Share

บทที่ 3

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานพลันตะโกนเสียงแข็ง จูต้าอันกับผู้ชายอีกสองคนถึงกับสะดุ้งตกใจ

ไอ้หมอนี่ กล้าพูดจาเสียงดังกับพวกเขา!

ภายในห้องเงียบสงบในทันใด

“เฉินฝาน!” จูต้าอันแสดงหน้าถมึงทึง “ตั้งแต่พวกเราเข้ามา เจ้าก็ทำกร่างตลอด เมื่อครู่นี้ข้าถือว่าเจ้าเพิ่งตกเขากลับมาร่างกายยังไม่หายดี แต่เจ้าอย่าทำตัวไว้หน้าแล้วไม่สนใจ ข้าขอพูดไว้ตรงนี้ ไม่ว่าเจ้าจะยอมหรือไม่ เมื่อเจ้ารับเงินไปแล้วก็ต้องทำตามที่ตกลงไว้”

ตอนที่จูต้าอันกำลังพูด ผู้ชายสองคนด้านหลังยืนขึ้นแล้ว

ผู้ชายสองคนนั้น ทั้งตัวสูงและบึกบึน

หากเกิดการปะทะขึ้นมาจริง ๆ เขาสามารถเอาตัวรอดได้ เพียงแต่ว่า……

เฉินฝานชำเลืองมองฉินเย่ว์โหรวที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านข้าง

“โหย ดูสมองข้าสิ!” เฉินฝานกุมหัวแสดงสีหน้าเหมือนเจ็บปวด “หลังจากตกเขาและฟื้นขึ้นมาข้าก็ไข้ขึ้นไม่หยุด จนป่านนี้หัวของข้าก็ยังเจ็บตื้อ ๆ ไม่หาย และลืมเรื่องต่าง ๆ ไปเยอะมาก ข้าขออภัยด้วย”

เมื่อเห็นสีหน้าของชายสามคนผ่อนคลายลง เฉินฝานพลางรีบเอ่ยถามจูต้าอัน “พี่จู ก่อนหน้านี้ข้าตกลงกับพี่เรื่องอะไรนะ!”

“หากเป็นเช่นนั้น……ก็ช่างเถอะ!” จูต้าอันส่งสัญญาณให้สองคนนั่งลง “ตกเขาฤดูหนาวแต่ไม่ถูกหมาป่าคาบไปก็นับว่าดวงแข็งมากแล้ว ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้าก็แล้วกัน นี่ก็ผ่านไปตั้งครึ่งค่อนวันแล้ว ข้าหิวแล้วล่ะ กินเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”

“นี่เจ้า……” จูต้าอันเพิ่งจะนั่งลง เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะเล็กแล้วอารมณ์เสียขึ้นมาทันที “ทำอะไรของเจ้า!”

เฉินฝานมองกับข้าวสามอย่างตรงหน้า: หมูสามชั้นผัดพริก ยำแตงกวา เต้าหู้ทอด

แม้ไม่ใช่อาหารจานหลัก และครอบครัวนี้ก็ทุกข์ยากลำบากจนไม่อาจทำอาหารจานหลักออกมาได้ แต่นี่ก็ถือว่าเต็มไปด้วยสีสัน รสชาติและกลิ่นหอม โดยเฉพาะเต้าหู้ทอดที่ดูเหลืองกรอบ เห็นแล้วอยากอาหารขึ้นมาทันที

ความรู้สึกดีที่เฉินฝานมีต่อฉินเย่ว์โหรวมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

รูปร่างหน้าตาก็สวย ฝีมือทำอาหารก็ยังดีขนาดนี้อีก

“กับข้าวสามอย่างนี้ข้าเป็นคนเอามา นังคนชั้นต่ำไม่มีความคิด กับข้าวสามอย่างจะพอพวกข้ากินได้อย่างไร ไข่ล่ะ ถั่วลิสงล่ะ!”

