"เป็นผ้าผืนไหน?" ท่านอ๋องสี่ถามขึ้น ขันทีคนหนึ่งได้นำถาดทองคำที่วางผ้าเอาไว้สามผืน ทั้งสามผืนล้วนเป็นผ้าเนื้อดีสีแดงที่ปักอักษรด้วยด้ายสีเหลือง...อาหลันหยิบขึ้นดูทีละผืนแล้วส่ายหน้า "ข้าน้อยไม่รู้ว่าเป็นผืนไหนเจ้าค่ะ" "เช่นนั้นที่เจ้าเล่ามาทั้งหมดล้วนเป็นความเท็จหรือ?" ท่านอ๋องสี่เอ่ยเสียงห้วน อาหลันตัวสั่นทรุดลงคุกเข่า เอ่ยเสียงสะท้านอย่างหวาดกลัวว่า "ข้าน้อยไม่กล้า...ข้าน้อยไม่รู้หนังสือเจ้าค่ะ เพียงแต่ขณะที่ฟูเหรินปักผ้า ข้าน้อยเคยถามว่าปักเพื่ออะไร...นางตอบข้าน้อยว่า จะปักเอี๊ยมให้กับบุตรในครรภ์ แต่ยังไม่รู้เพศของทารก จึงตั้งชื่อไว้เพียงแค่คำเดียวว่า 'เฟย' (โบยบิน) เพราะว่านางชอบมองดูนกน้อยโบยบิน นางจึงปักตัวอักษรเฟยไว้บนผ้าก่อน รอให้คลอดทารกแล้ว จะให้ท่านนายอำเภอตั้งชื่ออีกคำ แล้วค่อยปักเพิ่มเจ้าค่ะ" "เจ้าจงเล่าต่อไป" ท่านอ๋องสี่เอ่ย "เจ้าพาคุณชายน้อยหนีออกไป แล้วอย่างไรต่อ?" "ข้าน้อยหนีไปได้ระยะหนึ่ง ก็รู้สึกว่าถูกคนร้ายไล่ตามกระชั้นขึ้นมามาก จึงตัดสินใจซ่อนคุณชายน้อยไว้ในพงหญ้าริมทางเจ้าค่ะ แล้วตัวเองวิ่งหลอกล่อให้คนร้ายตามไปทางอื่น แต่
อำมาตย์จินหัวซึ่งเป็นผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมจึงเปิดโอกาสให้หวงอวี้แก้ต่าง "ข้าน้อยหวงอวี้ บุตรชายของหวงหลง แต่ก่อนเคยอาศัยอยู่ในเมืองหลวง ภายหลังเพราะกิจการของครอบครัวขาดทุน มารดาของข้าน้อยจึงพาข้าน้อยไปอาศัยอยู่ในชนบท..." หวงอวี้กล่าวไม่ทันจบ อำมาตย์จินหัวก็เอ่ยแทรกขึ้นว่า "ขออภัยที่ขัดจังหวะ บิดาของท่านใช่เศรษฐีเจ้าของหอสุราหวงหลงหรือไม่?" "ใช่ขอรับใต้เท้า" หวงอวี้ตอบน้ำเสียงสุภาพ "สมัยสิบปีก่อน...ข้าเคยไปกินอาหารที่หอสุราหวงหลงหลายครั้ง อาหารรสชาติดียิ่ง ท่านแม่ของข้าก็ชมชอบแป้งม้วนไส้เนื้อแกะย่างของหอสุราหวงหลงมาก ทุกครั้งที่ข้าไปกินอาหารที่นั่น ข้าก็จะซื้อกลับจวนไปฝากท่านแม่เสมอ" อำมาตย์จินหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ทำให้อำมาตย์เหอผิงรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย เพราะท่านแม่ของอำมาตย์จินหัวนั้นมีศักดิ์ฐานะเป็นท่านหญิงพระนัดดา (หลานสาว) ของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ดังนั้นจึงส่งเสริมให้อำมาตย์จินหัวเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานมิใช่น้อย "ขอบพระคุณที่ชมเชย" หวงอวี้กล่าวด้วยกิริยาสุภาพ อำมาตย์จินหัวยิ้มเล็กน้อย "ข้าก็ถามนอกเรื่องไป...เชิญคุณชาย
