เหล่าขุนนางกังฉินในราชสำนัก สร้างความปั่นป่วนต่อราชกิจ ทำให้ราชสำนักต้าเซี่ยไร้ซึ่งความสงบสุขเพียงสามารถสาวไส้เหล่าขุนนางกังฉินออกมาได้ ก็จะสามารถกวาดล้างพวกหนอนบ่อนไส้ให้สิ้นซากในคราวเดียวหลี่หลงหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสด็จพ่อ ลูกสืบทราบมาว่าพรรคพวกของหลู่จงหมิงก็คือหม่ายง เจ้ากรมคลังพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่คาดไม่ถึงเล็กน้อย “หม่ายงหรือ? เวลาปกติข้าเห็นเขาซื่อสัตย์ภักดี จึงได้มอบหมายให้เขารับผิดชอบกรมคลัง แต่คาดไม่ถึงว่าลับหลังจะกล้าร่วมมือกับหลู่จงหมิงคิดการกบฏ!”หลี่หลงหลินทูลตอบ “เสด็จพ่อ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เหล่าขุนนางกังฉินในราชสำนักล้วนแล้วแต่เจนจัดในเล่ห์เหลี่ยม แต่ละคนเจ้าเล่ห์แสนกลยิ่งกว่ากัน หากมิใช่ลูกใช้ความพยายามอย่างสุดกำลัง ก็คงสืบไม่พบว่าเป็นหม่ายงที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง”“ตงไห่อุดมสมบูรณ์เพียงใด ติดกับตงไห่ ดินดีนับพันลี้ เดิมทีเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ประชาชนจะอดอยากได้อย่างไร แต่ตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นี่มิใช่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นภัยจากมนุษย์ และเจ้ากรมคลังผู้นั้นคือผู้ต้องสงสัยที่สุด”“ที่หลู่จงหมิงกล้าลงมือกับเสบียงอาหาร ก็เพราะมีคนในกรมคลังคอยหนุนหลั
อานุภาพของมันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าปืนใหญ่จากแดนตะวันตกที่ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทุ่มเงินมหาศาลซื้อมาจากพ่อค้าชาวเปอร์เซียเสียอีก!ฮ่องเต้หวู่ทรงมีสีหน้าประหลาดใจ “แล้วปืนใหญ่มากมายเพียงนี้จะใช้งานอย่างไรเล่า? หรือว่าต้องรอให้ข้าศึกบุกมาแล้วเหล่าทหารค่อยเข็นปืนใหญ่พวกนี้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ?”หลี่หลงหลินส่ายหน้า “เสด็จพ่อ ลูกได้ทำช่องลับแบบเลื่อนเปิดปิดได้ไว้ที่ตัวเรือพ่ะย่ะค่ะ เมื่อข้าศึกบุกเข้ามา เหล่าทหารก็สามารถเปิดช่องลับบนตัวเรือได้โดยตรง จากนั้นจัดเป็นชุดๆ ละสองคนควบคุมปืนใหญ่เหล่านี้ยิงถล่มเรือรบของฝ่ายตรงข้ามพ่ะย่ะค่ะ”กล่าวจบ หลี่หลงหลินก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วดึงเปิดช่องลับแห่งหนึ่งออกเพื่อสาธิตให้ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตร “เช่นนี้แล้ว ข้าศึกย่อมมองไม่เห็นเลยว่ากระสุนปืนถูกยิงมาจากที่ใด อีกทั้งยังสามารถทำให้ปืนใหญ่ทั้งหนึ่งร้อยแปดสิบกระบอกยิงพร้อมกันได้โดยไม่รบกวนกันอีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“แม้ข้าศึกจะบุกเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ตัวเรือก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเลยแม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ”จางไป่เจิงแอบชื่นชมในใจ “วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการเคลื่อนย้ายที่ลำบากอันเนื่องมาจากขนาดที่ใหญ่โตของ
