กอหญ้าลืมตาค้าง เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับอกขาวของคนด้านข้าง ไม่ผิดแน่ ราชันย์ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ โดยที่เธอกำลังนอนทับแขนแกร่งของเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่เวลาที่เขาหลับไม่มีพิษมีภัยแบบนี้ก็ดูน่าหลงใหลดีจริง ๆ เธอมองใบหน้าของเขาอย่างไม่ละสายตา
“มองขนาดนี้อยากได้รางวัลสักหน่อยมั้ย”
“คุณราชันย์”
“ทำไม? สีหน้าเปลี่ยนไวจังนะ”
เธอขยับตัว ดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที ราชันย์เองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาลุกขึ้นมาสะบัดแขนข้างที่เธอหนุนเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นบิดร่างกาย
“คุณราชันย์อยากทานอะไรเป็นอาหารเช้าคะ”
“เธออยากทานอะไรก็ทำมาเลย อ่อ! ทำเผื่อมังกรกับพราวฟ้าด้วยละกัน”
“พี่พราวยังไม่กลับหรอคะ”
เธอไม่รอให้ราชันย์ที่กำลังอ้าปากจะตอบคำถามเธอ ได้ส่งเสียงตอบ เธอรีบวิ่งออกจากห้องนอนไปทันที ที่ได้ยินว่าพราวฟ้ายังอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกชอบพราวฟ้าเอามาก ๆ อาจเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งก็ว่าได้
เมื่อเธอออกมาด้านนอกก็เห็นพราวฟ้ากำลังทำอาหารอยู่ในครัว และมีมังกรที่นั่งเท้าคางมองเธอทำอาหารอยู่ไม่ไกล ภาพที่เห็นทำให้กอหญ้าเผลอยิ้มออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะเดินเข้าไปขัดจังหวะสายตาของมังกร ด้วยการยืนโน้มหน้าไปมองมังกรช้า ๆ แต่ก็ไม่แม้แต่จะแรกความสนใจของเขาที่ตั้งอกตั้งใจมองพราวฟ้าได้เลยเธอหันไปมองพราวฟ้าสลับกับมองมังกรที่ตอนนี้ยิ้มจนแก้มปริ ก่อนที่เขาจะเห็นเธอที่ยืนจ้องหน้าเขาสลับกับพราวฟ้าไปมาด้วยอาการตกใจจนแทบจะหงายหลัง
“คุณมังกรมองพี่พราวขนาดนี้มดขึ้นห้องครัวแล้วนะคะ”
“ก็พราวฟ้าสวยมากเวลาทำอาหารนี่นา”
“พบคนคลั่งรักแล้วหนึ่ง”
“กอหญ้าไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกพี่มังกรแล้วกัน”
“จะดีหรอคะ”
“ดีสิ เราเรียกพราวฟ้าว่าพี่ ก็ต้องเรียกพี่ว่าพี่สิ”
“กอหญ้าจะพยายามนะคะ”
เธอยิ้มหวานให้มังกรก่อนจะเดินเข้ามาดูพราวฟ้าที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหาร พราวฟ้าหันมายิ้มหวานให้เธอ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ผักที่กองอยู่ด้านหน้าเป็นเชิงบอกให้กอหญ้าช่วยจัดการให้หน่อย กอหญ้าเห็นดังนั้นก็พยักหน้าให้เธอ เดินไปล้างมือก่อนจะหันมามองที่กองผักทั้งหลาย
“พี่พราวจะทำอะไรคะ กอหญ้าจะได้หั่นถูก”
“อันนั้น อันนั้น แล้วก็อันนั้น พี่จะผัดจ๊ะ ส่วนกองนู้น นู้น และก็นั่น พี่จะทำต้มจืด”
“โอเคค่ะ ไว้ใจลูกมือคนนี้ได้เลย”
ทั้งสองคนลงมือเตรียมวัตถุดิบจนเรียบร้อยอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่ามีผู้ชายสองคนกำลังจ้องเธอทั้งคู่อยู่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งสองคนมองตามพราวฟ้าและกอหญ้าไปมา ราวกับผู้ชายที่เจอของที่ชื่นชอบมาก ๆ เช่นนั้นก็ไม่ปาน
