ที่พวกนี้พูดไปก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะฉันเคยเกือบโดนฉุดครั้งหนึ่ง แต่แค่เกือบนะเพราะแค่ไอ้นักเลงพวกนั้นเดินเข้ามาจับแขนฉันก็โดนการ์ดที่พ่อให้ตามมาคุมห่าง ๆ จัดการแล้ว และนั่นมันก็เมื่อสมัยมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายโน่นแหละ ตอนนั้นทั้งพ่อทั้งพี่ฉันให้ลูกน้องตามคุมแจเลย
ต่างจากหลังเรียนจบหน่อยโดยเฉพาะช่วงนี้ที่ตั้งแต่ขอพ่อว่าไม่ต้องให้การ์ดตามคุมแล้ว ชีวิตส่วนใหญ่ก็อยู่แค่โรงพยาบาลกับบ้าน นาน ๆ ถึงได้ออกมาเที่ยวเพราะไม่ค่อยมีเวลา แค่กินนอนให้ตรงเวลายังยาก คิดผิดหรือคิดถูกกันแน่เนี่ยที่เลือกเรียนหมอ
แล้วดูสิ นาน ๆ ออกมาเที่ยวทั้งทีดันมาเจอโมเมนต์ดี ๆ ของคนอื่นเสียได้ แต่จะให้เรียกว่าภาพบาดตาบาดใจก็ไม่ถึงขนาดนั้น เอาตรง ๆ คือฉันไม่ได้เสียดายผู้ชายคนนั้นเลย
แฟนเก่าหลบไปพอดีว่าที่แฟนใหม่หางแถวยาวไปถึงเชียงรายแล้วจ้า
ฉันรีบเดินปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งเฟิร์นให้ทะเลาะกับจูนต่อไปเพราะปวดฉี่จนจะอั้นไม่ไหวแล้ว ระหว่างทางเดินชนใครไปบ้างก็ขอโทษด้วยนะ พรุ่งนี้วันหยุดคืนนี้คนเยอะเป็นพิเศษจนเดินเบียดเสียดกัน คลับหรูระดับนี้แต่แอบมีโซนที่คนเยอะจนแทบจะเดินเหยียบเท้ากันอยู่เหมือนกันแฮะ ได้แต่พูดว่าขอโทษทุกครั้งที่เดินชนคนไม่ได้มองหน้าใครเลย ห้องน้ำอยู่ไหน ใจคิดอยู่แค่นี้
จนจัดการธุระเสร็จก็ออกมายืนส่องกระจกเช็กหน้าผมเพิ่มความมั่นใจ เรียบร้อยแล้วฉันก็พาตัวเองที่เริ่มเซด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ออกไปจากห้องน้ำ และในตอนนั้นเอง…
“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งจะ...” คำพูดสุดท้ายถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ
“เรามาทำอะไรที่นี่” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยถามแข็งกร้าวในขณะที่ฉันกำลังกล่าวขอโทษที่เดินออกจากห้องน้ำไปชนกับแผงอกเขาอย่างจัง และนั่นทำให้ฉันชะงักเมื่อรับรู้ได้ว่าผู้ชายตรงหน้านั่นคือ... ‘ไอ้พี่ธิต!’
“เหอะ!” กรรวีเบ้ปากมองบนใส่แล้วตั้งใจจะเชิดหน้าเดินออกมาสวย ๆ แต่กลับมีมือหนาเอื้อมมากระชากต้นแขนเรียวเอาไว้ก่อน
“อ๊ะ!” เธอถลึงตาดุใส่สั่งให้เขาปล่อย หากนอกจากเขาจะไม่ยอมปล่อยแล้วยังดึงเธอเข้าไปใกล้ขึ้นกว่าเดิมจนตัวติดกันก่อนเอ่ยถามอย่างกังวลใจ
“มาที่นี่ทำไม?” มือหนาจับแขนเธอไม่ปล่อย อยากกอดมากกว่า ทว่ารู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีสิทธิแล้ว
“เสือก” กรรวีตอกกลับด้วยคำหยาบคายอย่างไม่คิดไว้หน้า ไม่หลงเหลือความคิดถึงในแววตา คำพูดหวานหูหรือการให้เกียรติกันอย่างที่เคยผ่านมาก็ไม่มีให้ ไม่สนว่าจะแก่กว่ากี่ปี ไม่สนรุ่นพี่รุ่นน้องอะไรทั้งนั้น
เลิกกันแล้วมีสิทธิอะไรมาถามด้วยท่าทางเหมือนหึงหวงแบบนี้ไม่ทราบ
“หงส์!” ส่วนเขาตะคอกใส่อย่างไม่พอใจเช่นกันที่หญิงสาวพูดจาหยาบคาย แต่แล้วไงใครแคร์?