หลี่หลงหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านแม่ทัพจาง ท่านพูดผิดแล้ว”จางไป่เจิงเอ่ยว่า “กระหม่อมกล่าวสิ่งใดผิดไปหรือพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมเคยเห็นเรือรบมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเห็นการออกแบบเช่นนี้มาก่อนเลยพ่ะย่ะค่ะ!”หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย “ท่านแม่ทัพจาง ที่ท่านไม่เคยเห็น ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่สมเหตุสมผล ท้ายที่สุดแล้ว เรือลำนี้ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเรือรบลำอื่นๆ ตั้งแต่ต้น”ฮ่องเต้หวู่มีหน้าสนใจยิ่งนัก “มันแตกต่างกันอย่างไรกัน? มิใช่ว่าล้วนเป็นเรือเหมือนกันหรอกหรือ?”หลี่หลงหลินอธิบายว่า “เสด็จพ่อ วัตถุประสงค์ดั้งเดิมในการต่อเรือลำนี้ก็เพื่อเดินทางไกลข้ามมหาสมุทรพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงความแข็งแรงทนทานของตัวเรือเป็นสำคัญ”“เพราะทะเลในมหาสมุทรนั้นอันตรายอย่างยิ่ง ไม่ได้สงบนิ่งเหมือนตงไห่แห่งนี้ ดังนั้นข้อกำหนดสำหรับเรือประมงจึงแตกต่างออกไปพ่ะย่ะค่ะ”“เพื่อแก้ไข ปัญหานี้ ลูกจึงได้เว้นพื้นที่ส่วนหนึ่งภายในท้องเรือไว้ ใช้แผ่นไม้กั้นแบ่งท้องเรือออกเป็นห้องต่างๆ ทำหน้าที่เป็นผนังกั้นตามขวางของลำเรือ แล้วปิดผนึกแต่ละห้องให้สนิท วิธีนี้ไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแกร่งของ
แม้ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับหลี่หลงหลินเพียงใด ก็มิอาจกลบเกลื่อนการกระทำอันสิ้นเปลืองไพร่พลและทรัพย์สิน อีกทั้งยังเหลวไหลไร้สาระของเขาได้ฮ่องเต้หวู่ตรัสด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เรากำลังจะถามเจ้าพอดี เหตุใดจึงต้องต่อเรือลำใหญ่โตถึงเพียงนี้?”หลี่หลงหลินโพล่งออกไปว่า “เสด็จพ่อ ยิ่งใหญ่ยิ่งแข็งแกร่ง นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เห็นได้ชัดหรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น เรือลำใหญ่นี้ดูโอ่อ่าเพียงใด ไม่ว่าสิ่งใดก็ตาม ขอเพียงแค่มีขนาดใหญ่ ก็ดูน่าเกรงขามแล้ว หากมิเช่นนั้น เหตุใดพระราชวังต้องห้ามของเสด็จพ่อจึงต้องสร้างให้ใหญ่โตถึงเพียงนั้นเล่า?”สีหน้าของฮ่องเต้หวู่พลันเคร่งขรึม “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของต้าเซี่ย จะล้อเล่นได้อย่างไร? พระราชวังต้องห้ามของเรานั้นสร้างไว้เพื่อความสวยงาม ย่อมต้องใหญ่โตโอ่อ่าอยู่แล้ว ส่วนเรือที่เจ้าทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินมากมายสร้างขึ้นมานี้ จะเป็นเพียงสิ่งที่สร้างไว้ดูเล่นได้อย่างไร!”จางไป่เจิงพยักหน้าเห็นด้วย “องค์รัชทายาท ในสนามรบนั้นไม่มีที่ว่างสำหรับสิ่งจอมปลอมใดๆ ทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อเข้าสู่สนามรบแล้ว ย่อมต้องแสดงธาตุแท้ออกมา ท่วงท่าที่สวยงามแต่ไร้ประโ
