“ไอ้!”
เพื่อน ๆ หันมามองเธอทันที เมื่อมะปรางเผลอตะโกนออกมา คนที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร ถึงกับขำออกมาจนพวกเพื่อน ๆ ของเขาเองก็แปลกใจ
“เป็นอะไรวะมะปราง ตะโกนทำไมตกใจหมด เหยียบอะไรเข้าล่ะ”
“ไม่มีอะไรแค่เดินสะดุดน่ะ เลยอุทานออกมา รีบไปเถอะ”
พวกเธอเดินกลับไปแล้ว แต่คนที่ยังนั่งขำจนน้ำตาเล็ดออกมา ยังมองดูอยู่ จน “ก้องภพ” เพื่อนสนิทของเขาต้องถามออกมา
“มึงเป็นเชี่ยอะไรวะไอ้ตะวัน จู่ ๆ ก็ขำ”
“ไม่มีอะไร แค่ขำน่ะ”
“ขำอะไรของมึง ถึงกับน้ำตาเล็ดขนาดนั้น”
“ไม่มีอะไร แค่ขำคลิปลูกแมวโมโหน่ะ”
“อะไรของมึงวะ”
"กองทัพ" แปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติตะวันไม่ใช่คนเส้นตื้นแบบนี้ อีกอย่างวันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่เขายอมมากินข้าวนอกคณะ
“นี่ไอ้ภาวิชญ์มึงบอกกูหน่อยว่า ทำไมเราต้องมากินข้าวคณะมนุษย์ด้วยวะ หรือว่ามึงเกิดถูกใจสาวในคณะนี้”
ก้องภพถามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าภาวิชญ์ มองออกไปที่เดียวกับตะวัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่มองอะไร เพราะรอบ ๆ มีสาว ๆ คณะมนุษย์ที่นั่งมองพวกเขา ดูน่าสนใจมากกว่าสวนหลังคณะเสียอีก
“ไม่มีอะไร เห็นว่าช่วงบ่ายเราต้องไปเรียนตึกใกล้ ๆ ได้ข่าวว่าโรงอาหารนี้อาหารอร่อย ก็เลยชวนพวกมึงมา”
“เออ ก็อร่อยจริงอย่างที่มึงว่า อีกอย่างวิวแถวนี้ก็น่ามองเสียด้วยสิ"
กองทัพยอมรับ และหันไปยิ้มให้กับรุ่นน้องคณะมนุษย์ ที่หันมามองพวกเขา แค่ยิ้มให้พวกเธอก็หันไปหัวเราะคิกคักกันอีกครั้ง
“ไปเถอะ ใกล้ได้เวลาแล้ว”
“อ้าวอะไรวะ ไปแบบนี้เลยเหรอ ยังตกสาวไม่ได้สักคน"
“ไอ้เวรกองทัพ! กูชวนมาแดกข้าว มึงจะมาตกสาวอะไรตอนนี้ มึงหัดเอาอย่างไอ้ตะวันบ้าง”
“เอาอย่างเชี่ยอะไร ทำเป็นเงียบแต่ฟาดเรียบอย่างมันน่ะเหรอ ไม่เอาหรอก กูมันคนชัดเจนโว้ย!”
