Mag-log in“ทำไมคะ กลัวว่านานาจะมาขัดจังหวะพี่กับแฟนเก่าที่แอบนัดกันมาสวมเขาให้นานาเหรอ” นานากระแนะกระแหนขึ้นมาแถมทำหน้าทำตาใส่กรรวี
น่าหมั่นไส้ชะมัด สวยตายแหละอีป้า
แต่เดี๋ยวนะ.. เพิ่งขอแต่งงานกันไปเมื่อกี้เองไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้มาทะเลาะกันหาว่าเธอแอบนัดกันมา คืออะไร?
“พี่ทำแบบนี้กับนานาได้ยังไง ไหนบอกว่ารักนานาไม่ใช่เหรอคะ ฮึก ฮือ...”
อะ! สวมวิญญาณนางเอกเจ้าน้ำตากอดสามีร้องไห้แล้วหนึ่ง จะร้องไห้ไม่ว่าแต่หันไปดูหน้าสามีหน่อยดีไหมแม่คุณ สาธิตทำหน้าเอือมระอาเสียเต็มประดาขนาดนั้น ส่วนกรรวีก็ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอคู่รักข้าวใหม่ปลามันต่อ จึงใช้จังหวะนั้นเดินกลับ
“หงส์! อย่าเพิ่งไป..” สาธิตรั้งข้อมือของกรรวีไว้อีกรอบ
“อะไร!?” เธอหันกลับไปตะคอกใส่อย่างหงุดหงิด เรียกทำไม อะไรกันนักหนา โวะ!
“นานาปล่อยพี่”
“พี่ธิตอย่าทำกับนานาแบบนี้นะ!” นานากอดยื้อว่าที่สามีไม่ยอมปล่อย
“นานา ปล่อย” สาธิตกดเสียงต่ำนัยน์ตาเยือกเย็นจนนานาเห็นแล้วหยุดชะงักการกระทำ เขาแกะแขนนานาออกจนได้
นั่นทำให้ทั้งนานาและกรรวีชะงัก สายตาคู่นั้นไม่ควรเป็นของคนที่เพิ่งจะขอกันแต่งงานใช้มองกัน แต่ก็ช่างเพราะไม่เกี่ยวกับเธอเสียหน่อย
“แล้วคุณน่ะ จะปล่อยฉันได้รึยัง?” กรรวีถามสาธิตบ้าง
“ยัง..”
“ปล่อยเถอะ อึดอัด!” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกไป
“ไม่! ไปคุยกันก่อน”
“ก่อนอื่นคือไปคุยกับเมียตัวเองก่อนดีไหม โน่นอะ ทำหน้าอย่างกับปลาบู่ชนเขื่อนละ” ยิ่งเห็นสายตาที่นานามองมาแล้วยิ่งนึกหมั่นไส้ ...มองอะไร ไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ?
“มากับพี่” นอกจากจะไม่สนใจไยดีว่าที่ภรรยาแล้วสาธิตกลับกระตุกแขนเรียวให้เดินตามไป และจังหวะที่ไม่ทันตั้งตัวนั้น…
เพียะ!
ใบหน้าสะสวยหันไปตามแรงสะบัดข้อมือที่ฟาดมา
“คุณหมอหงส์ฟ้าไม่มีปัญญาหาผัวด้วยตัวเองเลยเหรอคะถามจริง?!” นานาด่าเสียงดังหลังจากฟาดฝ่ามือเข้าใส่ ในขณะที่กรรวีได้แต่ยืนหน้าชาตัวสั่นกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
‘นะ นี่ฉันโดนตบใช่ไหม... อะไรกันเนี่ย!’
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าเธอมาก่อน พี่ชายหวงอย่างกับไข่ในหิน พ่อแม่โคตรจะตามใจยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยนะจะบอกให้
“เฮ้ยนานา เธอทำบ้าอะไรวะ!” สาธิตใช้ตัวเองเป็นโล่ กันไม่ให้นานาทำร้ายกรรวีได้อีก แต่มันไม่ทันแล้วไหมล่ะ หน้าเธอสั่นไปหมดแล้ว!
