คิมซูฮยอน...หรือไอ้คิมของเพื่อนๆ มาถึงเมืองไทยได้สี่วันแล้ว ตอนนี้เขาได้อยู่ที่หน้าคลินิกของคุณหมอคนสวยแล้ว ตั้งใจเต็มที่ว่าวันนี้จะไปดูหน้าพี่สาวคนสวยของเพื่อนสนิท แล้วจะชวนเธอไปดินเนอร์สักหน่อย หลังจากไม่ได้เจอกันมานานคิดถึงจะแย่ กว่าจะทำเรื่องย้ายมาทำงานที่ไทยได้ก็ใช้เวลาหลายเดือนเลยทีเดียว
เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะอะไรเขาถึงได้หลงใหลได้ปลื้มพี่สาวของเพื่อนมากมายนัก ห้าปีที่เทียวขายขนมจีบลูกสาวเจ้านาย ซึ่งเจ้านาย เมียเจ้านาย ตลอดจนน้องชายของหญิงสาวต่างก็รู้เห็นเป็นใจอย่างดี แต่คนที่ไม่รู้เห็นเป็นใจด้วยคงจะมีอยู่คนเดียว นั่นก็คือตัวสาวเจ้า ไม่ว่าจะใช้มุกไหนจีบก็ไม่สำเร็จสักที คำกล่าวที่ว่า “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” ของไอ้ณัฐเพื่อนเขา มันคงจะใช้ไม่ได้ผลกับพี่สาวของมัน
หลังจากใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงจากคอนโด เขาก็มายืนอยู่หน้าคลินิกของคุณหมอสาว ถึงเขาจะอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ก็พอจะพูดได้บ้างนิดหน่อย เพราะความตั้งใจจะมีเมียเป็นคนไทยเพื่อไปฝากแม่ ก็เลยต้องศึกษาภาษาไทย และเพื่อนสนิทของเขาทั้งสามคนก็ดันเป็นคนไทย อุตส่าห์ไปไปร่ำเรียนถึงอเมริกา คิดว่าจะได้ฝรั่งหัวแดงเป็นเพื่อน ที่ไหนได้ ดันได้เพื่อนคนไทยมาถึงสามคน ทั้งๆ ที่ตอนแรกไม่สนิทกัน แต่สุดท้ายกลับซี้ปึ๊ก และคบกันมายาวนานถึงห้าปี เรื่องการสื่อสารระหว่างพวกเขาส่วนมากก็จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งไอ้พวกนี้ก็ถนัดชนิดที่ว่าด่าฝรั่งได้ไม่ต่างกับด่าด้วยภาษาไทยเลย
สิ่งที่ทำให้เขาต้องเรียนภาษาไทย นอกจากจะอยากได้เมียคนไทยแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือป้องกันไม่ให้ไอ้เพื่อนๆ ตัวดีมันแอบด่าเขาเป็นภาษาไทย เขาจะได้รู้หากโดนแอบด่า ถ้าอ่านเขียนไม่ได้ก็ขอให้ฟังพูดเข้าใจเป็นดีที่สุด
“ต๋อโทด คร้าบ คูณหมอลักษาอยู่ไหมคร้าบ” ภาษาไทยที่ไม่แข็งแรงของเขาทำให้คนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อชายหนุ่มพูดอีกครั้งคนนั่งฟังถึงได้รู้ว่าคนที่เขาอยากเจอคือใคร ก่อนที่พยาบาลสาวจะพูดกลับมาเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว
“เดี๋ยวนั่งรอก่อนนะคะ คุณหมอคุยกับคนไข้อยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ”
“ผมชื่อ คิมซูฮยอนครับ” คนที่ไม่ต้องพูดภาษาไทย ก็พูดคล่องขึ้นทันที พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้พยาบาลสาวสวยอย่างเป็นมิตร