“ใครบอกว่ากูเป็นคนเงียบ นั่นคิดกันไปเองทั้งนั้น กูก็คนธรรมดา มีอารมณ์แล้วก็อยาก…”
“พอเลยไอ้ตะวัน มึงนี่มัน… ช่วยรักษาภาพพจน์ ของคุณชายผู้เงียบขรึมหน่อยเถอะ”
"ก็เพราะพวกมึงเป็นแบบนี้ไง แล้วจะให้กูทำยังไงวะไอ้ก้อง"
“เอาน่า จตุรเทพอย่างพวกเราแค่เดินก็เท่แล้ว ไม่พูดมากไปหรอกน่า”
"ไปได้แล้ว มึงนั่นแหละพูดมากสุดแล้วไอ้กองทัพ"
“ไอ้เชี่ยวิชญ์ เดี๋ยวเถอะมึง ผมกูเสียทรงหมด”
ตอนเย็น / หน้าคณะมนุษย์ ฯ
“ไปก่อนนะมะปราง”
“กลับดี ๆ ล่ะ บาย”
มะปรางเดินออกมาเกือบคนสุดท้าย เพราะวันนี้เธอต้องไปพบอาจารย์ก่อนกลับ เรื่องงานพรีเซ็นในตอนเช้า เมื่อเดินออกมา เธอก็เริ่มมองไปรอบ ๆ ที่จริงไม่อยากให้ใครเห็น แต่เธอเห็นรถสปอร์ตที่นั่งมาตอนเช้าค่อย ๆ ขับเข้ามาก็ต้องรีบเดิน แต่ไม่ทันจะเดินถึงก็ถูกใครบางคนดึงมือเอาไว้
“มะปราง!”
มะปรางตกใจและหันไปทันที จักกฤษนั่นเอง เขามาดักรอเธอที่หน้าคณะ ซึ่งเธอไม่ทันได้สังเกต
“พี่มาทำอะไรที่นี่”
“ปราง พี่อยากถามว่า…”
“พี่มีสิทธิ์อะไรมาถามปราง ตอนนี้เรื่องของเรามันจบแล้ว มาทางไหนก็ไปทางนั้นเถอะ ระวังแฟนพี่จะตามมาเอาเรื่อง ฉันไม่อยากมีปัญหา”
“ปรางเดี๋ยวก่อนสิ พี่แค่อยากถามไม่กี่คำ ทำไมปรางต้องรีบด้วยละ หรือว่านัดใครไว้”
“ไม่เกี่ยวกับพี่”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อเรา…”
“เราเลิกกันแล้ว มันจบตั้งแต่พี่ไปนอนกับคนอื่นแล้วค่ะ”
“ปรางเองก็มีคนใหม่แล้วเหรอ คนที่มาส่งเมื่อเช้านี้”
คนในรถนั่งมองเหตุการณ์มาสักพักแล้ว เขาเห็นว่าที่คณะไม่มีคนแล้วจึงตัดสินใจเดินออกมาจากรถ เพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่าย จะไม่ยอมปล่อยมะปรางง่าย ๆ เพราะตอนนี้ทั้งคู่คุยกันอยู่หน้าคณะ
“ปรางบอกว่าเสียใจเพราะพี่ แต่ทำไมจู่ ๆ ก็มีคนใหม่แล้วละ เราเคยรักกันไม่ใช่เหรอปราง เรื่องพี่กับตาล มันแค่ความผิดพลาดแค่ครั้งเดียว ถ้าปรางยกโทษให้พี่ เรามาเริ่มใหม่กันได้นะ”
“ไม่ค่ะ! ในเมื่อปรางเลือกแล้ว พี่ก็ควรจะเลิกยุ่งกับปรางได้แล้ว”
“พี่ไม่เชื่อหรอกว่าปรางจะลืมพี่ได้ เราคบกันมาตั้งสองปีนะปราง... พี่ว่าเรา...”
“มะปราง!”