“พี่จู ที่เรือนข้าไม่มีของเหล่านี้” ฉินเย่ว์โหรวตอบเสียงสั่นและเบา นางตกใจเสียงของจูต้าอันจนไม่กล้าเงยหน้า

เดิมทีที่เรือนมีไก่ออกไข่ตัวเมียหนึ่งตัว แต่เมื่อหลายวันก่อนนายท่านบ่นว่าไม่มีเนื้อกินและบังคับให้นางฆ่าไก่กิน

“โถ ๆ” จูต้าอันส่ายหัวอย่างเหยียดหยาม “เฉินฝาน ข้าว่าเมียเจ้าใช้ไม่ได้สักคน มิสู้หาสักเหตุผลขายไปซะ จากนั้นค่อยไปรับคนที่ใช้งานได้กลับมาสักสองสามคน”

คำพูดของจูต้าอัน ทำให้ฉินเย่ว์โหรวถึงกับสะดุ้ง

เฉินฝานยังไม่ทันตอบจูต้าอัน นางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเฉินฝานและกอดขาของเขาทันที

“นายท่านเจ้าคะ ข้าน้อยขอร้อง อย่าขายพวกเราเลยนะเจ้าคะ ข้ากับพี่ ๆ น้อง ๆ จะทำงานให้หนักและหาเงินให้มากขึ้น ให้นายท่านมีชีวิตที่สุขสบายเจ้าค่ะ”

“……”

เฉินฝานฟังเสียงร่ำไห้ขอร้องของฉินเย่ว์โหรวแล้วไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายความรู้สึกในเวลานี้ของเขา

……ข้ากับพี่ ๆ น้อง ๆ จะทำงานให้หนักและหาเงินให้มากขึ้น ให้นายท่านมีชีวิตที่สุขสบาย!

เป็นคำพูดที่เพ้อฝันมาก

ที่นี่......ช่างเป็นเมืองที่ประหลาดมากจริง ๆ

“เจ้าร้องไห้ไปก็ไร้ประโยชน์ เฉินฝานขายเจ้าไปแล้ว” จูต้าอันชี้ไปที่ผู้ชายสองคนข้างหลัง “เห็นคนที่อยู่ข้างหลังข้าหรือไม่ พวกเขามาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วน ที่มาวันนี้ก็เพื่อมารับเจ้า!”

“พรึบ!”

ฉินเย่ว์โหรวทรุดลงกับพื้นในทันใด นัยน์ตาที่ลุกวาวในตอนแรก พลันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา นางกัดริมฝีปากอย่างแผ่วเบาและไม่ยอมให้น้ำตาไหลลงมา

นางไม่ได้ร้องไห้และไม่ได้โวยวาย นางเงยหน้าขึ้นและนี่เป็นครั้งแรกที่นางกล้าสบตาเฉินฝานโดยตรง

ตามธรรมชาติของมนุษย์ เฉินฝานคิดว่าฉินเย่ว์โหรวจะทุบตีเขา ต่อให้ไม่ทุบตี อย่างน้อยก็จะเอ่ยถามอย่างเสียงดัง แต่ความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นเลยสักอย่าง

นางเพียงเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นายท่าน นายท่านขายข้าน้อยแล้วจริง ๆ หรือเจ้าคะ”

“ข้า……”

เมื่อสบตากันกับแววตาไม่พอใจของฉินเย่ว์โหรวพร้อมกับฟังคำถามอันอ่อนโยนของนาง เฉินฝานถึงกระทั่งไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร

อย่าว่าแต่ฉินเย่ว์โหรว เขาแทบอยากทะลุมิติกลับไปต่อยเจ้าของร่างเดิมหนัก ๆ สักตั้ง

ภรรยาสวยเหมือนนางฟ้า มีนิสัยอ่อนโยนนิ่งเหมือนน้ำ แต่เขากลับขายนาง หัวสมองถูกลาเตะแน่ ๆ

