“เลิกเล่นโทรศัพท์ได้แล้วคนดีตั้งแต่ขึ้นรถมาน้องพลอยยังไม่ยอมวางเลยนะ” ภาคภูมิเหล่มองคนตัวเล็กที่กำลังกดมือถือยุกหยิกบางทีก็หัวเราะออกมาไม่ได้สนใจเขาที่กำลังขับรถอยู่เลยเขาชักจะน้อยใจแล้วที่เธอให้ความสนใจโทรศัพท์มากกว่า
“คุยแล้วติดลมไปหน่อยนะคะ” แพรพลอยหันมาบอกคนข้างๆ ที่นั่งทำหน้าบึ้งใส่ตนเอง แล้วเอื้อมแขนเรียวสวยไปจับใบหน้าหล่อเหลาโยกไปมาอย่างหยอกเย้า “หอมแก้มพี่ก่อนแล้วจะหายโกรธ” ภาคภูมิเอียงแก้มเข้ามาหาคนสวยแล้วก็ได้รับจูบไปฟอดใหญ่ จับมือบางข้างที่สวมแหวนเพชรเม็ดงามมาแนบที่ริมฝีปากแล้วกุมเอาไว้ “พี่ภาคขา” แพรพลอยเอนศีรษะซบที่ไหล่หนาอย่างออดอ้อนขณะที่รถติดไฟแดง มือข้างที่ว่างก็ลูบเบาๆ ที่แหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายของคนตัวโต “ขามีอะไรคะ” ภาคภูมิก้มหน้าลงจูบศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ “อีกสามวันน้องพลอยต้องไปทำกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยที่หัวหินนะคะ งานนี้ไม่ไปไม่ได้เพราะจะเป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนที่จะไปฝึกงานค่ะ” แพรพลอยช้อนตาขึ้นมองภาคภูมิที่เงียบไป “ไม่ไปไม่ได้เหรอ พี่ไม่อยากให้ไปไกลหูไกลตาเกิดเป็นอะไรขึ้นมาพี่คงขาดใจ” ภาคภูมิคิดอย่างกลัดกลุ้ม กลัวว่าถ้าห่างตาไปไกลจะมีคนเข้ามาขายขนมจีบ คิดว่าจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แวะเวียนเข้ามาพูดคุยกับเธอแล้วอารมณ์หวงอารมณ์หึงนี่แทบปะทุถึงขีดสุด ขนาดแค่คิดเขายังเป็นเอามากขนาดนี้ถ้าเป็นเรื่องจริงไม่ต้องพูดถึงไม่ว่าใครเขาก็ไม่สน “ก็บอกไปแล้วไงคะว่าไม่ไปไม่ได้ ทำไมคนแก่เข้าใจยากขนาดนี้ แล้วมันก็ไม่มีอะไรน่าห่วงด้วย แค่ไปทำกิจกรรมกับรุ่นน้อง” ยกศีรษะนั่งตัวตรง เล็งเห็นเค้าลางว่าจะไม่ได้ไปง่ายๆ “พี่ไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อยเมียจ๋าพูดเกินความจริง” ภาคภูมิรู้ดีว่าคนตัวเล็กประชด เขาเขาดูแลตัวเองดีไม่มีทางแก่ง่ายๆ หรอก “และที่สำคัญยิ่งมีผู้ชายไปด้วยพี่ยิ่งไม่ไว้ใจ” ภาคภูมิพูดอย่างหัวเสีย “ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่อยากคุยกับคนไม่มีเหตุผล” แพรพลอยแลบลิ้นใส่คนตัวโตอย่างหมั่นไส้แล้วรีบหันหน้าหนีมองออกไปนอกรถแทน คนอะไรหน้ามึนแล้วยังจะเข้าใจอะไรยากอีก กะไว้แล้วเชียวถ้าบอกจะต้องมีปัญหาตามมา กว่าภาคภูมิและแพรพลอยจะฝ่าการจราจรที่ติดขัดมาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางกรุงที่เป็นของทางบ้านแพรพลอยที่ตอนนี้มีธีรเดชพี่ชายของแพรพลอยนั่งเก้าอี้บริหารงานต่อจากบิดา