“ก็มันมายุ่งกับผัวนานาอะ ทำไมนานาจะทำไม่ได้!” นานาเริ่มโวยวายแบบฉบับนางร้ายในละครไทย
“เอาให้ดีนะนานา เธอเคยตกลงกับพี่ไว้ว่ายังไง”
“แต่พี่เพิ่งขอนานาแต่งงานไปเองนะ” เมื่อสาธิตเริ่มเดือดดาลนานาก็เสียงอ่อนลงหลายระดับ ทว่าความหยิ่งทนงทำให้ยังเชิดหน้าสู้ต่อ
“นั่นเป็นเพราะอะไรจะให้พี่พูดตรงนี้เลยไหมล่ะ พี่พูดได้นะถ้าเธอหน้าหนาพอ”
‘อะไรกัน สองคนนี้กำลังเถียงกันเรื่องอะไรช่วยหันมาสนใจฉันก่อนค่ะ ฮัลโหล! คนโดนตบอยู่ทางนี้ค่า’
“นี่! ใครไปยุ่งกับสามีหล่อนไม่ทราบ ช่วยแหกตาดูก่อน!” กรรวีพูดสวนพร้อมพุ่งร่างเข้าหายายบ้านั่น อยากสวนสักหมัดให้หายเจ็บใจขณะที่สองผัวเมียนี้กำลังยืนถกเถียงอะไรกันอยู่สักอย่าง แต่ดันโดนสาธิตกอดเอวบางรั้งเอาไว้ก่อน เพราะเริ่มมีไทยมุงเข้ามาแล้ว บางคนก็เริ่มซุบซิบกันไปว่าเธอไปแย่งผัวเขาจนเมียเขาจับได้อะไรทำนองนั้น จนกรรวีที่ได้ยินเสียงแว่วเข้าหูเริ่มเดือดดาล
เธอต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำ ไหงกลายเป็นคนที่ผิดในสายตาคนอื่นได้
ไม่ได้การ... เธอต้องกู้ชื่อเสียงตัวเองกลับมาก่อน คนอย่างหมอกรรวีไม่มีทางแย่งสามีใครให้เสียชื่อ
“นานากลับไปก่อน” สาธิตไล่
“ไม่! เราต้องกลับไปพร้อมกัน” หล่อนกระชากแขนกรรวีที่โดนว่าที่สามีจับไว้แน่นให้ออกจากกัน ใช้เล็บจิกเข้าเนื้อขาวบอบบางอย่างแรงอีกต่างหากจนกรรวีร้องลั่น
“โอ๊ย ยายบ้าฉันเจ็บนะ!” ความจริงเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากแค่อยากจะสำออยเรียกคะแนนความเห็นใจกลับมาบ้าง
“นานาอย่า!” พี่ธิตห้ามแล้วกระชากแขนว่าที่ภรรยาเหวี่ยงออกไปจนร่างบางไถลไปชนกับแจกันไม้ทรงสูงที่วางประดับไว้ตรงทางเดินอย่างไม่แรงนักจนแจกันล้มระเนระนาด
เสียดายที่มันเป็นไม้เลยไม่แตกใส่หัวอีบ้านั่น หมั่นไส้!