“พี่ตะวัน”
มะปรางหันไปมองคนที่เดินเข้ามาหาเธอ แม้ว่าจะดูนิ่งแต่ก็ทำให้คนที่จับแขนเธออยู่ ชะงักลงได้แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย
“นายเป็นใคร”
“ปล่อยมือมะปราง”
เธอหันไปมองจักร ที่ยังจับมือเธอแน่น และสลับหันมามองตะวันซึ่งกำลังเดินเข้ามา
“จะปล่อยดี ๆ ไหม เธอเจ็บจนแขนเป็นรอยแล้ว”
จักรหันมามองมะปราง ที่ทำหน้าเบ้เพราะเจ็บ เขารีบปล่อยทันที ตะวันจึงคว้าแขนเธอ และดึงให้มาอยู่ด้านหลัง มะปรางตกใจแต่ก็เกาะหลังเขาเอาไว้แน่น
“ผู้หญิงไม่เล่นด้วยยังจะตามตื๊อเขาอีก ไม่อายบ้างเหรอ”
“นายเกี่ยวอะไรด้วย ฉันกับเธอ…”
“แค่แฟนเก่า ผมไม่สนหรอก”
“แล้วนายเป็นใคร”
“อยากรู้จริงเหรอ”
“ปราง! เขาเป็นใคร คนคณะวิศวะไม่มีใครจริงใจสักคน ทำไมถึงกล้าไปคบกับเขา”
“พี่เองก็นอกใจปรางไม่ใช่เหรอคะ พี่จักรอย่าลืมสิว่า เราเลิกกันเพราะอะไร”
“ปราง! มันไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่เมาแล้วพลาดแค่ครั้งเดียว...”
“โถ ๆ พ่อคนดี บอกเมาแล้วพลาดก็ไม่เลวแล้วเหรอ อย่ามายุ่งกับปรางอีก ไม่งั้นเจอดีแน่”
“นี่แฟนกู”
“ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้ปรางเป็นแฟนกู ไอ้หมาขี้แพ้!”
“พอที!”
มะปรางเดินออกมา เธอจับแขนตะวันเอาไว้แน่นแม้จะสั่น จักรรีบหันไปคุยกับเธอ ก่อนที่จะหมดโอกาส
“ปราง พี่อธิบายได้”
“กลับไปเถอะพี่จักร ไม่ได้ยินเหรอคะว่าปรางกับพี่ตะวัน… ระ เราคบกันอยู่ ถึงยังไงเรื่องของเราสองคน ก็กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”
“ปราง! เป็นไปไม่ได้…”
“ทำไมละคะ พี่ไม่เชื่อเหรอ”
“จะให้เชื่อได้ยังไง ตอนเราคบกันมะปรางคลั่งรักพี่ขนาดไหนใคร ๆ ก็รู้ จะมาบอกว่ารัก…มะปราง! นั่นทำอะไรน่ะ!”
“หลงตัวเอง”“คนปากแข็ง”เมื่อกินเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็พากันกลับไปที่คอนโด เมื่อเดินออกมาจากลิฟต์ ก็ต้องแปลกใจเพราะหน้าห้องของเขามีคนมายืนรออยู่“พี่ตะวันกลับมาแล้วเหรอคะ”“แจง มาทำอะไรที่นี่”“คือว่า…”“เหอะ ขอตัวก่อนนะ”“เอ่อ...”