และคุณอาของเขาซึ่งก็คือคุณพ่อของน้องสาว ตลอดทางที่เดินคนตัวเล็กคอยแต่จะสะบัดมือออกจากอุ้งมือหนาที่กุมไว้แต่สลัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุด ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เชิญ อ้าวน้องพลอยคนสวยของพี่ทำไมหน้างอจังวันนี้” ธีรเดชเอ่ยทักน้องสาวที่เดินกุมมือมากับเพื่อนสนิท “ก็เพื่อนพี่ธีร์เขาไม่มีเหตุผลนี่คะ” ฟ้องพี่ชายที่กำลังมองมาทางเธออย่างสงสัยก่อนจะถูกดึงให้นั่งลงที่โซฟา ส่วนคนที่โดนพาดพิงก็ทรุดกายลงนั่งข้างคนสวยของเขามือก็เกาะเกี่ยวเอวบางไว้ในอ้อมแขน “ทำอะไรน้องฉันวะ เพิ่งจะสวมแหวนหมั้นไปแท้ๆ ขัดใจอะไร เดี๋ยวก็ไม่ยกตำแหน่งน้องเขยให้เลย” ธีรเดชกระเซ้าเพื่อนอย่างอารมณ์ดี “ฉันไม่อยากให้น้องพลอยไปทำกิจกรรมที่หัวหิน คนสวยของฉันก็เลยงอน หาว่าไม่มีเหตุผล ก็คนมันหวงนี่หว่า รักมากเลยหวงมาก” ตอบเพื่อนแต่ตามองอยู่ที่คนตัวเล็กที่คอยแต่จะสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอนแต่ก็ยอมอยู่ในอ้อมแขนของเขาแต่โดยดี “นึกว่าเรื่องอะไร แล้วน้องพลอยไปกี่วันจ๊ะ” ธีรเดชถามน้องสาวที่นั่งตัวติดแนบชิดกับภาคภูมิ นี่ขนาดงอนกันนะยังไม่ยอมห่างกันเลย “สองวันค่ะ พี่ภาคอย่ากังวลสิคะ สองวันแป๊บเดียวเอง” “ว่าไงไอเสือ แค่สองวันเองอย่าห่วงนักเลยน่า” ธีรเดชอมยิ้มมองหน้าเพื่อนที่นั่งหน้านิ่ง ครั้งที่เพื่อนเขาเดินมาบอกว่าหลงรักน้องสาวของเขาเขาตกใจเกือบตกเก้าอี้ ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะรักน้องพลอยตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเล่าถึงน้องสาวให้ฟังอยู่บ่อยๆ แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะเข้ากันได้มากขนาดนี้ และเขามั่นใจว่าเพื่อนคนนี้จะไม่ทำให้น้องสาวสุดที่รักเสียใจ “โอเค พี่ยอมให้น้องพลอยไปก็ได้” ในที่สุดภาคภูมิก็ยอมแพ้ เพราะทนไม่ได้ที่ต้องโดนคนที่รักเมินใส่ “นึกว่าจะแน่” ธีรเดชส่ายหน้าหัวเราะเพื่อน “จริงนะคะ พี่ภาคขาของพลอยน่ารักที่สุดในโลกเลย” แพรพลอยเขย่าแขนภาคภูมิอย่างดีใจแล้วโน้มคอเขาลงมาหอมแก้มซ้าย ขวาก่อนจะซบลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน คนใจอ่อนได้แต่ถอนหายใจ จริง ๆ มันก็ขัดไม่ได้ ไม่งั้นมันอาจจะส่งผลกระทบต่อการเรียนจบของเธอเพราะมันเป็นกิจกรรมบังคับ “แต่ว่าพี่ขอมีข้อแลกเปลี่ยน” ภาคภูมิกระซิบชิดริมหูหอมกรุ่นอย่างเจ้าเล่ห์ “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรคะ” แพรพลอยถามอย่างสงสัย