Share

บทที่ 1441

Penulis: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฉีฮองเฮายิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านแม่พูดอะไรเช่นนี้ เรื่องนี้จะไปเกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ได้? ฮ่องเต้มีงานราชกิจล้นมือ จะมายุ่งเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? ส่วนอวี้ฉื่อสวี่นั่น ข้าจะไปทำให้เขาตายได้อย่างไร?”

อวี้ฉื่อสวี่ เป็นพ่อตาขององค์หญิงใหญ่หมินฉิง ฉีฮองเฮาเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะไปขัดแย้งกับตระกูลนี้

ฉีฮูหยินใหญ่ถอนหายใจ “เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง เป่ยหมิงอ๋องกำลังออกรบ เจ้ากลับไปยุ่งเรื่องหา พระชายารองให้เขา ไหนจะเรื่องที่ฮ่องเต้เคยให้พระชายาเป่ยหมิงอ๋องอยู่ในห้องทรงพระอักษรคนเดียวหลายวัน แล้วเสด็จไปเยี่ยมกลางดึก เรื่องนั้นยังไม่ได้รับการชี้แจงให้กระจ่าง เจ้ายังจะสร้างเรื่องนี้เพิ่มขึ้นมาอีก จะไม่ให้คนเขาคิดมากได้อย่างไร?”

“นั่นมันพวกเขาคิดมากไปเองทั้งนั้น เป็นการคาดเดาแบบไม่มีมูล” ฉีฮองเฮากล่าวด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ

ฉีฮูหยินใหญ่เห็นสีหน้าที่ไม่ทุกข์ร้อนของนางก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความผิดหวัง “อย่าว่าแต่เรื่องร้อยเรียงที่ผู้คนเขาคาดเดากันเลย แค่ฮ่องเต้ขมวดคิ้วหรือพูดอะไรออกมา ขุนนางก็ยังตีความกันไปต่างๆ นานา เจ้าจะพูดว่าไม่เกี่ยว แต่แม้แต่ในวังหลัง ฮ่องเต้ทำสีหน้ากับเจ้า เจ้าจะไม่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Pornpen
อัพเดทมาเยอะๆตอนหน่อยค่ะ อยากรู้ว่าฮองเฮาจะโดนปลดมั้ย
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1628

    ข้าชื่อเซี่ยหลันชีวิตของข้า ก่อนจะหย่าร้างก็เป็นเรื่องตลกทั้งสิ้นตั้งแต่เล็ก เสด็จพ่อและเสด็จแม่สอนข้าว่า คนเราควรถ่อมตน อย่าอวดเด่น อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน ต้องรักษาชื่อเสียง อย่านำปัญหามาสู่ตนทุกคนต่างพูดว่าเสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้านั้นใจกว้าง ถ่อมตน เป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่งข้าก็คิดว่าเป็นคำพูดจากใจจริงอย่างไรเสีย เสด็จพ่อก็เป็นถึงอ๋องฮวย เสด็จแม่ก็เป็นบุตรีตระกูลเซียว มีฐานะสูงศักดิ์ แต่ไม่เคยหาเรื่องใคร ไม่ทะเลาะกับใคร ต่อให้เสียเปรียบเล็กน้อยก็ยังยิ้มรับแต่พอข้าโตขึ้น พอรู้แยกแยะถูกผิดได้ ก็พบว่า คำชมเหล่านั้น แท้จริงคือการเสียดสี เย้ยหยันในสายตาของพวกเขา เสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าคือคนขี้ขลาดที่น่ากลัวคือ ข้าได้รับการอบรมมาแบบนี้ตั้งแต่เล็ก จนกลายเป็นคนขี้ขลาดโดยไม่รู้ตัว เข้าใจผิดว่าความอ่อนแอของตนคือความอ่อนโยนความผิดพลาดนี้ ต่อให้หลังจากแต่งกับเหลียงเส้าแล้ว ข้าก็ยังไม่รู้ตัวชัดเจนข้ายังคิดว่าเสด็จพ่อเสด็จแม่เป็นเพียงคนใจดี บางทีอาจแค่ห่วงชื่อเสียง ไม่อยากมีปากเสียงกับผู้คนแต่ข้าเป็นถึงท่านหญิงหยงอัน กลับถูกทางบ้านสามีรังแก ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ความอ่อนแอของครอบครัวเรา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1627

