เมื่อ เมรี สาวน้อยวัยใส ผู้มีพี่สาวเป็นไอดอลในการหาสามี เธอปิ๊งหนุ่มเมืองกรุงน้องชายของพี่เขย คิดจีบมาเป็นหวานใจ แต่ทว่าไหงกลับถูกเขาฟันแล้วทิ้งล่ะนี่ หวานใจก็ไม่ได้ดันต้องเปรี้ยวใจเพราะโทต๊องเสียนี่ นางเอกคนอื่นเขาอุ้มท้องหนีผัวกัน แต่นางเอกเรื่องนี้กลับต้องอุ้มท้องผัวหนี แล้วอีตาตัวต้นเหตุล่ะหายไปไหน เขาจะรู้หรือเปล่าว่าทำชีวิตเธอพัง
View Moreห้างนาน้อยเก่าๆ หลังนั้นตั้งอยู่ที่ปลายทุ่งนาอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดครึ้มเพราะฝนกำลังตั้งเค้ามาแต่ไกล แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคขัดขวางกิจกรรมที่คนในกระท่อมทั้งสองกำลังโรมรันพันตูต่อกันอย่างเผ็ดร้อนชนิดไม่มีใครยอมใคร
“พี่จ๋า...อื้อ...” เสียงหวานสั่นสะท้าน กายสาวบดส่ายอย่างเร่าร้อนยามที่ถูกพิษความใคร่ตามธรรมชาติจู่โจมเข้าครอบงำอย่างเต็มที่ เธอผงกศีรษะมองการกระทำของชายหนุ่มรูปงามด้วยดวงตาที่พร่าเลือนด้วยฤทธิ์ของมึนเมา
ความรู้สึกแปลกๆ ไหลเวียนซ่านในเรือนกายของสาวน้อยผู้ไม่ประสาเรื่องความรัก และยังไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรก และเขาคือคนที่เธอหมายปองในฐานะชายในฝัน
“อ๊ะ อย่าทำตรงนั้น อื้อ...”
เสียงครวญของเธอไม่ได้เข้าหูคนที่อยู่เหนือร่าง เมื่อเขาจัดการฟอนเฟ้นดอกบัวคู่งามสล้างของเธอด้วยมือและปากที่ช่ำชองอย่างเหลือร้าย ทำเอาแม่สาวน้อยถึงกับหลังไม่ติดพื้นกระดานไม้
“หึ ปากห้าม แต่ป้อน...พี่ไม่หยุดเลยนะยัยตัวดี” เขาคำรามเหนือเนินอกอวบอิ่มตั้งเต้าของเธออย่างมันเขี้ยว ใครจะคิดว่าบ้านไร่บ้านนาอย่างนี้เขาจะได้พบช้างเผือกเชือกงามแถมยังหวานจัดทั้งตัวจนทำให้เขาแทบโงหัวไม่ขึ้น หรืออาจเพราะไอ้สาโทไหนั้นที่เจ้าของโฆษณาเสียยกใหญ่ว่า ‘เด็ดสุด’
แล้วมันก็เด็ดดวงจริงเสียด้วย เด็ดจนทำให้เขาและเธอต้องมานอนเด็ดสะเด่ากันแบบตัวต่อตัวอย่างถึงพริกถึงขิงแบบนี้ไง
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังก้อง ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งผวากอดรัดร่างใหญ่ที่กำลังปรนเปรอเหนือยอดทรวงอกสาวสล้างด้วยริมฝีปากอันร้อนผ่าวไม่แคร์ฝนฟ้าเลยแม้แต่น้อย
ต่อให้ต้องโดนฟ้าผ่าตอนนี้ก็อย่าหวังว่าจะหยุดเขาได้ จนกว่าที่จะได้จับกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวแม่สาวน้อยใต้ร่างให้หนำใจเสียก่อน
“พี่จ๋า...” สาวน้อยกรีดเสียงร้องเมื่อความเสียวซ่านแล่นลงต่ำไปถึงใจกลางร่าง และรุกวนอยู่กับกลีบดอกไม้อันแสนบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธออย่างดุดัน “หนูไม่ไหวแล้ว สะ...เสียวมาก...”
รอยยิ้มกร้าวผุดที่มุมปากคนฟังทันทีที่ได้ยิน แทนที่จะหยุดยั้ง แต่เขากลับทำในสิ่งตรงกันข้าม จนเธอร้อนไปหมดทั้งตัวแทบขาดใจตายเสียให้ได้
“หวานจริงๆ สาวน้อย เธอนี่เด็ดมาก”
คนถูกชมยิ้มตาฉ่ำเยิ้ม เธอมันบ้ายอเป็นทุนเดิม ยิ่งเขาชมเธอก็ยิ่งฮึกเหิม จากที่จะถอยหนี จึงยกสะโพกอวบอัดบดเข้าหามือของเขา
“ใจเย็นสาวน้อย ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวฉันจะทำให้เธออิ่มจนจุกเลย”
“จะทำอะไรก็รีบๆ เถอะจ้ะ หนูเสียวจะแย่แล้ว อื้อ...”
หึ นอกจากจะมีของล้นแล้ว ยังเป็นของแรง ของแซ่บเสียด้วย งั้นเขาไม่เกรงใจล่ะนะ
พอคิดได้ชายหนุ่มก็จัดการถอนปลายนิ้วออก แล้วเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่กำลังตื่นตัวจนแข็งขึงเข้ามาแทนที่ คราวนี้คนปากดีถึงขั้นสะดุ้งโหยงดิ้นพล่าน เริ่มถอยสะโพกหนีเพราะขนาดอันไม่ธรรมดาที่กำลังชำแรกเข้ามาในตัวของเธอจนรู้สึกถึงการปริแยกน้ำตาแทบเล็ด
“เจ็บ...อื้อ...พอก่อน หนูเจ็บ เอาออกไปก่อน”
“แน่นชะมัด อย่าเพิ่งขยับตัวสิ”
เขาสั่งแกมดุ ใช่แต่เธอที่ทรมานแต่เขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน เมื่อต้องพบกับช่องทางอันคับแคบตรงหน้า แม้จะโดนเขาเล้าโลมจนคิดว่าเธอฉ่ำได้ที่แล้วก็เถอะ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายยัง ‘ไม่เคย’ มาก่อน มันก็ต้องมีเจ็บกันบ้างเป็นธรรมดา
ชายหนุ่มยื่นริมฝีปากไปจูบซับที่กลีบปากนุ่มๆ สีชมพูสวยที่เผยอรับ ก่อนจูบปลอบขวัญให้เธอลืมเลือนความเจ็บปวดจากการเชื่อมประสานที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
ความสยิวซ่านแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างทำให้สาวน้อยลืมความเจ็บเพราะโดนจูบมอมเมา อีกฝ่ายก็เริ่มดันสะโพกทะลวงฝ่าด่านข้าศึกเข้าไปจนลึกสุดซอย
“อื้อ!” หญิงสาวรู้สึกหูดับ สมองขาวโพลนไปชั่วขณะ
“คนเก่ง...เธอเก่งมากที่รับพี่ได้หมดเลย ดูสิ เราเข้ากันได้ดีแค่ไหน”
เสียงชมนั่นราวกับสายลมอุ่นๆ พัดผ่านทะลุรูหูเธอไปราวกับเสียงมนต์สะกด สติอันน้อยนิดของเธอตอนนี้มันปลิวหายไปหมดเมื่อถูกอีกฝ่ายชักนำให้ลุ่มหลงในรสเสน่หาแสนเร้าใจตรงหน้า เพียงเขาเริ่มขยับ เธอก็สะท้านหวิวไหวไปทั้งตัว
เสียงแผ่นกระดานไม้สานลั่นเอี๊ยดอ๊าดตามแรงเสียดสีที่เกิดขึ้นคลอไปกับเสียงฝนเทกระหน่ำ เพิ่มบรรยากาศให้ห้างนาน้อยยิ่งร้อนระอุขึ้นทุกที
หญิงสาวยกสะโพกขึ้นรับแรงกระแทกโดยไม่รู้ตัว แต่มันหนักหนาสาหัสเอาเรื่องเมื่อขนาดที่อลังการของเขาไม่พอดีกับเธอเอาเสียเลย
“เด็ดมาก สนุกไหมคนดี หรืออยากได้แรงกว่านี้”
“จ้ะพี่...” เธอเผลอขานรับโดยไร้สติ ตอนนี้เขาจะลากจะจูงเธอไปทางไหน ขึ้นเขาลงห้วยก็เอาเลย เธอไม่มีปัญญาจะขัดขืนได้แล้ว นอกจากตอบสนองไปเท่าที่เรี่ยวแรงจะมี
