Share

ลิขิตรักข้ามกาลเวลา
ลิขิตรักข้ามกาลเวลา
Author: ซินเหมย / ณศิกมล

1

last update Huling Na-update: 2025-08-28 11:13:27

“ถึงไหนแล้วยิป พวกเราจะเมากันหมดแล้วนะ”

            (ลิ้นพันแบบนี้ฉันว่าพวกแกเมาแล้ว ไม่ใช่จะเมาหรอก)

            “ไม่ต้องมายอกย้อนตอนนี้หล่อนถึงไหนแล้ว”

            (ใกล้ถึงแล้ว อีกไม่เกินสิบนาที แค่นี้นะ)

            “ว่าไงนังแวน ไอ้ยิปซีมันถึงไหนแล้ว” เพื่อนชายใจหญิงที่ชื่อปลาหมึกถามเสียงอ้อแอ้

            “อีกสิบนาทีถึงชัวร์ แกไปรอรับที่หน้าร้านได้เลย”

            “ไปไม่ไหวแล้ว ขืนไปฉันคงโดนหนุ่ม ๆ ที่แอบมองฉุดไปข่มขืนแน่” ปลาหมึกทำเสียงวี้ดว้ายน่าหมั่นไส้

            “แกขย่มมันหรือมันขย่มแกล่ะนังหมึก คิก ๆ ๆ”

            “หยาบคายที่สุดนังปลา ข่มขืนย่ะไม่ใช่ขย่ม” ปลาหมึกทำปากขมุบขมิบแล้วสะบัดหน้าจนคางเชิด

            “แวนแกดูกะเทยควายงอนสิ” ปลาหัวเราะดังลั่นกับท่าทีของเพื่อนชายใจหญิง

            “กรี๊ด!.. พวกแกว่าฉันเป็นกะเทยควายเหรอ ถ้าไอ้ยิปมาเมื่อไหร่ฉันจะให้มันจัดการพวกแกคอยดู” ปลาหมึกทำเป็นโวยวายเสียงดังลั่น แต่เธอก็รู้ว่าเพื่อนหยอกเพราะรัก และพวกเธอก็มักจะเล่นกันแบบนี้เสมอจนถือเป็นเรื่องปกติ

            “พูดถึงไอ้ยิปแล้วฉันก็เห็นใจมันจริง ๆ นะ เรียนปีหนึ่งเสียพ่อ พอเรียนจบปริญญาโทก็มาเสียแม่ไปอีก แล้วยังเกิดเป็นลูกคนเดียวอีก ญาติพี่น้องก็อยู่ไกลแทบไม่เคยติดต่อกัน ความสนิทสนมจึงไม่มี ถ้ามันไม่มีพวกเรามันจะเป็นยังไงบ้างวะ” แวนรำพันถึงเพื่อนด้วยความเห็นใจ เพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมจึงรู้เรื่องดีทุกอย่าง

            แม้ความสูญเสียของเพื่อนจะผ่านมาเป็นปี แต่ก็ยังจำได้ดี

            “ถ้าสงสารมันก็อย่าหนีไปมีผัวก่อนก็แล้วกัน ให้มันมีก่อนแล้วพวกเราค่อยมีทีหลัง”

            “แกคิดได้ไงวะนังปลา” แวนใช้สายตาตำหนิเพื่อน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “แกคิดว่าหน้าตาอย่างพวกเราจะขายออกก่อนยิปซีเหรอวะ ยังไงมันก็ขายออกก่อนพวกเราอยู่แล้ว”

            “ขำ ๆ น่านังแวน  แต่ฉันว่าเป็นยิปซีก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องมีห่วงอะไร ผิดกับพวกเราลิบลับ ที่ยังต้องส่งเสียครอบครัวอยู่ คนเก่ง ๆ อย่างมันไม่ลำบากหรอก เรียนเก่งจบปริญญาโทแค่อายุยี่สิบสอง กีฬาก็เก่ง กับข้าวก็เก่ง สวย หุ่นดี ภาษาก็เก่งทั้งไทย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส ล่าสุดได้ข่าวแว่วมาว่าบ้าเกาหลี ไปแอบเรียนมาซะคล่องเชียว ใครกล้าสู้มันวะ ฉันว่าพ่อกับแม่ของมันไปอย่างหมดห่วงแล้ว เพราะท่านส่งเสียให้มันเรียนจนความรู้มันล้นสมองแล้ว” พูดจบก็ยกแก้วค็อกเทลมาดื่มแก้กระหายไปอึกใหญ่