ภาคภูมิส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่ายังไม่บอกในตอนนี้ “ดีกันแล้วใช่ไหม จะได้ถามสักทีว่าแกมาทำไมคุณภาคภูมิ งานการไม่มีทำหรือไง” “เออ รวย ธุรกิจมันดีเลยมีเวลาว่างเยอะจบนะ ไปกันเถอะน้องพลอย” ดึงแขนเรียวสวยให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะดึงกระเป๋าสะพายใบหรูของเธอมาสะพายไว้ที่ไหล่ตนเอง “จะไปเลยเหรอคะ” ตอนแรกเธอคิดว่าเขามีเรื่องจะคุยกับพี่ชายเธอเสียอีก บทจะมาก็มาบทจะไปก็จะไปง่ายๆ “จ้ะพี่รีบ หิวแล้วด้วย” ภาคภูมิตอบเสียงหวานก่อนจะบอกลาเพื่อน “ไปแล้วนะโว้ย” “ไปก่อนนะคะพี่ธีร์” ส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนจะเดินตามแรงจูงของคนตัวโตออกไป “เออดีจริงๆ” ธีรเดชส่ายหน้า บ่นพึมพำกับตัวเองไล่หลังเพื่อนที่มันไม่ยอมอยู่ฟัง คนที่บอกว่าหิวในตอนแรกกลับไม่ยอมแวะทานอาหารที่ไหนเลย มุ่งหน้ากลับคอนโดจนเธอคิดว่าเขาลืมอะไรไว้ ถามก็ไม่ตอบ “พี่ภาคพาพลอยมาคอนโดทำไมคะ” ตอนนี้แพรพลอยมาอยู่ที่คอนโดหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เจ้าของห้องอยากให้เธอมานักหนา “พี่หิวนมสดจากเต้าเมียจ๋า ไม่ได้กินตั้งหลายวันแล้ว ตอนนี้ร่างกายอ่อนแรงมากยืนแทบไม่ไหวเลย” แกล้งยืนซวนเซส่งผลให้ร่างบางล้มลงไปบนโซฟา ตอนนี้แพรพลอยโดนคนเจ้าเล่ห์ทับเอาไว้ทั้งตัวขยับไปไหนไม่ได้ “หิวก็ไปกินข้าว ไม่ใช่มาพูดจาลามกทำหน้าหื่นกามแบบนี้ อื้ออ พี่ภาค!” พยายามผลักหน้าคมออกจากอก คนหน้ามึนก็ทำมึนได้ใจปลดเดรสตัวสวยของเธอหลุดร่วงลงมาพร้อมกับบราจนได้ “บราลายลูกไม้สีดำเซ็กซี่ถูกใจผัวจ๋ามากเลยเมียจ๋า” พูดจบก็ก้มหน้าลงคลุกเคล้าที่อกอวบหอมกรุ่นทันทีราวกับกลัวว่ามันจะหายไปถ้าไม่รีบตักตวงความหอมหวานที่อยู่ตรงหน้าแพรพลอยชะงักมือลงเมื่อได้ยินเสียงสามี ผลักไหล่กิ่งแก้วจนลงไปนอนราบกับพื้นอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาจ้องหน้าตัวต้นเหตุที่ทำหน้าตกตะลึงอยู่ ยื่นแขนออกมาได้ก็รวบร่างเธอเข้าไปกอดไว้แน่น “เจ็บมากไหมคนดี” ถามเสียงนุ่ม ลูบแก้มเบาๆ แล้วประทับจูบบริเวณที่มีรอยนิ้วมืออย่างทะนุถนอมก่อนจะตวัดสายตาคมดุมาจ้องมองกิ่งแก้ว “เจ็บสิคะถามได้ แล้วไม่ไปดูคนรักของพี่ภาคล่ะคะมายุ่งกับพลอยทำไม” พูดเสียงสะบัดมองหน้าสามีตาขุ่นขวาง พลางปัดมือที่กำลังลูบไล้ใบหน้าเธอออกอย่างเคืองๆ “โธ่! เมียจ๋า พี่ก็ดูอยู่นี่ไงครับ พี่มีคนรักคนเดียว เมียพี่ก็มีคนเดียว พี่ไม่เคยมีใครนอกจากน้องพลอยนะคะ อย่างอนพี่สิ กิ่งแก้วเขาเคยเป็นคู่นอนของพี่เมื่อนานมาแล้ว และมันก็เคยเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว พี่รักน้องพลอยเมียจ๋าของพี่แค่คนเดียว” กระซิบชิดหูเมีย “ภาคมาดูกิ่งหน่อยสิคะ กิ่งคือเจ็บหนักนะคะ ไม่ใช่มัน” ค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นจากพื้นมองดูภาคภูมิโอบกอดนังมารหัวใจด้วยสายตาอิจฉา “คุณทำร้ายเมียผมทำไมกิ่งแก้ว!” ภาคภูมิตวาดถามกิ่งแก้วเสียงดังอย่างไม่ไว้หน้า “มันทำร้ายกิ่งก่อนนะคะ ภาคต้องช่วยกิ่งไม่ใช่มัน อีบ้านี่มันต่อย มันตบกิ่งจนเ
เช้านี้ภาคภูมิควงเมียสาวคนสวยตามพฤตินัยและนิตินัยมาทำงานอีกเช่นเคยภาพที่ทั้งคู่เดินโอบประคองกันเข้ามายังโรงแรมเป็นภาพที่เหล่าพนักงานคุ้นชินกันดีกับท่าทางกระหนุงกระหนิงของทั้งคู่สร้างความอิจฉาให้กับพนักงานสาวๆ ไม่น้อยที่ได้แต่มองตามกันตาปรอย แต่ทุกคนต่างก็ลงความเห็นกันว่าช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมลงตัวกันอย่างที่สุด “น้องพลอยนั่งเล่นในห้องคนเดียวก่อนนะคะ เดี๋ยวอีกสักพักพี่ต้องไปประชุม” ภาคภูมิเดินโอบเมียสาวเข้ามาในห้องทำงาน พาเดินไปนั่งโซฟาตัวประจำของเธอแล้วล้มตัวลงนอนหนุนตักหลับตาลง “จะไปประชุมไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวเสื้อก็ยับหมดหรอกลุกเถอะค่ะ” แพรพลอยส่ายศีรษะให้กับความขี้อ้อนของสามี ลูบศีรษะคนบนตักเบาๆ ดูเอาเถอะบอกแล้วยังไม่ขยับเลย เมื่อก่อนว่าติดเธอแจแล้วนะ พอตั้งแต่ที่ตกเป็นของเขาก็ติดเธอหนักยิ่งกว่าเงาตามตัวเสียอีก เวลาเขาจะไปไหนโดยไม่มีเธองอแงยิ่งกว่าอะไรเสียอีก แต่ส่วนมากก็ไม่ค่อยได้แยกกันเท่าไหร่ มีแต่ตอนที่เขาต้องไปประชุม นอกนั้นก็แทบจะไม่ปล่อยเธอไปไหนไกลตัวเลย “พี่ไม่อยากไปประชุมเลยอยากอยู่กับเมียจ๋ามากกว่า” จับมือบางมากดจูบที่กลางฝ่ามือแล้วยกแนบแก้มตัวเองอย่างอ้อนๆ “ไปประชุมแป๊บ
“น้องพลอยฟังนะคะ พี่อยากมีลูกอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นอยากมีลูกหน้าตาเหมือนเราสองคน น้องพลอยคงไม่ปล่อยให้สิ่งที่พี่ตั้งใจทำลงไปต้องศูนย์เปล่าด้วยการให้พี่ป้องกัน หรือน้องพลอยทานยาคุมหรอกนะ” ภาคภูมิจับไหล่บางแน่น พูดเสียงจริงจังแต่แพรพลอยก็ยังอ้อนขอให้เขาประวิงเวลาอยู่ดี “พลอยขอเวลาได้ไหมคะ ขอให้เราได้ใช้ชีวิตกันแบบสองคนก่อนแล้วเราค่อยมีลูกกันนะคะนะคะผัวขา” แพรพลอยโผกอดคนตัวโต เรียวแขนสวยโอบไปที่รอบคอแกร่ง ใบหน้างามซบอยู่ที่ไหล่หนาอย่างออดอ้อน “นี่พี่ต้องยอมอีกแล้วใช่ไหมคะ ก็ได้พี่จะให้เวลา แต่ถึงแค่น้องพลอยรับปริญญาเท่านั้นนะหลังจากนั้นเราจะแต่งงาน