เขาไม่ทันได้เรียกเธอ มะปรางเดินมาที่ห้องของตัวเอง และไขประตูเข้าไป พร้อมกับปิดโดยไม่ได้หันมามองเขาอีก ตะวันได้แต่หน้ามุ่ย เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมารออยู่หน้าห้อง“แจงมาทำอะไรที่นี่ พี่บอกว่าถ้าไม่ได้เรียกก็อย่ามาไงละ”“แจงก็แค่เหงา เลยจะมาชวนพี่ตะวันไปดื่มสักหน่อย แต่พอคิด ๆ ไปแล้ว พี่ไม่ชอบไปเที่ยวก็เลยมารอที่นี่”“ไม่มีอารมณ์ กลับไปเถอะ”“อะไรกันคะ ทำไม…”“จะเอาเท่าไหร่”“พี่ตะวันละก็”“แค่ครั้งนี้เท่านั้น ถ้าไม่เอาก็รีบกลับไปเลย พี่บอกเอาไว้เลยนะว่าจากนี้เราไม่ต้องมายุ่งกันอีก ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ไม่จบแน่”“พี่ขู่แจงขนาดนี้เลยเหรอ”“จะเอาไหม”“หนึ่งหมื่น ไม่สิ ไหน ๆ ก็ครั้งเดียวแล้ว สามหมื่น”“เหอะ คิดว่าค่าตัวเธอสูงขนาดนั้นเลยเหรอ”แต่เขาก็ยกมือถือขึ้นมา และกดโอนเงินให้เธอทันที เมื่อหันไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก็นึกดูถูกขึ้นมาทันทีผู้หญิงก็แค่นี้ เห็นแก
“ตะวัน! นี่จำพีชไม่ได้เหรอคะ”“พีช… คือว่า”เพี๊ยะ!ฝ่ามือของพีช ฟาดลงไปที่หน้าของตะวันอีกครั้ง เขาเซเล็กน้อยโดยมีมะปรางคอยประคองเอาไว้ “พี่ตะวัน”“พี่ไม่เป็นไร”ตะวันค่อย ๆ หันกลับมา และมองหน้าคนที่กล้าตบเขา รอบข้างของรุ่นพี่สาวสุดสวย ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นดาวคณะมาก่อน เริ่มหน้าซีดเพราะความกลัว“พอใจหรือยัง”“หมายความว่ายังไง”“ตบแล้วรู้สึกดีขึ้นไหม” “ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่คุณจำฉันไม่ได้ ฉันก็เลยโกรธ”“ผมจำไม่ได้ก็บอกว่าจำไม่ได้ ไม่เห็นแปลก แต่ที่คุณมาหาเรื่องปรางนี่สิที่ผมแปลกใจ”“นี่คุณจะบอกว่า คบกับเด็กนี่จริงเหรอ”“ทำไมคุณสนใจเรื่องของพวกเราจังเลย ต้องจูบให้ดูอีกรอบไหม ถึงจะเชื่อกัน”“อย่านะคะพี่ตะวัน ไม่งั้นปรางจะชกพี่อีกทีจริง ๆ ด้วย”ตะวันยิ้มและลูบหัวเธอไปนิดหน่อย ส่วนคนที่มองอยู่ทั้งโกรธและอิจฉา เธอเจอเขาที่ผับเมื่อหลายเดือนก่อน ถึงจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ แค่คืนเดียวแต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะถึงกับจำแม้แต่ชื่อของเธอไม่ได้“มะปรางฉันขอเตือนเอาไว้ ถึงวันนี้เหมือนว่าจะชนะ แต่เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ ถ้าวันไหนเขาเบื่อขึ้นมา สภาพก็ไม่ต่างกับฉันในวันนี้”ว่าแล้วพีชก็เดินไป อย่างน้อยดีกรีอดีตดาวคณ
