ณ กระโจมทหารทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ นับตั้งแต่ข่าวเมืองซั่วเป่ยแตกถูกส่งกลับมายังท้องพระโรงชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ท่านข่านก็เอาแต่ครุ่นคิดไม่เป็นอันกินอันนอน แม้แต่หลับก็หลับไม่สนิท ท่านข่านเคยคิดว่าสถานการณ์ของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือกำลังไปได้สวย ตามแผนการของเสิ่นชิงโจว ก็สามารถยึดเมืองซั่วเป่ยได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงแม้แต่น้อย แถมยังจับจางไป่เจิงขังคุกหลวงได้อีกด้วย เห็นอยู่ว่าเนื้อชิ้นโตแห่งดินแดนเหนือก็จะหล่นลงปากเขาอยู่รอมร่อ ไม่คาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะโผล่มากลางคัน ไม่เพียงแต่จะช่วยจางไป่เจิงออกมาจากคุกหลวงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถตีเมืองซั่วเป่ยได้ด้วยกำลังเพียงลำพัง และยังสามารถทำลายกองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทั้งแสนนายได้โดยไม่ต้องเสียกำลังพลแม้แต่นายเดียว! ทำให้เรื่องดี ๆ ของเขาพังพินาศไปหมด! ตอนนี้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทหารม้าแสนนายเสียชีวิตที่ซั่วเป่ย เซียวหงก็หายสาบสูญ หากไม่คิดหาทางแก้ไข เกรงว่าชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะตกอยู่ในอันตราย! ท่านข่านครุ่นคิดแล้วครุ่นคิดอีก ก็เหลือเพียงวิธีเดียว! คือการร
นั่นคือความภักดีของตระกูลซูทั้งตระกูล! ล้วนเป็นผู้ที่มีใจซื่อสัตย์! เพียงเพราะถูกคนทรยศทำร้าย จึงต้องตายในต่างแดนเช่นนี้ ใครจะรู้เล่าว่า ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ! ความเจ็บปวด! ความแค้น! ไม่มีใครรู้เลย! ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมเข้ากับทรายสีเหลืองที่ปลิวว่อน หายไปในทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ฮูหยินผู้เฒ่าซูฝันมาตลอดว่าอยากจะถลกหนังคนทรยศผู้นั้นด้วยมือตนเอง! บัดนี้ สวรรค์มีตาจริง ๆ! ความปรารถนาของนางได้เป็นจริงแล้ว นางไม่คิดเลยว่าในชีวิตนี้จะยังมีโอกาสแก้แค้นให้เหล่าผู้ภักดีของตระกูลซูด้วยมือตนเองได้ นางตายตาหลับแล้ว! ฮูหยินผู้เฒ่าซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ข้าจะใช้เลือดของคนทรยศผู้นั้น ชำระล้างความอยุติธรรมของตระกูลซู!” เอี๊ยด! รถนักโทษคันหนึ่งจอดหยุดลงนอกจวนอ๋องตงไห่ หลังจากเดินทางมาหลายวัน ในที่สุดรถม้าของเซียวหงก็มาถึงจวนอ๋อง ผ่านลมและแสงแดดมาตลอดทาง เซียวหงไม่มีท่าทีสง่างามเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แม้แต่เหล่าทหารตระกูลซูที่รับผิดชอบการควบคุมตัวก็ไม่สนใจเรื่องอาหารการกินของเขาเลย ยามกระหายน้ำ ในยามฝนพรำ เงยหน้าอ้าปากรองรับน้ำฝนดื่มกิน ยามหิว ก็อ