และมีลูกกันทันที” ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมใจอ่อนอีกแล้วส่วนแพรพลอยก็พยักหน้ารับแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้อีก ช่วงเวลาที่อาบน้ำภาคภูมิไม่ได้ทำอะไรแพรพลอยมากไปกว่าจับจูบลูบไล้ เพราะเห็นว่าร่างกายเมียยังไม่พร้อม กุหลาบงามยังบวมแดง เขาเลยต้องอดทนอดกลั้น ออกจากห้องน้ำก็พากันไปแต่งตัว มีมือแกร่งคอยประคับประคองทำทุกอย่างให้คนถูกสูบแรงจึงแทบไม่ต้องทำอะไรเองเลย “น้องพลอยหิวยังคะ” ภาคภูมิเดินโอบเอวบางออกมาจากห้องนอนพาแพรพลอยไปนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเปิ
หลังจากผ่านค่ำคืนที่แสนอ่อนหวานและเร่าร้อนมาตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึกจวบจนกระทั่งล่วงเข้าเช้าวันใหม่ที่ภาคภูมิได้กระทำรักกับแพรพลอยอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย พอแพรพลอยทำท่าจะหลับภาคภูมิก็ทำให้แพรพลอยตื่นขึ้นมาอยู่อย่างนั้นจนร่างบางสลบคาอกภาคภูมิถึงได้ยอมปล่อยให้แพรพลอยได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายๆ ภาคภูมิที่ตื่นนานแล้วกำลังนอนยิ้มมองร่างบางของเมียสาวคนสวยที่เขาได้ประทับตีตราจองเป็นของเขาอย่างเป็นทางการแล้วด้วยสายตาอ่อนโยน ยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากบางอย่างแสนรัก แพรพลอยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่พลิกตัวนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าซุกอกกว้างพาดแขนเรียวสวยที่เอวสอบบดเบียดร่างกายเข้าแนบชิดกับร่างแข็งแกร่งอย่างต้องการความอบอุ่น ชายหนุ่มยิ้มบางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกจนทำให้ทั้งสองร่างเสียดสีกันใต้ผ้านวมผืนหนา แก่นกายที่เพิ่งจะสงบลงไปได้ไม่กี่ชั่วโมงตื่นจากการหลับใหลขึ้นมาอีกครั้ง “น้องพลอยจ๋าตื่นสักทีเถอะคนดีอย่าทรมานผัวแบบนี้เลย” พึมพำกับคนที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างทรมานก้มหน้าซุกไซ้ซอกคอหอมที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยแดง แพรพลอยครางหงุงหงิงแต่ก็ยังไม่ยอมตื่นพลิกตัวหนีไปอีกด้านของเตียงกว้างทำให้