อาหลันถอนหายใจแผ่วเบาแล้วเล่าต่อไปว่า "คุณหนูถิงถิงได้ปฏิเสธการทาบทามของคุณชายเกาซื่อ โดยให้เหตุผลว่านางได้หมั้นหมายกับคุณชายหวงอวี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่คุณชายเกาซื่อก็ไม่ละความพยายาม เขาคอยแวะเวียนมาที่จวนของตระกูลเหอ ประจบเอาใจนายท่านเหอกับฟูเหรินใหญ่อย่างออกหน้าออกตา รวมทั้งยังส่งของกำนัลมีค่าราคาแพงมาให้คุณหนูถิงถิงเป็นประจำ ทว่าคุณหนูถิงถิงก็ได้ส่งของกำนัลเหล่านั้นคืนกลับไปทั้งหมด จนกระทั่งวันหนึ่ง...ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น! นายท่านเหอเรียกคุณหนูถิงถิงมาพบที่ห้องโถงรับรองของเรือนใหญ่..." กล่าวถึงตรงนี้ อาหลันก็นึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น... ที่ห้องโถงรับรองของเรือนใหญ่ชุมนุมด้วยบุคคลในตระกูลเหอทุกคน นายท่านเหอนั่งในตำแหน่งประธาน มีฟูเหรินใหญ่และฟูเหรินรองนั่งสองฟากข้าง คุณหนูเถียนเถียนยืนด้านหลังฟูเหรินรองผู้เป็นมารดา บ่าวไพร่สาวใช้ยืนตามตำแหน่งที่เหมาะสม ที่น่าประหลาดใจก็คือ มีคุณชายหวงอวี้และคุณชายเกาซื่ออยู่ในห้องโถงนั้นด้วย คุณชายเกาซื่อนั่งในตำแหน่งแขก สีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง ส่วนคุณชายหวงอวี้ยืนอยู่ตรงกลางห้องด้วยสีหน้าเคร่ง
อาหลันหลั่งน้ำตาสองสาย นางยกมือข้างเดียวขึ้นเช็ดเบาๆ แล้วเล่าเรื่องในอดีตให้ไท่ชินอ๋องและทุกคนในห้องโถงเบิกความแห่งนั้นฟัง "คุณชายหวงอวี้รับปากคุณหนูถิงถิง ว่าจะตั้งใจเล่าเรียนหนังสือแล้วมาสอบเป็นบัณฑิตหลวงเพื่อเป็นขุนนางที่ดีให้ได้ ก่อนจะกลับไปกับมารดาที่มารอพบนายท่านเหออยู่นาน แต่ไม่ได้พบ ได้พบแต่ฟูเหรินใหญ่ (แม่ของถิงถิง) เท่านั้น พอรู้ว่าครอบครัวคู่หมั้นของคุณหนูถิงถิงตกอับ คุณหนูเถียนเถียนก็คอยเยาะเย้ยถากถางซ้ำเติม ส่วนคุณหนูถิงถิงก็ได้แต่อดทน ไม่ต่อปากต่อคำด้วย และเฝ้ารอคอยจดหมายจากคุณชายหวงอวี้ แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่เคยมีจดหมายมาจากคุณชายหวงอวี้เลยสักฉบับ วันเวลาผ่านไปหกปี... วันหนึ่ง ฟูเหรินใหญ่พาคุณหนูถิงถิงออกไปไหว้พระที่วัด ข้าน้อยได้ติดตามไปด้วย ขณะนั่งรถม้ากลับจวน ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก..." อาหลันย้อนนึกถึงความหลังครั้งเก่า... พอรถม้าใกล้ถึงประตูจวน...ก็มีบุรุษหนุ่มคนหนึ่งยืนขวางทางไว้ จนรถม้าจำต้องหยุด "มีอะไร...อาจาง?" ฟูเหรินใหญ่ส่งเสียงถาม พลางแง้มม่านประตูรถดู "มีคนขวางทางขอรับ" อาจางตอบ "ถามเขาสิว่าเป
"ไม่ทราบว่าคุณหนูชื่ออะไรหรือขอรับ?" หวงอวี้ถามขึ้นหลังจากแนะนำตัวเองแล้ว ถิงถิงแก้มแดงเพราะความเคอะเขินพลางก้มหน้าเล็กน้อย "คุณหนูของข้าชื่อถิงถิงเจ้าค่ะ" อาหลันโพล่งขึ้น "ถิงถิง...เป็นชื่อที่ดียิ่ง...รอประเดี๋ยว ข้าจะไปเก็บลูกกลมหวายสานให้เองขอรับ" กล่าวจบ หวงอวี้ก็วิ่งไปยังริมสระบัวทันที "ไม่ต้องหรอกคุณชายหวง" ถิงถิงเอ่ยปากห้าม ทว่าช้าไป...