จวนอ๋องตงไห่ยามฟ้าเพิ่งจะสางฮูหยินผู้เฒ่าซูก็สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย นั่งอยู่ในโถงกลาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลคนพออายุมากขึ้นก็มักจะกังวลง่ายพอกังวลก็นอนไม่หลับช่วงหลายวันที่ผ่านมา ฮูหยินผู้เฒ่าซูกังวลเรื่องหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงไม่น้อยเลยถึงขั้นไม่อยากแตะน้ำชา ไม่แตะต้องข้าวปลา ร่างกายผอมบางลงไปกว่าก่อนอย่างเห็นได้ชัดเพราะเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ดินแดนทางเหนือกลับไม่มีข่าวคราวใดๆ ส่งมาเลยไม่ว่าใครก็ย่อมต้องเป็นกังวลยิ่งไปกว่านั้น ดินแดนทางเหนือคือสถานที่ที่ตระกูลซูพ่ายแพ้ย่อยยับ ฮูหยินผู้เฒ่าซูกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิม...เอี๊ยด!ประตูโถงกลางถูกผลักเปิดออก ปรากฏร่างของลั่วอวี้จู๋ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ฮูหยินผู้เฒ่าซู มีข่าวจากดินแดนทางเหนือมาแล้วเจ้าค่ะ!”ตั้งแต่หลี่หลงหลินจากไป ลั่วอวี้จู๋ก็รับหน้าที่ดูแลจัดการเรื่องราวทุกอย่างทั้งน้อยใหญ่ในจวนดังนั้นข่าวจากดินแดนทางเหนือจึงถูกส่งมาถึงมือของลั่วอวี้จู๋ก่อนฮูหยินผู้เฒ่าซูปัดเป่าความกังวลก่อนหน้านี้จนหมดสิ้น มีชีวิตชีวาขึ้นมา ลืมตาขึ้น “เป็นข่าวดีใช่หรือไม่?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูกังวลจนกลัวไปหมด กลัวว่าจะ
“ต่อให้เสด็จพ่อไม่ให้ข้าไป ข้าก็จะไป!”“อีกอย่าง ข้ารู้ดีว่าเสด็จพ่อจะต้องสนับสนุนข้าอย่างแน่นอน!”ตั้งแต่แรกเริ่ม หลี่หลงหลินก็รู้ว่าฮ่องเต้หวู่ทรงคิดอะไรอยู่ฮ่องเต้หวู่ทรงกรำศึกมาครึ่งชีวิตก็เพื่อที่จะสยบชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือแต่เขาพยายามมาทั้งชีวิต ก็ทำได้เพียงแค่กำหนดแนวรบของทั้งสองฝ่ายไว้ที่เมืองซั่วเป่ยชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่อาจบุกเข้าต้าเซี่ยได้แม้แต่คืบเดียวต้าเซี่ยก็ไม่อาจก้าวข้ามชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้แม้แต่จั้งเดียวบัดนี้ ฮ่องเต้หวู่ชราภาพลงมากแล้ว กำลังวังชาก็ถดถอย ไม่อาจยกทัพออกรบด้วยตนเองได้อีกต่อไปดังนั้นชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจึงเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง รุกรานต้าเซี่ยอยู่บ่อยครั้งต่อให้ฮ่องเต้หวู่กริ้วเพียงใด เขาก็ไม่อาจออกรบด้วยตัวเองได้อีกแล้วดังนั้นเรื่องนี้จึงตกมาอยู่ที่หลี่หลงหลินเขาจะต้องระบายความแค้นนี้แทนฮ่องเต้หวู่ สานต่อปณิธานของฮ่องเต้หวู่ให้สำเร็จ!ดังนั้นหลี่หลงหลินจึงยินดีที่จะรออยู่ที่ดินแดนทางเหนือต่อไปแม้ว่าจางไป่เจิงไม่อยากให้หลี่หลงหลินไปแต่คำสั่งทหารคือเด็ดขาดดั่งภูผายิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หลี่หลงหลินมีตำแหน่