ไม่นานนักคุณหมอสาวก็ออกมาจากห้องตรวจด้วยความอึดอัดใจ ..บอกตามตรงว่าตอนนี้เธออยากหายไปจากตรงนี้ หรือไม่ก็บอกหนุ่มคิมไปตรงๆ ว่าเธอมีแฟนแล้ว แต่เพราะมีคนสั่งไว้ว่าห้ามพูดอะไร เพราะเขาจะจัดการเพื่อนตัวดีของเขาเอง
เธอไม่อยากจะคิดว่าหนุ่มเกาหลี ผู้ตามหลีเธอมาหลายปีจะเจออะไรบ้าง เพราะแฟนหนุ่มของเธอก็ได้ชื่อว่าหึงแรงเสียด้วย นี่เขาคงไม่คิดฆ่าเพื่อนต่างแดนหมกส้วมหรอกนะ คิดแล้วเหม็นแทน เอ๊ย..ไม่ใช่เวลามาตลกนะ รักษา คุณหมอสาวไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้าอย่างไรนอกจากยิ้มให้คนที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง ซึ่งกำลังยืนยิ้มให้เธอจนตาหยี
“รักษา ...ผมคิดถึงคุณจัง”
คนที่ตามจีบเธอมาห้าปี พอเห็นหน้าหญิงสาวก็พุ่งเข้ามาหาเธอ หมายจะกอด ซึ่งเป็นการทักทายตามธรรมเนียมฝรั่ง กอดให้ชื่นใจ
เขาหลับตาพริ้มเมื่อได้กอดคุณหมอสาว เขาไม่ได้กอดทักทายเธอแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ไม่สิ นี่เป็นครั้งแรกมั้งที่เขาได้กอดเธอ แต่เอ๊ะ ทำไมคุณหมอบุญรักษาที่เขาหลงรักตัวสูงจัง แล้วทำไมตัวไม่นิ่มอย่างที่คิดเลย แข็งไปหมดทุกสัดส่วน แข็งเหมือนผู้ชาย
“เฮ้ย ...ไอ้ปริ้นส์!” คนที่กอดเพื่อนตัวเอง และไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองคิดถึงเขามากจนต้องมาดักเจอถึงที่นี่เลย
“เออ..กูเอง มึงจะทำอะไรคุณหมอ”
“คุณหมอรักษา คือคนที่กูตามจีบอยู่ไง”
คุณหมอบุญรักษาได้แต่ขยิบตาให้หนุ่มเกาหลีว่าอย่าพูดอะไรต่อ อย่าพูด
แต่คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกลับคิดว่าเธอมีใจให้เขา ถึงขยิบตาให้กัน ครั้งนี้เขาคงมีโอกาสบ้าง หรือว่าพอเธอและเขาห่างกัน เธอก็เลยเพิ่งรู้ใจตัวเอง คนที่หัวใจพองโตยิ่งกว่าแม่อึ่งอ่างที่พองตัวตามแม่วัวนั้น ยิ้มแป้นให้เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีตั้งแต่เรียนจบ
“ปริ้นส์ แล้วนี่มึงคิดถึงกูถึงขนาดที่ต้องมาดักเจอที่นี่เลยเหรอ”
“เปล่า กูมาเฝ้าเมีย”
ปริญมองเพื่อนด้วยสายตาอาฆาต แต่คนเป็นเพื่อนก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราว คิมซูฮยอนหันไปพยาบาลสาวสวยนั้น
คงเป็นคนนี้สินะที่เป็นเมียของปริญ ก่อนจะก้มหัวให้เธอเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย ขณะที่พยาบาลสาวที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยก็ก้มหัวให้ตามมารยาท พลางอดคิดว่าทำไมอยู่ๆ เขาเพิ่งคิดได้ว่าต้องทักทายเธอ