ฮ่องเต้หวู่เกิดเพลิงโทสะพลุ่งพล่าน “เช่นนั้นเจ้าอธิบายให้เราฟัง ทุกวันเจ้าทำงานหนักอะไร?”หลี่หลงหลินชี้ไปที่ถ้วยชา พูดว่า “เสด็จพ่อ สาเหตุที่ลูกดื่มชาอยู่บนดาดฟ้า ไม่ใช่เพื่อเสพสำราญ แต่ความเข้มข้นของชามีมากก็จะช่วยประคองสติเอาไว้ได้พ่ะย่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาทำงาน ลูกจำไม่ได้แล้วว่าได้นอนหลับดีๆ มากี่วันแล้ว”ฮ่องเต้หวู่เอ่ยถาม “เช่นนั้นเหตุใดเราไม่เห็นเจ้าทำงานอะไรเลยเล่า? หรืองานของเจ้าก็คือมองเหล่าราษฎร์ทำงานกระนั้น?”หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ “เสด็จพ่อ ท่านสมเป็นกษัตริย์ผู้ทรงปรีชา เพียงปราดเดียวก็เข้าใจแล้วว่าลูกกำลังทำอันใด”ฮ่องเต้หวู่ได้ยินหลี่หลงหลินประจบเอาใจ ภายในใจกลับไม่รู้สึกดีใจ ในสายตาเขาหลี่หลงหลินนี่คือลอบอู้งาน ยิ่งไปกว่านั้นยังหาข้ออ้างในการอู้งานอีกด้วยฮ่องเต้หวู่ไม่อาจทนต่อการกระทำเช่นนี้ได้บุรุษตัวโตคนหนึ่งกล้าทำย่อมต้องกล้ารับ หาข้ออ้างเหล่านี้ก็เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นเท่านั้นฮ่องเต้หวู่พูดเสียงเย็นชา “เราไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังทำอันใด เจ้าอธิบายให้เราฟัง!”หลี่หลงหลินชี้ไปทางราษฎร์ที่กำลังทำงานในท่าต่อเรือ “เสด็จพ่อ ลูกนี่คือกำลังวางแผนประสานงานอย่างเป็นข
จางไป่เจิงพยักหน้า “กระหม่อมเคยรับผิดชอบเป็นผู้คุมงานในเมืองหลวงมาก่อน ทุกวันจะต้องส่งผู้คุมงานจำนวนมากไปเร่ง ไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนเลยพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่ผินมองลั่วอวี้จู๋ เอ่ยถามว่า “นี่เกิดอันใดขึ้น? หรือว่ารัชทายาทมีวิธีการล้ำเลิศอันใด?”ลั่วอวี้จู๋ยิ้มน้อยๆ “ฝ่าบาท รัชทายาทไม่มีวิธีการล้ำเลิศอันใดเลยเพคะ ก็แค่จ่ายเงินค่าจ้างให้ราษฎร์มากกว่าเวลาปกติก็เท่านั้น”“อิงตามคำพูดของรัชทายาท ก็คือมีเงินไม่ว่าอะไรก็สามารถทำได้ ยิ่งไปกว่านั้นขอเพียงราษฎร์เหล่านี้ได้เงินมากเพียงพอ บนโลกนี้ก็ไม่มีเรื่องใดทำไม่ได้เพคะ”ได้ยินดังนั้น ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วน้อยๆ “รัชทายาทกำลังเล่นไม่ผิดไปดังคาด! มองดูคล้ายเงินเหล่านั้นตกถึงกระเป๋าของราษฎร์ผู้ลี้ภัย แต่ค่าใช้จ่ายต่อเรือนี้ก็คือขูดเลือดขูดเนื้อราษฎร์!“เขาทำเช่นนี้จะให้ราษฎร์ตงไห่เป็นอยู่เช่นไร? ราษฎร์ในใต้หล้าจะเป็นอยู่เยี่ยงไร!”ลั่วอวี้จู๋ชะงัก ไม่กล้าพูดมาก พาฮ่องเต้หวู่เดินไปที่ลำเรือฮ่องเต้หวู่ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่าเรือใหญ่ลำนี้มีความรู้สึกกดดันเจืออยู่เขายืนใต้ลำเรือ เงยหน้าขึ้นไปคิดเพียงว่าเรือลำใหญ่ดุจภูเขาก็มิปาน บังฝากฟ้า