หวงอวี้กระโดดลงสระบัวไปเก็บลูกกลมหวายสานแล้ว... "คุณชายหวงอวี้เก็บลูกกลมหวายสานขึ้นจากสระบัวให้คุณหนูถิงถิงเสร็จ ก็จากไปในสภาพเปียกปอน" อาหลันเล่า "ต่อมา...คุณหนูถิงถิงและข้าน้อยถึงได้รู้ว่าคุณชายหวงอวี้เป็นบุตรชายคนเดียวของเศรษฐีหวงหลงที่มีกิจการค้าหลายอย่างในเมืองหลวง และเศรษฐีหวงหลงก็เป็นสหายรักของนายท่านเหอผิง วันหนึ่ง คุณหนูถิงถิงเล่นซ่อนแอบกับข้าน้อย ข้าน้อยหาคุณหนูถิงถิงไม่พบ ก็กลับไปรอคุณหนูอยู่ที่ห้องของคุณหนู จนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามครึ่ง คุณหนูถิงถิงก็กลับมาที่ห้องส่วนตัว ข้าน้อยรีบถามคุณว่า..." อาหลันนึกถึงเรื่องราวในอดีต... "คุณหนู ท่านไปซ่อนตัวที่ไหนเจ้าคะ บ่าวหาค
ที่ห้องโถงพักผ่อนห้องหนึ่งในพระตำหนักหลวง ถูกไท่ชินอ๋องใช่เป็นห้องเบิกความ...ไท่ชินอ๋องนั่งในตำแหน่งประธาน มีท่านอ๋องสี่นั่งอยู่ด้านข้าง อีกฝั่งหนึ่งของห้อง หลี่ชิงกับอาเฟยนั่งเคียงกัน หลังฉากกั้น ตาเฒ่าแซ่กู้และภรรยาถูกนำตัวมาคุกเข่าต่อหน้าไท่ชินอ๋อง "ท่านอ๋องได้โปรดอภัยไว้ชีวิตพวกข้าน้อยด้วยเถิดขอรับ ต่อไปพวกข้าน้อยจะไม่กล้าทำความผิดอีกแล้วขอรับ" ตาเฒ่าแซ่กู้วิงวอนขอร้อง เขากับภรรยาคุกเข่าโขกศีรษะอย่างหวาดกลัว "ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า...แต่โทษตายละเว้นให้ โทษเป็นยังคงต้องรับ พวกเจ้าสองคนหลอกลวงเบื้องสูง ทว่าเห็นแก่เป็นคนสูงวัยไร้การศึกษา ทำเพราะความรักลูก ยากจนข้นแค้น จึงให้ลงโทษเบา เฆี่ยนด้วยหวาย สามีสามสิบที ภรรยายี่สิบที และตอบแทนความดีความชอบที่เคยช่วยชีวิตพระชายาเอาไว้จากพงหญ้าริมทาง จึงประทานเงินให้หนึ่งร้อยตำลึง" ไท่ชินอ๋องตัดสินความสองสามีภรรยาแซ่กู้แล้ว ทหารก็นำตัวคนทั้งสองออกไปจากห้องโถงแห่งนั้น หลิวกงกงเดินเข้ามาคุกเข่าน้อมคำนับไท่ชินอ๋อง "น้อมเรียนท่านอ๋อง...บ่าวไปปราบโจรอำเภอฉางซาน พวกโจรแตกพ่ายหนีขึ้นเขาฉางซาน บนเขามีค่ายโจรใหญ่ตั
ท่านอ๋องสี่ไปพบไท่ชินอ๋องที่พระราชวังหลวง...ทั้งสองไปปรึกษาหารือกันในห้องทำงาน ท่านอ๋องสี่มอบของกำนัลของอำมาตย์เหอผิงให้ไท่ชินอ๋องชมดู พร้อมกับเล่าว่า "อำมาตย์เหอเอามากำนัลให้อาเฟย" ไท่ชินอ๋องเปิดกล่องดูแท่นฝนหมึกหยกม่วง แล้วกล่าวว่า "กำนัลด้วยของล้ำค่าเช่นนี้ ย่อมต้องมีคำขอร้อง" "หึๆๆๆๆ..." ท่านอ๋องสี่หัวเราะอย่างขบขัน "อำมาตย์เฒ่าคงมีคำขอร้องแน่ๆ แต่อาเฟยของข้าเหมือนผู้อื่นซะที่ไหน...เห็นโจ๊กสองชามสำคัญกว่าแท่นหยกม่วงฝนหมึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังหายากยิ่งหนึ่งในสามชิ้นของประเทศ" ไท่ชินอ๋องยิ้มขบขัน "แล้วจะทำอย่างไรกับแท่นหยกฝนหมึกล้ำค่าอันนี้?" "ข้าถามแล้ว...อาเฟยไม่สนใจมัน ข้าจึงนำมาให้พี่ใหญ่จัดการ" ท่านอ๋องสี่เอ่ย "ถ้าเช่นนั้น...ข้าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานการติดสินบนของอำมาตย์เหอ" ไท่ชินอ๋องกล่าว "ก็ดี...ข้าให้อาเฟยอย่าเพิ่งไปหอสุราเจ็ดวัน" ท่านอ๋องสี่เอ่ย "เขายอมเชื่อฟังหรือ?" "ข้าให้ต้าหยางไปหาปลากัดสวยๆ ร้อยตัวมาให้อาเฟยเล่นแก้เบื่อ" "อ้อ..." ไท่ชินอ๋องทำเสียงรับรู้ "อีกอย่างหนึ่ง...ข้าอยากขอร้องพี่ส