ปาริสานึกถึงวันนี้เมื่อในอดีตเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ วันที่เธอเจอเขาครั้งแรก วันที่ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ช่วงเวลานั้นเธอคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตเธอ แต่ก็ไม่คิดว่านั่นก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเธอที่ได้เจอเขาเขาถึงได้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นแล้ว มันก็คงจะจริงถ้าเธอไม่เจอปัญหาแบบนั้น ไม่ตัดสินใจทำเรื่องแบบนั้นเธอก็คงไม่เจอเขา“ขอบคุณนะโอปา ที่วันนั้นตัดสินใจเดินเข้ามา” ปาริสา บอกกับสามีตอนที่เธอกำลังนอนกอดเขา“ขอบคุณเหมือนกันที่ไว้ใจผม” คิมซูฮยอนก็รู้สึกขอบคุณไม่ต่างจากเธอเพราะตอนนั้นเองเขาก็ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว การมีเธอทำให้ชีวิตเขาสะดวกสบายในหลายๆ อย่าง รู้ตัวอีกทีเขาก็มีเธออยู่ในชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว“ไม่ไว้ใจได้อย่างไรเล่นเอาท่านประธานมาแนะนำตัวขนาดนั้น เล่นใหญ่ไม่มีใครเกินโอปากับเพื่อนเลย” ปาริสาอดขำถึงวันที่เขาเล่นใหญ่พาท่านประธานมาหาเธอไม่ได้“ก็อยากได้แม่บ้าน แต่กลัวแม่บ้านจะกลัว” คิมซูฮยอนทำเสียงออดอ้อนเมียรัก“อยากได้แม่บ้านแต่พอย้ายมาอยู่ด้วย ไม่ได้ทำหน้าที่แม่บ้านเลย” ปาริสาย่นคิ้วให้เขา เพราะงานบ้
คิมซูฮยอนนั่งดูงานฉลองวันเกิดลูกชายคนแรกในวัยหนึ่งขวบ ลูกชายของเขาไม่มีหน้าตาส่วนใดคล้ายเขาเลยสักนิด ทั้งที่เขาเป็นคนที่พยายามปั้นลูกชายคนนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาท่าทางเหมือนปาริสาไม่มีผิด “โอปา เป็นอะไรคะ” ปาริสาเห็นแฟนหนุ่มนั่งมองลูกชายที่กำลังเล่นกับเพื่อนของสามีที่บินมาฉลองวันเกิดลูกชายของพวกเธอถึงเกาหลี “ทำไมลูกไม่เหมือนผมเลยริสา เหมือนริสามากแต่ไม่มีส่วนไหนเหมือนผมเลย” คนอ้อนเมียก็ทำเสียงอ้อนลงมาอีกหนึ่งระดับ จับมือเธอไว้แน่นอยากให้เธอเห็นใจเขา “แต่ลูกชายเขาว่าเหมือนแม่ดีนะคะ” ปาริสาบอกอย่างที่เธอคิดและได้ยินมา สำหรับเธอไม่ว่าลูกจะเหมือนใครหรือออกมาอย่างไรเธอก็รักเขามาก ลูกของเธอเป็นเด็กน่ารักเลี้ยงง่าย เท่านี้เธอก็พอแล้ว“ผมอยากให้ลูกเหมือนผมบ้าง” คิมซูฮยอนพูดพร้อมทั้งซุกหน้าลงกับไหล่ของหญิงสาวอย่างออดอ้อน“ไว้คนต่อไปทำลูกสาวดีไหมคะ ลูกสาวเขาบอกต้องเหมือนพ่อถึงจะดี” เสียงหวานของเมียสาวทำให้เขายิ้มออกมาทันที นี่แหละที่เขาต้องการอยากได้ลูกสาวน่ารักๆ อีกสักคน“แต่ถ้าลูกสาวผมอยากให้เหมือนริสามากว่า”“เหมือนโอปาก็น่ารักนะคะ ริสาอยากเห็นโอปาตอน