    กระบวนการคลอดไม่ราบรื่นนัก เด็กคนนี้ทำให้แม่ของเขาทรมานถึงห้าชั่วยาม กว่าจะคลอดออกมาได้ออกมาแล้วยังไม่ร้อง ผู้ผดุงครรภ์ต้องตีก้นเขาอยู่หลายที ถึงจะร้องออกมาดังลั่นเมื่อเขาร้องขึ้นมา ใจของทุกคนจึงได้กลับเข้าที่เข้าทางเจ้าสิบเอ็ดฝางเพราะกังวลมากเกินไป อารมณ์ตึงเครียด พอคลายลงกลับหน้ามืดเป็นลมล้มไปเซี่ยเจิงได้ยินถึงตรงนี้ก็ร้องอ้อออกมา “เรื่องนี้ข้าเคยได้ยินมาก่อน ลุงหยูเคยเล่าให้ข้าฟัง ว่าลุงฝางเคยเป็นลมอยู่ในห้องคลอด ถูกผู้คนหัวเราะเยาะอยู่ตั้งนาน”หยานหรูอวี้ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว เรื่องนี้เขาถูกล้ออยู่พักใหญ่ เด็กคนนี้ก็คือพี่ใหญ่ฝางของเจ้านี่แหละ”นางกล่าวต่อถึงเรื่องหลังเด็กกำเนิดออกมา ถึงอย่างไรก็เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ร่างกายจึงอ่อนแอ เมื่อตอนเป็นทารกก็มักจะป่วยบ่อย จำนวนครั้งที่กินยา แทบจะเป็นรองจากการกินนมโชคดีที่พออายุสามขวบ ทุกอย่างก็เริ่มคงที่ เริ่มฝึกวรยุทธ์เพื่อเสริมสร้างร่างกายลูกคนที่สองมาเหมือนกับเซี่ยเจิง เป็นเรื่องของโชคชะตา หลังจากให้กำเนิดบุตรชายคนโต เจ้าสิบเอ็ดฝางก็ไปขอยาคุมกำเนิดจากหมอเทวดาตันมากินเอง บอกว่ายานี้มีผลห้าปี หากต้องการไม่ให้มีลูกอีกเลย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1626

    “ช่วงเวลานั้น หากมิใช่มีเขาอยู่เคียงข้าง ข้าคงมิอาจอดทนต่อไปได้แน่” หยานหรูอวี้เอ่ยพลางถอนหายใจ “เจิงเออร์ หากเจ้าจะแต่งงาน ต้องหาใครสักคนที่รักเจ้าจริงๆ เขารักเจ้า ถึงจะคอยปกป้องเจ้าฝ่าฟันพายุฝนแห่งชีวิตไปด้วยกันได้”เซี่ยเจิงกล่าวว่า “ข้าเชื่อในความรัก ท่านพ่อท่านแม่ก็รักกัน”บ้านของนางเปี่ยมไปด้วยความรัก นางเชื่อในความรัก เชื่อในสายใยครอบครัว และเชื่อในมิตรภาพชีวิตของนางจึงเต็มไปด้วยสิ่งงดงามหยานหรูอวี้ยิ้มอ่อนโยน “ใช่แล้ว พ่อแม่เจ้ารักกันมากจริงๆ”เซี่ยเจิงอยากฟังเรื่องราวต่อ รีบถามว่า “แล้วเด็กในครรภ์รอดหรือไม่? ท่านผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไร?”ต้องฝังเข็มทุกวัน กินยา ดื่มน้ำแกงบำรุง อาเจียนเสียจนโลกหมุนคว้าง มืดฟ้ามัวดินนางไม่อาจลุกจากเตียงได้ แม้แต่จะลุกไปเข้าห้องน้ำก็ไม่มีแรงเด็กในครรภ์ดูดซับสารอาหารจากนาง แต่ตัวนางเองกลับกินอะไรไม่ลงจนในที่สุดพออาเจียนมากเข้า ก็เลิกกินยารักษาครรภ์เสียเลย ท่านย่าคิดว่า รอให้เด็กหลุดไปเอง หากหลุดไม่หมด ค่อยใช้ยาขับครรภ์ตามที จะได้ใช้ในปริมาณเบาลง ร่างกายของนางจะได้ทนรับไหวเรื่องนี้ก็เป็นการพิจารณาและเห็นชอบจากหมอมหัศจรรย์ดันเช่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1625