            “พวกแกเล่าเรื่องพ่อยิปซีให้ฉันฟังบ้างสิ แกก็รู้ว่าฉันรู้จักพวกแกทีหลัง” นังปลาหมึกของเพื่อน ๆ ร้องขอ เพราะส่วนตัวแล้วหล่อนก็นิยมชมชอบความเก่งของเพื่อนจนยกให้เธอเป็นไอดอล  แต่ก็ไม่เคยรู้เรื่องบิดาของเธอมากนัก เพราะไม่เคยถามสักที

            “ฉันเล่าเอง” แวนยกมือเสนอตัว “พ่อยิปซีเป็นเจ้าของค่ายมวยที่อยู่ติดกับบ้านฉันทุกวันนี้ไง พ่อรักมันมาก สอนให้มันต่อยมวยตั้งแต่เด็ก แล้วให้เรียนวิชาป้องกันตัวสารพัด ถึงขนาดได้ลงแข่งเลยนะแก ส่วนแม่ของมันก็กลัวว่าลูกจะเป็นทอมก็เลยส่งให้ไปเรียนพวกดนตรี ภาษา เย็บปักถักร้อย แล้วก็สอนให้ทำอาหาร ทำขนม

แต่พอมันสอบติดมหาลัยเข้าปีหนึ่งยังไม่ทันไรพ่อมันก็ตายเพราะโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แม่มันก็เลยตัดสินใจขายค่ายมวยให้เพื่อนพ่อ เอาเงินมาเป็นทุนการศึกษาให้มันนั่นแหละ แล้วแม่มันก็ป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอด ตอนหลังก็ต้องเลิกขายของ แต่ไอ้ยิปซีมันก็ใกล้จบแล้วตอนนั้น ไม่นานแม่มันก็ป่วยหนักแล้วก็จากมันไป ฝืนทนจนลูกเรียนจบแล้วจึงไปอย่างสบายใจไร้กังวล” เธอสรุปส่งท้าย

            “แกเคยคุยกับแม่มันเหรอถึงรู้ลึกขนาดนั้นน่ะ” ปลาขัดขึ้น

            “วันนี้แม่ฉันอาจจะมาหาแกก็ได้นังปลา” เสียงห้วน ๆของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังทำให้ทุกคนให้ไปมอง

            “ยิปซี!” อุทานออกมาพร้อมกัน

            “เออฉันเอง” กล่าวจบก็นั่งลงข้างเพื่อนชายใจหญิงของตัวเอง แล้วจุ๊บแก้มใส ๆ นั้นหนึ่งที  “เดี๋ยวนี้สวยกว่าฉันอีกนะปลาหมึก”

            ปลาหมึกมองเพื่อนสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าแต้มด้วยรอยยิ้มเพราะได้รับคำชมที่ถูกใจ จิ้มนิ้วไปที่หน้าผากของเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้

            “แค่แกชมว่าฉันสวยครึ่งหนึ่งของแกฉันก็ดีใจแล้วย่ะ ไม่ต้องมากกว่าแกหรอก คนอะไรหุ่นก็ดี หน้าก็สวย เก่งไปหมดทุกอย่าง เลิศไม่มีที่ติ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกเคยเป็นนักมวย”

            “ใครบอกนักมวย ยูโด เทควันโด ฟันดาบฉันก็เป็นนะแก ลองกันสักตั้งมั้ย” แล้วหัวเราะเมื่อเห็นหน้าตาของเพื่อนรัก

            “ฉันขอแค่ความสวยกับหุ่นของแกก็พอ เรื่องอื่นฉันยอมแพ้” ปลาหมึกยกมือทั้งสองข้างขึ้นสูงเพื่อยืนยันคำพูด เรียกเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆได้ดี

เพื่อนทั้งสี่ดื่มสังสรรค์ ผลัดกันเล่าเรื่องที่ต่างประสบพบเจอแลกเปลี่ยนกันอย่างออกรส

            “ทำไมแกไม่ไปเป็นไกด์วะยิป ได้ใช้ความสามารถเต็มที่ด้วย”

            “ก็ที่นี่เงินมันดีนี่หว่า ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อยด้วย”