“อยากจะร้องก็ร้องกับพี่นะ อย่าแอบร้องไห้คนเดียว แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ร้องหรอก” แม้จะรู้ว่าเธอเสียใจเรื่องมารดาทว่าก็ไม่ได้อยากเห็นน้ำตาของคาริสานัก เวลาเธอเศร้า ลูกรับรู้ได้ ฮันน่าจะมีความสุขได้อย่างไร“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วสวมกอดเขากลับคืนเช่นกัน จากนั้นเรียวปากหยักก็เริ่มซุกซน ขบเม้มซอกคอหอมละมุนและลาดไหล่จนคนบนหน้าตักต้องย่นคอหนี“นี่! เวลาแบบนี้ยังจะหื่นได้อีก”ฮาซีฟหัวเราะ คนที่ว่าเขาหื่นแต่กลับบดสะโพกลงบนตักเขาจนไอ้เจ้านั่นมันแข็งขืนสู้ ปวดไปหมดจนทนไม่ไหว“เขาว่ากันว่า เวลาเครียดมาก ๆ ต้องมีเซ็กซ์นะ จะช่วยให้ผ่อนคลาย”“ข้ออ้างเถอะค่ะ ว้าย!” หญิงสาวหวีดร้องเมื่อร่างของเธอถูกพลิกกลับไปนอนส่วนเขาขึ้นมาคร่อมอย่างฉับพลันฮาซีฟกดจูบจากเนิบช้าเปลี่ยนเป็นดุดันตามอารมณ์กระสันซ่าน ทำคาริสาหายใจแทบไม่ออก กว่าเขาจะปล่อยเรียวลิ้นออกจากโพรงปากหวานเธอก็แทบจะขาดอากาศหายใจ เข้าใจแล้วว่าตอนที่ท้องอยู่ทำไมเขาถึงไม่ยอมกระทำทั้งที่เธอเคยเสนอตัวให้ด้วยซ้ำ เพราะแรงเขาเยอะมาก ทั้งดุดันแถมยังหื่นจัด ครั้งเดียวไม่เคยพอ“อ๊ะ! อย่าเพิ่งค่ะ” เมื่อสองขาเรียวโดนเขาอ้าออกกว้าง ร่างสูงแทรกเอวสอบมาอย
หากเขารู้สักนิดว่าผู้หญิงตรงหน้าใจไม้ไส้ระกำขนาดไหน เขาคงไม่ทุ่มทั้งกายใจและให้ทุกอย่าง คงไม่เอามาเป็นแม่ของลูกด้วยซ้ำ เคยคิดมาตลอดว่าที่คริสติน่าทำแบบนั้นกับเรวัตเพราะเธอไม่ได้รักไม่ได้ผูกพัน หากทว่าวันนี้เขาประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า ขนาดคาริสาที่เลี้ยงมากับมือ ผูกพันกันมานานเธอยังไม่ได้รักมากไปกว่าความสุขสบายของตัวเองด้วยซ้ำ“หม่ามี้ขา ริสาขอโทษนะ” คาริสาร้องไห้ เธอรู้สึกผิดในทุกวันที่ช่วยอะไรมารดาไม่ได้มากกว่านี้ ที่ฮาซีฟไปขอร้องท่านหมัดซอลีแล้วท่านยอมให้เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว บิดาเธอบอกว่าบางครั้งมารดาเธอก็ต้องยอมรับผลจากการกระทำของตนบ้าง ชดใช้กรรมแค่นี้ยังถือว่าโชคดีมากด้วยซ้ำและแม้คาริสาจะรู้สึกผิดต่อมารดาและเป็นห่วงท่านแค่ไหน ในเมื่อเธอทำอะไรไม่ได้ในหน้าที่ของลูก เธอจึงหันมาโฟกัสหน้าที่ของแม่ คาริสายังต้องดูแลฮันน่าแม่ที่ไม่มีความสุขจะเลี้ยงลูกให้มีความสุขได้อย่างไร แม้จะทุกข์เธอก็ทำได้แค่เก็บกดไว้ส่วนลึกในใจ แต่วันนี้หัวใจเธอแหลกสลายอีกครั้งเมื่อมารดามาว่าร้ายกันเมื่อไม่ได้ดั่งใจคริสติน่ายิ่งอาละวาดหนักเหมือนคนบ้า ด่ากราดแม้กระทั่งหลานในไส้ หนูน้อยฮันน่าที่ได้ยินเสียงพวกนั้