ปาริสาต้องตกใจกับอาหารทะเลสดๆ ของที่นี่ สดจริงๆ ซาชิมิที่แสนอร่อย หอยเป๋าฮื้อที่ชีวิตนี้ที่ไม่เคยกินมาก่อน ทุกอย่างอร่อยมาก กิมจิที่แม่ของโอปาทำก็อร่อยที่สุดเท่าที่เคยได้กินมา มันอร่อยทุกอย่างจนน้ำตาเธอแทบไหล“โอปา อร่อยทุกอย่างเลย”“จะอ้วนเป็นหมูจริงๆ ก็คราวนี้แหละ” ชายหนุ่มบีบแก้มของแฟนสาว สายตาที่มองกันของทั้งคู่ ทำให้ผู้ใหญ่สองคนยิ้มให้กับความน่ารักของพวกเขานานแค่ไหนแล้วนะที่พวกเขาทั้งสองคนไม่เห็นลูกชายมีความสุขแบบนี้ ยังจำความภาพความเจ็บช้ำในวันก่อนกับรักครั้งเก่าของลูกได้ดี“แล้วพรุ่งนี้จะพาน้องไปเที่ยวที่ไหน”“ก็คงแถวๆ นี่แหละครับ ริสาอยากไปไหนเป็นพิเศษไหมครับ”“แล้วแต่โอปาเลยค่ะ ริสาไม่รู้ว่าต้องไปเที่ยวที่ไหน”“เดี๋ยวอีกสามเดือนพ่อกับแม่จะไปเที่ยวเมืองไทยนะ”“ดีเลยครับ อยากให้แม่ไปเที่ยว แม่ชอบเมืองไทย”“อยากไปอยู่กับลูกสะใภ้นานๆ หน่อย” คิมโซอึนหันมาพูดกับปาริสา เพราะเธออยากใช้เวลากับลูกสะใภ้ อยากสอนหลายอย่างให้ลูกสะใภ้ โดยเฉพาะอาหารที่คิมซูฮยอนชอบรับประทานทั้งปาริสาและคิมซูฮยอนใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่เกาะเชจูอยู่หลายวัน จากนั้นก็กลับมาที่โซลก่อนกลับกรุงเทพฯ การเดินทางมาบ้านเข
“อาจุมม่า” ปาริสาเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอคุณป้าคนนี้ที่นี่ และยังเป็นแม่ของแฟนเธออีก...โลกกลม...กลมมาก“หือ?” คิมซูฮยอนมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา“คนนี้ไงคนที่เคยช่วยแม่ไว้ตอนแม่ไปเที่ยวเมืองไทย จำได้ไหมที่แม่เคยเล่าให้ฟัง”“ใครจะจำไม่ได้ล่ะ แม่เล่าเป็นสิบรอบ...แต่ผมว่าจังหวะนี้มันน้ำเน่าไปไหมแม่” คิมซูฮยอนไม่คิดว่าชีวิตจริงจะน้ำเน่ายิ่งกว่านิยายอีก“เออ นั่นสิ ทำไมน้ำเน่าจัง” ทั้งสี่คนก็มองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะออกมาย้อนไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหน้านี้ คิมโซอึนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกับคณะทัวร์ ตอนที่เดินเที่ยวอยู่ในวัดพระแก้ว เธอก็พลัดหลงกับคณะทัวร์ และโทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมก็ดันมามีปัญหาอีก เธอพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ก็ไม่ดีจนคนฟังจะเข้าใจได้ทุกอย่าง ตอนนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินออกประตูไหน ไปทางซ้ายทางขวา ข้างหน้าหรือข้างหลัง มันดูสับสนไปหมด เธอเลือกที่จะนั่งรออยู่เงียบๆ เพราะคิดว่าอย่างไรเสียคณะทัวร์ของเธอก็น่าจะมาตามหาเธอจนกระทั่งเธอเด็กสาววัยรุ่นอายุไม่น่าจะเกินสิบห้าปีเดินเข้ามาถามเธอเป็นภาษาเกาหลีสำเยงแปร่งๆ แต่ก็สามารถสื่อสารได้ คิมโซอึนยื่นนามบัตรของคณะทัวร์ให้เด็กสาววัยรุ่น จากนั