    นี่คือบททดสอบแรกในชีวิตแต่งงานของพวกเขาชีวิตที่หวานชื่น กลับถูกย้อมด้วยรสขมของยาเรื่องเช่นนี้ ย่อมต้องให้เขากลับมาเป็นผู้ตัดสินใจเขาได้รับข่าวรีบร้อนกลับมา ไม่แม้แต่ไปคารวะแม่ก่อน ก็ตรงดิ่งกลับเข้าห้องทันทีเขานำไอหนาวกลับมาทั้งตัว หิมะเกาะไหล่ยังไม่ละลาย ยืนสั่นอยู่นอกห้องสักครู่ แล้วจึงให้คนเอากะละมังไฟมาผิงอุ่นมือ ก่อนจะกล้าก้าวเข้าไปกอดนางเขากล่าวเสียงสั่นเครือ “ป่วยแล้วเหตุใดจึงไม่บอกข้า ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากไม่สบาย ต้องรีบบอกข้าโดยพลัน”เมื่อเขากลับมา นางก็รู้สึกเหมือนมีหลักยึด จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากเพียงเห็นนางซูบผอมเช่นนี้ เขาก็เสียใจจนหลั่งน้ำตา “ทำให้เจ้าทรมาน เป็นความผิดของข้าเอง ที่ไม่ดูแลเจ้าให้ดี”นางซบหน้าลงบนอกเขา ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคง ความไม่สบายใจตลอดหลายวันที่ผ่านมาก็จางหายไปมาก นางกล่าวว่า “เป็นข้าที่ทำให้เจ้าลำบาก เจ้าก็ยุ่งอยู่ แล้วยังต้องกลับมาอีก”“ในกองทัพ แม้ข้ายุ่ง ก็ยังมีผู้แทนแทนข้าได้ แต่ข้างกายเจ้า ไม่มีผู้ใดแทนข้าได้” เขาลูบแผ่นหลังนางเบาๆ “ข้าเข้าใจเรื่องราวแล้ว เดี๋ยวข้าจะไปปรึกษาหมอมหัศจรรย์ดันอีกครั้ง แล้วเราค่อยตัดสิน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1624

    เขามิได้ให้คำสัญญาใดว่าจะปฏิบัติต่อนางเช่นไร เพียงกล่าวว่าเมื่อแต่งแล้วเป็นสามีภรรยา ย่อมต้องร่วมใจกันใช้ชีวิตให้ดีคืนส่งตัวเข้าหอ นางรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ครั้นผ้าม่านห้องหอถูกปล่อยลง นางก็พลันตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุก่อนออกเรือน แม่นมเคยสั่งสอนนางถึงวิธีปรนนิบัติสามีในคืนแรก แม้นางจะรู้สึกเขินอาย ทว่าก็ฟังจนจบทุกถ้อยคำ นับว่าพอเข้าใจถ่องแท้ทว่าเมื่อถึงคราแห่งความจริง นางกลับไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเช่นไร ทั้งร่างจึงสั่นเทิ้มด้วยความประหม่าโชคดีที่เขาอ่อนโยนยิ่งแม่นมเคยบอกไว้ว่า คืนส่งตัวเข้าหอสำหรับสตรีนั้น ไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่าพิสมัย ทว่าหากอดทนผ่านพ้นไปได้สองสามวัน ทุกสิ่งย่อมดีขึ้นแต่นางกลับรู้สึกว่า คำของแม่นมก็ใช่จะถูกไปเสียทั้งหมด ความแนบชิดของร่างกาย การหลอมรวมของจิตวิญญาณ ทำให้นางรู้สึกว่าสิ่งนี้ช่างงดงามนักแน่นอนว่า เรื่องพวกนี้นางเก็บไว้ในใจ ไม่ได้กล่าวแก่เซี่ยเจิงชีวิตหลังแต่งงาน หวานชื่นเกินความคาดหมายของนางเดิมนึกว่าเขาเป็นบุรุษเคร่งขรึม เจ้าระเบียบ น่าจะจืดชืดสักหน่อย ทว่าเขากลับเอาใจใส่ละเมียดละไม ย่อมสังเกตอารมณ์ของนาง รับรู้ความรู้สึกของนาง วันหยุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1623