“คุณหนูตื่นแล้วค่ะ” พี่เลี้ยงอุ้มสาวน้อยฮันน่าวัยแปดเดือนเข้ามาคนเป็นตารีบหยุดทุกคำหยาบคาย ฮาซีฟจะลุกไปอุ้มลูกแต่โอภาสก็รีบแซงหน้ารับหนูน้อยฮันน่ามาอุ้มแนบอกอย่างไว“หลานตาตื่นแล้วเหรอคะ ยิ้มเก่งมากเลย หนูนอนเต็มอิ่มก็ตื่นมาอารมณ์ดีไม่งอแงเลยใช่ไหม” คนเป็นตาที่เคยพูดภาษาพ่อขุนรามจนติดปากเปลี่ยนเป็นพูดเสียงสองเสียงสามกับหลานแบบฉับพลันหนูน้อยฮันน่าก็ยิ้มน่ารัก ทำปากเหมือนอยากจะพูดสนทนากับผู้ใหญ่จนน้ำลายเลอะเปรอะเปื้อนไปหมด ซ้ำยังยกนิ้วป้อม ๆ จิ้มหูจิ้มตา แหย่จมูกคุณตาแล้วหัวเราะคิกคักชอบใจ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเอ็นดูจากทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดีทุกวันนี้บ้านหลังนี้อบอุ่นและสดใสขึ้นมากตั้งแต่คาริสาและหนูน้อยฮันน่าอยู่บ้านท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของครอบครัวที่สามีอ้อนภรรยาที่กำลังปอกผลไม้ให้หลังจากช็อปเสื้อผ้าออนไลน์เสร็จแล้ว และคุณตาที่ทั้งกอดทั้งหอมหลานสาวสุดที่รัก เล่นจั๊กจี้กันจนเด็กน้อยหัวเราะลั่น มีบริวารห้อมล้อมคอยปรนนิบัติรับใช้ ทว่าอยู่ ๆ บรรยากาศดี ๆ เหล่านั้นก็โดนขัดขึ้นเมื่อมีผู้มาใหม่เดินเข้ามา“มีความสุขกันจังเลยนะ!” เสียงคริสติน่าดังกังวาน บ่งบอกได้ชัดถึงความเดือดดาล
“กูไม่ได้ทำ” เรวัตตอบเสียงราบเรียบ สายตาคู่คมมั่นคงบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาพูดความจริง ฮาซีฟเชื่อสนิทใจเพราะคนอย่างเรวัต หากบอกว่าไม่ ก็คือไม่ และตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์เกือบตายครั้งนั้นทำให้เรวัตตกตะกอนความคิดได้หลายอย่าง เขาจึงไม่คิดเอาความและตามอาฆาตคริสติน่าอีกต่อไปตอนนี้เรวัตเองแค่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อผู้หญิงที่เขารักและเธอก็รักเขามากเช่นกัน เพื่อบิดา เพื่องาน และเพื่อครอบครัวที่รัก แต่คนที่ไม่ยอมรามือคือหมัดซอลีพ่อของเรวัตต่างหาก“งั้นถ้าผมไปขอป๊ะลี จะได้ไหม” ฮาซีฟเอ่ยถามอย่างหนักใจ“กูก็ไม่รู้” เรวัตตอบตามตรง บิดาเขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาเหยียบหัวได้ง่าย ๆ ยิ่งกับคนที่สั่งฆ่าลูกตัวเองอย่างเหี้ยมโหดได้ขนาดนั้น ใครมันจะไปอยากให้อภัย“แบเร... ช่วยผมหน่อยได้ไหม”“ทำไม?”“เพื่อริสา” ได้ยินชื่อหญิงสาวเรวัตก็ชะงักงัน เขาติดค้างคาริสาหลายอย่าง ใจลึก ๆ อยากจะชดใช้ให้บ้าง ทว่าจะให้ไปเจอหน้ากันแล้วขอโทษเธอก็กระดากอาย ที่ผ่านมาเขาทำได้แค่ยกหุ้นหลายเปอร์เซ็นต์ และเงินก้อนใหญ่ให้ฮาซีฟเอาไปใช้เพื่อดูแลคาริสา และหลานของเขา และเตรียมจะโอนหุ้นให้ในชื่อหลานบางส่วนเพราะหากให้คาริสาโดยตรงเธอคงไม่อยาก