            “ไม่ต้องเดินทางตรงไหนวะ ฉันโทรหาแกทีไรแกก็ออกพื้นที่ตลอด ระวังนะโว้ย ฉันเคยอ่านข่าวพวกที่ไปทวงหนี้แล้วถูกยิงตาย ฉันเป็นห่วงแกนะ” ปลาหมึกเตือนเพื่อนที่เป็นฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง

            “นั่นปากเหรออีหมึก!” ปลาตวาดเพื่อนแล้วชี้หน้าแบบคาดโทษ

            “อะไรยะ ฉันพูดเพราะเป็นห่วงยิปมันหรอกนะ” ปลาหมึกเชิดหน้าโต้ตอบเพื่อน

            “หยุด! กินเหล้า ๆ อย่ามาทะเลาะกัน ชนแก้วโว้ยชนแก้ว” แวนห้ามทัพแล้วยกแก้วรอชน

            “ฉันชอบทำงานแบบนี้นะ สนุกดี เดินทางบ้างก็ช่างมันเพราะแค่ในเมืองไทย แต่ถ้าเป็นไกด์ก็ต้องบินไปต่างประเทศ ซึ่งฉันปรับตัวกับอากาศไม่ค่อยไหวน่ะ ฉันมันคนผิวบางพวกแกก็รู้” หญิงสาวทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อน

            “ผิวบางหรือกลัวหนาวกันแน่ แกไม่ต้องมาทำเป็นผู้ดีหรอก” แวนดักคออย่างรู้ทัน เพราะเพื่อนของเธอคนนี้ไม่ชอบอากาศหนาว ถ้าอากาศเริ่มเย็นเมื่อไหร่ภูมิแพ้จะกำเริบ ต้องพึ่งยาอยู่ตลอดเวลา

            “พวกแก..ตกลงเรื่องลาพักร้อนว่ายังไง ลาได้ตรงกันหรือเปล่า” ยิปซีหรือพุทธิญาชี้หน้าเพื่อนทีละคนเพื่อเอาคำตอบ  “ดีมาก ต่อไปก็มาโหวตกันว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ลิขิตรักข้ามกาลเวลา   57

    เรือนหลักพุทธิญาเปิดประตูเข้าห้องอย่างเบามือเพราะคิดว่าคนรักหลับแล้ว แต่เธอคิดผิด เพราะเขายังนั่งอยู่ที่เดิม แต่เปลี่ยนจากสำรับอาหารเป็นกาน้ำเมาแทน เขามองเธอเพียงแวบเดียว แล้วหันไปสนใจกับกาน้ำเมาที่ถือค้างไว้ในมือต่อเธอยืนมองเขาอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหา แล้วเบียดกายลงไปนั่งบนตักกว้างของเขา ตอนนี้คนที่เครียดไม่ใช่มีเพียงเธอ แต่เขาก็เป็นเช่นกัน เธอเห็นแววตาของเขาก็เข้าใจทุกอย่างดี“หย่งหมิง ท่านดื่มมากไปหรือเปล่า” เธอจับจอกเหล้าที่เขากำลังกระดกวางลงบนโต๊ะหยกเนื้อเย็นมือหนาที่โอบกระชับช่วงเอวของนางกระชับแน่นเข้าไปอีก เขาจ้องลึกเข้าไปในตาหวานคมคู่นั้น แล้วโน้มหน้าผากชนกับหน้าผากของนางเบา ๆ“ถ้าดื่มมากก็ต้องเมาแล้วสิ แล้วเจ้าไปไหนมา รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วง” เขาถามทั้งที่รู้ว่านางไปไหน เพราะให้โต้วฉือสะกดรอยตามดูแล“ท่านทราบอยู่แล้ว” เธอมั่นใจว่าเขารู้จึงไม่ตอบปากได้รูปแนบลงไปบนกลีบปากอิ่ม แทะเล็มเป็นของแกล้มเหล้าจนบวมเจ่อหญิงสาวหลับตาพริ