“ทำไม!” ความดื้อรั้นในแววตาหญิงสาวทำเอาสาธิตต้องผ่อนลมหายใจพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลง รู้ดีว่าหากยังร้อนใส่กันอย่างนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้น
“หงส์มากับใคร?” เขาถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเย็นลง แต่หญิงสาวก็ยังตอกกลับคำเดิมว่า...
“เสือก” พลางดันตัวเองออกห่างเขา สะบัดแขนออกจากการเกาะกุม
“คุยกันดี ๆ หน่อยไม่ได้รึไง พี่แค่ถามว่าเรามากับใคร ทำไมเราต้องพูดจาหยาบคายใส่พี่ขนาดนี้ด้วย?”
“อ่อ... ค่ะ! กราบขออภัยที่หยาบคายใส่ด้วยนะคะอาจารย์สาธิต ขอตัว!” กรรวีประชดประชัน เห็นหน้าเขานาน ๆ แล้วอยากอาเจียนชะมัด แต่คนหน้าด้านก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ
“หงส์..” สาธิตอ่อนใจ ขณะที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ ก็มีเสียงเล็กแหลมแปดปรอทลอยดังมาแต่ไกล
“ทำอะไรกันน่ะ! นี่! ปล่อยสามีฉันเลยนะหมอหงส์!” นานาเดินมากระชากกรรวีให้แยกกับสามีตน
กรรวีกลอกตาเมื่อจังหวะนรกมีอยู่จริง แค่บังเอิญมาเที่ยวที่เดียวกันก็เป็นเสนียดชีวิตจะตายอยู่แล้ว ดันมีซีนเราสองสามคนอะไรแบบนี้อีก จะบ้าตาย!
“เธอมาทำไม บอกแล้วไงว่าให้รอที่โต๊ะ” ชายหนุ่มพูดกับหญิงสาวที่มาใหม่
หลายวันมานี้เธอก็กินเยอะกว่าที่เคยกินปกติแล้วด้วยซ้ำ เธอพยายามกินให้เยอะกว่าเดิมเพื่อเพิ่มน้ำหนักตามที่คุณหมอสั่ง ตั้งแต่วันที่เขาพาเธอไปฝากครรภ์หญิงสาวก็พยายามทำทุกอย่างที่ควรทำ เพราะรู้ตัวว่าก่อนหน้าตัวเองละเลยการดูแลตัวเองมากเกินไป ไหน ๆ ก็ตั้งใจจะให้เขาเกิดมาแล้วเธอก็อยากทำหน้าที่ให้ดีตั้งแต่ตั้งครรภ์ช่วงแรกเธอแพ้ท้องค่อนข้างหนักจนน้ำหนักลดฮวบ อาจจะเพราะความเครียดผสมร่วมด้วยกระมัง เพิ่งหายจากอาการแพ้ท้องขึ้นมาหน่อยก็เดือนหลัง แม้จะมีอาการบ้างนาน ๆ ครั้ง แต่เมนูไข่ที่เคยเลี่ยงมาตั้งหลายวันเธอกินไม่ไหวเพราะมันคาวเกินไปวันนี้รู้สึกเบื่ออาหารด้วยเลยกะว่าจะแบ่งรับประทานเป็นมื้อย่อยแต่หลายมื้ออย่างที่เคยอ่านเจอมา ทว่าฮาซีฟก็มาบังคับเธออีกจนได้ไม่ชอบ! ทำไมต้องบังคับ อยู่ ๆ คาริสาก็เกิดน้อยใจ อารมณ์ที่ไม่คงที่เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำหญิงสาวข่มกลั้นทำนบน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ เธอนั่งร้องไห้จนฮาซีฟรู้สึกผิด เขาเดินตามมาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ“ขอโทษ... ก็คุณกินน้อยไป” เสียงทุ้มแผ่วเบา ใบหน้าหดเหลือสองนิ้ว“ริสาไม่อยากกินออมเล็ต ไม่ชอบกินเมนูไข่” คนน้อยใจจนร้องไห้พึมพำแล้วส่งค้อนให้“แต่ปกติคุณชอบนะ
การใช้ชีวิตกับคาริสาบอกเลยว่าไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินที่เคยคาดหมาย แม้จะรู้ว่าหญิงสาวตั้งใจเรื่องมาก เรื่องเยอะ เอาแต่ใจเพราะอยากยั่วโมโหเขาหรือทดสอบประสาททดสอบความอดทนอะไรก็ตาม ฮาซีฟยังรับมือไหว!