“เป็นเรื่องไม่จริงได้ด้วยรึ” จูต้าอันกล่าวอย่างเสียงดัง “เมื่อวันก่อน เขามาหาข้า ให้ข้าขายเจ้าให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนในราคาหนึ่งร้อยเหวิน”

“หนึ่งร้อยอีแปะไม่น่าแปลกใจเลย……”

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อวานจู่ ๆ เขาก็มีเงินไปดื่มเหล้า แล้วยังเมาทรงตัวไม่ได้จนตกเขา

ทำไมสวรรค์ถึงไม่ทำให้เขาตกเขาจนตายไปเลย!

“นายท่าน” ฉินเย่ว์โหรวพลันนิ่งสงบจนทำให้รู้สึกตื่นตกใจ แววตาที่มองเฉินฝานก็กลายเป็นสายตาที่ว่างเปล่า คำพูดที่ลั่นออกจากปากของนางก็ดูไร้น้ำหนัก “ท่านลืมแล้วหรือ! เย่ว์โหรวยังบริสุทธิ์ หนึ่งร้อยอีแปะไม่คุ้มเสียเลย”

เฉินฝานพลันเบิกตากว้าง

บริ……สุทธิ์!!

แม้ว่าในความทรงจำจะวุ่นวายและมีไม่มาก แต่เจ้าของร่างเดิมแต่งงานกับฉินเย่ว์โหรวแล้วอย่างน้อยหนึ่งปีกว่า

หนึ่งปี ทำไมถึงยัง……

“ฮ่า ๆ คุ้มมาก!”

จูต้าอันพลันวิ่งเข้ามาและปัดเฉินฝานออกไปอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นนั่งลงตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว

“บริสุทธิ์รึ! ใช้ได้เลยว่ะเฉินฝาน พวกพ้องอี๋ชุนย่วน พวกเจ้าดูเอาเถอะ ฉินสามเป็นหญิงบริสุทธิ์ นางมีรูปหน้าสวย เวลาร้องไห้ก็ดูน่าสงสารจับใจ พวกแขกจะต้องชอบแน่ ไม่ได้ พวกเจ้าต้องเพิ่มเงิน เพิ่มเงิน!”

เขาพูดพร้อมกับยื่นมือจะเชยคางของฉินเย่ว์โหรว

“ปัง!”

เฉินฝานจับถ้วยบนโต๊ะขึ้นฟาดหัวของจูต้าอันอย่างแรง

ตอนนี้ร่างกายนี้เป็นของเขา และตอนนี้เขาก็เป็นเฉินฝานในกาลเวลานี้

กล้าลงมือกับผู้หญิงของเขา!

ก็จงไปตายซะ!

จูต้าอันกุมบาดแผลที่หัวพร้อมชี้หน้าเฉินฝานแยกเขี้ยวยิงฟัน “ไอ้หมอนี่ กล้าตีข้าเรอะ!”

ชายหอนางโลมอี๋ชุนย่วนสองคนยืนขึ้นพร้อมกับ

“ต้าอัน ไอ้หมอนี่เหิมเกริมเอาใหญ่ จัดการมันเถอะ!”

“ฮ่า ๆ เจ้าลองเดาว่าไอ้เฉินฝานจะร้องขอชีวิตกับต้าอันตอนไหน!”

“ถูกฟาดไปสองครั้ง!”

“ไม่ใช่ ข้าว่าครั้งเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว”

ชายหนุ่มสองคนยืดกอดอกเหมือนกำลังดูละครอย่างสนุกสนาน ถึงกระทั่งยืนเดากันว่าเฉินฝานจะขอความเมตตาเมื่อไหร่

จูต้าอันเดินมาตรงหน้าเฉินฝานด้วยก้าวเดียวพร้อมกล่าวอย่างหยิ่งผยอง “ไอ้หนุ่ม คุกเข่าขอร้องข้าซะ ข้าอาจพิจารณาเบามือกับเจ้า!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status