จนกระทั่งบางสิ่งบางอย่างใกล้เข้ามา เธอจิกแผ่นหลังเขาแน่นเพื่อเรียกร้องให้เขามอบสิ่งที่เธอต้องการให้ และอีกฝ่ายก็ไม่ยอมอิดออด ห่มกายเข้าหาด้วยเรี่ยวแรงช้างสารทั้งหมด เขาเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว แม้มันเร็วไปเพราะโดนความคับแคบที่ตอดรัดของเธอเล่นงานอย่างหนัก
“พี่จ๋า...หนูไม่ไหวแล้ว”
วันนี้คนตรงหน้าไม่ได้มีความสำคัญใดต่อเธออีกแล้ว ในเมื่อเธอสามารถยืนด้วยสองขาของตัวเองอย่างมั่นคงเป็นหลักให้ลูกน้อยได้อย่างไม่อายใคร หรือจะพูดให้ถูกคือเธอเลยจุดที่อับอายจนกลายเป็นด้านชาเสียแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครโดยเฉพาะคนที่เคยทิ้งกันแบบไม่มีเยื่อใยอย่างเขาวันนี้ชิษณุกรก็แค่คนแปลกหน้าสำหรับเธอเท่านั้น “เอาล่ะ เห็นแก่ที่คุณเป็นน้องพี่สาธุพี่เขยฉัน พี่สาธุเขาเป็นคนดี แล้วเขาก็ดีกับครอบครัวฉันมาก ดังนั้นฉันจะลืมๆ เรื่องบัดซบในอดีตนั่นไปก็แล้วกัน ถือว่าฉันมันโง่เองที่หน้ามืดตามัวหลงผิด เชื่อใจคนง่ายๆ อยากได้ผัวดีๆ แบบพี่รจ คิดว่าคุณน่าจะใช่เพราะเป็นน้องชายพี่สาธุ ใครจะรู้ว่าพี่กับน้องต่างกันอย่างกับฟ้ากะเหวแบบนี้”ชิษณุกรถึงกับสะอึก เถียงอะไรไม่ออก เมื่อได้ยินคำพูดเหน็บแนมของเธอ ในโพรงอกก็รู้สึกแสบร้อนปนวูบโหวง“แต่เอาเถอะ ตอนนี้ฉันตาสว่างแล้ว เลิกเคี้ยวเอื้องแล้ว และฉันก็มีงานดีๆ มีเงินเก็บมากพอสามารถเลี้ยงดูลูกได้สบายๆ ไม่ต้องหวังพึ่งใครหน้าไหนให้มาช่วยสงเคราะห์หรือเวทนา ส่วนที่ผ่านมาก็ถือว่าซื้อบทเรียนราคาแพง ต่อไปนี้เราก็ต่างคนต่างอยู่ ชีวิตก็ใครชีวิตมัน เหมือนที่คุณทำมาตลอด
จนถึงเดี๋ยวนี้ เวลาผ่านล่วงเลยมาสี่ปีกว่า เมรีกลายเป็นซิงเกิลมัมเนื้อหอมประจำหมู่บ้าน แม้จะมีลูกหนึ่งแล้ว แต่ความสาวความสวยของเธอกลับยิ่งหอมฟุ้งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ตอนนี้เธอเรียนจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง เอาความสำเร็จตบปากคนที่เคยนินทาจนเงียบกริบส่วนรจนาพี่สาวก็เปิดไร่ของสาธุคุณให้คนมาเที่ยวแบบเชิงเกษตรแนวใหม่จนโด่งดังไปทั่ว กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดไปแล้ว พวกเขาสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในหมู่บ้านจนเป็นที่นับหน้าถือตาไปทั่ว พลอยให้คนในครอบครัวพลอยมีหน้ามีตารจนากับสามีลงทุนเปิดร้านกาแฟ กึ่งร้านอาหารที่ใช้พืชผักปลอดสารพิษ ผลผลิตจากในไร่มาทำ โดยให้เมรีเป็นผู้จัดการร้านคอยดูแล เพราะเธอจบมาทางด้านบริหารฯ โดยตรง ซึ่งเมรีก็ตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ เพราะไม่อยากทำให้ทุกคนที่เธอรักต้องผิดหวังอีกตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวช่างฝันคนเดิมอีกต่อไปแล้ว เธอเปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงแกร่งที่ขยันเอาการเอางานจนพ่อแม่และพี่สาววางใจ ทุกอย่างก็เพื่อลูกสาวตัวน้อย ขณะเดียวกันชื่อของชิษณุกรค่อยๆ เลือนลางจางหายไปจากสมองและหัวใจจนกระทั่งเขาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในวันนี้ พร้อมคู่หมั้นคนสวย“เฮ
กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกที เมรีก็พบว่าตัวเองนอนแผ่สองสลึงอยู่ที่ห้างนาน้อยแห่งนั้นคนเดียวในสภาพที่ดูยังไงก็ไม่ปกติ แม้จะใส่เสื้อผ้าไม่ได้นอนเปลือยกายล่อนจ้อน แต่ร่องรอยต่างๆ บนเรือนร่างก็ทำให้รู้ว่าเธอเสียพรหมจรรย์น้อยๆ ที่แสนหวงแหนไปแล้ว แต่คนที่ร่วมก่อเหตุจนห้างนาน้อยสะเทือนเสาเรือนแทบทรุดนั่นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยเขาทิ้งไว้แต่ร่องรอยรักและธนบัตรสีเทาที่ยัดใส่มือเธอไว้ให้ดูต่างหน้าหนึ่งใบ กับความแสบระบมที่จุดกึ่งกลางความสาว บอกให้รู้ว่าที่โดนไปนั่น ของแรงแค่ไหน แล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เท่าที่สติอันน้อยนิดจะจำได้ เขาตอกเสาเข็มอัดใส่ตัวเธอไปตั้งสี่ยกแบบจุกๆ เน้นๆสี่ยกเลยเชียวนะ! เดินขาไม่ถ่างก็บุญหัวแล้วพอได้สติสาวน้อยก็รีบกัดฟันคว้ามอเตอร์ไซด์อีแก่ขี่ไปที่ไร่สาธุคุณ เพื่อตามหาชายหนุ่มผู้ฝากรอยรักสะท้านทุ่งนาเอาไว้ แต่ทว่าพี่สาวเธอกลับบอกว่าเขากลับกรุงเทพไปแล้วเมรีตกใจแทบช็อก และได้รู้ว่าตัวเองโดนฟันแล้วทิ้งเสียแล้วไอ้เสียใจมันก็มีอยู่หรอก นี่เป็นครั้งแรกของเธอ ในนิยายที่เคยอ่านมาเรื่องไหนเรื่องนั้น หากพระนางได้กัน มันต้องจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งสิ แต่กลับไม่ใช่เรื่องนี้เธอมองโลกในแง่
สงครามเย็นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกต จนกระทั่งอาหารมื้อที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของเมรีจบสิ้นลง และแขกทั้งคณะย้ายตัวไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมเด็กๆ ทั้งสามส่วนเมรีนั้นขออาสาช่วยเก็บจานชามในครัวเพื่อหาเหตุหลบเลี่ยงสายตาใครบางคนที่ทำให้เธอหงุดหงิดมาตลอดเช้านี้เขาช่างไม่กลัวว่าหวานใจจะจับได้เอาเสียเลย แต่ก็นั่นแหละ ตั้งแต่พบกันมา เขาก็เป็นแบบนั้นเสมอ คนหล่อที่แสนเย็นชา เข้าถึงยาก แต่กลับทำให้สาวน้อยคนหนึ่งโดนตกเพราะลุคนั้นตั้งแต่แรกพบจนคิดเกินเลยเมรีวางผ้าเช็ดโต๊ะ ก่อนทิ้งตัวลงนั่ง ตามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยใจให้คิดถึงภาพความหลังตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันเมื่อสี่ปีก่อน...‘นี่ชิษณุกร หรือ ชิษ น้องชายพี่เอง แล้วนี่ก็น้องเมรีน้องสาวพี่รจเขา สองคนรู้จักกันไว้สิ’เมรียังจำได้แม่นว่าตัวเองใจเต้นแรงแค่ไหนเมื่อได้พบหน้าน้องชายสุดหล่อของพี่เขยครั้งแรก สาวน้อยผู้มีพี่สาวอย่างรจนาเป็นไอดอลในการหาสามีที่แสนดีและเริ่ดสะแมนแตน โดนความหล่อออร่าพุ่งของหนุ่มเมืองกรุงตกเอาตั้งแต่แรกพบสบตา ในเมื่อชิษณุกรเป็นน้องชายแท้ๆ ของสาธุคุณพี่เขยเธอ เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน เติบโตมาด้วยกัน เขาก็ค