“ครับ พี่เอง ถึงบอกไงว่ารักริสามานาน”คาริสายิ้มกว้างสองแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เธอมุดหน้าลงกับแผงอกเขาแล้วกอดไว้แน่น“ไปอาบน้ำกันไหม” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยเสียงทุ้มพร่า เพราะคาริสากำลังนั่งกอดเขาอยู่บนตักแกร่ง ลำพังแค่ได้กลิ่นหญิงสาวเขาก็แทบตบะแตกอยู่แล้ว นี่เธอยิ่งเบียด กอด ซุกไซ้ใครล่ะจะทนไหว“ริสาอาบน้ำแล้ว” คาริสาเงยหน้าขึ้นมามอง ตอบเขาหน้าซื่อตาใส แล้วก็ต้องหรี่ตาเมื่อใบหน้าหล่อคมมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นประปราย กับความแข็งขืนด้านล่างที่กำลังเบียดชิดก้น หญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่าเขาอยากสื่อความหมายว่าอะไร“ครับ งั้นลุกนะ พี่ขอไปอาบน้ำก่อน” ฮาซีฟยกร่างบอบบางไปวางบนเตียง เขารีบลุกเดินตัวงอตรงเข้าไปในห้องน้ำเพราะท่อนลำกลางกายมันดื้อ ประท้วงจะออกมาเสียให้ได้หญิงสาวหัวเราะขำเบา ๆ เอ็นดูชายหนุ่มที่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังพยายามข่มกลั้นอารมณ์ทุกอย่าง เพียงเพื่อให้เกียรติเธอ ไม่อยากฝืนใจเธอ แม้ตัวเองจะลำบากแค่ไหนก็ตาม คาริสาลุกเดินตามเขาเข้าไปในห้องน้ำ“ให้ริสาช่วยอาบไหม” ถามเขาเสียงหวานหยด นัยน์ตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่กำลังจะถอดเสื้อหวานหยาดเยิ้ม สองมือเรียวบางก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนซาตินแขนย
คืนนั้นโอภาสอนุญาตให้ฮาซีฟได้พักในบ้าน แต่ทว่าต้องนอนคนละห้องกัน ชายวัยกลางคนนึกสงสารหลาน คงจะติดอ้อมอกของพ่อมาก เพราะทันทีที่ฮาซีฟได้อุ้มหนูน้อยฮันน่าก็หยุดร้องจากที่งอแงมาตลอดหลายวันคาริสาให้คนหาข้าวหาปลาให้ชายหนุ่มรับประทาน พร้อมทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ ตามด้วยยาและชุดอุปกรณ์ทำแผล ใบหน้าหล่อเหลามีรอยฟกช้ำจากการโดนตบด้วยปืน และการโดนบิดาของเธอเหยียบขยี้ซ้ำๆ จนเป็นรอยถลอกปอกเปิก พื้นคอนกรีตร้อน ๆ หน้าบ้านก็ทำแก้มอีกข้างเป็นรอยไหม้ หากฮาซีฟก็ไม่บ่นสักคำ“ทำแผลก่อนนะ” คาริสาเอ่ยหลังจากที่ชายหนุ่มวางลูกน้อยที่หลับสนิทลงเตียงเด็กแล้วก่อนหน้านี้ฮาซีฟทำเพียงแค่ล้างหน้าล้างมือให้สะอาด ใช้น้ำเปล่าล้างแผลขจัดสิ่งสกปรก เพราะลูกสาวร้อง เขาอยากรีบไปอุ้มเลยยังไม่ทันได้ทำแผลจริงจัง“ดึกแล้ว ทำไมไม่พักผ่อน พี่ทำเองก็ได้” ชายหนุ่มจะคว้ากล่องอุปกรณ์ทำแผลมาจัดการเอง ทว่าคาริสาไม่ยอม เธอกอดกล่องไว้แน่น แววตาคู่สวยมองเขาจริงจัง“ริสาจะทำให้” หญิงสาวรั้นจะทำเองเขาจึงไม่ขัด นั่งลงข้างเตียงแล้วยื่นหน้าให้หญิงสาวที่นั่งข้างกันทำแผลและทายาแก้ฟกช้ำให้“พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกันนะ เอกซเรย์ดูหน่อยว่ามีกระดูกร้าวแตกหั