วันนี้ชายหนุ่มเลยรีบตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหารไว้รอรับมือกับว่าที่คุณแม่เรื่องเยอะอย่างคาริสา เรียกได้ว่าครบทั้งห้าหมู่ หลากหลายเมนูไว้ดักทางคนเรื่องมากเอาแต่ใจ มีทั้งที่ลงมือทำเองและเมนูที่สั่ง วางเรียงรายจนล้นโต๊ะถึงขั้นต้องลากโต๊ะอีกตัวมาต่อเพิ่มเพื่อจะวางของกินอวดหญิงสาวได้“รวยมากมั้ง” คาริสาเดินลงจากชั้นสองมาก็ยืนกอดอกกวาดมองสารพัดเมนูบนโต๊ะแล้วถอนหายใจ ทำแบบนี้คิดเหรอว่าจะเอาชนะเธอได้ เหอะ!“ไม่รวยมาก แต่เลี้ยงคุณไหว” เลี้ยงลูกด้วย มีเพิ่มสักสิบคนยังเลี้ยงได้“เลี้ยงได้สักกี่วันเถอะ” เห็นเขาตอบเสียงนิ่งหน้าหยิ่ง ๆ ท่าทางมั่นใจในตัวเองแบบนั้น คิดว่าเท่มากมั้ง น่าหมั่นไส้!“หึ” ลองอยู่กับเขารอดูไปนาน ๆ สิว่าเขาจะสามารถเลี้ยงเธอกับลูกได้นานขนาดไหน ชายหนุ่มคิดในใจแต่ไม่ได้เอ่ยออกไป“รีบกิน เดี๋ยวสาย” ชายหนุ่มบอกพลางเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่งลงแต่โดยดี วันนี้มีนัดตรวจครรภ์อีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าคุณทำงานผิดกฎหมายหรอกใช่ไหม” เท่าที่รู้มาคือเรวัตยุ่งเกี่ยวกับงานสีเทา ฮาซีฟจะรอดได้อย่างไรในเมื่อเป็นลูกน้องกัน เมื่อก่อนเธออาจไม่ถือสา ทว่าตอนนี้มีลูกแล้วเธอไม่อยากเอาตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับของไม่ดีพวกนั้น“เพ้อเจ้ออะไรของคุณ” ชายหนุ่มเหลือบมองคนข้างกายด้วยหางตาแล้วนึกขำโอเวอร์ชะมัด!เขาเป็นเด็กกำพร้า พ่อติดคุกและเสียชีวิตไปตั้งแต่วัยเยาว์ก็จริงอยู่ ทว่าท่านก็ทิ้งสมบัติชิ้นสุดท้ายไว้ให้เป็นที่ดินผืนใหญ่ เมื่อก่อนอาจจะไม่มีราคาเพราะเป็นที่ดินตาบอดทว่าเมื่อเวลาผ่านไปมีการสร้างถนนตัดผ่านเส้นนั้น เท่ากับเขาได้รับจำนวนเงินมหาศาลเมื่อหลายปีก่อนที่แบ่งขายไปที่ดินยังมีเหลืออยู่เกินครึ่ง เป็นจำนวนหลายร้อยไร่ มีเงินในบัญชีที่สั่งสมมานานหลายปี เขาทำงานกับเรวัตมานาน เติบโตมาด้วยกัน เป็นมือขวาที่จัดการให้แทบทุกอย่าง เท่ากับค่าตัวเขาแพงกว่าใครทั้งนั้น แม้ส่วนใหญ่จะเป็นงานสีเทา และแน่นอนว่ามันไม่ถูกกฎหมายเท่าไหร่อย่างที่คาริสานึกสงสัย แต่มันผ่านมาแล้วเขากินอยู่กับเรวัตไม่เคยมีเรื่องเดือดร้อนเรื่องเงินเลยสักครั้งเพราะได้เงินพิเศษประจำ ลำพังไม่ใช่คนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายด้วยเพราะตัวคนเดียว
ชายหนุ่มพาหญิงสาวไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมตรวจทุกกระบวนการตามขั้นตอนทั้งตัวคุณแม่และคุณพ่อเองก็ตรวจด้วยเพื่อความปลอดภัยของเด็กในครรภ์ จะได้ดูความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทางกรรมพันธุ์ซ้ำยังตั้งใจเลือกแพ็กเกจคลอดไว้ล่วงหน้าเสร็จสรรพ ฮาซีฟเลือกเองเสร็จสรรพโดยที่คาริสาแทบไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไรทั้งนั้นเพราะเขาเลือกในแบบที่ดีที่สุดไว้ให้และตรงใจเธอราวกับรู้ใจก็ไม่ปานจนเมื่อหญิงสาวได้มานอนอยู่บนเตียงเพื่อรออัลตราซาวนด์ความตื่นเต้นและประหม่าไม่รู้หลั่งไหลมาจากไหน มือบอบบางเย็นจัดทว่าชุ่มไปด้วยเหงื่อเผลอไปคว้ามือหนาของคนข้างกายมาจับไว้คลายความประหม่าฮาซีฟเห็นปฏิกิริยาของคาริสาเขาก็คอยกุมมือหญิงสาวไว้ ยืนเป็นเพื่อนอยู่ข้างเตียง มองทุกขั้นตอนตั้งแต่ที่พยาบาลเปิดหน้าท้องขาว ๆ ที่เริ่มเห็นชัดว่านูนขึ้นมาจากเก่ามากพอสมควร จนถึงขั้นตอนบีบเจลทั่วบริเวณท้องช่วงล่าง ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำคาริสาแอบสะดุ้งจนเผลอบีบมือหนาที่กุมอยู่ฮาซีฟยิ้มเอ็นดูใบหน้าซีด ๆ ของหญิงสาวทั้งที่ดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกายตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเขาเปลี่ยนเป็นกุมประสานมือเธอไว้หนึ่งข้าง มืออีกข