  • ลิขิตรักข้ามกาลเวลา   56

    “ขอบใจนะหลัน เจ้าจะไปไหนน่ะซิง” เห็นสาวใช้อีกคนเปิดประตูห้องก็รีบถามด้วยความสงสัย“ข้าจะไปเอาน้ำสมุนไพร ท่านหญิงรอสักครู่นะเจ้าคะ” จบคำก็รีบวิ่งออกไป ไม่สนใจเสียงห้ามที่ตามหลังมาสักนิด“ท่านหญิงมีธุระกับพวกข้าทำไมไม่ใช้ให้ใครมาตามเจ้าคะ จะเดินมาเองทำไม” เสี่ยวหลันบ่นขณะที่มือก็ยังถูไถให้ความอบอุ่นกับมือเรียวของนายหญิง “ยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวเลยนะ แต่ท่านหญิงก็หนาวขนาดนี้แล้ว ถ้าถึงฤดูท่านหญิงคงจะอยู่แต่บนเตียงคั่ง ออกไปไหนไม่ได้แน่” สาวใช้ถูมือทั้งสองให้หญิงสาวแล้วจึงถกผ้าห่มที่ห่มล่างขึ้น “ท่านหญิง! ทำไมท่านถึงไม่ใส่รองเท้า” นางตกใจจนถลึงตาเอ็ดด้วยความลืมตัว แต่ก็รีบยกเท้าทั้งสองข้างมากอดไว้ ใช้แขนเสื้อของตัวเองเช็ดเอาคราบเปื้อนที่เท้าออกจนหมด แล้วเอามือถูให้เกิดความอบอุ่นการกระทำของเสี่ยวหลันทำให้พุทธิญารู้สึกตื้นตันในหัวใจเหลือเกิน รู้สึกว่านางยังรักเธอมากกว่าเขาคนนั้นอีก.. น้ำตาจึงปริ่มออกมาแบบห้ามไม่อยู่“ขอโทษนะหลัน ข้าสัญญาว่าครั้งหน้าจะไม่ทำให้เจ้าโมโหอีก”“บ

  • ลิขิตรักข้ามกาลเวลา   55

    พูดจบก็หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เขาเห็นใบหน้าของนางแดงระเรื่อ ก่อนที่เจ้าของใบหน้างดงามนั้นจะคีบอาหารอย่างอื่นเข้าปากไปอีกหลายคำติดต่อกัน ทำให้เขาพอใจมาก“ท่านอ๋อง..เอ่อ..โหยะ..หย่งหมิง”“หืม” เขาขานรับในลำคอ หัวใจพองคับอกกับคำเรียกขานอย่างชิดเชื้อ ถึงแม้ในน้ำเสียงนั้นจะเจือด้วยความกระดากอาย แต่อีกหน่อยนางก็จะชินไปเอง“ให้ยิปซีไปกับท่านด้วยไม่ได้หรือเจ้าคะ”เขาแปลกใจที่นางเปลี่ยนเรื่องคุยกะทันหัน รู้ดีว่านางหมายถึงเรื่องใด แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ ยังคีบอาหารใส่ปากอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่อยากให้ปากว่างแล้วต้องตอบคำถามของนางจะให้นางไปด้วยมันไม่ใช่ปัญหาเลย แต่ที่เขาไม่อยากให้ไปเพราะไม่อยากให้นางต้องทนลำบากกับการเดินทาง เผชิญกับอากาศที่หนาวเหน็บ สภาพที่ไม่แน่นอนของคลื่นลม ถ้าให้นางตกระกำลำบากไปด้วย เขายอมทนคิดถึงนางจะดีกว่าที่สำคัญเหนืออื่นใดเลย คือเขาไม่รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะมีกองโจรหรือผู้ไม่หวังดีซุ่มโจมตีหรือไม่ เพราะเขารู้ดีอยู่แก่ใจว่ายังมีอีกหลายกลุ่มที่ต้องการโค่นอำนาจของถังโจว อยากมีอำนาจเหนือดินแดนฉางอาน

  • ลิขิตรักข้ามกาลเวลา   54

    “ข้าหิวข้าวแทบแย่ แต่ไม่ยอมกินเพราะหวังจะมากินกับเจ้า แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ขอกินเจ้ารองท้องก่อนแล้วค่อยไปกินข้าวดีกว่า” พูดจบก็จัดการปิดปากที่กำลังเปิดขึ้นหญิงสาวดิ้นไม่เลิกเพราะน้อยใจในคำพูดของเขา ที่บอกว่าไปหาอนุมาช่วยแบ่งเบาภาระของเธอ แต่ด้วยฝีมือระดับเขากับคนที่ประสบการณ์น้อยอย่างเธอ มีหรือจะสู้กันได้ ไม่นานร่างของเธอก็อ่อนปวกเปียกและส่งเสียงครางกระเส่า เสื้อผ้าถูกทึ้งออกไปจากร่างตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้ชายหนุ่มลากปลายลิ้นสัมผัสไปทั่วเรือนร่าง หยอกเย้าตามจุดที่เขารู้ว่าทำให้นางเสียวกระสัน เขาทำมันอย่างช่ำชองจนนางทนไม่ไหว ออกปากร้องขอให้เขาร่วมรักเสียงกระเส่า จึงสอดประสานเอ็นอุ่นเข้ากับร่างระหง เมื่อเนื้อแนบเนื้อแล้วจึงโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ให้สมกับความหิวโหยให้สมกับที่อดมาถึงสามวันเสียงครวญครางด้วยความสุขสมของนางดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถูกเขาเล้าโลมด้วยปลายลิ้นและริมฝีปากแต่กุ้ยอ๋องยังไม่อยากหยุด เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้า ลำคอ คลำคลึงอกตูมเต่งตึงขนาดใหญ่ที่ยั่วยวนด้วยมือและตามด้วยปากร่างบางสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน พยายาม