“พูดมาก แล้วพี่เข้ามาทำอะไรในห้องปราง ออกไปเลยนะ”“ไหน ๆ ก็เข้ามาแล้วน่า ตกลงจะไปเรียนหรือเปล่า พี่อุตส่าห์มาเรียกก่อนเวลานะ ยังไม่ขอบคุณอีก”“แย่แล้ว”ปรางลืมไปสนิทเลยว่าต้องไปเรียน จะมัวแต่ยืนเถียงเขาก็ไม่ได้ เธอรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้อง และอาบน้ำทันที เป็นวันแรกที่เธออาบน้ำเร็วที่สุด เพื่อจะไปเรียนให้ทัน ตะวันเดินสำรวจรอบห้อง และนั่งรอที่โซฟาในห้องนั่งเล่น“เสียงมันทะลุผ่านได้จริง ๆ เหรอวะเนี่ย สุดยอดไปเลยว่ะ”ตะวันลองเอาหูไปแนบดูที่ผนัง มะปรางเดินออกมาพอดี“นั่นพี่กำลังทำอะไรอยู่”“อ๋อ แค่แนบดูน่ะ ว่าได้ยินเสียงชัดขนาดนั้นจริงหรือเปล่า”“โรคจิต! ลุกขึ้นมาเลยนะ”“ก็ได้ ๆ เสร็จแล้วเหรอ ไปกันได้แล้ว”“ทำไมวันนี้พี่ใส่เสื้อช็อปไปละคะ”“ทำไมละ ไม่ชอบเหรอ”"เปล่า ก็แค่แปลก ๆ"“แปลกตรงไหนกัน รีบไปได้แล้ว”มะปรางเดินตามเขาออกมาเพื่อล็อกประตู ตะวันดึงกระเป๋าเธอมาถือไว้ให้ ระหว่างรอมะปรางปิดห้อง ทั้งคู่ไปมหาลัยด้วยกัน และเขาก็ส่งเธอลงที่หน้าคณะเหมือนเดิม“ขากลับวันนี้พี่คงไม่ได้มารับนะ”“ค่ะ ปรางกลับเองได้ ไม่ต้องบอกก็ได้นะคะ”“แหม รีบเชียวนะ”มะปรางลงจากรถ และเดินเข้าไปในคณะทันที เธอตกเป็นเป
“เดี๋ยวก่อนนะคะ เราไม่ได้ตกลงกันไว้แบบนี้ ไหนละคะกุญแจห้อง...อื้อ พี่ตะวัน”หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย เขากดเธอแทบจะจมเตียงได้อยู่แล้ว มะปรางแน่ใจว่า ไม่มีคืนไหนที่จะได้ยินเสียงคราง ดังยาวนานขนาดนี้นอกจากวันที่เขาจะนัดผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคน แต่คืนนี้เธอเหมาคนเดียวเกือบทั้งคืน ไม่แน่ใจว่าเขาใช้ถุงยางไปกี่อันกันแน่ รู้แต่ว่าเธอสลบจนถึงสิบโมงของอีกวันวันต่อมา“ปรางครับ ตื่นได้แล้ว ตอนบ่ายมีเรียนไม่ใช่เหรอ”“อือ ลุกไม่ไหวแล้ว วันนี้โดดก็แล้วกัน”“จะไม่ไปเหรอ”“อือ…เอ๊ะ!”เธอนึกขึ้นได้ว่า ไม่ได้นอนห้องของตัวเอง เมื่อหันมามองคนที่ตื่นก่อนก็ตกใจทันที“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นละ แน่ใจนะว่าจะไม่ไป”“ไปค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”“ตอนนี้สิบโมงครึ่ง ยังไม่สายหรอก พี่แค่กลัวจะหลับเลยเวลาเฉย ๆ น่ะ ลุกไหวหรือเปล่า”เธอหันไปค้อนเขาวงใหญ่ ไม่ใช่เพราะเขาหรอกเหรอ ที่ทำให้เธอแทบลุกไม่ขึ้น ตอนนี้ถ้าลุกขึ้นเดินก็ไม่รู้ว่าจะเดินท่าปกติได้หรือเปล่า ขาเธอสั่นทั้งคืนเพราะถูกเขาจับยก จับแยกและกระแทกไม่หยุด แม้ว่าเธอจะไม่ห้ามก็เถอะ“ปรางกลับห้องก่อนนะคะ”“ก็ได้ พี่รออยู่ที่ห้องก็แล้วกัน เสร็จแล้วก็มาเคาะประตู”