“เรียบร้อย! หอมไหมคะเฮีย”
“หอมมากเลยครับพราว ต้องอร่อยมากเหมือนเดิมแน่ ๆ”
“งั้นเฮียกับราชันย์เลิกตาหวานเยิ้ม แล้วเก็บน้ำลายที่ทำท่าจะหก เดินไปนั่งรอที่โต๊ะดี ๆ นะคะ”
“กอหญ้า ช่วยพี่ยกอาหารหน่อยนะ”
กอหญ้ายิ้มให้เธอแทนคำตอบ ก่อนจะเดินไปเปิดหม้อต้มจืดผักรวม ทันทีที่ฝาหม้อเปิดออกกลิ่นที่ปะทะจมูกเธอกลับทำให้เธอต้องเบ้หน้าออกอย่างทันควัน มือเล็ก ๆ ยกฝาหม้อปิดทันที
“พี่พราว ต้มจืดกลิ่นแปลก ๆ หรือเปล่าคะ”
“หืม กลิ่นแปลก ๆ หรอ ไหนพี่ดูหน่อย”
พราวฟ้าเดินมาเปิดหม้อดมกลิ่น ก่อนจะตักออกมาใส่ถ้วยเล็กเพื่อชิมรสชาติ ซึ่งทุกอย่างก็ปกติ กลิ่นก็หอมเหมือนปกติที่เธอทำ พราวฟ้ายืนทำหน้างง หันไปมองหน้ากอหญ้าที่ตอนนี้ทำหน้าเหยเก ใบหน้าซีดลงเล็กน้อย พราวฟ้าส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบว่าทุกอย่างปกติ เธอเห็นกอหญ้ายิ้มให้เธอเล็กน้อยเท่านั้น
“งั้นกอหญ้าไปยกข้าวสวยแล้วกันนะ เดี๋ยวอันนี้พี่ยกไปเอง”
“ค่ะ”
พราวฟ้ามองตามกอหญ้าอย่างสงสัย ก่อนจะหันกลับมาดมกลิ่นต้มจืดอีกครั้ง ตักใส่ถ้วยพร้อมกับเดินไปตั้งโต๊ะอาหารทันที กอหญ้าถือจานข้าวมาวางให้ทุกคน ก่อนจะยืนมองถ้วยต้มจืดด้วยหน้าแหย ๆ เธอนั่งลงมองกับข้าวที่เมื่อครู่ตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ ด้วยอารมณ์ที่เรียกได้ว่าแทบไม่อยากอาหารเลยก็ว่าได้
“ต้มจืดใส่อะไรแปลก ๆ หรือเปล่า ทำไมกลิ่นมันแปลก ๆ”
“แปลกยังไงวะ กลิ่นปกติดีนะ”
“เออ สงสัยไม่ค่อยสบายมั้ง จมูกได้กลิ่นเพี้ยน ๆ”
เมื่อทานอาหารเรียบร้อยแล้ว พราวฟ้ากับกอหญ้าก็เก็บจานชามมาจัดการล้างจนเรียบร้อย ทั้งคู่เดินมานั่งเปิดทีวีดูที่โซฟากลางห้อง กอหญ้าเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคล้ายจะไม่สบายเพราะรู้สึกมึนหัว และง่วงเอามาก ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอหลับตาลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
“เฮีย พราวจะออกไปซื้อผลไม้ด้านล่างคอนโดสักหน่อย เอาอะไรไหมคะ”
“เดี๋ยวเฮียไปเป็นเพื่อน”
ทั้งคู่เดินลงมายังร้านขายผลไม้ด้านล่างคอนโด เธอเดินเลือกซื้อผลไม้ที่อยากได้ ก่อนที่สายตาเธอจะเหลือบไปเห็นมะม่วงลูกโตที่ดูท่าจะเปรี้ยวน่าดู เธอหยีหน้าทันที ก่อนจะซื้อมะม่วงลูกนั้นมาด้วย และเพิ่มอีกหลายลูก มังกรมองพราวฟ้าสลับกับมะม่วงในมือเธอก่อนจะเอื้อมไปหยิบมาชิ้นหนึ่ง
“หึย! เปรี้ยวมากเลย พราวกินได้หรอ”
“พราวไม่ได้ซื้อมากินเองสักหน่อย พราวเอามาฝากกอหญ้า เผื่อน้องอยากกิน”
“กอหญ้าจะกินได้หรอ มันเปรี้ยวมากเลยนะ เอาไปคืนเถอะ”
“เฮีย เมื่อเช้ากอหญ้าก็บอกว่าต้มจืดกลิ่นแปลก ๆ แล้วสังเกตน้องแทบไม่ทานอะไรเลยนะเฮีย ราชันย์เองก็บอกว่ากลิ่นต้มจืดแปลก ๆ เฮียมันกลิ่นแปลกจริง ๆ หรอ”
“คิดมากน่าพราว เฮียไม่เห็นว่ากลิ่นมันจะแปลกยังไง หอมเหมือนที่พราวทำให้เฮียทานบ่อย ๆ ปกติเลยนะ”
“สงสัยพราวจะคิดมากไป ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้วไม่คืนละเฮีย เราขึ้นไปกันเถอะ”
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