ตู๊ดๆๆปาริสามองการลางานของแฟนหนุ่ม เอ่อ คือ...ที่ตกใจคือประโยคที่ว่า...จะพาเมียไปไหว้แม่ หลังจากนั้นเธอแทบไม่ได้ยินว่าสองหนุ่มพูดอะไรกัน เธออยากเปลี่ยนใจไม่ไปเกาหลีตอนนี้ทันไหมทั้งสองมายืนที่สนามบินนานาชาติเกาะเชจู ตอนแรกปาริสาก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเขาพาเธอมาที่เกาะเชจู ไม่ได้ไปที่โซลเหรอ...แต่เขาก็เฉลยเมื่อเธอทำหน้าสงสัย“พ่อกับแม่ผมอยู่เกาะเชจู ท่านทั้งสองย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว”“ค่ะ”ใช้เวลาเดินทางด้วยเครื่องบินทั้งหมดห้าชั่วโมง แต่ปาริสากลับนอนไม่หลับเลยสักนาที เพราะตื่นเต้นที่ได้มาต่างประเทศ เธอทำพาสปอร์ตไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่จะมาเที่ยวกับพ่อ ไม่คิดว่าสุดท้ายจะได้มาใช้ในตอนที่ผ่านมาแล้วถึงสามปี แต่สิ่งที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือการเจอครอบครัวเขา“ตื่นเต้นเหรอ มือเย็นเชียว” คิมซูฮยอนเอ่ยถาม เมื่อเขาประสานมือของตัวเองเข้ากับมือบาง ความเย็นจากปลายนิ้วบ่งบอกว่าเธอตื่นเต้น“ค่ะ ตื่นเต้น อีกอย่างอากาศหนาวด้วย” อากาศของที่นี่เย็นกว่าเมืองไทยค่อนข้างเยอะ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกเธอปะปนไปด้วยอะไรบ้างคิมซูฮยอนกอบกุมมือบางไว้ในอุ้งมือใหญ่ของเขา พร้อมทั้งเป่าลมหายใจอุ่นๆ ของเขาใ
“โอปาไม่ไปทำงานเหรอคะ”“ลาพักร้อน...อยากอยู่กับเมีย”“อือ...ขอบคุณนะคะ ขอบคุณ”ปาริสาซุกหน้ากับตักอุ่น อยากจะขอบคุณเขาสักร้อยครั้งหมื่นครั้งให้สมกับความรักความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอซุปสาหร่ายก็เรียกน้ำตาของปาริสาได้อีกครั้ง คิมซูฮยอนถึงกับต้องบ่นว่าเธอร้องไห้เยอะเกินไปแล้ววันนี้“โอปา...ตื่นเต้น”ปาริสาอดตื่นเต้นกับไฟล์ที่พ่อให้มาไม่ได้ เธอไม่ได้คาดหวังว่าพ่อจะทิ้งอะไรให้มากมาย แค่บ้านที่พ่อทิ้งไว้ให้ก็เพียงพอให้เธอเรียนจบแล้ว อีกอย่างตอนนี้เธอมีความสุขดีที่ได้อยู่กับโอปาของเธอ“ถ้างั้นก็ยังไม่ต้องเปิดก็ได้”“ไม่เอาอยากรู้” ปาริสาเปิดดูไฟล์แนบ มียูเซอร์พาสเวิร์ดและชื่อแอปต่างมากมาย เธอเองก็งงกับสิ่งนั้น“โอปา แอปพวกนี้คืออะไรคะ” เธอยื่นให้เขาดู ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของพ่อที่เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางขึ้นมาเปิด เพราะคิดว่ามันน่าจะได้ใช้“มันคือแอปเทรดหุ้นกับเทรดเงินคริปโต”ปาริสาพอจะรู้จักหุ้นนะ แต่เงินคริปโตอะไรเนี่ยเธอเองก็ไม่ค่อยได้ศึกษา จึงไม่รู้ว่ามันคืออะไรหลังจากจัดการเปิดโทรศัพท์ของพ่อเสร็จแล้ว ปาริสาก็ส่งให้เขา เขากดเข้าไปในแต่ละโปรแกรม เริ่มแรกจากโปรแกรมสีน้ำเงิน ที่เข