    แรกเริ่มนางรู้เรื่องเหล่านี้โดยบังเอิญ ประกอบกับความประทับใจแรกพบในครั้งนั้น ยิ่งทำให้นางรู้สึกว่าเจ้าสิบเอ็ดฝางเป็นผู้มีจริยธรรมสูงส่งนางถึงวัยปักปิ่นแล้ว ใจย่อมมีความฝันว่าอนาคตจะได้แต่งกับบุรุษเช่นไรเพียงแต่ว่า บุรุษที่ฝันถึงนั้นเลือนรางคล้ายภาพในความคิด ทว่าเมื่อมีคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในฝันของนางอย่างมีชีวิตชีวา นางก็รู้ในทันทีว่า เป็นเขาผู้นี้ นางอยากแต่งกับเขาในตอนแรก ปู่ของนางคัดค้าน นอกจากเพราะอายุที่ห่างกันมากแล้ว ยังเพราะเจ้าสิบเอ็ดฝางเคยมีภรรยา นางถึงจะเป็นภรรยาเอก แต่ก็ไม่ใช่ภรรยาเดิมนางเป็นหลานสาวแท้ๆ ของไทฟู่ ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว แห่งเมืองหลวงมีตระกูลมากมายที่อยากสู่ขอ เหตุใดจึงต้องแต่งกับเจ้าสิบเอ็ดฝาง? แม้เขาจะกลับจากศึกพร้อมผลงาน แต่อนาคตก็ยังไม่แน่นอนแต่นางกลับยืนกรานเช่นนั้น ปู่จึงต้องยอมอ่อนข้อให้ นั่นเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่นางดื้อรั้นท่านปู่จึงเชิญคนมาสู่ขอ แต่คาดไม่ถึงว่าเจ้าสิบเอ็ดฝางกลับปฏิเสธคนในตระกูลต่างตกตะลึง บ้างก็ว่าเขาไม่รู้ดีชั่ว บ้างก็ว่า นางเป็นฝ่ายเสนอตัวกลับถูกปฏิเสธ ช่างน่าอับอายแม่นมของนางโกรธยิ่งนัก พูดกับนางว่า “คุณหนูอย่างท่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1622

    แม้จะเป็นการกินขนมกันสามคน แต่เซี่ยเจิงกลับรู้สึกราวกับว่ามีเพียงสองสามีภรรยากำลังรับประทานกันอยู่เท่านั้นในซาลาเปาหมูแดงลูกหนึ่ง ไส้กลับเป็นมันหมูเสียมาก หยานหรูอวี้ไม่ชอบกินมันหมู เจ้าสิบเอ็ดฝางจึงค่อยๆ คีบมันหมูออกทีละชิ้น แล้วค่อยส่งให้นางเพียงแต่นางทานได้น้อย หากกินซาลาเปาทั้งลูกก็จะกินอย่างอื่นไม่ไหว ดังนั้นเมื่อเห็นนางกัดไปหนึ่งคำ เขาก็รีบคีบไปเปลี่ยนให้เป็นขนมจีบกุ้งลูกหนึ่งยังมีไก่นึ่งข้าวเหนียวห่อใบบัวอีก เขาก็แบ่งให้นางเพียงคำเดียว พร้อมกล่าวว่า “เจ้าท้องไม่ดี อย่ากินข้าวเหนียวมากนัก ส่วนขนมเผือกนั่นก็แค่ชิมนิดเดียวก็พอ”เซี่ยเจิงวางตะเกียบลง เท้าคางมองพวกเขาสองคนบิดามารดาของนางก็รักใคร่กลมเกลียวกัน เพียงแต่มารดานางไม่ค่อยเลือกกินอะไรนัก อีกทั้งหากเป็นการกินข้าวกันสามคนพ่อแม่ลูก นางมักกินไวมาก หากเป็นของที่นางชอบ นางก็มักจะแย่งคีบก่อนจนบิดาไม่มีโอกาสคีบให้นางแต่ว่า หากเป็นในงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงอื่น มารดานางก็จะเปลี่ยนเป็นอีกท่าทีหนึ่ง กลายเป็นสง่างามสุขุม กินหนึ่งคำ เคี้ยวเจ็ดแปดครั้งกว่าจะกลืน เรียกได้ว่าเคี้ยวละเอียดอย่างแท้จริงบิดาของนางก็มีโอกาสได้คีบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1621