"ขออภัยขอรับพระชายา" อำมาตย์เหอผิงรีบกล่าวพลางค้อมศีรษะคำนับ "ข้าน้อยเพียงต้องการจะมอบของกำนัลให้พระชายา แล้วก็จะกลับขอรับ" "นี่ขอรับของกำนัล" อำมาตย์เหอทงรีบนำกล่องที่ทำจากไม้ล้ำค่าฝังมุกงดงามมาเปิดบนโต๊ะให้พระชายาอาเฟยชม อาเฟยมองแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจนัก พลางโบกมือให้ต้าโก่วรับของ แล้วเอ่ยว่า "แค่นี้ใช่ไหม?" "เอ่อ..." อำมาตย์เหอผิงเพิ่งจะอ้าปากได้เพียงแค่เสียงเดียว พระชายาอาเฟยก็รีบรวบรัดตัดความ "หมดธุระแล้ว เชิญท่านทั้งสองเถอะ" แล้วลุกขึ้นเดินจากไป อำมาตย์สองพ่อลูกได้แต่มองหน้ากัน เพราะต้าหนิวยืนทะมึนทำท่าส่งแขก ทั้งสองหิวจนไส้กิ่ว แต่จะอยู่ต่อเพื่อกินอาหารก็เกรงจะเสียมารยาท จึงจำใจต้องลุกจากโต๊ะอาหาร ออกจากหอสุราอาเฟยไปขึ้นรถม้ากลับจวน ส่วนอาเฟยนั้น พอปลีกตัวจากสองอำมาตย์ตระกูลเหอ ก็ตรงรี่กลับห้องพักผ่อนส่วนตัวในหอสุราอาเฟย ต้าหยางยกถาดใส่ชามโจ๊กมาให้อย่างรู้ใจ อาเฟยไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกชามโจ๊กขึ้นซดอึกๆ อย่างหิวจัด ซดโจ๊กหมดไปสองชาม ก็ร้องว่า "เอามาอีก" "ไม่ได้ขอรับ...ท่านหมอสั่งว่า พระชายากินโจ๊กได้มื้อละสองชามขอรับ" อา
หลังจากอบรมให้ไท่หวางเฟยดูแลตนเองเพื่อประเทศชาติแล้ว ก่อนจะกลับมหาอำมาตย์ไห่สุยก็กล่าวทิ้งท้ายว่า"ไท่หวางเฟย...หากท่านได้พบกับพระชายาของท่านอ๋องสี่ก็ช่วยบอกพระชายาว่าให้ระวังอำมาตย์เหอผิงด้วย" "ใต้เท้าไห่พบเห็นสิ่งใดไม่ชอบมาพากลหรือขอรับ?" หลี่ชิงถาม "เมื่อเช้า...ขณะที่ข้านั่งรถม้าจะมาประชุมที่ท้องพระโรง ผ่านหอสุราอาเฟย ได้เห็นรถม้าของจวนตระกูลเหอแล่นมาจอดที่หน้าหอสุรา...เกรงว่าผู้มาไม่หวังดี ผู้หวังดีไม่มา...ไท่หวางเฟยหากพบพระชายาก็ช่วยกล่าวเตือนหน่อยเถิด" มหาอำมาตย์ไห่สุยกล่าว "ขอรับใต้เท้า" หลี่ชิงรับคำ "เช่นนั้น ข้าขอตัวก่อนละ ไท่หวางเฟยจะได้พักผ่อน" กล่าวแล้วน้อมคำนับ "เสี่ยวฉี" หลี่ชิงเรียกขันทีคนสนิท "ช่วยออกไปส่งใต้เท้าไห่แทนข้าที" "ขอรับ" ฉีกงกงน้อมรับคำสั่ง แล้วออกไปส่งมหาอำมาตย์ไห่สุย พอหมดคนนอก...หลี่ชิงก็ถามไท่ชินอ๋องว่า "ท่านอ๋อง ทำไมท่านถึงบอกว่าข้าป่วยเพราะไปตากลมกลางคืนละขอรับ?" ไท่ชินอ๋องยกยิ้มมุมปาก "หรือจะให้ข้าบอกใต้เท้าไห่ว่า...ไท่หวางเฟยเล่นซุกซนเป็นเด็ก ชงชาผสมนั่นผสมนี่ ดื่มจนท้องเสียดีละ?"