“แม่เมจ๋า...”เสียงลูกน้อยช่วยดึงสติกลับมา เจ้าแก้มยุ้ยเอียงคอมองใบหน้าเธอด้วยดวงตาแป๋วแหววไร้เดียงสา นี่คือแก้วตาดวงใจที่ทำให้เมรีต้องอดทน และเปลี่ยนตัวเองให้แกร่งขึ้น ใครจะนินทาว่าร้ายเธอก็ช่าง แต่หากแตะต้องลูกรัก เธอเอาตาย “จ๋า...คนเก่งของแม่”“หนูหิวแล้ว” อารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดถูกเสียงออดอ้อนทำให้ใจอ่อนยวบลืมโกรธไปชั่วขณะ เผลอยื่นปลายจมูกไปชนปลายจมูกเล็กๆ อย่างที่เคยทำเวลามันเขี้ยวเจ้าตัวน้อย“งั้นเรากลับบ้านไปกินข้าวกับตากับยายกันดีไหมลูก”“ดีจ้า” เจ้าตัวดียิ้มหวานประจบ ตบมือชอบใจ ก่อนจะยื่นปากเล็กๆ มาจูบแก้มราวกับรู้ว่าแม่กำลังต้องการกำลังใจ“งั้นเดี๋ยวเมรีกลับก่อนนะคะพี่แนน”“เดี๋ยวก่อนสิ! อย่าเพิ่งไป...” ชายหนุ่มเผลอเรียกเสียงดังอย่างลืมตัว หากพอเห็นสายตาวาวโรจน์เอาเรื่องคู่นั้น เขาก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม แน่ล่ะ คนตรงหน้าย่อมไม่เหมือนเดิม และเขาก็รู้ด้วยว่ามันคืออะไร“มีอะไรหรือคะพี่ชิษ”นันทิกาหันไปมองคู่หมั้นหนุ่มอย่างแปลกใจ“พอดีเรากำลังจะกินข้าวเช้า แล้วคุณแม่ก็อยากให้น้องเวียงพิงค์ไปกินข้าวด้วยกัน เธอก็ไปด้วยสิ”“นั่นสิคะ น้องเมรี ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ” นันทิกาผู้ไม่
“เมรี!”ชิษณุกรถึงกับตกตะลึงจนตัวชา เมื่อได้พบหน้าสาวน้อย ไม่สิ! วันนี้คนตรงหน้าไม่ใช่สาวน้อยวัยใส แต่เธอโตเป็นสาวสะพรั่งและสวยจนเขาแทบจำไม่ได้แล้วต่างหาก แถมโตจนมีลูกอายุไล่เลี่ยกับหลานชายฝาแฝดของเขาเสียด้วย...ชายหนุ่มมองใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดูของคนในอ้อมแขนหญิงสาวตรงหน้านิ่ง รู้สึกร้อนวูบวาบในอกแปลกๆ“อ้าว! นี่พี่ชิษรู้จักน้องอยู่แล้วหรือคะ” นันทิกาหันไปมองคู่หมั้นอย่างแปลกใจ“ไม่รู้จักหรอกค่ะ” เมรีชิงตอบเสียงเย็นชา แอบเห็นหรอกว่าอีกฝ่ายมีอาการอึ้งไป ใจหนึ่งก็อยากตอกหน้าให้สาแก่ใจ แต่อีกใจก็เห็นแก่หน้านันทิกา อีกฝ่ายดูเป็นคนดี ดูซื่อๆ และไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเมรีถือคติ ดีมาดีตอบ จึงไม่อยากทำร้ายใครโดยไม่จำเป็น“ก็แค่เคยเห็นผ่านๆ เห็นไกลๆ ตอนงานแต่งพี่รจกับพี่สาธุน่ะจ้ะ แต่ไม่ได้อยากรู้จัก เอ๊ย! หมายถึงไม่ได้รู้จักหรือสนิทกันน่ะค่ะ” แล้วนั่นจะจ้องอะไรกันนักหนา จ้องกันจนตาแทบถลนแล้วไหมทำไม! หรือกลัวเธอจะเปิดโปงความเลวให้ว่าที่เมียใหม่ฟังหรือไง ดูท่าคนนี้ยังไม่ทันโดนหลอกฟันสิท่า เลยหวงนัก ยิ่งคิดแล้วก็ชักจะเห็นใจผู้หญิงด้วยกัน นันทิกาเองก็ดูหวานๆ ใสๆ ไม่ทันเล่ห์คน ผู้
Comments