ยิ่งเห็นตัวตนของเขาเต็ม ๆ ตา มะปรางก็ยิ่งรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนลามกมากขนาดไหน เสียงที่เธอได้ยินทุกคืนจนเธอฟุ้งซ่าน ถึงจะไม่คิดแต่พอได้ยินบ่อย ๆ มันก็รู้สึกอยากลอง วันนี้เธอจะไม่พลาดโอกาสนี้ ต่อให้จะเป็นแค่ครั้งเดียวก็ตาม“อย่าเสียบสด ไปป้องกันก่อน”“ก็ได้ครับผม รอแป๊บนะ”เขาลุกไปเอาถุงยางที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งเธอเห็นว่ากล่องใหญ่มาก เขาน่าจะซื้อมาไว้ เพราะต้องใช้ตลอดละมั้ง“หึ ใช้บ่อยละสิ”เขาหันมามองสีหน้าดูถูกนิด ๆ ของเธอก็นึกขำ ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ต้องการเขา แต่กลับทำเป็นรังเกียจ เขานึกหมั่นไส้จนไม่อยากใส่เสียแล้ว แต่ยังไงก็ต้องป้องกัน “ทำไมละ หรือจะให้พี่ไม่ป้องกันละ อย่างน้อยก็ต้องป้องกันโรคสักหน่อยสิจริงไหม แต่ตอนนี้พี่ว่าเปลี่ยนที่สักหน่อยดีกว่า แอร์ในห้องเย็นแล้ว”“อะไรนะ”เขาหันมาอุ้มเธอและพาเดินเข้าไปในห้องนอน มะปรางคิดว่าไม่น่าจะใช่บริเวณที่เธอได้ยินเสียง แต่ไม่ทันจะได้คิด เมื่อเขาวางเธอลงได้ ก็ก้มลงมาจูบทันที เพื่อกระตุ้นให้ลูกชายเขาแข็งขึ้นมาอีกนิด“อื้อ…อ๊าา”เขาค่อย ๆ กระตุ้นและกางขาเรียวของเธอแยกออก แท่งร้อนของเขาเริ่มสอดเข้าไปข้างใน แค่เข้าไปครึ่งเดียว ตะวันก็รู้ทันทีว่า
ตะวันดึงมะปรางเข้ามาจูบทันที สาวเปรี้ยวรุ่นน้องต่างคณะ ถึงกับตกตะลึงและโกรธมากกว่าเดิม“ที่รักอย่าโกรธพี่เลยนะ เรื่องมันจำเป็นน่ะ”มะปรางยืนนิ่งไปแล้ว เขาใช้วิธีเดียวกันจัดการเรื่องตรงหน้า นี่เธอสอนจระเข้ว่ายน้ำอยู่สินะ“พี่ตะวัน เธอเป็นแฟนพี่จริง ๆ เหรอ”“ยังสงสัยอีกเหรอ ต้องเอากันให้ดูเลยไหม”"พี่ตะวัน"“อันนี้เกินไปนะคะ ใครจะทำแบบนั้น อย่าให้มันมากเกินไป”มะปรางกระซิบ พร้อมกับหยิกที่เอวของเขาไปทีหนึ่ง แต่ตะวันก็พยายามยิ้มกลับไปให้อย่างเจ้าเล่ห์“ที่บอกว่าคืนเดียวจบคือแบบนี้ใช่ไหม พี่นอนกับผู้หญิงตั้งหลายคนแต่ไม่เคยจูบใครเลย แต่นี่ถึงกับจูบเธอ”“ก็พี่บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ คู่นอนกับแฟนมันคนละอย่างกันนะ อีกอย่าง…”เพี๊ยะ!“ไอ้คนเลว”ขิมเดินออกไปทันที ตะวันหันมาลูบหน้าคม ที่เริ่มแดงขึ้นมา เสียงตบนั้นแรงใช้ได้เลย“เจ็บไหมคะ”“มือหนักใช้ได้เลย เล่นทีเผลอนี่หว่า ดีไม่กัดลิ้นไม่งั้นได้เลือดแน่”“สมน้ำหน้า”“อะไรกัน ช่วยเห็นใจกันสักหน่อยเถอะแม่คุณ นี่พี่พึ่งโดนตบมานะ”“ก็สมควรแล้วนี่คะ ไปหลอกเขาก่อนเองนี่”“ใครหลอกกันละ ก็ตกลงกันไว้แล้วว่า แค่สนุกไม่ผูกพัน เป็นคนเข้ามาจีบก่อนเองแท้ ๆ”“โสโครก