นว่าเจ้านายของเธอไม่ได้ปริปากพูดอะไร จึงรีบโพล่งขึ้น“ออเดอร์ของคุณลูกค้ามีราดหน้าทะเล กับโซดาน้ำผึ้งมะนาวนะคะ เชิญนั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ”โน้ตเข้าไปนั่งที่โต๊ะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากลูกค้าอีกคน รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ชอบมองหน้าเขาแปลก ๆ ราวกับไม่ชอบใจบางอย่างและมังกรเองก็รับรู้ถึงการมาของอดีตคนรักของมายด์ เขาเงยใบหน้าจ้องไปยังคนที่นั่งอยู่โต๊ะที่ตั้งวางไม่ไกลกันมาก พลางยกแก้วน