  • ลิขิตรักข้ามกาลเวลา   53

    “เขาบ้าไปแล้วหรือไง!” เธอสบถเสียงดัง นึกโมโหชายหนุ่มที่คิดอะไรตื้น ๆ.. คนที่ต้องเดินทางไกลคือตัวเองแท้ ๆ แต่ดันทิ้งองครักษ์ฝีมือดีมาอยู่โยงดูแลคนที่อยู่ในบ้านอย่างเธอ “กลับมาจะอาละวาดให้น่าดูเลย วันนี้ข้าไม่ฝึกนะ ข้าจะเก็บแรงไว้อาละวาดท่านอ๋องของพวกท่านก่อน” แล้วเดินลงหน้าตูมออกไปโต้วฉือมองตามร่างบางที่เดินออกไป แล้วกระดกยิ้มที่มุมปาก“ทั้งรักทั้งเป็นห่วงกันขนาดนี้ ทำไมไม่เดินทางไปด้วยกันเสียเลยนะ” เขาพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ให้คำตอบกับตัวเองว่าคงเป็นเพราะความไม่เหมาะสม เนื่องจากพวกเขายังไม่ได้แต่งงานตามประเพณี หรืออาจจะเป็นเพราะกลัวอันตรายจากการเดินทางไกล ที่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ถ้าให้เดาจากนิสัยของท่านอ๋องแล้ว เขาคิดว่าอย่างหลังน่าจะมีเหตุผลมากกว่าแล้วนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อน ที่ท่านอ๋องเรียกประชุมคนงานในบ้านทุกคน แล้วกำชับบ่าวไพร่อย่างละเอียด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วล้วนเกี่ยวกับท่านหญิงยิปซีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ความปลอดภัยต่าง ๆ ท่านอ๋องล้วนเป็นคนสั่งการด้วยตัวเองทั้งสิ้น“พวกเ

  • ลิขิตรักข้ามกาลเวลา   52

    “ยิปซี”“........”“ยิปซี! ยิปซี! เจ้าเป็นอะไร! ยิปซี!”ใจของเขาหล่นวูบเมื่อจับร่างระหงหงายขึ้น และเห็นนางหมดสติไปแล้ว เขารีบอุ้มนางกระชับไว้ในอ้อมแขน แล้วใช้วิชาตัวเบาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกลับไปที่ห้องนอน“มีใครอยู่แถวนี้บ้าง เสี่ยวหลัน เสี่ยวซิง มาดูท่านหญิงหน่อย” เสียงตะโกนลั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนของเขา สร้างความโกลาหลให้บ่าวไพร่แถวนั้นไม่น้อย แล้วเริ่มลุกลามไปทั่วคฤหาสน์จากปากต่อปากพุทธิญาแอบหลิ่วตามองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่หน้าเตียง นึกอยากโกรธก็โกรธไม่ลง นึกอยากขำก็ขำไม่ออก แต่ที่นึกออกตอนนี้คือเจ็บก้นมาก ๆแบร่! เธอแลบลิ้นใส่ด้านหลังเขา แล้วรีบหลับตาเมื่อเขาหันกลับมา..................เสี่ยวซิงกับเสี่ยวหลันช่วยกันพยาบาลอยู่พักใหญ่ ยิปซีจึงค่อย ๆ ลืมตาเมื่อเห็นสมควรแก่เวลา“ท่านหญิงฟื้นแล้ว!”เสียงดีใจของสาวใช้ ทำให้กุ้ยอ๋องรีบถลาเข้าไปหาร่างบางบนเตียง“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม บอกข้าสิยอดรัก” เขากุม

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status