สายลมยามเย็นพัดปะทะหน้าเอื่อย ๆ บวกกับความสงบเงียบของบ้านพักตากอากาศแบบส่วนตัวทำเอาคนที่มีอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทาง การร้องไห้อย่างหนักร่วมด้วยอาการของคนท้องเข้าไตรมาสสองเอนกายนั่งพักตรงที่นอนหวายริมระเบียงเผลอหลับไป รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มมีผ้าห่มคลุมกายในห้องนอนเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำที่สำคัญยังมีร่างสูงของเจ้าของบ้านนอนเหยียดกายอยู่บนโซฟาในท่าเอามือก่ายหน้าผาก ขายาว ๆ ของเขาเลยความยาวของโซฟาไปมากอยู่“ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม เขารู้สึกตัวทันทีที่คาริสาขยับลุกเพราะเขาเองเพียงแค่หลับพักสายตาหลังจากที่ชายหนุ่มหายไปร่วมสองชั่วโมงเขาก็กลับมาพร้อมกับข้าวของมากมาย เป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของทั้งคาริสาและตัวเขาเองเพราะทั้งคู่ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาทั้งนั้น ขึ้นมาหาเธอในห้องก็พบว่าสาวเจ้าหลับตากลมอยู่เขาเลยจัดการอุ้มเข้ามานอนดี ๆ“หิวรึยัง” มองเวลาก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า เขาหยิบน้ำวิตามินซียี่ห้อดังมาเปิดฝาแล้วส่งให้หญิงสาว คาริสารับมาแบบงง ๆ หากก็ยอมยกดื่มอย่างที่ทำประจำ เธอปวดหัวทุกครั้งเวลานอนตอนเย็นแล้วตื่นค่ำ และน้ำวิตามินซีที่มีรสชาติเปรี้ย
รถคันหรูจอดนิ่งสนิทที่บ้านสองชั้นหลังสีขาว ขนาดไม่เล็กมากแต่ก็ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป มีสามห้องนอนสามห้องน้ำ ข้างนอกดูเหมือนจะเป็นทรงเรือนไทยประยุกต์ แต่ข้างในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นค่อนข้างทันสมัย ที่สำคัญคือตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาคาริสามองบ้านหลังตรงหน้านิ่ง ๆ จนฮาซีฟลงจากที่นั่งคนขับเดินอ้อมรถไปเปิดประตูให้หญิงสาว เธอไม่สนจะเดินสำรวจรอบตัวบ้าน แค่กวาดตามองผ่านๆ แล้วเดินตามชายหนุ่มเข้าไป“นี่เป็นบ้านพักตากอากาศของ...”“ของใคร?” เขาพูดไม่ทันจบประโยคคาริสาก็รีบถาม ไม่ใช่ของเรวัตใช่ไหม ถ้าใช่เธอไม่อยู่เด็ดขาด!“ของผม” ฮาซีฟตอบสั้น ๆ ไม่คิดขยายความหรอกว่าได้บ้านหลังนี้มาจากใคร แม้เดิมทีจะเป็นบ้านเรวัตแต่ในเมื่อโอนเป็นชื่อเขาแล้วก็ย่อมเป็นของเขา “สบายใจเถอะ คุณอยู่ที่นี่ได้”“แล้วไป” หญิงสาวเดินหน้าคว่ำไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้องรับแขก“นั่งเบา ๆ หน่อยได้ไหม” ฮาซีฟต่อว่า คาริสาก็ค้อนตาใส่“กลัวโซฟาจะบุบสลายรึไง” ทำไมต้องดุด้วย หญิงสาวบ่นอุบแล้วลุกหนีขึ้นบนชั้นสองทำคนตัวสูงถอนหายใจ เขาห่วงเธอต่างหาก กลัวเด็กในท้องกระทบกระเทือนฮาซีฟเดินตามไปและแนะนำห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและส่วนต่าง