หลี่หลงหลินมองจางไป่เจิงแล้วพูดว่า “แม่ทัพจาง ท่านคิดว่าข้าเอาแต่ดื่มสุราหาความสำราญอยู่ที่นี่ทุกวัน นั่นเป็นเพราะท่านคิดตื้นเขินเกินไป”“ข้านี่กำลังฝึกฝนสมาธิของเหล่าทหารใต้บังคับบัญชาของท่านอยู่ต่างหาก”“ทหารที่มีสมาธิแข็งแกร่งอย่างแท้จริงย่อมไม่หวั่นไหวต่อสิ่งภายนอก และยิ่งจะไม่หย่อนยานในวินัยเพียงเพราะข้าดื่มสุราในกระโจมเล็กน้อย!”สีหน้าของจางไป่เจิงเคร่งขรึมลงแล้วพูดว่า “รัชทายาท ท่านหมายความว่า...”หลี่หลงหลินพูดเสียงเรียบว่า “ทหารใต้บังคับบัญชาของท่านยังต้องฝึกฝนอีก”จางไป่เจิงเดือดดาลสุดขีด!นี่มันเห็นได้ชัดว่าหลี่หลงหลินกำลังเถียงข้างๆ คูๆ!ยังไม่พูดถึงความผิดของตัวเอง แถมยังโยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้เหล่าทหารเสียอย่างนั้นเหล่าทหารใต้บังคับบัญชาของจางไป่เจิงร่วมเป็นร่วมตายกับเขามา เขาย่อมรู้ดีในใจดียิ่งกว่าใครว่าเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องระเบียบวินัยที่เข้มงวด!มิเช่นนั้นแล้วฮ่องเต้หวู่คงไม่มอบหมายหน้าที่พิทักษ์ดินแดนทางเหนือให้แก่เขา จางไป่เจิงแต่พอหลี่หลงหลินเอ่ยถึง กลับถูกมองว่าไร้ค่าโดยสิ้นในฐานะแม่ทัพใหญ่ เขายอมรับไม่ได้!ในไม่ช้า จางไป่เจิงก็ได้สติทั้ง
ได้สร้างคุณูปการที่เป็นประโยชน์แก่ต้าเซี่ยมานับไม่ถ้วน จึงทำให้แสนยานุภาพของต้าเซี่ยพัฒนาไปอย่างรวดเร็วบัดนี้ต้าเซี่ยไม่ใช่ราชสำนักที่อ่อนแอไร้กำลังอีกต่อไป!แตกต่างจากอดีตราวฟ้ากับเหว!หากครั้งนี้ส่งกองทัพไปชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ จะต้องพิชิตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ครองความเป็นใหญ่ในแดนเหนือได้อย่างแน่นอน!ในโรงเตี๊ยมพลันเกิดความโกลาหล“องค์รัชทายาททรงพระเจริญ!”“องค์รัชทายาททรงพระเจริญหมื่นปี!”“...”บัณฑิตหนุ่มหลายคนดื่มสุราในจอกรวดเดียวจนหมด แล้วเขวี้ยงจอกแตก “คาดไม่ถึงว่าในโลกนี้จะมีบุคคลเยี่ยงองค์รัชทายาท!”“ในฐานะองค์รัชทายาท แต่กลับไม่ถือตัว นำทัพด้วยตนเอง เพื่อปัดเป่าเภทภัยให้แก่คนทั้งแผ่นดิน!”“วีรบุรุษเช่นนี้หากพวกเราไม่ติดตาม คงตายตาไม่หลับ!”พวกเราจะออกไปผจญยุทธภพไปทำไมกันเล่า“ดื่มสุราจอกนี้แล้ว ก็จะเก็บสัมภาระ มุ่งหน้าสู่ดินแดนทางเหนือเข้าร่วมกองทัพ!”“หากไม่นำราษฎรทั้งแผ่นดินไว้ในใจ พวกเราฝึกฝนวรยุทธ์ไปจะมีความหมายอันใด?”“หากวรยุทธ์ไม่ได้ใช้เพื่อปกป้องบ้านเมือง วรยุทธ์สูงส่งเพียงใดจะมีประโยชน์อันใด!”“ข้าจะขอติดตามองค์รัชทายาทบุกตะลุยสู่ทะเลทราย ส