    เรือบรรทุกสินค้าจอดเทียบท่า เจ้าสิบเอ็ดฝางจึงพาเซี่ยเจิงและซวงเยว่ลงจากเรือระหว่างทาง เซี่ยเจิงเอ่ยถามว่า “ท่านลุงฝาง ท่านมาครานี้เพียงลำพังหรือ? พี่ใหญ่กับพี่รองมิได้มาด้วยหรือ?”เจ้าสิบเอ็ดฝางยิ้มกล่าวว่า “พวกเขาไม่ได้มา แต่อาจารย์หยานของเจ้ามาด้วย พวกเรามาถึงได้ครึ่งเดือนแล้ว พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมฝูชิ่ง ครั้งนี้มาเพราะได้รับคำสั่งจากบิดาเจ้าหลายประการ ประการหนึ่งคือตรวจสอบสถานการณ์โจรผู้ร้ายและโจรสลัดในกว่างโจว อีกประการก็คือดูว่าเจ้าเดินทางมาถึงกว่างโจวหรือยัง อีกประการหนึ่งก็อยากพาเจ้าอาจารย์หยานออกมาเที่ยวบ้าง ช่วงปีใหม่นี้สำนักศึกษาได้หยุดพักยาว นางขอลาหยุดอีกสักหนึ่งสองเดือนก็มิใช่ปัญหา”เซี่ยเจิงเอ่ยด้วยความยินดี “อาจารย์หยานก็มาด้วยหรือ? ดีจริงๆ รีบพาข้าไปพบนางเถิด!”อาจารย์เริ่มแรกของเซี่ยเจิงนั้นคือหยานหรูอวี้ นางเคยศึกษาที่สำนักหนังสือ ปัญญาก็เฉียบแหลม ทว่านั่งนิ่งไม่ได้นาน ช่วงที่ศึกษาอยู่ก็เคยถูกส่งไปยังเขาเหมยหลายครั้ง เพียงแต่ถูกส่งกลับมาหลายครา สุดท้ายจึงเรียนอยู่ที่สำนักถึงเจ็ดขวบจึงขึ้นเขาเหมยอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นผู้ศึกษาเล่าเรียนหรือผู้ฝึกยุทธ์ ล้วนต้องเคารพอาจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1620

    หลังปีใหม่ สินค้าจะถูกส่งออกจากแม่น้ำจูเจียง ท่าเรือจึงเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆอำเภอหนานไห่มีผ้าไหมเป็นสินค้าขึ้นชื่อ ล้วนเป็นผ้าราคาแพง ในอดีตเมื่อจะขนสินค้าลงเรือ มักต้องแจ้งทางการล่วงหน้า ทางการจึงจะส่งคนมาคอยสอดส่อง ป้องกันการถูกปล้นเพียงแต่ช่วงปีสองปีมานี้โจรผู้ร้ายไม่ค่อยปรากฏตัว บางพ่อค้าจึงอยากประหยัดเวลา เพราะหากต้องรอให้ทางการจัดคนมา ต้องใช้เวลาตระเตรียมอย่างน้อยหนึ่งถึงสองวัน ทำให้ต้องเลื่อนเวลาขนสินค้าลงเรือพวกเขาคิดว่าไม่น่าจะมีอันตราย จึงสั่งให้ขนของลงเรือโดยไม่รอทางการผลคือ เรือเพิ่งออกจากอ่าวได้ไม่นาน ก็พบเรือเก่าๆ ผุพังห้าหรือหกลำ แล่นเข้ามาบนเรือมีคนกลุ่มหนึ่งกระโจนออกมา ขว้างเชือกที่มีตะขอขึ้นไปยังเรือพ่อค้า แล้วปีนขึ้นเรืออย่างรวดเร็วในขณะเดียวกัน เรือประมงลำหนึ่งก็แล่นเข้ามาใกล้เรือพ่อค้าอย่างรวดเร็ว บนเรือมีเพียงหัวหน้าเรือกับคนอีกสองคน คือเซี่ยเจิงกับซวงเยว่นางทั้งสองสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่งตัวเป็นเด็กรับใช้ลำบากๆ อยู่ที่ท่าเรือมาสามสี่วันแล้วหลังจากที่พวกนางได้ยินจากใต้เท้าเหยียนว่ามีโจรร้ายออกอาละวาด นางจึงปลอมตัวปะปนอยู่ที่ท่าเรือเพื่อตรวจสอบข้อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status