ภาคภูมิจับขาเรียวสวยที่หนีบแน่นกางออก ตาคมมองสำรวจร่างงดงามตรงหน้าอย่างหลงใหล ริมฝีปากแดงเข้มพรมจูบขาเรียวสวยทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้มือใหญ่ลูบไล้กุหลาบงามอย่างแผ่วเบา แพรพลอยสะดุ้ง พยายามจะหนีบขาไว้ แต่ก็โดนมือหนาล็อกเอาไว้ ร่างสูงเลื่อนตัวลงนอนกลางหว่างขาขาว ค่อยๆ ก้มหน้าลงจูบลงหอมทั่วกุหลาบสาว “อือ พี่ภาคขาพลอยเสียว” แพรพลอยนอนครวญครางเสียงหวาน บิดตัวเร่าๆ “เมียจ๋า ครางหวานจัง ผัวขาช๊อบชอบ” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ชิดกุหลาบสีชมพูสดที่ตอนนี้มีน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาให้เขาได้ชิม ตั้งแต่เขาเริ่มได้ปลดปล่อยความต้องการทางธรรมชาติกับหญิงสาวคนอื่นๆ ไม่เคยมีใครที่เขาทำแบบนี้มาก่อน เพราะเขาไม่สามารถทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รักได้ แต่แพรพลอยคือคนที่เขารักและเธอก็คือข้อยกเว้นทุกอย่างสำหรับเขา“อืออออ หยุดเถอะคะจะขาดใจแล้ว” แพรพลอยจิกเล็บลงบนบ่ากว้างระบายความเสียวซ่าน ขาเรียวสวยก็หนีบใบหน้าหล่อคมไว้แน่น “อืมม บอกให้พี่พอแต่ขาเมียจ๋านี่หนีบหน้าพี่แน่นเลยนะคนดี” ภาคภูมิพูดเสียงอู้อี้ “ก็มันเสียว!” แพรพลอยพูดเสียงสะบัด ภาคภูมิละใบหน้าออกจากกุหลาบงามเคลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางที่นอนมองเขาด้วยดวงตาหวาน
แพรพลอยเดินไปหยิบเสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ แล้วเดินกลับออกมาคืนนี้และคืนต่อๆ ไปเธอคิดไว้ว่าจะไปนอนที่ห้องนอนเล็ก ซึ่งเธอจะยึดพื้นที่ให้เป็นของเธอนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยิ้มย่องในใจเมื่อเข้ามาได้เธอก็จัดการล็อกประตูอย่างเสร็จสรรพ ถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายเพื่อเตรียมตัวนอน แค่คิดว่าจะได้นอนแบบสงบสุขเธอก็มีความสุขแล้ว ใช้เวลาอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง บำรุงผิวพรรณอีกครึ่งชั่วโมง รวมแล้วเธอใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากเสร็จขั้นตอนทุกอย่างแล้วแพรพลอยก็นอนเล่นโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนๆ และเช็คข่าวสารต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดียจนกระทั่งเริ่มง่วง และหลับไปในที่สุด ส่วนภาคภูมิตอนนี้กำลังนั่งอ่านแฟ้มเอกสารที่โทนี่และอเล็กซ์เอามาให้เขาอย่างจริงจัง เพราะเขาไม่อยากให้งานของเขาทุกงานออกมาผิดพลาด และเขาก็เกือบจะเผลอร้องไชโยออกมาเมื่อโทนี่บอกว่านี่เป็นแฟ้มสุดท้ายแล้ว เขาจะได้ไปนอนกอดแม่ทูนหัวคนสวยของเขาสักที หลังจากแยกกันมาสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ติดไองานบ้าๆ นี่ป่านนี้เขากับน้องพลอยไปถึงไหนแล้ว คิดอย่างเซ็งๆ ได้แต่หวังว่าแพรพลอยจะยังไม่เข้านอน หลังจากเคลียร์งานเสร็จภาคภูมิก็ตรงดิ่